CONTENTS
มาทำความรู้จักกับเมืองสึรุกะ จังหวัดฟุกุอิกันก่อนดีกว่า
จังหวัดฟุกุอิ ตั้งอยู่ที่บริเวณภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ในภูมิภาคชูบุ และเมืองสึรุกะนี้ ก็ตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของจังหวัดฟุกุอิ และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 6,600 คน และเมื่อถึงช่วงเวลาแห่งเทศกาลสึรุกะที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนกันยายนของทุกๆปีนั้น เมืองที่เงียบสงบแห่งนี้ ก็เติมแต่งไปด้วยสีสันมากมาย ทำให้เทศกาลนี้ดูน่าสนใจ และดึงดูดใจสุดๆ บางทีอาจจะสามารถดึงดูดความสนใจจากมิกกี้เมาส์แห่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์ได้เลยด้วยซ้ำนะ!
วิธีการเดินทางมายังเมืองสึรุงิ จังหวัดฟุกุอิ:
➤ จากโตเกียว:
ขึ้นรถไฟหัวกระสุนฮิการิ (Hikari) มายังสถานีมาอิบาระ (Maibara Station (米原駅)) และเปลี่ยนรถไฟไปยังรถไฟด่วนพิเศษชิราซางิ (Shirasagi) และไปลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
➤ จากโอซาก้า:
จากสถานีโอซาก้า (Osaka Station (大阪駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
➤ จากเกียวโต:
จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station (京都駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
เทศกาลสึรุกะ (Tsuruga Festival (敦賀祭り))
ในปีนี้เทศกาลเริ่มต้นขึ้นด้วยคานิวัล ยาวตลอดแนวถนนคากุระโจ (Kagura-cho Street (神楽町)) ในวันที่ 1 กันยายน ส่วนตัวงานเทศกาลจริงๆนั้น จะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าจะถึงวันที่ 2 กันยายน และในวันแรกที่เริ่มต้นด้วยคานิวัลที่เหมือนเป็นการป่าวประกาศ หรือ “การแจ้งเตือน” ให้กับทุกๆคนได้ทราบ ได้เริ่มต้นด้วย โยอิยามะ จุนโก (Yoiyama Junko (宵山巡行)) ชาวเมืองฟุกุอิจะมีความคิดต่อโยอิยามะ จุนโกะ ว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากๆของเทศกาลสึรุกะ เพราะชาวเมืองจะเชื่อกันว่า หากไม่มีสิ่งนี้ เทศกาลก็จะเริ่มต้นไม่ได้เลยทีเดียว ลองดูไปที่การตกแต่งของขบวนเกี้ยวนี้สิ (จากที่เห็น เกี้ยวจะถูกยกลอยขึ้น ในภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกการแห่เกี้ยวแบบนี้ว่า “dashi” 山車) ชาวเมืองจะเรียกกันว่า “โยอิยามะ” (Yoiyama) และบนเกี้ยวก็จะมีเด็กๆที่เต้นรำไปพร้อมๆกับเพลงญี่ปุ่นดั้งเดิมที่บรรเลงไป และในขณะเดียวกัน ก็จะแห่เกี้ยวมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าเคฮิ (氣比神宮) เพื่อไปรับพรโดยพระจากนิกายชินโตที่นั่น จากนั้นก็จะทำการแห่ขบวนเกี้ยวนี้ไปวนรอบๆเมืองเลยละ
พวกเราได้เห็นอะไรแบบนี้มานิดหน่อยจากเทศกาลอื่นๆ แต่ว่ายังไม่เคยดึงโยอิชะ (Yoisha) หรืออะไรทำนองนี้แบบจริงๆมาก่อนเลย! โดยปกติแล้ว อะไรแบบนั้นคงจะเอาไว้ให้เฉพาะชาวเมืองไว้สำหรับการสักการะ หรือกิจกรรมประเพณีดั้งเดิมเท่านั้น แต่ว่าในความเป็นจริง ที่เมืองสึรุกะนี้ ยินดีต้อนรับทุกผู้ทุกคนที่มีความสนใจให้มาเข้าร่วมกันได้หมดเลยละ! โดยไม่สนว่าเพื่อนๆจะอาศัยอยู่ที่ใด หรือจะมาจากไหน –ทุกๆคน– สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ในเทศกาลญี่ปุ่นแบบนี้ได้จริงๆ!! และนั่นแหละก็เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงได้เดินทางมาเข้าร่วมเทศกาลนี้ที่เมืองสึรุกะละ!
ในคืนนั้นพวกเราได้โอกาศอันดีพอดีที่จะได้เข้าร่วม และสัมผัสกับชาวเมืองท้องถิ่นที่นี่ ที่ขบวนพาเหรดเต้นรำพื้นเมืองยามค่ำคืนของเทศกาลสึรุกะ โดยในระหว่างการเดินขบวนพาเหรดนี้ แต่ละแขวงของเมืองสึรุกะ ก็จะแสดงถึงความเป็นตัวตนของแต่ละแขวงออกมาโดยการทำ “ขบวนแห่” เพื่อแห่และเต้นไปรอบๆเมือง พร้อมกับการใส่ชุดฮัปปิ (ハッピ; happi) ด้วยลักษณะที่ต่างๆกันไป และชุดยูกาตะก็ด้วย และในค่ำคืนนี้ก็มีการแสดงการเต้นรำพื้นเมืองทั้งหมด 3 ชุดด้วยกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยนะ เพราะเนื่องจากเรามาเข้าร่วมกับแขวงแขวงหนึ่งที่ทำการแสดงในเทศกาลนี้ พวกเขาก็สอนวิธีเต้นให้กับพวกเราละ!
ในค่ำคืนนี้มีประชาชนชาวเมืองรวมๆแล้วก็กว่า 3,000 คน มาเข้าร่วมในขบวนพาเหรดเต้นรำพื้นเมืองกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว และนอกเหนือจากการเต้นรำแล้ว ก็ยังมีร้านแผงอาหารท้องถิ่นขายอยู่เยอะแยะไปหมดเลยละ แล้วยังมีมาสคอตที่เป็นไดโนเสาร์เดินไปเดินมารอบๆอีกด้วย ทั้งสนุกและคุ้มค่าสุดๆที่ได้มาเห็นมาเยี่ยมชมเลยละ~
ขบวนแห่ศาลเจ้าเคลื่อนที่ (神輿渡御; Mikoshi Togyo)
มิโคชิ (มักจะแปลได้ว่า “ศาลเจ้าเคลื่อนที่”) ใช้สำหรับการแห่พระเจ้าไปรอบๆเมืองในระหว่างที่อยู่ในเทศกาลชินโต พระเจ้าจะถูกย่อส่วนให้อยู่ในศาลเจ้าขนาดย่อส่วนนี้ และการขบวนการแห่นี้ก็จะมีแค่ในช่วงเทศกาลแบบนี้เท่านั้น โดยขบวนจะเคลื่อนไปรอบๆเมือง เพื่อไปหาผู้ที่กำลังเฉลิมฉลองกับเทศกาล และอยากจะขอพรกับพระเจ้า ประเพณีดั้งเดิมแบบนี้จะรู้จักกันในชื่อ “มิโคชิ โทเกียว” (Mikoshi Togyo (神輿渡御)) แล้วก็เช่นกัน ขบวนการแห่ศาลเจ้านี้จะคล้ายๆกับการเต้นรำพื้นเมือง ที่แต่ละแขวงก็จะมีเอกลักษณ์ของตนเองที่ต่างๆกันออกไป ส่วนแขวงที่พวกเราได้ไปเข้าร่วมด้วยนั้น มีการแต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วน ที่มีการตกแต่งเป็นลายสีน้ำเงินหน่อยๆ พร้อมทั้งแห่มิโคชิของเด็ก และแม้ว่าจะเป็นมิโคชิของเด็ก แต่ก็หนักใช่เล่นเลยนะเนี่ย!! นี่พวกเขาทำกันมาหลายต่อหลายปีแล้วได้ยังไงเนี่ย
และหลังจากที่ได้รับโอกาสในการเปลี่ยนชุดเป็นชุดตามแบบประเพณีดั้งเดิมที่ฮอลล์รวมของแขวงแล้ว พวกเราก็ได้เริ่มต้นเข้าร่วมขบวนมิโคชิ โทเกียวกันแล้วละ! พวกเราได้แบกมิโคชิไปรอบๆเมืองเพื่อไปยังศาลเจ้าเคฮิ และยังมีการหยุดตามตึกรามบ้านช่องเพื่อโยนมิโคชินี้ขึ้นไปบนอากาศอีกด้วย และถ้าหากว่ามีใคร หรือบริษัทไหนที่ทำการบริจาคให้ พวกเขาจะแขวนกระดาษเกียรติยศสีขาวที่ได้มาจากพระ เอาไว้บนหน้าต่างของศาลเจ้า เมื่อผู้ที่แบกมิโคชิเห็น พวกเขาจะทำการโยนมิโคชิขึ้นบนอากาศ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ และเมื่อพวกเขาแห่กันไปถึงศาลเจ้าเคฮิแล้ว จะมีพิธีการสวดให้พรเล็กๆน้อยๆอยู่ จากนั้นพวกเราก็มาแบกมิโคชิกันไปรอบๆเมืองกันต่อ และในเทศกาลนี้ก็ยังมีโอกาสให้พวกเราได้ดื่มสาเกญี่ปุ่นกันอีกด้วย! ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดั้งเดิมทั้งหมดเลยละ พอพวกเราได้ดื่มสาเกกันให้ชื่นใจแล้ว ก็ลืมเป็นปลิดทิ้งไปเลยว่าจริงๆแล้วมิโคชิมันหนักมากแค่ไหนน่ะ
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆในจังหวัดฟุกุอิ – เรนโบว์ไลน์ (Rainbow Line)
แล้วถ้าหากเพื่อนๆไปเที่ยวทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุอิในช่วงที่ไม่มีเทศกาลแล้ว จะไปไหนดีละ? พวกเราขอแนะนำที่นี่เลย เรนโบว์ไลน์ (Rainbow Line) ในเมืองวากาซะ ลองขึ้นลิฟต์ไปยังยอดเขาของภูเขาบะอิโจดาเคะ (Mt.Baijodake) และไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุดๆกับ ทะเลสาบมิกาตะทั้งห้า ดูสิ ทะเลสาบนี้จะประกอบไปด้วย ทะเลสาบมิกาตะ (三方湖), ทะเลสาบซุยเกะสึ (水月湖), ทะเลสาบซุกะ (菅湖), ทะเลสาบคุกุชิ (久々子湖) และทะเลสาบฮิรุกะ (日向湖) แล้วทำไมถึงต้องเรียกว่าเรนโบว์ไลน์ เพื่อนๆสงสัยกันอยู่ใช่ไหมละ ท่านเจ้าของได้อธิบายเอาไว้ว่า ทะเลสาบทั้งห้าที่นี่นั้น มีคุณภาพความเค็มในน้ำต่างกันอยู่ (มี 1 ทะเลสาบที่เป็นน้ำทะเล, 3 ทะเลสาบตรงกลางเป็นน้ำกร่อย (คือนำ้ทะเลผสมน้ำจืด) และอีก 1 ทะเลสาบที่เหลือเป็นน้ำจืด) ด้วยความต่างแบบนี้ ทำให้สีของน้ำในแต่ละทะเลสาบแตกต่างกันออกไปด้วย และเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังผิวน้ำของแต่ละทะเลสาบแล้ว จะเกิดเชดสีใหม่ๆของสีเขียวและน้ำเงินขึ้น ทำให้เกิดเป็น “สีรุ้ง” (Rainbow) นั่นเอง
และสิ่งที่พวกเราชื่นชอบมากๆเกี่ยวกับสถานที่นี่ก็คือ ไม่เพียงแต่ที่นี่จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากมายให้ทำกัน และที่นี่ก็ยังเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับการมาเพลิดเพลินทำกิจกรรมต่างๆได้อีกด้วย มีตั้งแต่สวน, หินคู่รัก, ชิงช้า และเปลให้ได้ผ่อนคลายกัน ที่นี่ไม่เหมือนยอดเขาอื่นๆที่เราเคยเห็นกันมาก่อนเลยละ และสิ่งที่น่าสนุกที่น่ามาลองทำกันอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การไปเยี่ยมชมคาวาราเกะ (かわらけ) ที่อยู่ใกล้ๆกับเทนงุ-โดะ (天狗堂) ไปเขียนคำขอพรบนจานดินเหนียวกัน จากนั้นก็โยนมันลงไปในทะเลสาบได้เลย! ไม่ต้องห่วงเรื่องจานว่าจะเป็นยังไง จะเป็นขยะไหมหลังจากที่โยนลงไปเลยนะ เพราะว่าจานนี้จะสามารถย่อยสลายเองได้เมื่อเจอฝนละ
เฮชิโกะ เป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณที่ไม่สิ้นสุด และยังเป็นสินค้าแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่เมืองวาคาซะ และโอบามะ มีชื่อเสียงในจังหวัดฟุกุอิ เฮชิโกะ หรือปลาแม็กเคอเร็ลดองนี้ เป็นการดองที่ผสมผสานไปด้วยการหมักจากรำข้าว และน้ำเกลือ และหลายๆคนที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับจานอาหารแบบนี้ ก็อาจจะแบบ ว้าว นิดหน่อย ในหลายปีก่อน ปลาแม็กเคอเร็ลของจังหวัดฟุกุอินี้ มีการนำมารับประทานกันเป็นปกติ แต่เนื่องมาจากการจับปลาที่มากเกินไป ทำให้ตอนนี้มันแทบจะไม่มีอยู่ในฟุกุอิอีกแล้ว ฉะนั้นปลาแม็กเคอเรลที่นำมาทำเฮชิโกะและเสิร์ฟในจังหวัดฟุกุอินี้ ล้วนนำเข้ามาจากประเทศนอร์เวย์ทั้งสิ้น
ที่นี่ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านที่เพื่อนๆสามารถมาลองทานเฮชิโกะกันได้ แต่ว่าถ้าหน้าตาของเฮชิโกะมันแปลกๆไปหน่อย เพื่อนๆก็สามารถไปทานกันได้ที่ร้าน ออโรร่า (Aurora) เพราะที่นี่เพื่อนๆสามารถทานเฮชิโกะที่อยู่ในรูปแบบแซนด์วิชเฮชิโกะ, สปาเกตตี้เฮชิโกะ และคาร์ปาซโซเฮชิโกะได้เลย เพื่อนๆสงสัยกันหรือเปล่าว่าทำไมร้านอาหารนี้ถึงนำปลาแม็กเคอเร็ลดอง มาทำให้อยู่ในรูปแบบของคาร์ปาซโซน่ะ แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลที่มีนั่นก็คือ ทางร้านอยากจะให้เด็กๆสามารถลองรับประทานกันได้ แต่ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้น มันล้ำลึกกว่านั้นไปอีก คือ โดยดั้งเดิมแล้ว ผู้คนจะกินเฮชิโกะกันเป็นมื้ออาหารเช้า พร้อมกับข้าวสวยสักถ้วย หรือจะทานพร้อมกับขนมและเบียร์ก็ได้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างจัดทำยากไปหน่อย ทำให้ผู้คนเริ่มไม่ชอบที่จะกินเฮชิโกะ และไม่ซื้อกินกันอีก เมื่อได้ยินดังนั้น จึงเกิดไอเดียขึ้นมา โดยนำเฮชิโกะนี้มาตัดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทำเป็นแบบอาหารแนวตะวันตกมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ชาวเมืองได้เห็นถึงวิธีการใหม่ๆที่จะกินเฮชิโกะได้ ในแบบที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
✴Aurora (オーロラ )
33-44-1 Kugushi, Mihama, Mikata-ku, Fukui
Google Maps
⏰08:00 ~ 22:00 น.
อย่าลืมติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆทุกวันของพวกเราได้ที่ JAPANKURU🐶
หรือเพิ่มพวกเราบน Google+, Instagram, Facebook และแบ่งปันรูปภาพสไตล์ญี่ปุ่นของคุณกัน 💖🗾
พวกเราได้มีช่วงเวลาดีๆที่เพลิดเพลินไปกับเทศกาลสึรุกะอย่างสนุกสนานเต็มที่กันไปเรียบร้อยแล้ว!
แล้วเพื่อนๆละ มาลองร่วมเทศกาลในปีหน้าดูสักหน่อยดีไหมละ?!!
วิธีการเดินทางมายังเมืองสึรุงิ จังหวัดฟุกุอิ:
➤ จากโตเกียว:
ขึ้นรถไฟหัวกระสุนฮิการิ (Hikari) มายังสถานีมาอิบาระ (Maibara Station (米原駅)) และเปลี่ยนรถไฟไปยังรถไฟด่วนพิเศษชิราซางิ (Shirasagi) และไปลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
➤ จากโอซาก้า:
จากสถานีโอซาก้า (Osaka Station (大阪駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
➤ จากเกียวโต:
จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station (京都駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))
PROFILE
Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MORE・The new Tokyo flagship for Volcom Japan is a center for all things skateboarding, street fashion, art, and culture, all in the heart of Shibuya! ・Volcom日本旗艦店東京澀谷登場 本格派滑板街頭潮流藝文新據點 #Volcom #japankuru #shibuya #日本購物 #日本潮流 #日本街頭時尚 #澀谷 #東京購物 #東京購物推薦 #東京潮店 #澀谷潮店 #滑板 #雪板 #衝浪 #볼컴 #시부야
Which snacks make the best Japanese souvenirs?~ Jaga Pirika ~ 일본과자 선물 뭐하지?~자가피리카 편~ #pr #calbee #jagapokkuru #japanesesnacks #japanesefood #japanesesouvenir #japantravel #japantrip #naritaairport #hokkaido #나리타국제공항 #일본여행선물 #흔하지않은기념품 #일본쇼핑리스트 #일본과자추천 #고구마과자 #일본간식추천 #일본면세점쇼핑 #개별포장 #일본감자칩 #도쿄나리타공항면세점 #현지인추천 #일본여행 #일본기념품리스트 #자가포쿠루 #자가피리카
Asakusa's Sanja Matsuri, one of the biggest festivals in all of Tokyo, is almost here! Make sure you check out the festival route so you don't miss all the festivities this May. #asakusa #sanjafestival #sanjamatsuri #asakusashrine #sensoji #sensojitemple #japanesefestival #shintoshrine #japaneseculture #tokyo #tokyotrip #tokyotravel #asakusasightseeing #matsuri #japantrip #japantravel #springinjapan #tokyotravel #japankuru #산자마츠리 #아사쿠사 #일본마츠리 #일본여행 #일본5월
Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄
Evangelion, in miniature!? Tokyo's SMALL WORLDS Miniature Museum is actually a must-see for anime lovers, thanks to the tiny Evangelion Hangar and Tokyo-III... plus a whole universe of other scenes both real and fictional. #smallworlds #smallworldstokyo #tokyotrip #tokyotravel #evangelion #eva #anime #miniature #miniatures #animefigure #japantrip #japantravel #에반게리온 #스몰월드 #에반겔리온 #スモールワールズ #오다이바 #아리아케
Have you sat down for a snack at Sumida Aquarium yet? This aquarium next to Tokyo Skytree is known for its penguins and garden eels, but we can't get enough of their cute snacks! There are lots of good seats around the aquarium, too, so it almost feels like one big cafe. 🐧 • Find out more at Japankuru.com! (Link in bio.) • #japankuru #sumidaaquarium #skytree #tokyoskytree #solamachi #sumida #tokyo #tokyotrip #tokyotravel #aquarium #japanesesweets #themecafe #すみだ水族館 #Japan #日本 #일본 #Japon #ญี่ปุ่น #Japão #япония #japantravel #日本旅行 #日本旅遊 #japan_of_insta #japantrip #traveljapan #japan🇯🇵 #igerstokyo #explorejapan
For anime fans, the Evangelion areas at Small Worlds Miniature Museum are a must see! The tiny miniature people in the Evangelion Hangar look like ants beneath the moving Unit-01, Unit-00, and Unit-02! And over in Tokyo-III, characters like Shinji, Rei, and Katsuragi live life on a miniature scale. #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #ariake #smallworlds #miniaturemuseum #smallworldstokyo #tokyotravel #evangelion #eva #anime #miniature #miniatures #animefigure #japankuru #스몰월드 #에반게리온 #오다이바 #오다이바관광 #오다이바스몰월드 #미니어쳐