ทริปที่จะพาทุกคนไปเที่ยวเมืองชนบทของเกียวโต พาชมเกียวโตในอีกด้านที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น นอกจากบริเวณวัดในตัวเมืองที่มีทั้งท่องเที่ยวคับคั่งตลอดปี เกียวโตมีเมืองท่องเที่ยวสบายๆ ริมทะเลที่รอทุกคนมาเยือน !

Road Trip ชนบทในเกียวโต

เกียวโตถือเป็นเมืองขุมทรัพย์หากต้องการเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเที่ยวเฉพาะสถานที่ยอดนิยมบางจุดเท่านั้น ไม่ได้ออกไปนอกเมือง จริงๆแล้วเกียวโตมีทั้งภูเขาและทะเล ! หากออกไปในชนบทโดยรถไฟการเดินทางจะค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่นิยมออกไปนอกเมืองกันนัก แต่ในระยะหลังนักท่องเที่ยวนิยมเช่ารถและเดินทางด้วยตัวเองเยอะขึ้น ทางเราก็แนะนำให้ใช้รถยนต์ในการเดินทางเที่ยวรอบๆนอกตัวเมืองเพื่อที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว เห็นธรรมชาติ และ ซึมซับวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งรับประทานอาหารอร่อยๆ รวมทั้งยังได้แวะพัก "Michi no Eki" (道の駅) จุดพักรถริมถนนที่รวมของเด็ดของดังของจังหวัดนั้นๆไว้ในที่เดียว การเดินทางโดยรถยนต์ไม่ยากอย่างที่คิด ในทริปนี้ทางเจแปนคุรุเลือกพักที่โรงแรมเครือแมริออท Fairfield by Marriott Kyoto Amanohashidate ที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักเกือบติดทะเล เรียกได้ว่าเดินทางสะดวก และ ยังได้สำรวจเกียวโตในมุมต่างๆได้อย่างสบาย

ศาลเจ้าโบราณ หมู่บ้านชายทะเลสุดขึ้นชื่อ ร้านอาหารจากฟาร์มในท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ และ 1 ใน "จุดชมวิวสวยติด TOP 3 ของญี่ปุ่น" – ทริปนี้จะสนุกขนาดไหน ไปอ่านกันได้เลย !

Day 1 : เดินทางสู่ภูเขาทัมบา (Tamba)

Road Trip ในครั้งนี้เจแปนคุรุมีแพลนเดินทาง 2 วัน 2 คืน เริ่มจากในเมืองเกียวโต (โดยไม่เที่ยวรวมกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองอย่างวัดน้ำใส วัดทอง และ พื้นที่อื่นๆ) เริ่มง่ายๆที่สถานีเกียวโตที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และ สามารถหาเช่ารถยนต์ได้ง่ายๆ เริ่มออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกียวโตเพื่อมุ่งหน้าสู่ ทัมบะ (Tamba , 丹波) พื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะประเพณีดั้งเดิม ทัมบะมีบรรยากาศเมืองชนบท มีศาลเจ้าเก่าแก่เล็กๆริมถนน และ มีร้านอาหารท้องถิ่นที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่แสนอร่อยส่งตรงจากบนภูเขาและทุ่งนา ตั้งแต่เกาลัดสดไปจนถึงหมูป่า ! ชนบทในญี่ปุ่นปัจจุบันประสบปัญหาประชากรขาดแคลนเพราะคนหนุ่มสาวนิยมเข้าไปทำงานในตัวเมืองเหลือเพียงประชากรสูงอายุ แต่ที่นี่มีชุมชนที่สร้างขึ้นโดยความรักและความหลงใหลในบ้านเกิดสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในทุกๆที่ที่ทางเจแปนคุรุไปเยือน  

ถนนเอโดะแห่งฟุกุสุมิ (The Edo Streets of Fukusumi)

แม้จะใช้ชื่อ KYOTO Road Trip แต่ในครั้งนี้เราเริ่มต้นด้วยการขับรถออกไปนอกเมืองเข้าสู่จังหวัดเฮียวโงะข้างๆที่เมืองที่มีชื่อว่า ฟุกุสุมิ ! ที่นี่เป็นเมืองชุมชนเล็กๆ มีทั้งปราสาทเก่าแก่และเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ หากเดินทางไปจะพบกับบ้านเก่าทรงสวยงามที่ตั้งอยู่ริมถนนสายเล็กๆ

สอบถามกับคนในพื้นที่มีคนแนะนำว่าให้เดินทางไปชมต้นซีดาร์ยักษ์ยาสุดะ (Yasuda Cedar tree) ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่อายุ 800 ปีสูง 33 เมตรที่ปกคลุมให้ร่มเงาศาลเจ้าคิฟุเนะ ศาลเจ้าเล็กๆ ในท้องถิ่น (Kifune Shrine , 貴船神社) แม้พื้นที่บริเวณนี้จะห่างจากที่ตั้งของภูเขา แต่เมื่อมองจากไกลๆแล้วเหมือนป่าเขียวชอุ่มครอบคลุมทั้งพื้นที่บริเวณนี้เลยได้ชื่อว่า ป่าจินชิจิ (The Jinshichi Forest) ถัดไปคือบ้าน ซันบายะ ฮิคุจิ (Sanbaya Higuchi , さんば家ひぐち) สถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยตัวอย่างที่มีอายุถึง 400 ปี เคยเป็นโรงพยาบาลผดุงครรภ์ท้องถิ่นก่อนเปลื่ยนมาเป็นพื้นที่ของศูนย์ชุมชนเมืองฟุกุสุมิ และสุดท้ายถ่ายรูปกับป้ายสถานีฟุคุสุมิที่ปัจจุบันเลิกใช้งานแล้ว บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่สำคัญในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยขุดแมงกานีสและซิลิกาส่งไปทั่วภูมิภาคของญี่ปุ่น ปัจจุบันเหลือเพียงป้ายบอกทางหินเก่าๆ และ เศษรางรถไฟอีกเล็กน้อยใกล้ๆอาคารบ้านเรือน

นั่งพักผ่อนจิบกาแฟให้คลายร้อนกันเล็กน้อยที่ Magnum Coffee ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ กาแฟที่นี้ใช้เมล็ดกาแฟออร์แกนิกมาคั่ว ตกแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคหลากหลายประเภทให้บรรยากาศคลาสสิกไปอีกแบบ หลังจากนั้นเดินไปตามถนนอีกเล็กน้อยเพื่อชมภูเขาฟุนาโอกะ (Funaoka san , 船岡山) ที่ตั้งอยู่ที่ราบสูงทรงคล้าย โอมุ ขนาดยักษ์จากอนิเมชั่นเรื่อง มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม (Nausicaä of the Valley of the Wind) จากสตูดิโอจิบลิ บนยอดเขาเล็กๆปกคลุมด้วยต้นไม้ และมีศาลเจ้ามารุยามะ อินาริ (Maruyama Inari , 丸山稲荷神社) ที่มีโทริอิสีแดง ดูมีมนต์ขลังเหมือนเดินเข้าสู่โลกของ Ghibli อย่างไงอย่างงั้น

ฟุกุสุมิ (Fukusumi Area , 福住地区)
แผนที่ Google Maps สำหรับเดินเล่นรอบๆเมือง
Official Website (jp)

Magnum Coffee
317 Fukusumi, Tamba-Sasayama, Hyogo
เวลาทำการ : วันธรรมดา 10:00 – 18:00 น.|วันหยุดเสาร์อาทิตย์ 8:00 – 18:00 น.
Official Website (jp)

โซบะ มื้อกลางวัน ที่ร้านเวลคัม อุเอโนะ โมโตชิโระ (Welcome Ueno Motoshiro)

สำหรับมื้อกลางวันหลังจากเที่ยวเล่นนอกเมืองแล้ว ทางเราวกกลับมาที่เกียวโตเพื่อชิม ทัมบะโซบะ ที่ร้านเวลคัม อุเอโนะ โมโตชิโระ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ตั้งชื่อตามปราสาทในสมัยก่อน (ตอนนี้บริเวณปราสาทเปลื่ยนเป็นที่ตั้งของร้านโซบะแล้ว) ที่ร้านโซบะแห่งนี้เป็นร้านโลคอลเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ ร้านตกแต่งได้น่ารัก มีโต๊ะไม้ญี่ปุ่นวางเรียงรายรับแสงจากหน้าต่างบานสูงที่ส่องเข้ามาในร้าน มองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่จะพบกับวิวที่ราบลุ่ม สวยงามเพลินตา ทางเราแนะนำเมนู หมี่เย็น ซารุ โซบะ ทานคู่กับ เทมปุระในเซ็ต ! (Tempura zaru-soba , 天ぷらざるそば) เส้นโซบะของที่ร้านทำจากต้นบัควีทบดสดใหม่ จะอร่อยเป็นพิเศษในวันที่อากาศช่วงกลางวันอบอุ่นและอากาศเย็นๆในช่วงค่ำ ส่วนเทมปุระที่ร้านใช้ผักตามฤดูกาลจากเกษตรกรในท้องถิ่นเลือกมาใส่ในเมนูทานคู่กันกับโซบะ เรียกได้ว่าเป็นเมนูกลางวันที่รีเฟรชร่างกาย รอเตรียมพร้อมสำหรับการตะลุยเที่ยวในเมืองต่อ

เวลคัม อุเอโนะ โมโตชิโระ (Welcome Ueno Motoshiro , ウエルカム上野 もとしろ)
Minamigaichi-23-1 Ueno, Kyotamba, Funai District, Kyoto
เวลาทำการ : 11:00 – 16:00 น. (ปิดทุกวัน อังคาร และ พุธ)
Official Website (jp)

ที่ตั้งโรงเรียนประถมเก่า ชิซึมิ (The Former Shitsumi Elementary School)

ย้อนกลับไปเมื่อยังเป็นเด็ก ทุกคนจำบรรยากาศช่วงพักเที่ยง เข้าเรียน และช่วงชีวิตในวัยเรียนได้บ้างไหม? ที่นี่จะพาไปย้อนรำลึกบรรยากาศเก่าๆ หรือใครที่เคยดูละคร ซีรีย์ญี่ปุ่นอาจจะเคยเห็นผ่านหูผ่านมากันมาบ้างและอยากจะลองมาสัมผัสบรรยากาศโรงเรียนญี่ปุ่นดูจริงๆซักครั้ง ที่โรงเรียนประถมชิซึมิ (The former Shitsumi Elementary School) เดิมทีโรงเรียนนี้ปกติจะปิดสอนช่วงฤดูร้อนและเปิดเป็นพื้นที่ให้ธุรกิจในท้องถิ่นมาใช้โชว์ผลงาน หรือ ชิ้นงานต่างๆแทน ! ในปี 2011 ได้เลิกกิจการโรงเรียนอย่างถาวรและใช้อาคารเก่าที่มีอยู่เปลื่ยนเป็นร้านค้า กิจการของชุมชนแทน มีทั้งร้านหนังสือภาพที่มีพื้นที่สำหรับเด็กให้นั่งอ่านหนังสือ มีร้านกาแฟ ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเล็กๆ ร้านขายข้าวเกรียบโอกากิ และ ร้านขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เรียกได้ว่าเดินเล่นถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลิน หากใครเป็นสายอนิเมะ หรือ ชื่นชอบในการคอสเพลย์แล้วละก็อาจจะได้รูปสวยๆจากที่นี้อย่างแน่นอน !

หลังจากที่เดินเล่น ชม ชิม ช็อป และถ่ายรูปในโรงเรียนกันอย่างจุใจแล้ว จุดหมายต่อไปเจแปนคุรุทีมขอพาไปทำเวิร์กชอปกิจกรรมหลังเลิกเรียนกันที่ร้านเพ้นท์แก้ว Jahpon Land !

โรงเรียนประถมเก่า ชิซึมิ (Former Shitsumi Elementary School , 旧質実小学校)
Ueno-43 Shitsumi, Kyotamba, Funai District, Kyoto
เวลาเปิดทำการของร้านค้าต่างๆดูเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์｜Official Website (jp)

เพ้นท์แก้ว & กระจกสีกันที่ Jahpon Land

อาจจะเคยเห็นกระจกสีบนหน้าต่างโบสถ์และโคมไฟกันมาบ้างตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่หากมาที่ Jahpon Land แล้วจะพบว่ากระจกสีใช้ประดับตกแต่งได้มากกว่าที่คุณคิด ! Jahpon Land เป็นกิจการเพ้นท์กระจกสีที่ดำเนินการโดยคุณ Pucci และ Sippo ที่มีประสบการณ์ในวงการด้านนี้มามากกว่า 30 ปี ผลงานของทั้งสองคนเต็มไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวา และ ลวดลายสนุกสนาน มีทั้งงานเพ้นท์แก้วปกติและชิ้นงานที่อ้างอิงจากวัฒนธรรมป๊อปตัวการ์ตูนชื่อดังอย่างมาริโอ้ และ มิกกี้เม้าส์ ในสตูดิโอที่เกียวโตนี้ค่อยๆก่อร่างตกแต่งทีละเล็กละน้อยด้วยมือของทั้งคู่มากยาวนานกว่าทศวรรษ ภายในมีทั้งชิ้นงานที่วางจำหน่าย รวมทั้งมีพื้นที่สอนทำเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการเพ้นท์กระจกสีง่ายๆ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสี่ชั่วโมง มีทั้งการทำกระจกสีตกแต่งบ้านรูปนก สายรุ้ง ลูกโป่ง หรือจะลองประกอบโคมเทียนกระจกสีน่ารักๆ สามารถเข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัย (หากมีเด็กเล็กต้องมีผู้ใหญ่ช่วยดูแลระหว่างทำเวิร์กช็อป) คุณ Pucci และ Sippo มีความกระตือรือร้นและละเอียดอดทน เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมา หากได้มาเยือนและเที่ยวเล่นทำเวิร์กช็อปที่นี่แล้วละก็ คุณอาจจะตกหลุมรักงานกระจกสีได้อย่างไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว 

หรือหากใครต้องการสั่งทำก็สามารถสั่งเป็นชิ้นงาน Order made ได้อีกด้วย ! ผลงานที่ขายดีของที่สตูดิโอคือโคมไฟรูปแมวสามมิติสุดน่ารักที่เหล่าทาสแมวสั่งทำไปไว้ที่บ้านนั่นเอง (งานสั่งทำเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 100,000 เยนขึ้นไป)

Jahpon Land
Hinokiyama-89 Hashizume, Kyotamba, Funai District, Kyoto
Official Website (jp)
※ สอบถามและเช็คตารางเวลาเข้าร่วมเวิร์กช็อปที่ได้หน้าเว็บไซต์ 

หมู่บ้านมิยามะ (Miyama)

หมู่บ้านโบราญ คายาบุกิ โนะ ซาโตะ (Miyama Kayabuki-no-Sato , 美山 かやぶきの里) ตั้งอยู่ห่างออกไปในเมืองมิยามะ ปัจจุบันยังมีผู้อยู่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ตัวบ้านมีอายุหลายร้อยปีมุงหลังคาด้วยหญ้าคายะ มีบ้านเรือนมากกว่า 40 หลังและได้รับการอนุรักษ์โดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง มีอากาศสดชื่น เงียบสงบ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเล่นเดินชมหมู่บ้านตามตรอกซอกซอยแคบๆและชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทั้งปี สามารถแวะชิมซอฟต์ครีมอันโด่งดังของมิยามะได้ที่นี่ที่เดียว

หมู่บ้านโบราญ คายาบุกิ โนะ ซาโตะ (Miyama Kayabuki-no-Sato , 美山 かやぶきの里)
Miyamachokita, Nantan, Kyoto
Official Website (jp)

เที่ยวฟาร์ม อายาเบะ ฟุเรไอ โบคุโจ (Ayabe Fureai Bokujo Ranch)

ปิดท้ายวันนี้ด้วยการเข้าเที่ยวชมฟาร์ม อายาเบะ ฟุเรไอ โบคุโจ (Ayabe Fureai Bokujo Ranch , 綾部ふれあい牧場) ที่มีเหล่าสัตว์เลี้ยงในฟาร์มไม่ว่าจะเป็นกระต่ายหรือแพะรอต้อนรับทุกคนอยู่ ที่ฟาร์มยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูท้องถิ่นอย่าง สตูว์เนื้อกวาง วางจำหน่ายอยู่ด้วย ! รวมทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยม มีประตูจำลองจากอนิเมชั่นชื่อดังเรื่อง การผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume no Tojimari) ของอาจารย์มาโคโตะ ชินไค ผู้กำกับเรื่อง Your Name (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) เมื่อไม่นานมานี้ ซุซุเมะ ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น แฟนๆต่างหาสถานที่ที่คล้ายกับฉากในภาพยนต์เพื่อเดินทางไปสู่โลกใต้พิภพ ที่นี่มีฉากคล้ายๆกับในเรื่องเป็นอย่างมาก หากใครเป็นสายอนิเมะหรือชื่นชอบผลงานของอาจารย์มาโคโตะ ชินไค แล้วละก็ ที่ฟาร์มนี้ถือเป็นสถานที่ถ่ายรูปที่ไม่อยากให้พลาดกันเลยทีเดียว

Ayabe Fureai Bokujo Ranch (綾部ふれあい牧場)
Hinokimae-81 Idencho, Ayabe, Kyoto
Official Website (jp)

แวะกินข้าวและซื้อของฝากที่ โรด สเตชั่น เคียวทัมบะ อาจิมุ โนะ ซาโตะ (Road Station Kyotamba Ajimu-no-Sato)

ปิดท้ายวันด้วยการแวะทานมื้อเย็นและช็อปปิ้งของฝากของทัมบะที่ โรด สเตชั่น เคียวทัมบะ อาจิมุ โนะ ซาโตะ (Road Station Kyoto Ajimu-no-Sato) ที่มีแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ (Kyotamba Marché) และร้านขายของที่ระลึกมากมายไม่ว่าจะเป็นขนมในแพ็คเกจน่ารัก หรือ ของกินเล็กๆน้อยๆที่ผลิตในท้องถิ่น ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่เช่น โซบะ ถั่ว เห็ด ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วแระดำอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของทัมบะ นอกจากวางขายให้ซื้อกลับบ้านแล้วที่ โรด สเตชั่น เคียวทัมบะ อาจิมุ โนะ ซาโตะ ยังมี ถั่วแระดำย่างและโดรายากิแบบดั้งเดิมสอดไส้เกาลัด ทำสดใหม่ให้ได้ลองกันอีกด้วย !

ในโซนร้านอาหารมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูที่ใช้วัถุดิบท้องถิ่นอย่างร้าน บงจิ (Bonchi)  ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับการทนอาหารอร่อยๆและชมทิวทัศน์ของภูเขาสุดลูกหูลูกตา แนะนำเซ็ตอาหารท้องถิ่น ชุดถั่วแระดำ คุโรมาเมะ ซึกุชิ (The Black Soybean Variety Meal , 黒豆づくし) ที่แทบจะทุกอย่างในจานทำจากถั่วแระดำ ทั้งข้าวผสมถั่วดำ ถั่วแระดำในสลัด และอื่นๆในเซ็ต เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักถั่วเหลือง และ คนรักสุขภาพกันเลยทีเดียว

โรด สเตชั่น เคียวทัมบะ อาจิมุ โนะ ซาโตะ
(Road Station Kyotamba Ajimu-no-Sato , 道の駅 京丹波味夢の里)
65-1 Sonefukashino, Kyotamba-cho, Funai District, Kyoto
เวลาทำการ Kyotamba Marché : 6:00 – 21:00 น.
เวลาทำการ ร้านอาหาร Bonchi : 11:00 – 20:00 น.
Official Website (jp)

คืนแรกที่ Fairfield by Marriott Kyoto Kyotamba

ห่างจากโรด สเตชั่นเพียง 10 เมตรก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมในเครือแมริออทอย่าง แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท เกียวโต เคียวทัมบะ (Fairfield by Marriott Kyoto Kyotamba) ที่โลเคชั่นดีและห้องพักสบายสุดๆ โรงแรมมีห้องพักเตียงคิงไซส์และห้องเตียงแฝดเรียบง่าย พื้นที่ใช้สอยสุดกว้างขวาง บรรยากาศโปร่งสบาย ด้วยการตกแต่งสมัยใหม่ มีหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นวิวทิวทัศน์เนินเขาเขียวขจีนอกโรงแรม และ มีโซนพักผ่อนโซฟาในทุกห้องพัก รวมทั้งมีเลานจ์อันเงียบสงบให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจในบรรรยากาศน่ารักๆที่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม

ล็อบบี้เลาจน์ของโรงแรม แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในร้านกาแฟและห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มีเก้าอี้นวมโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่หนึ่งโต๊ะสำหรับนั่งพักและโต๊ะแยกเล็กๆเหมาะสำหรับรับนั่งรับประทานอาหารหรือทำงาน ส่วนบริเวณดาดฟ้าโรงแรมยังมีที่นั่งให้เพลิดเพลินในวันที่อากาศดีๆ มี community counter จุดบริการเครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็น เครื่องปิ้งขนมปังและไมโครเวฟวางไว้ให้บริการ หรือหากใครที่ไม่อยากเดินออกไปที่ โรด สเตชั่น ก็มีร้านค้าเล็กๆอย่าง The Market ที่ขายของว่างและเครื่องดื่มสามารถซื้อมารับประทานที่ล็อบบี้เลาจน์ได้อีกด้วย

นอกจากบรรยากาศเงียบสงบแล้วอีกมุมในเลาจน์ยังถูกตกแต่งด้วยงานฝีมือท้องถิ่นและมีมุมหนังสือที่มีทั้งหนังสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น หนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นวางไว้ให้ได้อ่าน หรือหากต้องการเที่ยวสถานที่หรือร้านค้าชุมชนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักสามารถสอบถามขอข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานที่แผนกต้อนรับได้เลย (แถวๆโรงแรมมีโลเคชั่นศาลเจ้าที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ของ คิมุระ ทาคุยะ อยู่ด้วย !)     

หลังจากเข้าพักหลับสบายในห้องพักของโรงแรม ตื่นเช้ามาอย่าพลาดการทานอาหารชุดข้าวกล่องพิเศษที่เป็นเซ็ตอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ผลิตโดยร้าน Bonchi ที่โรด สเตชั่น (ที่โรงแรมไม่มีบุฟเฟต์อาหารเช้าบริการ) สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตอนเช็คอินเข้าพัก อิ่มหนำสำราญกับอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็พร้อมออกเดินทางไปท่องเกียวโตกันต่อเลยในวันที่สอง ! 

Fairfield by Marriott Kyoto Kyotamba (フェアフィールド・バイ・マリオット 京都京丹波)
67 Sonefukashino, ​Kyotamba-Cho, Funai District, Kyoto
เวลาเช็คอิน และ เช็คเอ้าท์ : 15:00/11:00 น.
Official Website (en) | จองที่พัก
 

วันที่ 2 : ออกเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมงเคียวตันโก และ สันทรายแห่งอามาโนฮาชิดาเตะ

เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะ มีพื้นที่ติดทะเลหลากหลายจังหวัด ทำให้เมื่อนึกถึงเกียวโตแล้วอาจจะไม่มีอิมเมจเมืองชายทะเลมากนัก น้อยคนนักที่จะรู้จักเมืองริมทะเลของเกียวโตอย่าง เคียวตันโก ที่นี่ไม่ได้โดดเด่นเรื่องชายหาดสวย พื้นที่เล่นน้ำทะเลในหน้าร้อน แต่มีวิวทิวทัศน์ทะเลและหน้าผาหินที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขาย ถึงกับติดอันดับ “Three Views of Japan” ในยุค 1600s

รถไฟ อาโอะ มัตสึ (Ao-Matsu Train Car)

หลังจากมาถึงชาดฝั่งเกียวโตแล้ว วันนี้การเดินจะเริ่มต้นการดูรถไฟและนั่งรถไฟ ! ฟังไม่ผิด วันนี้ทางเจแปนคุรุพาทุกคนมาเที่ยวทั้งดูและนั่งรถไฟขบวนพิเศษ อะโอะ มาสึ (Ao-Matsu) สาย เกียวโต ทังโก (Kyoto Tango Railway) หรือเรียกสั้นๆว่า ทังเทสึ (Tantetsu) รถไฟพิเศษ อะโอะ มาสึ ออกแบบโดยคุณเอจิ มิโตโอกะ ที่ได้รับรางวัลนักออกแบบดีเด่นที่การันตีรางวัลการออกแบบมากมาย อะโอะ มาสึ ถือเป็นรถไฟที่มีสไตล์การตกแต่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแนวย้อนยุคนิดๆ มีพื้นที่โซนที่นั่งกว้างขว้างและสวยงาม ทั้งยังมีเค้าเตอร์ที่นั่งหันหน้าออกไปทางด้านนอก มีซุ้มขายเครื่องดื่มและของว่างบนขบวน ใช้ไม้สีอ่อนมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ และยังมีคอนเส็ปการใช้สีน้ำเงินและขาวที่อิงมาจากสีต้นสนเขียวอมฟ้า และ สีของหาดทรายขาวทางตอนเหนือของเกียวโตอีกด้วย ! 

ก่อนขึ้นรถไฟสามารถรอดูวิวรถไฟวิ่งบนสะพานต้นน้ำ (Yura River Bridge , 由良川橋梁) ที่หลายคนกล่าวขานกันว่าเหมือนฉากรถไฟวิ่งในอนิเมชั่นชื่อดังของจิบลิอย่าง มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away) ไม่มีผิด ! แนะนำว่าให้เช็คตารางเวลาวิ่งของรถไฟก่อนเดินทางเพราะมีรถไฟเพียงไม่กี่เที่ยวต่อวันเท่านั้น  

Kyoto Tango Railway's Ao-Matsu Sightseeing Train (京都丹後鉄道の丹後あおまつ号)
Tango-Yura Station : Yura, Miyazu, Kyoto
Yura River Bridge : Yuragawabashi, Oki, Fukuchiyama, Kyoto
Ao-Matsu Official Website (jp)

สันทรายแห่งอามาโนฮาชิดาเตะ (Amanohashidate)

ยังอยู่ในช่วงเช้า จุดหมายต่อไปมุ่งสู่ อามาโนะฮาชิดาเตะ หรือคนไทยรู้จักกันในชื่อ สันทรายแห่งอามาโนฮาชิดาเตะ ที่บริเวณอ่าวมิยาสึ ที่มีความเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นสวรรค์ที่สร้างโดยเทพเจ้าของญี่ปุ่น (ตรงตามชื่อสถานที่ในภาษาญี่ปุ่น) วิวที่นี่สวยงามติดท็อป 3 ซึ่งเจแปนคุรุทีมอยากให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตาของตัวเอง  

นักท่องเที่ยวสามารถลงไปที่ชายหาดได้ หรือ ขึ้นกระเช้าเพื่อชมวิวจากมุมสูงที่ อามาโนฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate Viewland) มีความเชื่อว่าหากก้มมองสันทราย หรือ หาดทราย อามาโนฮาชิดาเตะ รอดหว่างขาแล้วละก็จะมองเห็นเป็นรูปร่างเหมือนมังกรที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า !

อามาโนฮาชิดาเตะ วิวแลนด์ (Amanohashidate Viewland , 天橋立ビューランド)
Monju, Miyazu, Kyoto
เวลาทำการแตกต่างกันในแต่ละฤดู หรือ อาจจะมีการเปลื่ยนแปลงวันเวลาในภายหลัง กรุณาเช็คเพิ่มเติมในเว็บไซต์
Official Website (jp)

ชมศิลปะที่ วากุเดน โนะ โมริ (Wakuden no Mori)

พักใช้เวลากับการชื่นชมงานศิลปะท้องถิ่น และ ของภูมิภาคนี้ เกียวโตมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งวัน มีงานของคุณ มิซึมาสะ อันโนะ นักวาดภาพประกอบ จิตรกรสีน้ำที่ได้รับรางวัลจากหนังสือภาพขายดีที่ถูกแปลไปทั่วโลกอย่างเรื่อง “Mysterious Pictures” และ  “Journey” เป็นผลงานที่มุ่งเน้นการวาดและลงสีโดยเฉพาะ แทบจะไม่มีตัวหนังสือหรือตัวอักษรใดๆเลยบนชิ้นงาน เรียกได้ว่าได้รับการยอมรับทั้งในญี่ปุ่นเองและที่ต่างประเทศ ที่ วากุเดน โนะ โมริ (Wakuden no Mori) จะหมุนเวียนและเปลื่ยนการแสดงชิ้นงานใหม่ทุกๆ 3 เดือน แสดงงานบนพื้นที่อาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นอย่างคุณ ทาดาโอะ อันโดะ

ข้างๆพิพิธภัณฑ์มี Studio Restaurant Wakuden Mori ร้านอาหารเก๋ๆที่จะเพิ่มประสบการณ์การชมศิลปะเต็มรูปแบบให้กับทุกคน โดยมีทั้งร้านอาหารหรูหราที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นของเกียวโตมานำเสนอ มีเมนูพิเศษอย่าง แกงกะหรี่เป็ดและผัก , ข้าวหน้าเนื้อเกียวโต , พิซซ่าหน้ากอร์กอนโซลาเลม่อน ! ปรุงโดยเชฟอย่างพิถีพิถัน และอีกร้านเป็นร้านคาเฟ่ที่มีชาใบหม่อน (มัลเบอร์รี่ ที) วางนำหน่ายอยู่ใกล้กันๆ

วากุเดน โนะ โมริ (Wakuden no Mori , 和久傳ノ森)
764 Kumihamachotani, Kyotango, Kyoto
เวลาทำการ :
พิพิธภัณฑ์ 9:30 – 17:00 น. | ร้านอาหาร 10:00 – 18:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
Official Website (jp)

ชิมเค้ก และ กาแฟ ที่อิเนะ หมู่บ้านติดทะเล

สำหรับช่วงบ่ายมุ่งตรงสู่อิเนะ หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บรรยากาศสบายๆน่ารักๆที่อาจจะทำให้ตกหลุมรักได้ง่ายๆ ที่นี่มีบ้านเรือนแบบฟุนายะ (Funaya , 舟屋) ที่มีพื้นที่บ้านยืนออกมาแนวชายฝั่งบนทะเล ถือเป็นภาพที่สวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น” มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างต่อเนื่อง

แวะพักจิบชาและทานของหวานที่ Ine Cafe พร้อมชมวิวริมหน้าต่างบานใหญ่ หรือ จะนั่งลานไม้ริมแม่น้ำก็วิวดีเช่นกัน ใครกลัวว่าจะได้โต๊ะวิวไม่ดีที่นี่มีโต๊ะที่จัดไว้พิเศษสำหรับนำอาหารเครื่องดื่มมาวางเพื่อถ่ายรูปแยกไว้เฉพาะอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทานของอร่อยและชมวิวสวยๆ ได้ภาพติดไม้ติดมือกลับไทยอย่างแน่นอน

และปิดท้ายด้วยมื้อเย็นที่ร้านอาหารพื้นบ้านที่เสิร์ฟข้าวหน้าอาหารทะเลสด ในหมู่บ้านอิเนะ !

Ine Cafe
539-1 Hirata, Ine, Yoza District, Kyoto
เวลาทำการ : 11:00 – 17:00 น. (อาจจะมีปิดเร็วกว่ากำหนดบางฤดูกาล)
Official Website (jp)

คืนที่ 2 ที่ Fairfield by Marriott Kyoto Amanohashidate

อีกคืนในเกียวโตตอนเหนือ เปลื่ยนบรรยากาศมาเข้าพักอีกที่ในคืนที่สองกับโรงแรมในเครือแมริออทอีกเช่นกัน ที่ แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท เกียวโต อามาโนะฮาชิดาเตะ (Fairfield by Marriott Kyoto Amanohashidate) สาขานี้พิเศษเพราะวิวทิวทัศน์จากห้องพักสามารถมองออกไปเห็นสันทรายอามาโนะฮาชิดาเตะ ได้อย่างพอดิบพอดี ! เป็นห้องพักที่มีสไตล์เรียบง่ายและมีล็อบบี้เลานจ์กว้างขว้างไว้รอต้อนรับ ห้องพักมีทั้งแบบห้องเตียงแฝด ห้องเตียงคิงไซส์ และมี community counter เหมือนกับโรมแรมในเครือที่อื่นๆไว้บริการ

ที่ แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท เกียวโต อามาโนะฮาชิดาเตะ มีหนังสือน่าสนใจมากมายให้ได้เลือกอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่อธิบายเรื่องผ้าไหมของเกียวโต หรือ หนังสือท่องเที่ยวอื่นๆ อีกทั้งข้างๆยังมีมุมให้ได้ซื้อสินค้าเล็กๆน้อยๆที่ส่งตรงจากเรือประมงท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากวิวทะเลแล้วที่เมืองนี้แต่เดิมเคยเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยวัดทางพุทธศาสนาทำให้หลงเหลือซากสถาปัตยกรรมสมัยเก่าอยู่บางประปรายตามตรอกซอกซอยรอบๆ 

แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท เกียวโต อามาโนะฮาชิดาเตะ
Fairfield by Marriott Kyoto Amanohashidate (フェアフィールド･バイ･マリオット･京都天橋立)
1994 Shinhama, Miyazu, Kyoto
เวลาเช็คอิน และ เช็คเอ้าท์ : 15:00/11:00 น.
Official Website (en) | จองที่พัก

แน่นอนว่าโรงแรม แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท เกียวโต อามาโนะฮาชิดาเตะ ก็ตั้งอยู่ใกล้กับจุดพักรถด้วยเช่นกัน สาขานี้ติดกับจุดพักรถ โรด สเตชั่น เกียวโต บาย เดอะ ซี มิยาสุ (Road Station Kyoto by the Sea Miyazu) เพียงแค่เดินข้ามถนนไปก็พบกับร้านอาหาร ร้านขายของฝากมากมาย ถือเป็นแหล่งขายสินค้าผลิตภัณฑ์อาหาร ของกินของฝาก ท้องถิ่น ที่ขายดีคงจะเป็นหอยรมควัน และ เหล้าสาเกท้องถิ่น (หรือใครไม่ดื่มแอลก็สามารถซื้อ อามาโนะฮาชิดาเตะ ไรส์ โซดา)มาจิบและทานเล่นในห้องพักก็ดีไม่น้อย ก่อนที่จะใช้คืนสุดท้ายในเกียวโตตอนเหนืออย่างไม่เร่งรีบในโรงแรม

โรด สเตชั่น เกียวโต บาย เดอะ ซี มิยาสุ
(Road Station Kyoto by the Sea Miyazu , 道の駅 海の京都 宮津)
3007 Hamamachi, Miyazu, Kyoto
เวลาทำการ : 9:00 – 18:00 น.
Official Website (jp)

กลับสู่ย่านกลางเมือง

หลังจากใช้เวลาท่องเที่ยว 2 วัน 2 คืนเต็มๆซึมซับบรรยากาศเมืองทะเลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาขับรถกลับเข้าสู่ตัวเมืองเกียวโต หรือ จะมุ่งลงไปสู่โอซาก้าก็สามารถทำได้โดยใช้เวลาไม่นานนัก ทริปนี้ทางเจแปนคุรุใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็สำรวจเที่ยวชมภูเขาเขียวขจี ชายฝั่งทะเลสีฟ้าคราม หมู่บ้านชาวประมงได้อย่างไม่เร่งรีบ และ เต็มอิ่ม รวมทั้งการเข้าพักในโรงแรมเครือแมริออททั้งสองแห่งอย่างสบายๆ เรียกได้ว่าเป็นทริปฮีลใจที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม สามารถชาร์ตพลังได้ดีจริงๆ

▶︎ สำรวจที่เที่ยวตามชนบท หรือ หาที่พักทามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เดินทางง่าย ติดถนนใหญ่ทั่วญี่ปุ่น ! กับโรงแรม Fairfield by Marriott Michi-no-Eki ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ดูข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ได้เลย

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ JAPANKURU ได้ทาง Facebook และ Twitter