หากคุณขับรถอยู่ดีๆ แล้วไปเจอลูกเมลอนขนาดยักษ์ ที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีสดและทะเลอันสดใส คงจะคิดว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรืออยู่ในนิทานแน่ๆ แต่มันคือเรื่องจริง! เพราะนี่คือป้ายรถเมล์ที่อยู่ในบริเวณริมชายหาดของเมืองอิซาฮายะ จ.นางาซากิ

เราเคยพาทุกคนไปเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เกาะเอโนชิมะ ที่มีแมวอาศัยอยู่เพียบ หรือ เนินทรายทตโตริ แต่ที่ชายฝั่งทะเลของอิซาฮายะนั้นแตกต่างจากที่อื่นๆที่กล่าวมา เพราะที่นี่มีผลไม้ขนาดยักษ์ ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนน เหมือนกับเป็นฉากหนึ่งของการ์ตูนจากดิสนีย์หรือไม่ก็สตูดิโอจิบลิ!

ถ้าอยากไปถ่ายรูปกับผลไม้ขนาดยักษ์เหล่านี้ ตามเรามาเลย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… เมื่อ 30 ปีก่อน เรื่องราวของผลไม้เหล่านี้ก็ถือกำเนิดขึ้น

จังหวัดนางาซากิ ตั้งอยู่ในเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนญี่ปุ่นนิยมไปถ่ายรูปลงอินสตาแกรม หรือที่เรียกว่า อินสตาบาเอะ (インスタ映え) ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 207 เมื่อถึงบริเวณของทะเลอะริอาเกะ ก็จะเจอกับป้ายรถบัสผลไม้ยักษ์สุดน่ารัก 16 ป้าย แม้ว่าป้ายรถบัสเหล่านี้จะเพิ่งเริ่มมาฮิตในโซเชียลมีเดีย แต่จริงๆแล้วป้ายรถบัสเหล่านี้สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 แล้ว

ในปี 1990 มีการจัดงาน Nagasaki Travel Expo ขึ้น จึงมีการสร้างป้ายรถบัสน่ารักๆเหล่านี้ขึ้น เพื่อเป็นการแนะนำให้คนที่มางานได้รู้จักกับบริเวณ Konagai ในเมืองอิซาฮายะ (Isahaya) และถ้าดูดีๆแล้ว ผลไม้เหล่านี้ไม่ได้สุ่มเลือกมา แต่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของท้องถิ่น 5 อย่าง คือ สตรอเบอร์รี่ ส้มแมนดาริน เมลอน มะเขือเทศ และแตงโม ซึ่งก็ได้กลายเป็นที่ถูกใจของผู้เข้าร่วมงาน และก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของป้ายรถบัสที่อยู่จนถึงทุกวันนี้ 

ถ้าเอาจังหวัดนางาซากิเข้าไปอยู่ในโลกของนิทาน ซินเดอเรลล่าน่าจะดีใจมากๆ เพราะแนวคิดของผลไม้ยักษ์นี้นั้น มาจากรถฟักทองของซินเดอเรลล่า! และด้วยความที่ป้ายรถบัสเหล่านี้มีอายุกว่า 10 ปีแล้ว ทางจังหวัดจึงมีการทาสีและซ่อมแซมใหม่ ให้ดูสดใส และน่ากินมากขึ้น!  

เป็นไปได้ไหมถ้าจะไปให้ครบทุกป้ายในครั้งเดียว

จากทั้งหมด 16 ป้าย มี 14 ป้าย ที่ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 207 และอีก 2 ป้ายนั้นอยู่ใกล้กับสถานี Nagasatp ซึ่งไกลออกไปหน่อย แต่ก็สามารถใช้วิธีการเช่ารถขับ และจอดป้ายที่อยากจอด แต่อย่างไรก็ตามที่นี่คือป้ายรถบัส การใช้รถสาธารณะจึงอาจจะดูเหมาะสมมากกว่า ส่วนอีก 2 ป้าย ที่อยู่ใกล้กับสถานี Nagasato และ Konagai ก็สามารถขึ้นรถไฟและลงที่สถานีนั้นๆได้ แต่ต้องเช็คเรื่องตารางเวลาเดินรถ และรถไฟที่จะจอดสถานีนี้ให้ดี เพราะ Colorful Camera Life บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่น ได้บอกไว้ว่า รถไฟที่จอดที่สถานีนี้มีน้อย ให้เช็คเวลาก่อนไป

จากทั้งหมด 14 ป้าย ที่อยู่ริมทะเล มี 2 ป้าย ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ป้าย Izaki Bus Stop รูปทรงเมลอน ที่จะมีภาพแบคกราวด์เป็นทะเล ถัดมาจะเป็นป้าย Amidazaki Bus Stop รูปส้มแมนดาริน ที่เป็นหนึ่งในฉากโฆษณาของไอศครีมญี่ปุ่น 

แม้ว่าทั้งสองป้ายจะอยู่ห่างกันแค่นั่งรถ 7 นาที แต่รถบัสนั้นมาทุก 1 ชั่วโมง และยังอยู่บนทางหลวง จึงไม่เหมาะกับการเดิน รวมถึงไม่มีที่ให้นั่งพักระหว่างรอใกล้ ฉะนั้นควรหาอะไรทำฆ่าเวลา 1 ชั่วโมง ที่ว่างๆตอนนั้นด้วย เช่น การหามุมถ่ายรูปสวยๆ รับรองว่าได้รูปกลับบ้านไปเพียบ! 

ไปแบบไหนสะดวกสุด?

จากที่เราได้บอกถึงการเดินทางที่ยากและไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไรแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าจะมีวิธีในการไปดูป้ายรถบัสเหล่านี้แบบง่ายๆ มั้ย เอาเป็นว่าเราขอแนะนำวิธีการที่บล็อกเกอร์ชาวญี่ปุ่นได้แนะนำไว้ (Colorful Camera Life ที่ได้พูดถึงไปในตอนต้น) นั่นก็คือ แทนที่จะไปดูให้ครบทุกป้าย ก็เลือกรูทที่เดินทางง่าย อย่างเช่น ไปที่สถานี Konagai และขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Izaki Bus Stop และคุณก็จะได้เจอกับแคนตาลูปยักษ์ ที่มีฉากหลังเป็นทะเล จากนั้นไปต่อที่ป้าย Amidazaki โดยนั่งรถบัสกลับไปที่สถานีรถไฟ 

สามารถดูตารางรถบัส เพื่อวางแผนการเดินทางแบบเป๊ะๆได้ แต่อาจต้องใช้ Google Translate ช่วยสักหน่อย เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนเลย

ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับญี่ปุ่นจาก Japankuru ได้ทาง Facebook ทุกวัน!