Sponsored

แจกแพลนเที่ยวชินจูกุ-ฮาโกเน่ | ตัดแว่นตากับ JINS ชินจูกุ แล้วไปเที่ยวฮาโกเน่กัน! 

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

รีวิวตัดแว่นที่ญี่ปุ่น แนะนำกิจกรรมเดินเล่นสุดชิลกับแคมเปญ JINS 30min Night Walk และมุ่งหน้าไปเที่ยวฮาโกเน่

สถานีชินจูกุ สถานีศูนย์กลางเชื่อมต่อรถไฟที่เยอะที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องได้แวะลงที่สถานีนี้อย่างน้อยสักครั้ง ใช้เดินทางในโตเกียวก็ง่าย หรือเดินทางออกนอกโตเกียวก็สะดวกไม่แพ้กัน นอกจากรถไฟแล้วก็ยังมีแหล่งช้อปปิ้งล้อมรอบ อย่างห้าง Lumine หรือย่านคาบุกิโจ 

แต่หากมาถึงชินจูกุแล้วเริ่มรู้สึกว่ามองตารางเวลารถไฟหรือป้ายทางออกไม่ชัด  อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนแว่นแล้ว แนะนำให้ลองมาตัดแว่นใหม่ที่ร้าน JINS 

หลังจากตัดแว่นเสร็จแล้ว จะพาทุกคนไปเที่ยวฮาโกเน่กันต่อ สำหรับใครที่กำลังแพลนจะเดินทางไปนอกโตเกียว สามารถไปตามรอยจากบทความนี้ได้เลย!

ร้านแว่น JINS ชินจูกุ

JINS ร้านแว่นตาสัญชาติญี่ปุ่นคุณภาพดี ราคาน่ารัก ที่สำคัญคือให้บริการอย่างรวดเร็ว รออย่างน้อยสุดเพียงแค่ 30 นาทีก็สามารถรับแว่นกลับไปใส่ได้เลย ปัจจุบันร้าน JINS มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น แต่วันนี้ทีมงาน JAPANKURU ขอพาทุกคนแวะไปที่ JINS สาขา Lumine Shinjuku ใจกลางโตเกียว โดยร้านตั้งอยู่ในห้าง Lumine 1 ใกล้กับสถานีชินจูกุเลย ภายในร้านตกแต่งด้วยสีขาวครีมและมีแว่นวางเรียงเป็นโซน ๆ ตามแต่ละคอลเลกชัน ดูง่ายสบายตา

กรอบแว่นตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

ที่สาขา Lumine Shinjuku มีกรอบแว่นให้เลือกหลายหลากรุ่น  ในส่วนของกรอบแว่นที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้คือคอลเลกชัน JINS Today กรอบแว่นบางดีไซน์สวยตามเทรนด์แฟชั่น

นอกจากดีไซน์สวยแล้ว ที่ JINS ยังมีกรอบแว่นที่ตอบโจทย์ความต้องการ และแก้ปัญหาที่ชาวใส่แว่นหลายคนต้องเจอ อย่างคอลเลกชัน JINS HOME ที่เน้นความยืดหยุ่นสูง ใส่สบายเมื่ออยู่บ้าน ลดปัญหาขาแว่นบีบหน้า หรือจะเป็นรุ่น JINS Airframe ที่ยืนหนึ่งเรื่องกรอบน้ำหนักเบา ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าแว่นจะกดทับตรงจมูก สำหรับใครที่ใส่แว่นเพียงบางเวลา ที่ร้านมีคอลเลกชัน JINS Half ซึ่งเป็นแว่นพับได้ สามารถพกพาไปใส่เฉพาะตอนที่ต้องการได้สะดวก

เลนส์

มาดูที่เลนส์กันบ้าง ที่ JINS สาขา Lumine Shinjuku มีเลนส์ให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ใสธรรมดา เลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์กรองแสงสีฟ้า เลนส์เปลี่ยนสี เลนส์โฟโตโคมิก ไปจนถึงเลนส์แฟชั่นหลากสี รวมถึงมีออปชั่นเสริมอีกมากมายให้เลือก 

หลังจากได้ลองเดินดูเลนส์แล้ว เลนส์ที่รู้สึกว่าน่ารักมาก ๆ คือเลนส์แก้มแดง ที่ไล่สีบริเวณขอบล่างของเลนส์ พอสวมแว่นตาทำให้แก้มดูชมพูระเรื่อเหมือนแต่งหน้า มีถึง 3 โทนสีให้เลือก(โทนส้ม โทนชมพู โทนม่วง) เลือกได้ตาม personal color และไม่ต้องกังวลว่าจะบดบังทัศนียภาพการมองเห็น เพราะเลนส์ไล่สีแค่บริเวณด้านล่างของแว่นเท่านั้น ตรงดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติเลย

สำหรับชาวใส่แว่นคนไหนที่มีกรอบแว่นอยู่แล้ว อยากเปลี่ยนแค่เลนส์อย่างเดียว สามารถสั่งตัดแค่เลนส์มาใส่กรอบเดิมก็ได้เช่นกัน ทางร้านจะนำแว่นเราไปวัดค่าสายตาและตัดเลนส์ตามค่าสายตาเดิมเลย

ตัดแว่นง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน

①เลือกกรอบและเลนส์ที่ถูกใจ

มาเริ่มจากการเลือกกรอบแว่นกันก่อน หากรู้สึกว่ากรอบแว่นเยอะเกินจนไม่รู้จะเลือกกรอบไหน ขอแนะนำให้ลองใช้ JINS BRAIN นวัตกรรมจาก JINS ที่จะช่วยวิเคราะห์รูปหน้าของเราพร้อมแนะนำกรอบแว่นที่ดูเหมาะกับเราที่สุด ช่วยให้เรามั่นใจกับการใส่แว่นได้ยิ่งขึ้น

②วัดสายตา

หลังจากได้กรอบและเลนส์ที่ถูกใจแล้ว ต่อไปก็ไปวัดสายตากัน เราต้องมาจองคิววัดสายตาที่ไอแพดหน้าเคาน์เตอร์ (*เนื่องจากมีบางช่วงเวลาที่ลูกค้าแน่นร้าน ทำให้อาจต้องรอคิววัดสายตานาน แนะนำให้มาจองคิววัดสายตาก่อนแล้วค่อยไปเลือกกรอบระหว่างรอคิว เพื่อความสะดวกรวดเร็วค่ะ) 

เมื่อถึงคิว พนักงานจะมาแนะนำและพาไปวัดสายตาที่เครื่อง ใครที่ใส่คอนแทคเลนส์มา ทางร้านเขามีอ่างล้างมือเตรียมไว้ให้แล้ว สะดวกมาก ๆ 

และสำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา ๆ อาจจะกังวลว่าตอนวัดสายตาจะสื่อสารกันรู้เรื่องไหม ต้องบอกเลยว่าที่ร้านมีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ตอนที่ทีมงาน JAPANKURU แวะเข้าไปที่ร้านก็ได้เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาตัดแว่นกันเยอะเลย ดังนั้นสบายใจหายห่วงค่ะ

③รอรับแว่น 

เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากชำระเงินค่าแว่นเรียบร้อย ที่เหลือก็แค่รอเพียงครึ่งชั่วโมง ก็จะได้แว่นใหม่สำหรับเดินทางไปฮาโกเน่แล้ว

ร้าน JINS สาขา Lumine Shinjuku
ที่อยู่: ห้าง Lumine 1 สาขาชินจูกุ
เดินทาง: 

  • สาย JR, สาย Odakyu, สาย Keio เดิน 1 นาทีจากทางออก South ของสถานีชินจูกุ
  • สาย Keio New, สาย Toei Shinjuku และสาย Toei Oedo เดิน 1 นาทีจากทางออก Keio New Line ของสถานีชินจูกุ 

เวลาเปิดทำการ: 11:00 – 21:00 น.
Official Website (JP)

ระหว่างรอแว่นทำอะไรดี?

หากใครไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านไป 30 นาทีกับการนั่งรอเฉย ๆ ตอนนี้ JINS เขามีจัดแคมเปญพิเศษ “JINS 30min Night Walk” แจก Voucher ส่วนลดร้านค้าในย่านชินจูกุให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเรา ๆ โดยมาในรูปแบบของผ้าเช็ดแว่นลายแลนมาร์คในชินจูกุสุดเก๋ เพียงแค่โชว์ voucher ของ JINS ในร้านที่ร่วมรายการ สามารถรับส่วนลดหรือของแถมได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด งานนี้นอกจากจะได้ Tax free แล้ว ยังได้ส่วนลดร้านอาหารอีก คุ้มสุด ๆ ไปเลย!

*แคมเปญนี้จัดตั้งแต่วันนี้ถึงจนกว่าผ้าเช็ดแว่น Night Voucher จะหมด ดูรายละเอียดร้านค้าที่ร่วมรายการได้ที่เว็บไซต์ทางการของ JINS

ระหว่างรอแว่น JAPANKURU ขอพาไปเดินเล่นชินจูกุตามจุดที่มีในผ้าเช็ดแว่น ให้ทุกคนมาลองทายกันดูว่าที่ ๆ เรากำลังจะไปอยู่ตรงไหนของผ้าเช็ดแว่นนี้กัน

ตรอกโอโมอิเดะโยโกโจ (Omoide Yokocho)

ตรอกโอโมอิเดะโยโกโจ ตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น บรรยากาศเหมือนย้อนไปช่วงยุคโชวะ(ปีค.ศ. 1926-1989) เน้นเป็นอาหารเสียบไม้ปิ้งย่าง หรือของทานเล่นคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหมาะกับการมานั่งชิล กินไปคุยไป เผลอ ๆ อาจได้ผูกมิตรกับคนข้าง ๆ แบบไม่รู้ตัว

ตรอกโอโมอิเดะโยโกโจ (Omoide Yokocho)
ที่อยู่: 1-2 Nishi-Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0023
เวลาเปิดปิด: เปิด 24 ชั่วโมง
วิธีการเดินทาง: สถานี JR Shinjuku ทางออก West exit

โรงหนัง Toho ชินจูกุ (Toho Cinemas Shinjuku) 

อีกหนึ่งแลนมาร์คของชินจูกุ ที่ไม่ว่าใครมาก็ห้ามพลาด กับหัวก็อตซิลล่ายักษ์บนโรงหนัง Toho ชินจูกุ ซึ่งเปิดตัวในปี 2015 สร้างความฮือฮาให้กับคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว จนปัจจุบันก็กลายเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของชินจูกุไปเรียบร้อยแล้ว    

โรงหนัง Toho ชินจูกุ (หัวก็อตซิลล่า)
ที่อยู่: Shinjuku Toho Building 
วิธีการเดินทาง: JR Shinjuku ออกทาง East exit และเดินมาที่โรงหนัง Toho เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

ร้านซานางิ ชินจูกุ (Sanagi Shinjuku Food Hall)

ร้านอาหารที่มาในธีม “แผงลอยอาหารเอเชีย” ที่มีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน และอาหารไทยอย่างไก่ย่างด้วย! นอกจากอาหารแล้วยังมีของหวานและเครื่องดื่มมากมายให้เลือกสรร ภายในร้านตกแต่งด้วยโคมไฟสีสันฉูดฉาด ซึ่งจัดจ้านไม่แพ้รสชาติอาหารเลย เหมาะกับการมานั่งกินข้าวถ่ายรูปชิล ๆ 

Sanagi Shinjuku Food Hall
ที่อยู่: 〒160-0022 3-35-6 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo
เวลาเปิดปิด: 11:00-23:00 น. (Last order 22:00 น.)
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Shinjuku ทางออก Southeast exit เดินต่ออีก 1 นาที
Official Website

ฮาโกเน่วันเดย์ทริป

หลังจากเดินเล่นฆ่าเวลาในชินจูกุแล้ว ก็อย่าลืมกลับมารับแว่น เท่านี้ก็พร้อมออกเดินทางต่อไปยังฮาโกเน่กันแล้ว ไปมองวิวสวย ๆ ที่ฮาโกเน่ให้ชัดขึ้นด้วยแว่นตาจาก JINS กันเถอะ!

เราออกเดินทางจากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) ด้วยรถไฟขบวน Romance car (จำเป็นต้องจอง) บนสายโอดะคิว (Odakyu Line) ตรงไปยังสถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ (Hakone Yumoto Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น

ในการเดินทางตลอดทริปนี้เราใช้ Hakone Free Pass ตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ในมือถือ เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่สถานีชินจูกุและสามารถใช้ในการขึ้นรถลงเรือทั้งหมดในฮาโกเน่แบบไม่จำกัดรอบ บอกเลยว่าคุ้มและประหยัดเวลาได้มาก เพราะไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วหลายรอบ ข้อควรระวังอย่างเดียวคือโทรศัพท์ต้องมีเน็ตและมีแบต!

Hakone Free Pass
สมาร์ทโฟน 1 เครื่อง ต่อผู้เดินทาง 1 คน
ราคา: ผู้ใหญ่ 6,100 เยน | เด็ก 1,100 เยน
ซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่: https://www.odakyu.jp/english/passes/hakone/

การเดินทางไปฮาโกเน่

  • รถไฟ Romance car นั่งรถไฟสายโอดะคิว(Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ(Shinjuku Station) ตรงไปยังสถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ(Hakone Yumoto Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
  • Rapid Express นั่งรถไฟสายโอดะคิว(Odakyu Line) จากสถานีชินจูกุ(Shinjuku Station) ไปลงสถานีโอดาาระ(Odawara) เปลี่ยนสายไปนั่งสาย Hakonetozan ลงที่สถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ(Hakone Yumoto Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
  • รถบัส Odakyu Hakone Highway Bus ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

ที่เที่ยวไฮไลท์ประจำฮาโกเน่

เมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานางาวะ เมืองธรรมชาติยอดฮิตใกล้โตเกียว เดินทางง่ายเพียงชั่วโมงครึ่ง ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนมักมาเที่ยวกันแบบวันเดย์ทริปเช้าเย็นกลับ วันนี้ JAPANKURU เลยขอเอาที่เที่ยวไฮไลท์ของฮาโกเน่มาฝาก พร้อมใส่แว่นตาจาก JINS เพิ่มความคมชัดให้กับภาพวิวตรงหน้า😎

พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วเวนิส (Hakone Venetian Glass Museum)

พิพิธภัณฑ์ของคนรักเครื่องแก้วที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า Hakone Garasu no Mori(箱根グラスの森) แปลว่าป่าแห่งแก้ว ภายในตกแต่งเป็นสวนสไตล์ตะวันตกที่ถูกประดับประดาด้วยเครื่องแก้ว เมื่อแดดส่องโดนเครื่องแก้วเกิดเป็นประกายระยิบระยับจนดูเหมือนป่าคริสตัลขนาดย่อมเลย (ถ้าแดดและความแวววับจากแก้วมันแยงตา อย่าลืมใส่แว่นกันแดดจาก JINS😎)

ด้านในมีโซนจัดแสดงงานแก้วเวนิสโบราณจากอิตาลี โซน Experience Studio เวิร์คชอปเครื่องแก้วให้เราได้ลองทำ รวมถึงมีโซนขายของฝากที่ทุกชิ้นล้วนทำจากแก้วเวนิสทั้งหมดด้วย

Hakone Venetian Glass Museum
ที่อยู่: 940-48 Sengokuhara, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa Prefecture, 250-0631
เดินทาง: จากสถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ(Hakone Yumoto Station) หรือสถานีโอดาวาระ(Odawara) ขึ้นรถบัสฮาโกเน่โทซัน สายที่มุ่งหน้าไปยังโทเก็นได ลงที่สถานี Hyoseki/Hakone Garasu-no-Mori-Mae (Hakone Venetian Glass Museum)
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 10:00 – 17:30 น. (เข้ารอบสุดท้าย 17:00 น.)
ค่าเข้าชม: บุคคลทั่วไป 1,800 เยน | 1,300 เยน | 600 เยน 
*โชว์ Hakone Freepass รับส่วนลดคาเข้า 100 เยน
Official Website

ฮาโกเน่ยุเรียว (Hakone Yuryo) 

แวะพักแช่ออนเซ็นผ่อนคลายร่างกายที่ ฮาโกเน่ยุเรียว (Hakone Yuryo) ออนเซ็นกลางหุบเขาสไตล์บ้านพักญี่ปุ่นโบราณ มีอ่างน้ำหลากหลายให้เลือกแช่ ทั้งบ่อกลางแจ้งและบ่อในร่ม หากใครเขินเกินกว่าจะแช่ออนเซ็น สามารถใช้บริการสปาหรือจะเพลิดเพลินกับร้านอาหารแบบเตาผิงญี่ปุ่นโบราณก็ได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือฮาโกเน่ยุเรียวร่วมรายการกับ JINS เพียงแค่โชว์ Night Voucher รับส่วนลดค่าเข้าไปเลย 200 เยน

ฮาโกเน่ยุเรียว (Hakone Yuryo) 
ที่อยู่: 4 Tonosawa, Hakone – machi, Ashigarashimo – gun, Kanagawa 250 – 0315
เดินทาง: มีรถบัสรับส่งฟรี จากสถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ(Hakone Yumoto Station) ออกจากสถานีทุก ๆ 15 นาที
เวลาเปิดทำการ:

  • วันธรรมดา 10:00 – 20:00  น
  • วันเสาร์อาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.

ค่าเข้า: 

  • วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 1,700 เยน | เด็ก 1,000 เยน
  • วันเสาร์อาทิตย์ ผู้ใหญ่ 2,000 | เด็ก 1,000 เยน

*จำเป็นต้องจองล่วงหน้า
*โชว์ Night Voucher จาก JINS รับส่วนลดค่าเข้า 200 เยน
เว็บไซต์ทางการ

หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)

มาถึงฮาโกเน่ จะพลาดที่นี่ไปไม่ได้ กับ “หุบเขาโอวาคุดานิ” หุบเขาที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน บริเวณใต้พื้นผิวยังคงหลงเหลือความร้อนและแร่กำมะถันปริมาณมาก จึงยังคงมีกลุ่มควันไอน้ำพ่นออกมาแบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้

เดินทางด้วยกระเช้าฮาโกเน่โรปเวย์ (Hakone Ropeway) ขึ้นไปยังหุบเขาโอวาคุดานิ ก้มมองด้านล่างจะเห็นเหล่าควันไอน้ำพ่นออกมาจากหุบเขา หลังจากก้มมองด้านล่างแล้วอย่าลืมเงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าด้านบนบ้าง เพราะอาจได้เจอคุณฟูจิโผล่มาทักทายก็ได้นะ 

เมื่อขึ้นมาถึงหุบเขาโอวาคุดานิแล้ว ห้ามพลาด “คุโระทามาโกะ” หรือไข่ดำของขึ้นชื่อ ที่เขาว่ากันว่าถ้าได้กินแล้วจะอายุยาวขึ้นอีก 7 ปี (จริงไม่จริงไม่รู้แต่เชื่อไว้ก่อน กินไปตั้ง 2 ฟองแหนะ🤤) เปลือกสีดำนี้มีที่มาจากการต้มด้วยน้ำแร่กำมะถันที่ผุดขึ้นมา ทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีดำจากกำมะถันนั่นเอง

เปลือกไข่สีดำอาจดูน่ากลัว แต่คนญี่ปุ่นว่ากันว่าแร่กำมะถันไม่เป็นอันตราย ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถ้าได้ลองกินแล้วจะติดใจ รสชาติเค็มกำลังดีเลยแหละ😋

หุบเขาโอวาคุดานิ
ที่อยู่: 1251-1 Sengokuhara, Hakone-machi, Ashigarashimo-gun, Kanagawa Prefecture
เดินทาง: นั่งเคเบิลคาร์ฮาโกเน่โทซัน (Hakone Tozan Cable Car) →ลงที่สถานี Sounzan →เปลี่ยนไปขึ้นกระเช้าฮาโกเน่โรปเวย์ (Hakone Ropeway) →ลงสถานี Owakudani
เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน 9:00 – 17:00 น.

ทะเลสาบอะชิ(Ashi Lake)

ที่เที่ยวสุดท้ายจะพาไปขึ้น Hakone Sightseeing Cruise ชมทะเลสาบอะชิ(Ashi Lake) รับลมเย็นชิล ๆ  ให้เรานั่งกระเช้าต่อจากสถานีโอวาคุดานิ (Owakudani) มาลงที่สถานีโทเก็นได (Togendai) เดินต่อไปยังจุดขึ้นเรือ และนี่ก็คือโฉมหน้าของเรือที่เราจะขึ้น↓

ล่องเรือมาจนถึงท่าเรือฮาโกเน่มาจิ (Hakonemachi-ko) จะมีจุดเช็คพ้อยท์ให้ได้ถ่ายรูป ถ้าในวันที่ฟ้าฝนเป็นใจก็จะได้เห็นโทริอิสีแดงของศาลเจ้าฮาโกเน่ พร้อมวิวฟูจิซังเป็นพื้นหลังแบบนี้เลย

หลังจากได้รูปสวย ๆ จนพอใจแล้ว เราสามารถขึ้นรถบัสสาย R หรือรถบัส Express จากสถานีฮาโกเน่มาจิ (Hakonemachi) กลับมายังสถานีฮาโกเน่ยุโมโตะ (Hakone Yumoto Station) ได้เลย เท่านี้ก็เป็นอันปิดทริปฮาโกเน่อย่างสวยงาม

ทริปรวมบรรยากาศเมืองและธรรมชาติ

สำหรับทริปในครั้งนี้ JAPANKURU ร่วมมือกับ JINS พาทุกคนไปตัดแว่นใหม่ ต่อด้วยเดินเล่นยามค่ำคืนในชินจูกุสุดครึกครื้นและมุ่งหน้ามาชมวิวธรรมชาติในฮาโกเน่แสนสงบ เป็นทริปที่เต็มอิ่มเพราะได้เก็บบรรยากาศครบทั้งในเมืองและนอกเมือง ที่สำคัญยังมีส่วนลดและของแถมจากวอยเชอร์ของ JINS ด้วย อย่าลืมไปตัดแว่นที่ JINS แล้วไปมองญี่ปุ่นให้ชัดขึ้นกันนะ!


ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURUFacebookInstagramX(twitter)!

Details

NAME:ร้าน JINS สาขา Lumine Shinjuku

HOURS:11:00 - 21:00 น.

ACCESS:สถานีชินจูกุ สาย JR, สาย Odakyu, สาย Keio เดิน 1 นาทีจากทางออก South / สาย Keio New, สาย Toei Shinjuku และสาย Toei Oedo เดิน 1 นาทีจากทางออก Keio New Line ของสถานีชินจูกุ

OFFICIAL WEBSITE:

https://www.jins.com/jp/

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination

Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025
 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change.
Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)
 *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details.
Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station

#japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025  *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)  *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji
#newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ 
#รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

See Kyoto Clearly With Your New Glasses
#japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU
#japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง 
#ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup
#pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon!
🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중
💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~
#tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon!
用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️
코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기

#pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items!
#pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

|

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS