เกาะคิวชู เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นอยู่นั้นทำให้บริเวณนี้โดดเด่นในเรื่องของธรรมชาติและออนเซ็น ทั้งภูเขาไฟอะโสะ (Aso Mountain) ที่มีหลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ และภูเขาไฟซากุระจิมะอันโด่งดัง นอกจากจะมีออนเซ็น และไอน้ำจากออนเซ็นแล้ว ความสวยงามของที่นี่ก็ทำให้หลายคนอยากกลับมาเที่ยวบ่อยๆ

ขับรถชมธรรมชาติ ไปในที่ที่ไม่เคยไป ที่เกาะคิวชูตอนใต้

เกาะคิวชูประกอบด้วย 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ โออิตะ คุมาโมโต้ มิยาซากิ และคาโกชิม่า วันนี้เราจะพาไปในพื้นที่ที่คนไม่ค่อยไปเที่ยวกัน ลงไปทางตอนใต้ของเกาะคิวชู แวะเที่ยวที่ คาโกชิม่า มิยาซากิ และคุมาโมโต้ ในบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการคมนาคมและการเดินทางที่สะดวกสบาย แต่ในบางพื้นที่อย่างเช่นทางตอนใต้ของเกาะคิวชู ก็เหมาะแก่การเดินทางโดยรถยนต์มากกว่า เนื่องด้วยรถสาธารณะนั้นอาจไม่ได้มีให้บริการอย่างในตัวเมือง ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้พวกเราตัดสินใจที่จะเช่ารถขับภายในเกาะคิวชู เพราะทั้งสะดวก และสนุก

ด้วยความที่เราเดินทางกันหลายคน สัมภาระก็จะมากตามจำนวนคน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเราได้เลือกรถขนาดใหญ่ ที่สามารถจุได้ทั้งคนและกระเป๋าไปด้วยกันได้

บริการรถเช่าในญี่ปุ่นมีหลายเจ้า แต่บริษัทที่เราเลือกไปกับทริปคิวชูทางใต้นี้คือ Nissan Rent-a-Car

เราชอบ Nissan Rent-a-Car ตรงที่เขาจะเปลี่ยนรถใหม่เสมอ เพราะฉะนั้นวางใจเรื่องความปลอดภัยได้ตลอดทริป และยังเหมาะแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราด้วย

ขับรถเที่ยวทางตอนใต้ของเกาะคิวชู

คาโกชิม่า ➡ มิยาซากิ ➡คุมาโมโต้

คาโกชิม่า หรือที่รู้จักกันในนามว่า เนเปิลส์แห่งญี่ปุ่น คาโกชิม่านั้นตั้งอยู่ริมอ่าว และยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟซากุระจิมะที่สูงตระหง่าน และในปีค.ศ.1960 คาโกชิม่ามีการทำข้อตกลงระหว่างเมืองนาโปลี (Napoli) ประเทศอิตาลี เป็นเมืองพี่น้องกัน

คาโกชิม่าเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีทัศนียภาพที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น พร้อมทั้งทะเลและภูเขาที่สวยงาม รวมถึงอาหารขึ้นชื่ออย่างคุโรบูตะ (หมูดำ) และ มันหวานญี่ปุ่น ที่ใช้ทำเหล้าญี่ปุ่น (sweet potato shochu)

หากกำลังมองหาที่พักในคาโกชิม่า เราขอแนะนำ โรงแรม Best Western Kagoshima ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลและภูเขาไฟซากุระจิม่า

ออนเซ็นทราย Sand Bath Center "SARAKU" (指宿温泉)

Ibusuki Onsen ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ออนเซ็นสำหรับที่นี่ไม่ได้หมายถึงการแช่น้ำร้อนแบบทั่วไป เพราะเป็นการแช่ในทรายอุ่นแทนการแช่ในน้ำ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า อ่างทราย (sunaburo, 砂風呂) นั่นเอง ทรายของที่นี่ไม่เหมือนกับทรายตามชายหาดทั่วไป เพราะมีอุณหภูมิสูงถึง 80 อาศาเซลเซียส เกิดจากภูมิประเทศที่ไหลจากแผ่นดินไปยังชายหาด ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีวิธีการดูแลสุขภาพ รวมถึงการขจัดของเสียออกจากร่างกาย ลองอ่านตรงนี้ (ภาษาอังกฤษ) ดูได้ ว่าการอบตัวด้วยทรายนั้นดีต่อสุขภาพอย่างไร

Sand Bath Center "SARAKU" (砂むし会館 砂楽)
แผนที่
เวลา: 8:30 – 21:00น. (เข้าได้ถึง 20:30น.) *ไม่มีวันหยุด*
ราคา: 
การอบทราย: ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 1,100 เยน | เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) 600 เยน
เฉพาะออนเซ็น: ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 620 เยน | เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) 310 เยน
※ราคารวมชุดยูกาตะ
⁂การอบทราย- จำเป็นต้องใช้ผ้าเช็ดตัว หากไม่มี มีผ้าเช็ดตัวจำหน่ายราคา 120 เยน 
⁂ออนเซ็น- มีผ้าเช็ดตัวให้ยืมในราคา 200 เยน 
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) 

คาเฟ่หมีขาว (Shirokuma Cafe, 天文館むじゃきの白熊（しろくま))

คากิโกริ หรือน้ำแข็งไสญี่ปุ่น มีเครื่องหลากหลายเช่น โมจิ ผลไม้ ถั่วแดง (Azuki) ราดด้วยนมข้นหวาน หากมีโอกาสไปเที่ยวคาโกชิม่า ต้องไม่พลาดที่จะชิมน้ำแข็งไสสุดน่ารัก จากคาเฟ่หมีขาว (Shirokuma Cafe) ที่เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1947 น้ำแข็งไสราดด้วยนมข้นหวานและตกแต่งเป็นน้องหมีสุดน่ารัก เป็นที่มาของชื่อร้าน

คาเฟ่หมีขาว Shirokuma Cafe (Tenmonkan Mujaki)
白熊菓琲 (天文館むじゃき本店)
แผนที่
เวลาเปิดปิด 11:00 – 22:00 น. (Last order 21:30น.) 
หยุดวันอาทิตย์ 
เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม เปิดเวลา 10:00 น. 
โทรศัพท์ 099-222-6904
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น)​

ศาลเจ้าคิริชิม่า Kirishima Jingu (霧島神宮)

ศาลเจ้าคิริชิม่า เป็นศาลเจ้าเก่าแก่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 และยังถูกกล่าวถึงในตำนานชื่อดังของญี่ปุ่น โดยเทพนินิกิ โนะ มิโกโตะ ผู้เป็นหลานชายของ อะมาเทระสุ เทพแห่งดวงอาทิตย์ ได้ลงมาจากท้องฟ้าเพื่อปกครองญี่ปุน และในปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย

ในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้เคยอยู่ในหุบเขาลึก แต่มีการสร้างใหม่หลายครั้งเนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟ จนในที่สุดได้ย้ายมาที่ตำแหน่งปัจจุบันในปีค.ศ. 1715

ศาลเจ้าคิริชิม่า Kirishima Jingu Shrine (霧島神宮)
แผนที่
มีที่จอดรถ 
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

สวนเซ็นกัง Sengan-en (仙巌園)

ได้รับการโหวตจาก CNN ว่า เป็นพื้นที่ที่สวยที่สุดในโลก! สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1658 และเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม จะกระทั่งได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ กรกฎาคม ปี 2015 สวนเซ็นกังตั้งอยู่บนเกาะซากุระจิม่า ที่สวนแห่งนี้จะได้สัมผัสถึงความงดงามของสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

ที่แห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลชิมาซุ ไดเมียวแห่งแคว้นซัตสึมะ จนกระทั่งปี 2017 ได้รับการตกแต่งใหม่โดยมีร้าน Starbucks ตั้งอยู่ภายในสวนเซ็นกัง ด้วยโครงสร้างที่สวยงามของอาคารไม้ 2 ชั้น และสามารถเข้าไปนั่งเล่นภายห้องที่มีการตกแต่งที่แตกต่างกันถึง 4 ห้อง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากมา 

สวนเซ็นกัง Sengan-en (仙巌園)
แผนที่
เวลาทำการ 8:30 – 17:30น.
ค่าเข้า 
สวนและพิพิธภัณฑ์: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก (6-15 ปี) 500 เยน
สวน พิพิธภัณฑ์ และบ้าน: ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก (6-15 ปี) 650 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)

Ryokojin-sanso (旅行人山荘)

ไปเที่ยวคาโกชิม่าทั้งทีจะพลาดการแช่ออนเซ็นไปได้อย่างไร ออนเซ็นบริเวณนี้ถูกค้นพบในปี 1819 และออนเซ็น เรียวโคจิน-ซันโซ ที่เป็นที่พักบนเขา ที่เราไปกันในวันนี้นั้น เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1917 สิ่งที่พิเศษสำหรับออนเซ็นแห่งนี้คือ สามารถดื่มได้ และยังดีต่อระบบทางเดินอาหารอีกด้วย

เรียวโคจิน-ซันโซ (Ryokojin-sanso, 旅行人山荘)
แผนที่
เว็บไซต์
 

2.มิยาซากิ

จังหวัดมิยาซากิขึ้นชื่อเรื่องชายหาดและน้ำ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับตำนานของญี่ปุ่น และจังหวัดมิยาซากินั้นมักจะถูกเรียกว่าเป็น “ต้นกำเนิดประเทศญี่ปุ่น” และหากพูดถึงอาหารแล้วละก็ ต้องเป็น เนื้อมิยาซากิ และ ไก่นัมบัง(ชิกกินนัมบัง) เป็นสองเมนูที่ถ้ามามิยาซากิแล้วไม่ได้ชิมถือว่า มาไม่ถึง!

คุนิมิกะโอกะ Kunimigaoka (国見ヶ丘)

ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น เรายืนอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 513 เมตร ภาพเบื้องหน้าที่เราได้เห็นก็คือ ทะเลหมอกจากจุดที่สูงสุดของคุนิมิกะโอกะ ปกคลุมเมืองด้านล่าง ราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ ซึ่งจุดนี้เองได้รับการจัดอันดับจาก Michelin Green Guide 1 ดาว ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่น และช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ ฤดูใบไม้ร่วงจนถึงต้นฤดูหนาว 

คุนิมิกะโอกะ Kunimigaoka (国見ヶ丘)
แผนที่

การที่จะเห็นทะเลหมอกได้นั้น ต้องเป็นวันที่ลมสงบ แต่ถ้าไปวันที่มีลมก็จะได้เห็นวิวที่สวยงามของแอ่งทาคาจิโฮะ (Takachiho Basin) และภูเขารอบๆแทน

ศาลเจ้าอุโดะ Udo-jingu (鵜戸神宮)

ศาลเจ้าอุโดะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นตัวแทนของจังหวัดมิยาซากิ มีความเชื่อว่าที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของจักรพรรดิจิมมู (神武天皇) จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้มีการทาสีด้วยสีแดงสดตัดกับหน้าผาขนาดใหญ่ หันหน้าออกไปยังมหาสมุทร

สิ่งที่ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่นก็คือ การที่ศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ภายในถ้ำใต้หน้าผาริมทะเล ตามตำนานกล่าวว่า เทพแห่งคลื่นน้ำได้ตัดหน้าผาออกและสร้างเป็นถ้ำขึ้นมา ทำให้มีการสร้างศาลเจ้าขึ้นที่นี่ และยังมีความเชื่ออีกว่าการได้ดื่มน้ำที่หยดจากหินจะช่วยในเรื่องของการตั้งครรภ์ การมีบุตร และเหมาะสำหรับคนที่อยากมีลูก

กระดานซักผ้าปีศาจ (Ghost Washboard, 鬼的洗衣板)

ศาลเจ้าอุโดะ (Udo-jingu, 鵜戸神宮)
แผนที่
มีที่จอดรถ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

รูปปั้นโมอาย Sun Messe Nichinan (サンメッセ日南)

รูปปั้นโมอายขนาดใหญ่นี้ยืนเรียงรายอยู่ริมฝั่งทะเล ซัน เมส นิจินัน (Sun Messe Nichinan) ถึง 7 ตัว รูปปั้นที่ Sun Messe นี้เป็นเพียงแห่งเดียวในโลก ที่ได้รับการอนุญาตจากเกาะอีสเตอร์ให้สร้างขึ้น ซึ่งเหตุผลที่รูปปั้นโมอายมาอยู่ที่นี่ได้ก็คือ เกิดภัยธรรมชาติและสงคราม ทำให้ยากต่อการดูแลรักษารูปปั้น จึงมีการตั้งทีมวิจัยและบูรณะขึ้นในปี 1990 และเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณสำหรับความพยายามในการช่วยฟื้นฟูรูปปั้นโมอายกับชาวบ้านถึง 3 ปี จังหวัดมิยาซากิจึงได้รับการอนุญาตให้สร้างรูปปั้นโมอายที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้แห่งเดียวในโลก

รูปปั้นโมอายซัน เมส นิจินัน (Sunmesse Nichinan, サンメッセ日南)
ที่อยู่: 2650 Miyaura, Nichinan, Miyazaki
ปิดวันพุธ
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 700 เยน, นักเรียนประถม 500 เยน, เด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป 350 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

ไก่นัมบัง (ชิกเก้นนัมบัง) อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดมิยาซากิ

ไก่นัมบัง (อ่านออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ชิกกิ้นนัมบัง, チキン南蛮) คือไก่ทอดราดซอสที่มีส่วนผสมของโชยุและน้ำส้มสายชู และทับด้วยซอสทาร์ทาร์ เป็นเมนูที่ต้องกินเมื่อไปเที่ยวที่จังหวัดมิยาซากิ แม้ว่าเมนูนี้จะเป็นเมนูที่หาได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ถ้าได้ลองกินไก่นัมบังจากจังหวัดมิยาซากิแล้วละก็จะลืมที่อื่นไปเลย

Shanshan Chaya (シャンシャン茶屋)
แผนที่

ช่องเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge (高千穂峡)

ช่องเขาทาคาชิโฮ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดมิยาซากิ โดยช่องเขาที่เป็นรูปตัว V นั้นเกิดจากลาวาของภูเขาไฟอะโสะ เกิดการกัดเซาะจนเกิดเป็นหน้าผาหินบะซอลต์ภูเขาไฟ ความสูง 80-100 เมตร สามารถชมวิวได้จากทั้งทางด้านบนของหน้าผา และนั่งเรือผ่านช่องเขา

แนะนำให้เช่าเรือพายผ่านช่องเขาไป บรรยากาศดีมากๆ

การเช่าเรือ
เวลา: 8:30-17:00น. (เริ่มเช่าช้าสุดที่ 16:30น.)
ค่าบริการ: 30 นาที 2,000 เยน

ช่องเขาทาคาชิโฮ (Takachiho Gorge (高千穂峡)
แผนที่
ที่จอดรถ 500 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

Amanoyasugawara (天安河原)

เดินเลียบแม่น้ำอิวาโตะ (Iwato River) มาเรื่อยๆประมาณ 10 นาที ก็จะเจอกับศาลเจ้าอะมาโนะอิวาโตะ ตะวันตก อยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ ตามตำนานเล่าว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่เทพเจ้าและเทพธิดามาปรึกษาหารือกันถึงวิธีการที่จะทำให้ อะมาเทระสุ เทพแห่งดวงอาทิตย์ ออกมาจากถ้ำหินและยุติความมืดของโลกได้อย่างไร ถ้ำนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เกียวโบไกวะ (Gyobogaiwa) แต่เดิมบริเวณริมฝั่งนี้มีเพียงโครงสร้างของศาลเจ้า แต่หลายปีที่ผ่านมามีผู้เดินทางมายังที่นี่ได้ขนหิน และจัดเรียงเป็นกองจนิกลายเป็นกองหินขนาดมหึมา ทำให้บริเวณนี้ดูขลัง ลึกลับ และน่าอัศจรรย์

Amanoyasugawara (天安河原)
แผนที่
มีที่จอดรถ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

อุมะกาเสะ (Umagase, 馬ヶ背)

หน้าผาสูงชัน ความสูง 70 เมตร ที่มีการแตกออกเป็น 6 แนว จากมุมนี้สามารถมองเห็นเป็นภาพพาโนราม่าของมหาสมุทรแปซิฟิก หากอยากมองเห็นภาพจากมุมนี้แนะนำให้ไปที่จุดชมวิว (ฟรี) ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่อย่างนั้นจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร ที่นี่มีที่จอดรถให้บริการด้วย 

อุมะกาเสะ (Umagase, 馬ヶ背)
แผนที่

Gokase Campsite (五ヶ瀬の里キャンプ村)

ที่ที่เราพักกันในจังหวัดมิยาซากิคือ Gokase no Sato Camp ที่นี่เป็นทั้งสถานที่ตั้งแคมป์และโฮสเทล และอยู่ห่างจากทะเลเพียง 20 นาทีโดยรถยนต์

Gokase Campsite (五ヶ瀬の里キャンプ村)
แผนที่
จองที่พัก (Booking.com)
เว็บไซต์

คุมาโมโต้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะคิวชู อันเป็นที่ตั้งของปราสาทคุมาโมโต้อันโด่งดัง และรากบัวต้มยัดไส้มัสตาร์ดและมิโซะ (karashi renkon)

ศาลเจ้าคามิชิคิมิ คุมาโนะอิมาสุ Kamishikimi Kumanoimasu Shrine (上色見熊野座神社)

ศาลเจ้าคามิชิคิมิ คุมาโนะอิมาสุ เป็นศาลเจ้าที่ชื่อยาวและจำยาก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดคุมาโมโต้ที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ศาลเจ้าแห่งนี้มีโคมไฟหินที่มีมอสปกคลุมประมาณ 100 ตัว เรียงรายอยู่สองข้างทางลึกเข้าไปในภูเขา ให้บรรยากาศราวกับอยู่ในความฝันที่แสนลึกลับ ซึ่งถูกใช้เป็นหนึ่งในฉากของอนิเมชั่นเรื่อง Firefly Forest 

เมื่อเดินเลยจากศาลเจ้ามา จะเห็นก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางที่เรียกว่า "Ugetoiwa" (穿戸岩) อยู่ด้านบนของภูเขา ว่ากันว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ใช้ในการขอพรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยากที่สุด

ศาลเจ้าคามิชิคิมิ คุมาโนะอิมาสุ Kamishikimi Kumanoimasu Shrine (上色見熊野座神社)
แผนที่

Takamori Dengakuho Zonkai (高森田楽保存会)

Takamori Dengakuho Zonkai (高森田楽保存会) เป็นร้านอาหารที่มีจุดประสงค์ในการอนุรักษ์อาหารท้องถิ่นของคุมาโมโต้เอาไว้ สำหรับบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณจะมีเตาผิงแบบฝัง "irori" (囲炉裏) ตั้งอยู่กลางบ้าน และเมนูของที่นี่ก็คือ ซุปมิโสะ ที่ทำจากมิโสะแดง และมีส่วนผสมจากท้องถิ่นอย่าง ปลา เผือก เต้าหู้ และบุก

ร้านอาหารท้องถิ่นของคุมาโมโต้แท้ๆ

Takamori Dengakuho Zonkai (高森田楽保存会)
แผนที่
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

ภูเขาไฟอะโสะ Mount Aso (阿蘇山) 

ภูเขาไฟอะโสะเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นอยู่ ตั้งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโต้ เคยมีการระเบิดสูงถึง 1,592 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก และยังได้รับฉายาว่าเป็น หลังคาของคิวชู

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าเพื่อชมวิวรอบๆภูเขาไฟอะโสะ ผ่านที่ราบที่เกิดขึ้นจากแมกมาใต้ภูเขาไฟ แต่หากช่วงเวลานั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ กระเช้าอาจจะงดให้บริการ

ภูเขาไฟอะโสะ Mount Aso (阿蘇山) 
แผนที่
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

 

ติดตามข่าวสารจาก Japankuru ได้ทาง Facebook และ twitter