Sponsored

[ปลาโจบัง-โมโน คืออะไรกันนะ?] พาร์ท 7 การฟื้นตัวหลังจากภัยพิบัตินิวเคลียร์

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 แผ่นดินไหวที่โทโฮคุทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อมหาสมุทรนอกชายฝั่ง ในช่วงสิบปีนับจากนั้นรัฐบาลท้องถิ่นและชาวประมงของฟุกุชิมะได้ร่วมมือกัน เพื่อพยายามฟื้นฟู “ชิโอเมะ” แหล่งประมงที่มีชื่อเสียง โดยมีการทดสอบ การเฝ้าติดตาม การคัดกรอง และการวิจัยอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการวิจัยในท้องถิ่นที่ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล

ทะเลในจังหวัดฟุกุชิมะปลอดภัยรึเปล่า? ไปฟังคำตอบจากศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล



Misaki Park สถานที่ท่องเที่ยวริมชายฝั่งอิวากิ Marine Tower ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเมืองและมหาสมุทรแปซิฟิก

ในบทความซีรีส์ "โจบังโมโน" ก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึงความปลอดภัยของปลาและอาหารทะเลอื่น ๆ ของฟุกุชิมะในปัจจุบัน และหวังว่าเราจะเล่าถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบ และการทดสอบการคัดกรอง เพื่อรับรองความปลอดภัยของอาหารจากทั่วทั้งจังหวัด  ด้วยการทำงานอย่างหนักของชาวประมงในฟุกุชิมะ ทำให้อุตสาหกรรมการประมงเติบโตขึ้นอีกครั้ง และผู้คนทั่วญี่ปุ่นก็กลับมามั่นใจใน โจบังโมโน อาหารทะเลอันโด่งดังของฟุกุชิมะอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามจังหวัดฟุกุชิมะไม่ได้มองแค่ระดับรังสีในปลาและอาหารทะเลเท่านั้น  แต่จังหวัดกำลังติดตามและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของระดับรังสีในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสถานะของสภาพแวดล้อมใต้ทะเลในพื้นที่ รวมทั้งน้ำทะเลและตะกอนบนพื้นทะเล  การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์นี้เป็นพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สำหรับรายงานว่า มหาสมุทรนอกชายฝั่งฟุกุชิมะได้กลับมาปลอดภัย ในช่วงหลายปีหลังภัยพิบัตินิวเคลียร์ และผลทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ยังเชื่อมโยงกับการฟื้นฟูธุรกิจประมงของฟุกุชิมะ  งานวิจัยนี้และนักวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินการวิจัยนี้ อยู่ที่ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล ประจำจังหวัดฟุกุชิมะ ซึ่งอยู่ถัดจากสวนมิซากิในเมืองอิวากิ



ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล ประจำจังหวัดฟุกุชิมะ

ในปี 2018 ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลประจำจังหวัดฟุกุชิมะ มีการการปรับโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อ จนในปี 2019 ก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่เป็นศูนย์กลาง โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยทางรังสีมากขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นหัวใจหลักของการวิจัยและทดสอบด้านการประมงของจังหวัดฟุกุชิมะร่วมกับสถาบันต่างๆ เช่น สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงของโซมะ และสถานีทดลองการประมงน้ำจืดประจำจังหวัดฟุกุชิมะในอินะวะชิโระ ซึ่งล้วนศึกษาสถานะปัจจุบันของน่านน้ำในมหาสมุทร แม่น้ำ และทะเลสาบซึ่งมีบทบาทสำคัญในโครงการของฟุกุชิมะในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมงท้องถิ่น

ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลแบ่งออกเป็นสามแผนก โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการประมงทางทะเลสภาพแวดล้อมพื้นที่ตกปลาและการวิจัยทางรังสี  มุ่งเน้นไปที่โจบังโมโน ตอนที่ Japankuru เยี่ยมชมศูนย์ เราได้ไปที่แผนกวิจัยกัมมันตภาพรังสี  แผนกนี้ตรวจสอบ และศึกษาวัสดุกัมมันตภาพรังสี ที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการประมงและสภาพแวดล้อมทางทะเลในท้องถิ่น ความเชื่อมโยงอื่นๆ ที่สามารถพบได้ระหว่างการแผ่รังสีและนิเวศวิทยาหรือการกระจายของสิ่งมีชีวิตในทะเลในท้องถิ่น

การทดสอบรังสีของสิ่งมีชีวิตในทะเล (Monitoring)



เครื่องตรวจจับสารกึ่งตัวนำ Germanium-Based ของศูนย์วิจัย

ในบทความก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวกับการตรวจสอบและการทดสอบการคัดกรอง เราได้ดำเนินการทั้งหมดที่ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทางทะเล  นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลประจำจังหวัดฟุกุชิมะ ทำการเก็บตัวอย่างและเตรียมการสำหรับการตรวจติดตามการทดสอบของฟุกุชิมะ พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากการทดสอบเดียวกัน  ผลและการวิเคราะห์ที่รวบรวมไว้ที่ศูนย์นี้ ใช้สำหรับการวิจัยเกี่ยวกับรังสีในปลาที่จับได้ในบริเวณชายฝั่งของฟุกุชิมะ (ชายฝั่งซันริคุ) และยังใช้เพื่อระบุความผิดปกติที่สำคัญที่อาจเกิดขึ้นในภูมิภาคอื่นที่อยู่ตามแนวชายฝั่ง

ในการวัดและทดสอบรังสี ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลติดตั้งเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง และศูนย์นี้มีเรือวิจัยที่สำรวจสภาพแวดล้อมทางทะเลในท้องถิ่นและตรวจสอบพื้นที่ทำการประมง  ศูนย์นี้ไม่เพียงรับตัวอย่างปลาจากเรือประมงเท่านั้น แต่ยังใช้เรือวิจัยเพื่อดึงข้อมูลตัวอย่างสำหรับการตรวจสอบการทดสอบและการวิจัยอีกด้วย



(กราฟ: Japankuru ข้อมูลกราฟจากสำนักงานจังหวัดฟุกุชิมะ)

กราฟแสดงปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่เกินมาตรฐานแห่งชาติ (100Bq/kg) และ ตัวอย่างที่ตรวจไม่พบรังสี ต่อปี
สีแดง: เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่เกิน 100Bq/kg
สีน้ำเงิน: เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่ตรวจไม่พบรังสี

ผลการติดตามจากศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลประจำจังหวัดฟุกุชิมะ และศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ พร้อมด้วยข้อมูลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง จะถูกรวบรวมและเผยแพร่สู่สาธารณะในรูปแบบของการบรรยายและเผยแพร่บนเว็บไซต์ของจังหวัดฟุกุชิมะ และมีกราฟที่เข้าใจง่าย ในระหว่างการเยี่ยมชมของเรา Kyoichi Kamiyama หัวหน้าแผนกวิจัยกัมมันตภาพรังสี ได้อธิบายงานที่พวกเขาทำโดยใช้กราฟและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆ รวมถึงกราฟที่แสดงด้านบน หลังจากแผ่นดินไหวที่โทโฮคุ บรรดาสัตว์ทะเลส่วนใหญ่ที่ถูกจับนอกชายฝั่งฟุกุชิมะแสดงให้เห็นว่าระดับรังสีเกินมาตรฐานความปลอดภัยของญี่ปุ่น (100Bq/kg) ซึ่งมากกกว่า 90% ของตัวอย่างที่ทดสอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับรังสีและจำนวนตัวอย่างที่แสดงผลมากกว่า 100Bq/kg ก็ลดลง ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2015 ความเข้มข้นของสารกัมมันตรังสีในตัวอย่างปลาลดลงต่ำกว่า 100Bq/kg และตั้งแต่ปี 2019 99.8% ของตัวอย่างที่ทดสอบมีกัมมันตภาพรังสีน้อยมากผลการทดสอบกลับมาเป็น "ตรวจไม่พบ"

การติดตามและตรวจสอบปริมาณรังสีในน้ำทะเลและพื้นทะเล



ตัวอย่างตะกอนที่ศูนย์วิจัย

ทะเลเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตทั้งขนาดเล็ก เช่น แพลงก์ตอน และสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ เช่น ปลา เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด  ที่ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล ไม่เพียงแต่ตรวจสอบสิ่งมีชีวิตในทะเลขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังทำการวิจัยและศึกษาสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอาศัยอยู่ด้วย  อิวากิมารุเป็นเรือวิจัยที่ดูแลโดยศูนย์ มีการออกทะเลเป็นประจำ เพื่อเก็บตัวอย่างตะกอนน้ำทะเลและพื้นทะเล เพื่อนำกลับไปที่ห้องแล็บและวิเคราะห์



เครื่องเก็บตัวอย่างพื้นทะเลของเรืออิวากิมารุ

ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล ความเข้มข้นของสารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลในท้องถิ่นมีการลดลงอย่างรวดเร็วหลังภัยพิบัตินิวเคลียร์ และตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 มีปริมาณน้อยกว่า 2 ปีหลังจากที่สารกัมมันตรังสีถูกปล่อยออกมา มีระดับความเข้มข้นของกัมมันตรังสีซีเซียม -137 น้ำทะเลเก็บจากชายฝั่งฟุกุชิมะที่วัดได้ต่ำกว่า 1Bq/L  เมื่อพูดถึงตะกอนพื้นทะเลนักวิจัยรู้แล้วก่อนเกิดภัยพิบัติว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลมากนัก แต่เมื่อพบสารกัมมันตภาพรังสีที่มีความเข้มข้นสูงในตะกอนพื้นทะเลหลังจากเหตุการณ์ระเบิดพวกเขาเริ่มมีการตรวจสอบกัน พวกเขาพบว่าเมื่อเวลาผ่านไปความเข้มข้นของสารกัมมันตภาพรังสีในตะกอนพื้นทะเลก็ค่อยๆน้อยลงเช่นกัน



เครื่องวิเคราะห์ขนาดอนุภาคการเลี้ยวเบนของเลเซอร์ (Laser Diffraction Particle Size Analyzer) ที่ศูนย์วิจัย 

งานวิจัยข้างต้นเกี่ยวกับรังสีในสิ่งแวดล้อมทางทะเล ไม่ใช่งานวิจัยเดียวที่ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล พวกเขายังทำการวิจัยเกี่ยวกับนิเวศวิทยาของปลาในน่านน้ำชายฝั่งของฟุกุชิมะ และศึกษาสภาพของอุตสาหกรรมการประมงพร้อมกับการวัดอุณหภูมิและความเค็มของน้ำทะเลและอื่น ๆ  และการวิจัยก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำเช่นกัน หน้าที่ของศูนย์วิจัยมีทั้ง การสื่อสารกับคนที่ทำงานบนเรือประมงของฟุกุชิมะ แลกเปลี่ยนข้อมูลและทำการวิจัยและพัฒนาระบบและเทคโนโลยีที่อุตสาหกรรมประมงใช้

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานนี้คือเรือวิจัยการประมงอิวากิมารุ ดังนั้นทีม Japankuru จึงกระโดดลงเรืออิวากิมารุ เรือที่ไม่ใช่แค่เรือประมงธรรมดา แต่เป็นหัวใจสำคัญของโครงการฟื้นฟูการประมงฟุกุชิมะ

อิวากิมารุ เรือวิจัยการประมง ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล



อิวากิมารุ

อิวากิมารุสีขาวสะอาด สดใสราวแสงระยิบระยับภายใต้ท้องฟ้าสีครามที่ท่าเรือโอนะฮามะ ที่ซึ่งเรือจอดอยู่เมื่อไม่ได้ใช้งาน เรืออิวากิมารุลำนี้เป็นรุ่น ที่ 9 เริ่มใช้งานตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 หลังจากที่เรืออิวากิมารุรุ่นก่อนถูกทิ้ง จากผลพวงของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในโทโฮคุและสึนามิ ในปี 2011 เรืออิวากิ รุ่นที่ 9 ได้สืบทอดจุดประสงค์เดียวกันกับรุ่นก่อน มีการติดตั้งอุปกรณ์สังเกตการณ์ สำหรับเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในทะเล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสุ่มตัวอย่างหาความเข้มข้นของสารกัมมันตรังสีในน้ำทะเลและตะกอนพื้นทะเล ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในฟื้นฟูการประมงของฟุกุชิมะ



อวนลาก

หากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน อิวากิมารุลำนี้นี้มีภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะเรือไม่เพียงแค่สำรวจสภาพแวดล้อมทางทะเลและทรัพยากรประมง แต่ยังตรวจสอบรังสีในกับสิ่งมีชีวิตในทะเลและสภาพแวดล้อมว่าเป็นอย่างไรหลังจากเกิดภัยพิบัติในปี 2011 บนเรืออิวากิมารุมีอวนหลากหลายแบบสำหรับพื้นที่ที่แตกต่างกันไปของทะเลอ ดังนั้นการเก็บตัวอย่างจากส่วนลึกในมหาสมุทรจึงไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างตะกอนน้ำทะเลและพื้นทะเลทุกวัน จากจุดตรวจสอบหลายแห่ง



สะพานเดินเรือ

ข้อมูลทุกอย่างจะแสดงอยู่บนหน้าจอ สัญญาณของเซ็นเซอร์จำนวนมากบนเรือ ตั้งแต่การสแกนเรดาร์และโซนาร์ไปจนถึง GPS และหน้าจอที่แสดงตำแหน่งของฝูงปลา CTD บนเรืออิวากิมารุ ตรวจจับความเค็มอุณหภูมิและความลึก ซึ่งจะแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอล และส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของเรือผ่านสายเคเบิล ทำให้นักวิจัยบนเรือสามารถสังเกตน่านน้ำในทะเลได้ดีขึ้น CTD ยังมาพร้อมกับขวดเก็บตัวอย่างสำหรับเก็บน้ำทะเลซึ่งจะถูกนำกลับไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อการตรวจสอบเพิ่มเติม

ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น



คุณ Gyo Kawata รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล จังหวัดฟุกุชิมะ

ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล จังหวัดฟุกุชิมะ คุณ Gyo Kawata เขาบอกกับเราว่า "การตรวจติดตามการฉายรังสีเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ยากที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนเพียงแค่รวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ สำหรับเราการสื่อสารโดยใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นคำถามที่ตอบยาก"  ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สามารถใช้เพื่อแสดงภาพรังสีซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ข้อมูลดิบเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถที่จะทำให้คนเปลี่ยนความคิดได้ สิ่งที่สำคัญคือการใช้ข้อมูลเพื่อโน้มน้าวใจผู้คนและช่วยให้พวกเขาเข้าใจความหมาย ดังที่คุณ Kamiyama หัวหน้าแผนกกัมมันตภาพรังสีอธิบายให้เราฟังว่า 99.8% ของผลการทดสอบการเฝ้าติดตาม ฟุกุชิมะนั้นได้ผลเป็น "ตรวจไม่พบสารกัมมันตรังสี" ซึ่งเป็นสถิติที่สำคัญ คุณ Kawata ยืนยันว่าจะยังคงติดตามเรื่องรังสีอย่างต่อเนื่องและการเผยแพร่ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมาก



ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลประจำจังหวัดฟุกุชิมะดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับโจบังโมโนที่มีชื่อเสียงของฟุกุชิมะได้โดยไม่ต้องกังวล

จากแผนการของศูนย์วิจัยในการฟื้นฟูการประมงของฟุกุชิมะ คุณ Kawata อธิบายว่าการปกป้องและจัดการทรัพยากรทางทะเลในท้องถิ่น การหลีกเลี่ยงการจับปลามากเกินไป และการเฝ้าติดตามรังสีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลจากคนสู่คน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นชาวประมงหรือผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน คุณ Kawata ยังกล่าวอีกว่าเขาหวังที่จะนำเสนอเทคโนโลยี ICT และเครื่องจักรสำหรับวัดความสดของปลา และปริมาณไขมันในห้องปฏิบัติการ โดยการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวอาจช่วยให้ผู้คนเข้าใจการประมงของฟุกุชิมะได้ลึกซึ้งขึ้น  “นี่คือความฝันเล็ก ๆ ของเราที่เราหวังว่าจะทำให้เป็นจริง” เขาอธิบาย  "การแสดงภาพข้อมูลช่วยให้ผู้บริโภคเข้ามาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราหวังว่าจะได้งบประมาณที่มั่นคงเพื่อนำแผนของเราไปใช้จริง" เขากล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูตื่นเต้น

ศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเลประจำจังหวัดฟุกุชิมะ และอิวากิมารุไม่เพียงแต่รวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการประมงและสภาพแวดล้อมทางทะเลของฟุกุชิมะเท่านั้น นักวิจัยยังมีความกระตือรือร้นในงานของพวกเขา ในการช่วยปกป้องและรักษาท้องทะเลของฟุกุชิมะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางทะเล พวกเขาตั้งใจพูดถึงรายละเอียดการวิจัยของเขา เพื่อสื่อสารงานสำคัญของพวกเขาให้ทั่วโลกได้รับรู้ และพวกเขายังทำให้สมาชิกทุกคนในทีม Japankuru เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดีขึ้นก่อนที่เราจะออกมาจากศูนย์วิจัย

ในบทความถัดไปของซีรีส์โจบังโมโน เราจะพาไปดูกลุ่มนักวิจัยกลุ่มอื่นที่ทำงานเพื่อจัดการโครงการต่างๆสำหรับอุตสาหกรรมประมงของฟุกุชิมะ ที่สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงจังหวัดฟุกุชิมะในโซมะ การเลี้ยงปลาจะสามารถสนับสนุนการฟื้นฟูการประมงของฟุกุชิมะได้อย่างไร?  หาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ในตอนที่ 8!

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS