CONTENTS
ช้อปปิ้งแว่นตาในซัปโปโร
ฮอกไกโด เกาะเหนือสุดแดนญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสี่ฤดูกาลและอาหารสุดแสนอร่อย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมักมาพักผ่อนหย่อนใจ(แน่นอนว่ารวมถึงคนไทยอย่างเรา ๆ ด้วย) สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงาม เพลิดเพลินกับอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมอันโด่งดังของฮอกไกโด ยิ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ซัปโปโร เมืองที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของฮอกไกโดก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ทั้งวัฒนธรรมอาหารหลากหลาย กิจกรรมตามฤดูกาลสุดแปลกใหม่ และบรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลาย พร้อมทั้งการช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีในเมืองใหญ่ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่ทุกคนอยากมาเยือน
ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทีมงาน JAPANKURU มีโอกาสได้เดินทางไปฮอกไกโด และได้ค้นพบร้านแว่นตาที่ดีที่สุดในซัปโปโร จึงอยากขอมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในบทความนี้ พร้อมกับออกสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ
การเดินทางของเราวันนี้เริ่มต้นจากการนั่งรถไฟไปที่สถานีซัปโปโร ขึ้นไปชั้นบนของสถานีเพื่อเลือกซื้อแว่นตาจากแบรนด์แว่นตาชั้นนำของญี่ปุ่นที่ JINS Sapporo Stellar Place จากนั้นจะพาไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวย่านสถานีซัปโปโร
JINS 30min Night Walks ในซัปโปโร
ซัปโปโรมีสถานเที่ยวและกิจกรรมมากมายให้ทำได้ตลอดวัน สามารถจัดแพลนท่องเที่ยวได้อย่างเต็มอิ่ม แต่ตลอดวันนั้นหมายรวมถึงตอนกลางคืนด้วยไหมนะ? เพราะแม้ฮอกไกโดจะเป็นเมืองใหญ่ที่คึกคัก แต่บางครั้งพิพิธภัณฑ์และแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ ก็ปิดเร็วกว่าที่คิด หากใครกังวลว่าหลังจากพระอาทิตย์ตกแล้วจะไปไหนดี วันนี้ JINS มีแคมเปญให้เราได้สนุกกันหลังพระอาทิตย์ตกมาแนะนำ กับแคมเปญ “JINS 30min Night Walk”
ร้านแว่น JINS สาขา Sapporo Stellar Place เปิดให้บริการถึงเวลาสามทุ่มเช่นเดียวกับเวลาเปิดให้บริการศูนย์การค้า และโดยปกติแล้วสามารถเตรียมแว่นให้ได้ภายใน 30 นาทีหลังจากชำระเงิน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะจะไปผจญภัยยามค่ำคืน นอกจากนี้ JINS ยังมอบสิทธิ์พิเศษให้ชาวต่างชาติอย่างเรา ๆ ด้วย “Night Voucher” คูปองส่วนลดหรือของขวัญฟรีจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ตัววอยเชอร์มาในรูปแบบของผ้าเช็ดแว่นสุดน่ารักลายสถานที่แลนมาร์คในฮอกไกโด
ทีมงาน JAPANKURU ได้แวะไปที่ JINS สาขา Sapporo Stellar Place และไปเดินเล่นที่เที่ยวรอบ ๆ มา เลยอยากมาแนะนำแพลนเที่ยวซัปโปโรแบบง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยและสถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมทิปส์ในการเลือกซื้อแว่นตาคู่ใหม่สุดเพอร์เฟ็กต์ในซัปโปโร
จุดแรก: JINS สาขา Sapporo Stellar Place
สถานีซัปโปรตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮอกไกโด และเป็นสถานีที่ทุกคนมักจะต้องผ่านเข้ามาจากสนามบิน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายอื่น ๆ ในฮอกไกโด ที่ด้านบนของสถานีเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า Sapporo Stella Place ภายในมีร้านค้าสินค้าแฟชั่นสุดชิคและร้านอาหารท้องถิ่นมากมาย แน่นอนว่ารวมถึงร้านแว่นตา JINS ด้วย
บรรยากาศภายในร้าน JINS ของสาขานี้ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากร้านแว่นตาทั่วไป เพราะด้วยการตกแต่งร้านที่มีชั้นวางไม้เต็มไปด้วยแว่นตาเรียงราย ให้บรรยากาศอบอุ่น มองแล้วเหมือนเป็นพื้นที่สาธารณะให้ผู้คนมาพบปะกันเสียมากกว่าร้านค้า และนอกจากแว่นตาแล้ว ภายในร้านยังมีหนังสือที่ไม่คาดคิดว่าจะเจออีกด้วย บนชั้นวางที่ทำจากแผ่นไม้ฮอกไกโด (Hokkaido Larch) มีหนังสือเรียงรายอยู่ ตั้งแต่หนังสือศิลปะและการออกแบบ ไปจนถึงหนังสือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮอกไกโด (ก็คือหลังจากเลือกซื้อแว่นตาแล้ว สามารถทดลองแว่นใหม่ด้วยการอ่านหนังสือได้เลย) ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างทำให้ที่ร้านนี้อาจเป็นร้านแว่นตาที่น่าสนใจที่สุดซัปโปโร
JINS Sapporo Stellar Place (JINS札幌ステラプレイス)
ที่อยู่: Sapporo Stellar Place Center 4F, 2 Chome Kita 5 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido
เวลาเปิดทำการ: 10:00 – 21:00 น. (อาจเปลี่ยนแปลงตามเวลาทำการของอาคาร)
เว็บไซต์ทางการ(ภาษาญี่ปุ่น)
ลองกรอบแว่นสุดฮิตของซัปโปโร
บนชั้นวางไม้ที่ประดิษฐ์อย่างปราณีตจากฮอกไกโด มีกรอบแว่นตายอดนิยมของ JINS สาขา Sapporo Stellar Place วางอยู่ นั่นคือกรอบแว่นจากซีรีส์ JINS Sabae: Made in Japan เดิมที”ซาบาเอะ”คือเมืองเกษตกรรมที่เคยยากจน แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาหมู่บ้านแห่งนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการผลิตแว่นตา ทั้งยังช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของญี่ปุ่นในเรื่องแว่นตาคุณภาพสูงอีกด้วย โดยกรอบแว่นซีรีส์ JINS Sabae ผลิตด้วยเทคนิคที่พัฒนาและปรับปรุงมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ทุก ๆ กรอบจะได้ผ่านมือของช่างฝีมือจากเมืองซาบาเอะหลายต่อหลายคน จนได้กรอบแว่นตาที่สะท้อนถึงความชำนาญของการผลิตที่ญี่ปุ่นภาคภูมิใจ ซึ่งกระบวนการนี้บางครั้งถูกเปรียบเทียบกับการพิมพ์ภาพไม้อุคิโยเอะ (浮世絵/Ukiyo-e) ที่ต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะสำเร็จสมบูรณ์นั่นเอง
หลังจากผ่านขั้นตอนการผลิตที่ปราณีต จนได้มาวางอยู่บนชั้นวางในร้าน JINS กรอบแว่นเหล่านี้ถือเป็นตัวอย่างงานฝีมือของช่างญี่ปุ่น เพราะมันเกิดจาก “การผสมผสานทักษะของช่างฝีมือ” โดยสีของกรอบได้รับแรงบันดาลใจจากสีของภาพพิมพ์อุคิโยะเอะดั้งเดิมที่ชวนให้นึกถึงฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น พร้อมด้วยรายละเอียดที่ปราณีต เช่น การออกแบบขาปีกจมูก กรอบแว่นในซีรีส์นี้มีสไตล์ที่เรียบง่ายและหรูหรา เหมาะกับการใส่ในชีวิตประจำวัน และยังสามารถเป็นของที่ระลึกที่ยอดเยี่ยมจากการเดินทางในญี่ปุ่นได้อีกด้วย
หากเราต้องการลุคที่โดดเด่นและทันสมัยให้เข้ากับบรรยากาศสุดล้ำของ Sapporo Stellar Place แนะนำให้ลองคอลเลกชัน BE BOLD จาก JINS ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคอลเลกชันที่โดดเด่นที่สุด กรอบแว่นหนาและดูแข็งแรงเหล่านี้มาในสีอย่างดำด้านและสีน้ำตาลลายกระดองเต่า ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดุดตาน่ามอง สำหรับใครที่เป็นคนรักแว่นตาและอยากโชว์ความเป็นตัวเอง ก็ไม่มีคอลเลกชันนี้จะเหมาะไปกว่าคอลเลกชันนี้แล้วล่ะ!
ที่ JINS Sapporo Stellar Place ยังมีคอลเลกชันแว่นตาสไตล์ใหม่ล่าสุดของแบรนด์ให้เลือกมากมาย และในช่วงที่ทีมงานของเราแวะไปที่ร้าน ได้พบกับคอลเลกชัน JINS TODAY กรอบแว่นสุดฮิตรุ่นล่าสุดได้รับแรงบันดาลใจจากกระแสแฟชั่นยุค 90 และต้นช่วงปี 2000 ที่เพิ่งกลับมาบูมในช่วงนี้ โดยมีตัวเลือกสไตล์เรโทรและทรง “เนิร์ด” ที่ดูเหมือนหลุดมาจากซิทคอมยุค 90 อย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่อยากตกเทรนด์แฟชั่นล่าสุด อย่าลืมมาลองแว่นสไตล์วินเทจเหล่านี้ดูนะ!
หากสิ่งสำคัญคือการค้นหาแว่นตาที่เหมาะกับรูปหน้ามากที่สุด ที่ร้าน JINS มีระบบ AI ที่เรียกว่า JINS BRAIN ซึ่งสามารถช่วยวิเคราะห์และแนะนำกรอบแว่นที่รับกับรูปหน้าให้ เพียงลองสวมแว่นตาใดก็ได้ในร้านและมายืนหน้าเครื่อง ระบบจะวิเคราะห์และให้คะแนนความเหมาะสมของแว่นตานั้นกับใบหน้า พร้อมแจกคะแนนความเข้ากันให้ด้วย(เต็ม 100 คะแนน) ในตอนที่ไม่มั่นใจว่าแว่นไหนจะเข้ากับเรา ปล่อยให้ JINS BRAIN ช่วยค้นหาคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้ได้เลย
เติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบด้วยเลนส์สุดล้ำจาก JINS
หลังจากเลือกกรอบที่ถูกใจได้แล้ว ก็ถึงเวลาของการมาเลือกเลนส์กันต่อ นอกจากกรอบแว่นละลานตาให้เลือกแล้ว JINS ยังภูมิใจนำเสนอเลนส์หลากหลายประเภท ซึ่งเป็นเลนส์ที่ถูกทำขึ้นโดยเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานจริงและแฟชั่น อย่างเลนส์กรองแสงสีฟ้า หนึ่งในเลนส์ขายดีของ JINS ยาวนานหลายปี สามารถปกป้องดวงตาเราจากแสงจ้าของหน้าจอที่อาจทำลายสายตาได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้ร่วมกับกรอบ JINS HOME ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่บ้าน)
หรือเลนส์โฟโตโครมิก(Photochromic Lens) เลนส์ปรับแสงอัตโนมัติที่จะเปลี่ยนสีเมื่อได้รับแสงยูวีก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ JINS ยังมีเลนส์รุ่นที่ตอบสนองต่อแสงที่มองเห็นได้ทุกชนิด ซึ่งเหมาะมากสำหรับการขับรถในช่วงที่แดดจัด
และหากใครที่อยากได้เลนส์ที่ดูแฟชั่นขึ้นมาหน่อย ที่ JINS สาขา Sapporo Stellar Place ก็มีวางจำหน่ายเลนส์สี (tinted color lenses)ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักช้อปสายแฟด้วยเช่นกัน สามารถเลือกสีเลนส์ที่ชอบให้และปรับให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้อย่างลงตัว
ที่ร้านมีเลนส์สีให้เลือกลองเยอะมาก ทั้งเลนส์สีลาเวนเดอร์หรูหรา สีกุหลาบ สีเขียวสด หรือแม้แต่ “สีสโมกกี้เทอร์ควอยซ์” ที่ไล่สีจากเข้มไปอ่อน ซึ่งเลนซ์หลากสีนี้สามารถเติมเต็มการแต่งตัวของเราให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นได้ นอกจากนี้สีเข้มยังเหมาะสำหรับการนำไปใช้เป็นแว่นกันแดดไม่ว่าเราจะมีค่าสายตาหรือไม่ก็ตาม
หรือหากกำลังมองหาเลนส์สำหรับแว่นตาในชีวิตประจำวัน อาจดูเป็นเลนส์สีอ่อนเหมือนกับที่คนญี่ปุ่นมักนิยมเลือกกัน ซึ่งเลนส์สีอ่อนเหมาะมากกับกรอบแว่น BE BOLD ที่ดูทันสมัย อาจจะลองเลือกคู่กันไปได้
นอกจากจะมีเลนส์หลายสีให้เลือกแล้ว ที่ร้าน JINS สาขา Sapporo Stellar Place มักมีสต็อกเลนส์อยู่เสมอ ทำให้เราสามารถซื้อได้เลยโดยไม่ต้องรอของ ด้วยตัวเลือกหลากหลายและสต็อกที่ครบครันของ JINS ในสาขานี้ เราสามารถได้รับแว่นตาสีสันสดใสในสไตล์ของตัวเองภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง!
รอรับแว่นตาใหม่จาก JINS
เมื่อเลือกกรอบและเลนส์ที่ตอบโจทย์ตัวเองที่สุดได้แล้ว ขั้นตอนที่เหลือก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ไปที่หน้าแท็บเล็ตบริเวณเคาน์เตอร์เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวพื้นฐาน(รองรับหลายภาษา มีภาษาอังกฤษด้วย) หลังจากนั้นจะวัดสายตาใหม่ หรือนำใบสั่งค่าสายตามเดิมเพื่อให้ทางร้านตัดตามนั้นก็ได้เช่นกัน
ที่สำคัญคือเครื่องวัดสายตาของที่ร้านสามารถตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษได้ เพื่อให้การประเมินสายตาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และแม่นยำที่สุด สำหรับใครที่ตั้งใจมาวัดสายตาใหม่อยู่แล้ว แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านแท็บเล็ตทันทีเมื่อมาถึงร้าน แล้วค่อยใช้เวลารอคิวในการเลือกกรอบและเลนส์ เพราะหากบังเอิญไปในวันที่ลูกค้าเยอะอาจต้องรอคิวซักหน่อย
เมื่อเราให้ข้อมูลที่จำเป็นในการตัดแว่นทั้งหมดกับพนักงานแล้ว สิ่งที่ต้องทำหลังจากนั้นคือเลือกสีและดีไซน์สำหรับกล่องแว่น จากนั้นก็ดำเนินการชำระเงิน
ที่ร้าน JINS สาขา Sapporo Stellar Place เพียงแสดงหนังสือเดินทางก็สามารถซื้อสินค้าแบบปลอดภาษี ซึ่งสามารถประหยัดลงได้ถึง 10% และพิเศษยิ่งขึ้นเพราะวันนี้ JAPANKURU มีคูปองส่วนลดเพิ่มอีก 5% มาแจกด้วย!(ใช้ได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2025) แม้ JINS จะเป็นที่รู้จักในเรื่องราคาย่อมเยาอยู่แล้ว แต่เมื่อรวมส่วนลดเหล่านี้กับค่าเงินเยนอ่อนในช่วงนี้ บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!)
พนักงานชำระเงินเรียบร้อยแล้ว JINS จะมอบ QR Code สำหรับมารับแว่นตาและผ้าเช็ดแว่น Night Voucher ให้ ระหว่างรอแว่นใหม่ ก็ถึงเวลาออกไปสำรวจเมืองซัปโปโรกันแล้ว!
จุดต่อไป: เที่ยวซัปโปโรยามค่ำคืน
แผนที่ ① ดื่มด่ำกับแสงไฟเป็นกระกายของฮอกไกโด
อากาศที่ฮอกไกโดมักจะสดชื่นและปลอดโปร่งตลอดหลายเดือนของปี ซึ่งบอกเลยว่าเป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการเพลิดเพลินกับแสงไฟระยิบระยับยามค่ำคืนแบบสุด ๆ เพื่อให้การเดินเล่นยามค่ำคืนนี้คุ้มค่าที่สุด แนะนำให้เริ่มต้นจาก สวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีและรูปปั้นหิมะอันโด่งดังของฮอกไกโด หากมาถูกจังหวะอาจได้ชมการแสดงไฟสุดตระการตาด้วยนะ
แต่ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงไหน หอคอยโทรทัศน์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) ที่สูงเด่นอยู่สุดทิศตะวันออกของสวนแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ห้ามพลาด ขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวของหอคอยเพื่อดื่มด่ำกับวิวสวยงามของสวนโอโดริด้านล่าง พร้อมกับเนินเขาที่งดงามอยู่ไกลลิบเป็นฉากหลัง โรแมนติกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!
จากนั้นลองเดินย้อนกลับไปทางทิศเหนือมุ่งหน้าสู่สถานี เพื่อไปยัง หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1878 ในช่วงกลางวัน อาคารแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของซัปโปโร ส่วนยามค่ำคืนกลายเป็นสถานที่พิเศษสุดโรแมนติก
แนะนำสำหรับใครที่อยากหลีกเลี่ยงความพลุกพล่านของผู้คนในช่วงกลางวัน ลองมาถ่ายภาพหอนาฬิกาที่เปล่งแสงสวยงามในยามค่ำคืนแทนได้นะ!
เมื่อมาทางตะวันตกของหอนาฬิกา อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office) เป็นอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์แบบตะวันตกอีกแห่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่เป็นเอกลักษณ์ที่ฮอกไกโดได้รับในช่วงศตวรรษครึ่งหลังจากที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศ อาคารอิฐแดงที่งดงามแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเวลา 80 ปีหลังจากการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1888 แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบรรยากาศขรึม ๆ ยามค่ำคืน โดยมีฉากหลังที่ดูโอ่อ่า (น่าเสียดายที่ตอนที่ทีมงาน JAPANKURU แวะไปหอนาฬิกาอยู่ในช่วงระหว่างการปรับปรุง)
หากรู้สึกว่ายังไม่จุใจกับความระยิบระยับของฮอกไกโด ก่อนจะกลับไปรับแว่นตาที่ JINS แนะนำให้ลองขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ JR Tower Observation Deck T38 ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงกว่าหอคอยโทรทัศน์ซัปโปโรเสียอีก ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับวิวซัปโปโรที่อยู่เบื้องล่างแบบพาโนรามาไร้สิ่งกีดขวาง ลองสั่งเครื่องดื่มจากคาเฟ่ นั่งเอนกายบนเก้าอี้สบาย ๆ ริมหน้าต่าง และดื่มด่ำกับวิวของรถไฟที่แล่นผ่านสถานีซัปโปโร หรือผู้คนที่ดูตัวเล็กเท่ามดที่เดินไปมาอยู่บนทางเท้าก็ดีเหมือนกันนะ〜
แผนที่ ② กินดื่มแบบคนท้องถิ่นซัปโปโร
เดินกันมาเยอะ น่าจะเริ่มหิวกันแล้วใช่ไหม? ซัปโปโรขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยเต็มไปหมด ลองแวะไปตามร้านที่กำลังจะแนะนำต่อไปนี้ อาจจะช่วยให้ทุกคนรู้สึกอุ่นและอิ่มท้องหลังจากวันที่อากาศหนาวเย็นได้ ร้านแรกของเราคือร้าน “ฮิราสึกะ จิงกิสข่าน”(Hiratsuka Jingisukan) หนึ่งในร้านพิเศษของฮอกไกโด
หมูกระทะแบบ “เจงกิสข่าน” ตั้งชื่อตามจอมทัพมองโกลเจงกิสข่าน เป็นบาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น ที่ร้านฮิราสึกะ มีทั้งเนื้อแกะและเนื้อแพะหลากหลายชนิด ลองสั่งมาย่างบนเตาเล็ก ๆ ส่วนตัวบนโต๊ะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อวากิวลายหินอ่อนอันเลื่องชื่อของฮอกไกโดให้ลองชิมด้วย และเพื่อเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารแบบพิเศษสุด ๆ เพียงแสดง JINS Night Voucher ให้พนักงาน รับส่วนลด 10% เลยทันที!
หลังจากอิ่มท้องในระดับหนึ่งแล้ว ก็มุ่งหน้าไปต่อกันที่ถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิ(Tanukikoji) อันแสนคึกคัก ที่สามารถตรงไปสู่ใจกลางย่านซุซุกิโนะ(Susukino) ย่านชื่อดังของซัปโปโรที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวายามค่ำคืน ภายในย่านนี้เรียงรายไปด้วยบาร์และอิซากายะหลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าที่นี่มีให้ครบทุกอย่างเพียงพอที่จะสร้างค่ำคืนที่สมบูรณ์แบบให้กับเรา อย่าลืมแวะถ่ายรูปที่ป้ายวิสกี้ Nikka Whisky กลับไปเป็นที่ระลึกด้วยล่ะ!
กระเพาะของคาวกับของหวานมันแยกกัน นั่นหมายความว่าเรามีพื้นที่ให้สำหรับของหวานเสมอ! ชวนไปลิ้มลองหนึ่งในของหวานประจำถิ่นซัปโปโร “ชิเมะพาร์เฟต์”
โดยปกติแล้วคนญี่ปุ่นในภูมิภาคอื่น ๆ มักปิดจบวันด้วยราเมนร้อม ๆ ชามโต แต่สำหรับคนซัปโปโรแล้ว มักเลือกปิดท้ายด้วยพาร์เฟต์สุดหรูแทน JAPANKURU เลยอยากแนะนำให้ลองทำแบบคนซัปโปโรดู แวะร้านพาร์เฟต์ชื่อ “Shiawase no Recipe Sweet” เพื่อเพลิดเพลินกับพาร์เฟต์ที่จัดเต็มด้วยผลไม้ ไอศกรีม และท็อปปิ้งหลากสีสันก่อนจะกลับไปรับแว่นตา!
แผนที่ ③ สร้างวันแห่งความสนุกและเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสี
ถึงแม้ในบทความนี้เราจะเน้นแนะนำที่เที่ยวยามค่ำคืนเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับใครที่ชอบสำรวจเมืองช่วงเวลากลางวัน เราก็มีไอเดียที่เที่ยวดี ๆ มาแนะนำเหมือนกัน! หลังจากเลือกแว่นตาเสร็จแล้ว ออกไปชมความงามของจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในซัปโปโร เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมสวนสาธารณะนากาจิมะ (Nakajima Park) สวนขนาดใหญ่ในเมืองที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์ ร้านน้ำชา ศาลเจ้าชินโต และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่กิจกรรมที่เราแนะนำที่สุดคือการเดินเล่นรอบทะเลสาบอันเงียบสงบ ลองหยิบกาแฟสักแก้วจากร้านแผงลอย นั่งชิลดูเป็ดว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบ รับรองว่านี่จะเป็นการเดินยามเช้าที่สมบูรณ์แบบ!
ไปต่อกันที่ตลาดนิโจ (Nijo Market) ตลาดขายอาหารทะเลสด หลายร้านมีครัวอยู่ด้านหลัง เพื่อรอปรุงอาหารทะเลตามที่เราเลือก! บอกเลยว่าแค่ได้เห็นขนาดของปูยักษ์ก็น่าประทับใจมากแล้ว เดินเลือกอาหารทะเลแล้ว อย่าลืมแหงนมองข้างบนด้วย เราจะได้พบกับโคมไฟทำจากลูกแก้วของชาวประมงและป้ายร้านรูปปลา
พักช้อปปิ้งและทานอาหารที่จุดหมายถัดไปของเรา ซัปโปโรแฟคทอรี (Sapporo Factory) ศูนย์การค้าสร้างขึ้นบนพื้นที่ตั้งเดิมของโรงเบียร์แห่งแรกในญี่ปุ่น บริเวณโถงตรงกลางเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต ส่วนภายในศูนย์การค้าก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งร้านค้าให้ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ ให้เลือกสนุกสนาน
เมื่อพูดถึงซัปโปโรก็ต้องนึกถึงเบียร์ ถึงเวลาสัมผัสประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารโรงเบียร์เก่าอีกแห่งหนึ่งของซัปโปโร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถเข้าชมได้ฟรี ภายในพิพิธภัณฑ์เล่าถึงประวัติของเบียร์ซัปโปโรตั้งแต่สมัยแรก ๆ ที่เบียร์ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจ อย่างหม้อต้มเบียร์ขนาดใหญ่ และโปสเตอร์ย้อนยุคของซัปโปโร ก่อนออกจากพิพิธภัณฑ์จะได้เจอกับลานเบียร์ให้เรานั่งดื่มได้ เมนูยอดนิยมคือเบียร์สามชนิดจากเบียร์เก่าแก่ของซัปโปโร
ก่อนพระอาทิตย์จะตก มีจุดหมายสุดท้ายที่อยากแนะนำให้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เดินทางมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คือมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University) ห้ามพลาดกับทางเดินเก็บใบแปะก๊วยของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University Ginkgo Avenue) บนทางเดินยาว 380 เมตรนี้มีต้นแปะก๊วยสูงใหญ่เรียงรายสองข้างทางและทิ้งใบแปะก๊วยสีเหลืองไว้ตลอดทาง เนื่องจากตั้งอยู่ในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย บรรยากาศที่นี่จึงเงียบสงบและผ่อนคลาย เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับอากาศยามบ่ายก่อนจะเดินกลับไปรับแว่นตาที่ JINS (หรือขึ้นรถบัสก็ได้)
จบค่ำคืนในซัปโปโรกับแว่นตาคู่ใหม่จาก JINS
ไม่ว่าเราจะเที่ยวสไตล์ไหน จะเลือกใช้เวลาในซัปโปโรแบบใด ไม่ว่าจะใช้ไปกับการชมความงามของเมืองยามค่ำคืน ลิ้มลองรสชาติอาหารขึ้นชื่อของฮอกไกโด ชิมเบียร์ท้องถิ่น หรือแค่ผ่อนคลายใต้ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามของเมือง จุดหมายสุดท้ายคือการกลับไปนับแว่นตาคู่ใหม่ของเราที่ JINS เพียงแค่ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 4 ของ Sapporo Stellar Place และสแกน QR โค้ดที่ตู้ล็อกเกอร์รับของเพื่อรับแว่นตา เมื่อแว่นตาใหม่พร้อมใช้งานแล้วก็สามารถกลับไปสนุกกับการเดินทาง และมองเห็นซัปโปโรในมุมมองใหม่ที่ชัดเจนขึ้นได้ด้วย!
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MOREA Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00) *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination
Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru
See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium
The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส
Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics
⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta
Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon
Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄