CONTENTS
คู่มือขับรถเที่ยวกิฟุด้วยตัวเอง เที่ยวชมปราสาทที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ซามูไร สัมผัสหมู่บ้านมรดกโลก เพลิดเพลินไปกับเกโระออนเซ็นและพลาดไม่ได้กับเนื้อฮิดะวากิว!
Gifu Road Trip ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น เช็คอินขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมรอบกิฟุ
กิฟุเป็นจังหวัดที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ น้ำพุร้อน บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงมรกดทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้กิฟุเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันจะมาให้ได้สักครั้ง
การท่องเที่ยวญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องความสะดวกสบาย ที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีรถไฟหรือรถบัสเข้าถึง แต่การเช่ารถเที่ยวจะยิ่งช่วยพาเราไปได้ไกลและสนุกยิ่งขึ้น!
บทความนี้จะพาท่องเที่ยวไปตามทางหลวงสายหลักแล้วเลี้ยวเข้าถนนสายเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวผ่านป่าในกิฟุ ตามล่าขุมสมบัติหลากสีสันที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่สวยงาม อาหารท้องถิ่นรสเลิศ และสถานที่ท่องเที่ยวอันมีเอกลักษณ์ที่รอให้เราไปตามหา (มีจุดตามรอยสำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Your Name ด้วยนะ!) พร้อมแนะนำจุดพักรถริมถนนที่เรียกว่า สถานีริมถนน (michi no eki / 道の駅) ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และร้านขายของกินท้องถิ่น พิเศษสุด ๆ กับรีวิวโรงแรม Fairfield by Marriott
เปิดประสบการณ์การพักผ่อนแสนสบายในดินแดนที่ร่ำรวยไปด้วยสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ยืนหยัดข้ามผ่านกาลเวลาอันยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
Day 1: ท่องโซนฝั่งเหนือของกิฟุ
จุดตั้งต้นแรกของเราคือที่สถานีนาโกย่าในจังหวัดไอจิ ซึ่งเป็นสถานีชินคันเซ็นที่ใกล้กับกิฟุที่สุด (หากสนใจข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ สถานีนาโกย่าสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!) ก่อนออกเดินทางต่อมายังกิฟุ
แพลนของโรดทริปในครั้งนี้เป็นแนวเดินทางวนรอบจังหวัดกิฟุตามแนวยาวของจังหวัด สตาร์ทโรดทริปกันที่ทางเหนือของจังหวัดซึ่งมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและเนื้อวากิวแสนอร่อย
ชมวิวระดับพรีเมียมที่ปราสาทกุโจฮาจิมัง
เริ่มต้นทริปด้วยการขึ้นเขาไปชมทิวทัศน์ของเมืองจากปราสาทกุโจฮาจิมัง (Gujo Hachiman Castle) ที่ให้ฟีลราวกับได้กลายเป็นเจ้าผู้ครองแคว้นในอดีต ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และปราสาทบนภูเขาที่งดงามติดอันดับท็อปของญี่ปุ่น เมื่อมองจากภายนอกก็จะเห็นปราสาทหลังงามที่รายล้อมด้วยป่าเขาและแม่น้ำที่สวยงาม เมื่อเข้าไปในตัวปราสาทแล้วมองลงมาก็จะพบวิวทิวทัศน์ของเมืองที่ยังคงที่ความกลิ่นอายแบบย้อนยุคเสมือนได้หลุดไปในญี่ปุ่นโบราณจนได้รับฉายาว่า "Little Kyoto" เรียกได้ว่าเป็นปราสาทที่สวยงามจากทุกมุมมองจริง ๆ
ปราสาทกุโจฮาจิมังถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1588 เคยถูกใช้เป็นที่พำนักของขุนนางถึง 19 รุ่นตลอดระยะเวลา 300 ร้อยปี ก่อนจะถูกทำลายจากความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หลังจากผ่านไปเพียงครึ่งศตวรรษปราสาทกุโจฮาจิมังก็ได้รับการบูรณะสร้างขึ้นใหม่บนกำแพงหินเก่ายังคงสภาพสมบูรณ์ เป็นปราสาทที่สร้างด้วยไม้และผังปราสาทแบบดั้งเดิม
ที่ชั้นล่างเป็นจุดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์และชุดเกราะซามูไร ส่วนชั้นบนเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจากบนปราสาทได้
เราสามารถนำรถไปจอดที่ลานจอดรถใกล้ตัวปราสาทหรือถ้าหากพอมีเวลาก็สามารถจอดรถที่ตีนเขาเพื่อเดินชมดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบปราสาทที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของประเทศได้เช่นกัน
Gujo Hachiman Castle (郡上八幡城)
Hachimancho Yanagimachi, Gujo, Gifu
เวลาให้บริการ: 9:00 – 16:45
Official Website (jp)
เที่ยวชมบ้านหลังคาทรงมือพนมและพักกินอาหารกลางวันท้องถิ่นที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ออกจากปราสาทแล้วเดินทางต่อไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกิฟุ มุ่งตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของกิฟุ
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago) โดดเด่นด้วยบ้านแบบโบราณที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
บ้านในหมู่บ้านชิราคาวาโกะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว โครงสร้างรูปแบบของบ้านที่เป็นเอกลักษณ์นี้มีชื่อเรียกว่า "กัชโชสึคุริ (Gasshozukuri)" เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในดินแดนภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะของกิฟุ หลังคาทำจากฟางและไม้ถูกออกแบบให้มีความลาดชันสูงเพื่อป้องกันไม่ให้หิมะกองทับถมกันจนเกิดหลังคาถล่ม อีกทั้งโครงสร้างเช่นนี้ยังช่วยให้ภายในบ้านอบอุ่นตลอดช่วงฤดูหนาว ส่วนที่มาของชื่อเรียกก็มาจากรูปทรงของหลังคาที่มีลักษณะคล้าย “กัชโช” ที่แปลว่า “มือพนม” นั่นเอง
แม้ว่าแต่เดิมหมู่บ้านชิราคาวาโกะจะเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนมาเป็นหมู่บ้านที่เน้นการท่องเที่ยวเป็นหลัก มึการปรับปรุงภายในของอาคารบางหลังเพื่อใช้เป็นร้านค้าหรือร้านอาหาร อาคารหลาย ๆ หลังถูกอนุรักษ์ในฐานะพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชนบทแบบดั้งเดิมของกิฟุ
บ้านตระกูลวาดะ (Wada) เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขายังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้พร้อม ๆ กับเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตัวบ้านและมรดกตกทอดของตระกูล
เพียงเดินไปตามทางลาดเพื่อท่องไปในหมู่บ้านมรดกโลกพลางเที่ยวชมบ้านหลังคาทรงสูงและนาข้าวอันกว้างใหญ่ ก็เพียงพอจะทำให้เราใช้เวลาไปหมดวันโดยไม่รู้ตัวได้ง่าย ๆ แล้ว และสำหรับคนที่อยากชมวิวของหมู่บ้านชิราคาวาโกะจากมุมสูง ทางทีมงานแนะนำให้ขึ้นเนินไปที่หอดูดาวชิโรยามะ เทนชูคาคุ (Shiroyama Tenshukaku Observation) จากตรงนี้จะเห็นวิวหมู่บ้านจากมุมสูงได้แบบเต็มตาเลย!
Shirakawago (白川郷)
Ogimachi, Shirakawa, Ono District, Gifu
Official Website (en)
มาถึงที่ทั้งทีก็ต้องไม่พลาดกับมื้ออาหารที่ทำจากวัตถุดิบประจำถิ่น ซึ่งของดีของเด็ดประจำแถบนี้ก็คือเนื้อฮิดะวากิว! ทีมงานเจแปนคุรุตัดสินใจแวะที่ร้านอิโรริ โดยเมนูที่ลองสั่งมาในครั้งนี้คือโซบะท็อปปิ้งด้วยผักภูเขาประจำท้องถิ่นและชุดอาหารกลางวันเนื้อฮิดะวากิพร้อมผักตามฤดูกาลและซุปมิโซะ
Irori (白川郷 お食事処いろり)
374-1 Ogimachi, Shirakawa, Ono District, Gifu
เวลาให้บริการ:
Lunch: 10:00 – 14:00
Dinner: 17:30 – 21:00 (เสาร์ ~ อังคาร)
Official Website (en)
ชมทุ่งดอกไม้ที่ฮิรุกาโนะ โคเก็น
หลังทานอาหารกลางวันเรียบร้อยก็ได้เวลาไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งเราไปกันที่ฮิรุกาโนะ โคเก็น (Hirugano Kogen) ในช่วงฤดูหนาวที่แห่งนี้จะเป็นลานสกีที่มีหิมะสีขาวหนานุ่มปกคลุม แต่ในช่วงที่อากาศอบอุ่น ไหล่เขาแห่งนี้ก็จะกลายเป็นสวนดอกไม้ที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน! มาขึ้นกระเช้าแบบเก้าอี้แล้วชมทิวทัศน์ของทุ่งดอกไม้ที่ทอดยาวกันเถอะ!
ช่วงที่เรามาเป็นช่วงรอยต่อปลายฤดูร้อนต้นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการเที่ยว Hirugano Picnic Garden มีทั้งทุ่งบีโกเนียสีชมพูและสีแดงสดใส ย้อมพื้นให้กลายเป็นทุ่งสีม่วงแดงและสีแดงสดขนาดใหญ่ มีพุ่มต้นโคเชียที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามไม่แพ้ทุ่งพุ่มต้นโคเชียในสวนฮิตาชิซีไซด์ปาร์คของจ.อิบารากิเลย (แถมคนน้อยกว่าด้วย!)
หลังจากเดินเที่ยวสักพัก ทีมงานก็มาแวะหาอะไรกินเบา ๆ ในบรรยากาศวิวสวนกันที่ Momoiro Terrace & Cafe ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับที่ขึ้นกระเช้าแบบเก้าอี้
ซื้อเครื่องดื่มผลไม้หรือไอศกรีมอร่อย ๆ แล้วหาที่นั่งพักผ่อนชิลล์ ๆ กับมาสคอตน้องแกะพลางดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของธรรมชาติที่ด้านหนึ่งเป็นทุ่งต้นโคเชียและบีโกเนีย ส่วนอีกด้านเป็นวิวภูเขาไดนิจิและภูเขาฮาคุ
สำหรับคนที่มองหากิจกรรมที่แอคทีฟกว่านี้ ก็มี Hirugano Kogen zipline ซึ่งเป็นศูนย์กิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์เปิดให้บริการอยู่ใกล้ ๆกันอีกด้วย
Hirugano Kogen (ひるがの高原)
Takasucho Hirugano, Gujo, Gifu
Hours: 9:00 – 16:30
Official Website (jp)
มื้อเย็นและบ่อน้ำพุร้อนที่จุดพักรถ Sakura-no-Sato Shokawa
แถบโชคาวะ (Shokawa) เป็นแถบที่ขึ้นชื่อในเรื่องงานแกะสลักไม้ เขื่อนขนาดใหญ่ กังหันน้ำ และเป็นที่ตั้งเดิมของต้นซากุระอายุกว่า 500 ปี (ปัจจุบันถูกย้ายไปไว้ที่อื่นเนื่องจากมีการสร้างเขื่อน) นอกจากนี้โชคาวะยังขึ้นชื่อในเรื่องฟาร์มและผลิตผลสดใหม่ เป็นแถบที่ผลิตข้าว ผัก และเมล็ดโซบะ
เพื่อไม่ให้พลาดของดีประจำถิ่นเราจึงแวะที่จุดพักรถ Sakura-no-Sato Shokawa แล้วเข้าไปช้อปปิ้งกันที่ร้าน "ซากุระ" ที่นี่มีจำหน่ายผักและผลไม้สด รวมถึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นหลายอย่าง เช่น ชุดใบแมกโนเลียและมิโซะ (อย่าพลาดแวะถ่ายรูปกังหันน้ำด้านหน้าด้วยนะ!)
และแล้วก็มาถึงมื้อเย็นที่รอคอย ร้าน Ouka no Yu ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหารและโรงอาบน้ำเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ถัดจากร้านขายของ มาทานอาหารรสชาติท้องถิ่นแท้ ๆ เหมือนทานในบ้านเพื่อนคนญี่ปุ่นกัน!
เมนูแนะนำที่อยากให้ได้ลองกันคือเมนูที่มีชื่อว่า "เคจัง (keichan)" อาหารประจำภูมิภาคกิฟุที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ เป็นเมนูที่ทำจากไก่และกะหล่ำปลีต้มกับซอสมิโซะ นอกจากนี้เมนูโซบะที่ทำจากเมล็ดโซบะในท้องถิ่นก็เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด
หลังทานอาหารแล้วก็ได้เวลาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางด้วยออนเซ็นกลางแจ้งและน้ำพุนวดตัว!
Road Station Sakura-no-Sato Shokawa (道の駅 桜の郷 荘川)
88 Sarumaru, Shokawacho, Takayama, Gifu
เวลาให้บริการ:
ร้านค้า: 8:00 – 17:00
ร้านอาหาร/ออนเซ็น: 10:00 – 20:30
Official Website (jp)
Night 1: เข้าพักที่โรงแรม Fairfield by Marriott Gifu Takayama Shirakawa Go
หลังจากตระเวนสำรวจกิฟุมาแล้วทั้งวัน ก็ถึงเวลาพักร่างค้างคืนกันที่โรงแรม Fairfield by Marriott Gifu Takayama Shirakawa Go
Fairfield by Marriott เป็นเครือโรงแรมที่ตั้งอยู่ตามจุดพักรถทั่วประเทศญี่ปุ่น สำหรับ Fairfield by Marriott Gifu Takayama Shirakawa Go นั้นตั้งอยู่ข้างจุดพักรถ Road Station Sakura-no-Sato Shokawa เลย!
โรงแรมมีบรรยากาศที่ทันสมัย ตกแต่งในโทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของท้องถิ่นที่มีความเรียบง่าย เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานบริเวณด้านหลังของโรงแรมก็จะพบกับวิวนาข้าวกว้างใหญ่บริเวณตีนเขาอันอุดมสมบูรณ์ ให้เราได้สัมผัสธรรมชาติอันงดงามของกิฟุตลอดการเข้าพัก! โดยมีให้เลือกทั้งห้องเตียงแฝดและห้องเตียงคิงไซส์ ทุกห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายมีสไตล์
ห้องพักทุกห้องมาพร้อมโซฟาแสนสบาย หรือถ้าไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องก็สามารถไปใช้บริการในส่วนล็อบบี้เลานจ์ของโรงแรมที่ให้ฟีลเหมือนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่แสนสบายได้อีกด้วย ที่ล็อบบี้เลาจ์มี community counter ซึ่งมีอ่างล้างจาน เครื่องดื่มร้อน เครื่องปิ้งขนมปัง และไมโครเวฟไว้ให้บริการอย่างครบครัน ชงชาหรือกาแฟสักแก้วแล้วนั่งพักผ่อนกายใจพลางสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านภาพถ่ายทิวทัศน์ท้องถิ่น หนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่น งานแกะสลักและงานฝีมือท้องถิ่นที่ตกแต่งอยู่ภายในล็อบบี้
สำหรับคนที่อยากได้ขนมกินเล่นก็สามารถเข้าไปส่องกันได้ใน The Market ซึ่งเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในโรงแรม (เราขอแนะนำน้ำแอปเปิ้ลที่ทำจากผลผลิตในท้องถิ่น!)
แม้ว่าทางโรงแรมจะไม่ได้มีส่วนของห้องอาหารให้บริการ แต่ก็ไม่ได้ความว่าเราจะต้องหิวโหยออกไปหาของกินข้างนอกแต่เช้า เพียงสั่งจองอาหารเช้าล่วงหน้าตอนจองห้องพัก ก็จะมีกล่องเบนโตะข้าวเช้าแสนอร่อยที่อันแน่นไปด้วยอาหารประจำถิ่นมารอเราอยู่ที่แผนกต้อนรับในตอนเช้าแล้ว
สำหรับกล่องข้าวที่ทีมงานสั่งมามีข้าวโอโควะ ข้าวที่ปรุงด้วยผักท้องถิ่น หมูฮิดะสไลซ์ และอินาริโซบะ (เต้าหู้ทอดสอดไส้โซบะ) ให้เราได้ลิ้มรสแบบท้องถิ่นกิฟุเวอร์ชั่นอัปเกรดที่ปรุงโดยเชฟมืออาชีพ!
Fairfield by Marriott Gifu Takayama Shirakawa Go (フェアフィールド・バイ・マリオット・岐阜高山白川郷)
46-1 Sarumaru, Shokawacho, Takayama, Gifu
Check-in/Check-out: 15:00/11:00
Official Website (en)
Day 2: ท่องเที่ยวแนวย้อนยุครอบ Gero Onsen
และแล้วก็เข้าสู่วันที่ 2 ของทริป จะมีที่เที่ยวแบบไหนรอเราอยู่ ไปดูกันเลย!
รับยามเช้าที่ทาคายามะ
เราเริ่มต้นวันที่ 2 กันที่เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกกันติดปากว่า "ฮิดะ-ทาคายามะ" (เพื่อไม่ให้สับสนกับทาคายามะในจังหวัดอื่น ๆ) ในอดีตเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองจากการขายสินค้าประเภทไม้และไม้แกะสลัก เป็นเมืองที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาอันอุดมสมบูรณ์
เสน่ห์ของฮิดะ-ทาคายามะที่ไม่เหมือนที่ไหนคือการที่ฮิดะ-ทาคายามะยังคงรักษาบรรยากาศและอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แค่เดินไปตามตรอกซอกซอยในเมืองก็เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในญี่ปุ่นโบราณแล้ว!
เราเริ่มต้นเช้าที่ตลาดเช้าจินยะมาเอะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่หน้าอาคารรัฐบาลเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตลาดเช้าแห่งนี้มีมาตั้งช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยในสมัยนั้นเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องมัลเบอร์รี่ (หม่อน) ในปัจจุบันเป็นตลาดขายของสด ขนมอบ ผักดอง ดอกไม้ และสินค้าอื่น ๆ หมุนเวียนตลอดทั้งปี ทางทีมงานโชคดีที่มาในช่วงฤดูแอปเปิ้ล เลยได้ลองแอปเปิ้ลที่มีรสชาติหวานเหมือนลูกกวาด
Jinya-mae Morning Market (陣屋前朝市)
1-5 Hachikenmachi, Takayama, Gifu
Hours: 7:00 – 12:00
Official Website (jp)
ข้ามแม่น้ำมิยะงะวะมาจะพบกับย่านซันมาจิอันเก่าแก่ซึ่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาจากธุรกิจค้าไม้ในอดีต เดินชมบ้านของพ่อค้าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ เดินเที่ยวไปบนถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในอาคารเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
Sanmachi Historical Area (飛騨高山古い町並 三町伝統的建造物群保存地区)
Kamisannomachi, Takayama, Gifu
สำหรับแฟน ๆ ของภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่อง Your Name (Kimi no Na wa/君の名は) ต้องไม่พลาดแวะมาที่ศาลเจ้า Hie Shrine ที่อยู่ทางใต้ของตลาดและย่านเมืองเก่า มีบางแหล่งข้อมูลบอกว่าผู้กำกับชินไค มาโคโตะ (Makoto Shinkai) น่าจะได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบเมืองในเรื่องจากเมืองทาคายามะแห่งนี้ แถมศาลเจ้าฮิเอก็ดูมีส่วนที่คล้ายกับศาลเจ้ามิยามิสึของตัวละครเอกไม่น้อย จะเหมือนมากน้อยแค่ไหนอาจจะต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเท่านั้น!
Takayama Hie Shrine (飛騨山王宮・日枝神社)
156 Shiroyama, Takayama, Gifu
เวลาให้บริการ: 8:30 – 16:30
Official Website (jp)
แวะกินอาหารริมทางและพักแช่เท้าที่เกโระออนเซ็น
จังหวัดกิฟุเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำพุร้อนธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกโระออนเซ็นที่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ชื่นชอบน้ำพุร้อนมาอย่างตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ตามคำบอกเล่าในเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่เรียกว่าโชคุ นิฮงกิ
บ่อน้ำพุร้อนในแถบนี้ยังคงมีน้ำร้อนพวยพุ่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย มีโรงอาบน้ำมากมายที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่รักการแช่ออนเซ็น โดยออนเซ็นที่นี่ก็มีชื่อในด้านช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม
หรือถ้าใครที่อยากสัมผัสออนเซ็นแบบเบา ๆ บ่อน้ำพุร้อนแช่เท้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ทีมงานเลือกลงไปพักเท้ากันที่บ่อของฟุนเซนจิ ตัวบ่อออนเซ็นทำจากหินที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม นั่งพักแช่เท้าแล้วปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับวิวที่มีสะพานเกโระโอฮาชิที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำฮิดะเป็นฉากหลัง
Funsenchi Outdoor Footbath (下呂温泉 噴泉池)
Koden, Gero, Gifu
ถนนริมแม่น้ำเกโระออนเซ็นเป็นขุมสมบัติของของว่างและขนมหวานแสนอร่อย หลังจากกินซาลาเปาไส้เนื้อฮิดะ (วากิว) ท้องถิ่นที่สอดไส้ด้วยเนื้อลายหินอ่อนชุ่มฉ่ำแล้วก็ได้เวลาของของหวาน! เราเลือกแวะกันที่ร้านยุมิยะที่มีพุดดิ้งสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งอุ่นด้วยน้ำออนเซ็นระบบหมุนเวียนเป็นสินค้าเอกของร้าน ตามด้วยไอศกรีมไข่ออนเซ็น (ออนทามะ ซอฟต์เสิร์ฟ/温玉ソフト) ไอศกรีมที่ราดหน้าด้วยไข่ต้มยางมะตูมที่ต้มด้วยน้ำพุร้อน รสชาติอ่อน ๆ และความเข้มข้นของไข่ผสมเข้ากันอย่างลงตัวกับไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสหวานและครีม (ที่ร้านมีอ่างแช่เท้าด้วย แช่เท้าไปกินขนมก็เพลินดีไม่น้อย)
Yuamiya (ゆあみ屋)
801-2 Yunoshima, Gero, Gifu
เวลาให้บริการ: 9:00 – 18:30
Official Website (en)
ชมบ่อน้ำที่งดงามราวกับภาพวาดของโมเนต์ในโลกแห่งความเป็นจริง
และแล้วเราก็ออกเดินทางไปต่อกันที่เมืองเซกิ เพื่อไปยัง Namonaki Ike (名もなき池) ที่แปลว่าบ่อน้ำไร้ชื่อหรือบ่อน้ำนิรนาม ที่นี่นับจุดท่องเที่ยวเลื่องชื่อติดอันดับท็อปของกิฟุที่นักท่องเที่ยวหลายพันคนต่างพากันมาชมความงามของบ่อน้ำแห่งนี้ในทุก ๆ วัน
Namonaki Ike เป็นบ่อน้ำที่ใสสะอาดจนมองเห็นก้นสระ มีดอกบัวและปลาคราฟแหวกว่ายอย่างมีชีวิตชีวา แต่เดิมบ่อน้ำแห่งนี้เป็นเพียงบ่อน้ำธรรมดา ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าศาลเจ้าเนมิจิ ราวปี 2015 ได้มีคนถ่ายภาพของสระน้ำลงในโลกโซเชียล ความงดงามที่ลงตัวของบ่อน้ำ, ปลาคราฟ และดอกบัวนั้นทำให้ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นบ่อน้ำที่สวยงามราวกับภาพกับวาด Claude Monet (คลอด โมเนต์) ในโลกแห่งความเป็นจริงยังไงยังงั้น! ทำให้ชาวโซเชียลต่างเรียกบ่อน้ำแห่งนี้ว่าเป็นบ่อน้ำของโมเนต์ (Monet's Pond) และกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยี่ยมเยือน
น้ำในบ่อเป็นน้ำจากน้ำพุร้อนในบริเวณนั้น มีลักษณะเป็นสีฟ้าอมเขียว โดยสีที่มองเห็นจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแสงในช่วงเวลานั้น ๆ ช่วงเวลาที่คนนิยมมากันมากที่สุดคือช่วงหน้าร้อนที่ดอกบัวบานเต็มสระและช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่รอบสระถูกโอบล้อมไปด้วยใบไม้สีแดง
Monet's Pond (モネの池)
440-1 Itatori, Seki, Gifu
Official Website (jp)
ชมดาบซามูไรและมีดทำครัวที่ Seki Hamono Museum
หลังจากที่วันแรกเราไปเยี่ยมชมปราสาทของซามูไรกันมาแล้ว ในวันที่ 2 เราก็มาตามรอยซามูไรกันต่อที่ Seki Hamono Museum
ดาบญี่ปุ่นเป็นดาบที่มีกระบวนการผลิตที่เฉพาะตัวมาก ๆ เริ่มจากการใช้ความร้อนให้เหล็กอ่อนตัว นำแผ่นเหล็กมาพับและตีซ้อนกันเป็นชั้น ๆ บนทั่งตีเหล็กจนได้เป็นรูปร่างที่ต้องการ กรรมวิธีการผลิตแบบนี้ทำให้ได้เนื้อโลหะที่แข็งแกร่งแต่มีความยืดหยุ่น เป็นงานที่ต้องใช้แรง ความละเอียดและความเชี่ยวชาญของประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ยังไม่รวมความอดทนเพราะต้องทำงานภายในห้องที่มีความร้อนสูง ซึ่งที่เมืองเซกิแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในแหล่งตีดาบเลื่องชื่อมาตั้งแต่หลายศตวรรษก่อน
ที่พิพิธภัณฑ์เซกิ ฮาโมโนะ (Seki Hamono Museum) มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการที่บอกเล่ากระบวนการผลิตดาบตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนนำก้อนเหล็กเข้าสู่กรรมวิธีที่ซับซ้อนจนขึ้นรูปเป็นใบมีดไปจนถึงการขัดเงาและตกแต่งขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปของช่างตีดาบระดับปรมาจารย์คาเนะฟุสะ ฟูจิวาระ (Kanefusa Fujiwara) ซึ่งปัจจุบันสืบทอดมาถึงรุ่นที่ 25 และ 26 แล้ว
สำหรับคนที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์แบบใกล้ชิดสุด ๆ ก็สามารถจอง sword forging tour มาล่วงหน้า เพื่อเข้าร่วมลองตีดาบด้วยตัวเอง! (ลองตีเหล็ก, เป็นผู้ช่วยจับดาบให้ผู้เชี่ยวชาญตี)
นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงดาบของ Kanefusa Fujiwara และร้าน Cutler Sansyu (คัตเลอร์ ซันชู) สำหรับหาซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน ซึ่งก็ไม่ได้มีเฉพาะดาบซามูไรเท่านั้น แต่ยังมีมีดที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวันให้เลือกซื้ออีกด้วย
ในพื้นที่แถบเซกิมีการอนุรักษ์ศิลปะการตีดาบในท้องถิ่นรูปแบบดั้งเดิมพร้อม ๆ กับประยุกต์นำทักษะช่างตีดาบไปใช้ในการผลิตมีดทำครัว กรรไกร และสินค้าอื่น ๆ มีทำครัวที่ตีโดยช่างทำดาบซามูไรขนานแท้ แค่คิดก็เท่แล้ว!
Cutler Sansyu / Seki Hamono Museum (刃物屋三秀/関刃物ミュージアム)
950-1 Oze, Seki, Gifu
เวลาให้บริการ: 9:00 – 16:30
Official Website (en)
เที่ยวชมบ้านเรือนสมัยเอโดะและโคมไฟในมิโนะ
มาต่อกันที่เมืองมิโนะซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองปราสาทกุโจและแหล่งช่างตีดาบแห่งเซกิ ในอดีตมิโนะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองจากการเป็นท่าเรือเล็ก ๆ สำหรับพ่อค้าที่เดินไปตามแม่น้ำนาการะ ต่อมาราวศตวรรษที่ 8 ก็เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตกระดาษวาชิคุณภาพสูง นำมั่งคั่งมาสู่ชุมชนเป็นอย่างมาก ซึ่งร่องรอยความเจริญนั้นก็ยังคงปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนจากถนนและบ้านเรือนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของคนในชุมชนจนถึงปัจจุบัน บ้านหลายหลังได้รับการดัดแปลงให้เป็นร้านค้าเล็ก ๆ และร้านคาเฟ่อีกด้วย เป็นอึกหนึ่งเมือวที่เหมาะกับเดินเล่นในบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินมาก ๆ
ในด้านประวัติการวางผังเมืองด้วยความที่ตัวเมืองถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่สูงห่างจากแม่น้ำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากน้ำท่วม ในทางกลับกันก็ทำให้บ้านเรือนอยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ชาวมิโนะจึงสร้างแนวกันไฟที่เรียกว่า "udatsu" กั้นระหว่างแนวชุมชน
นอกจากนี้เมืองมิโนะยังเป็นบ้านเกิดของ ชิอุเนะ ซูกิฮาระ นักการทูตชาวญี่ปุ่นผู้ช่วยชีวิตผู้ลี้ภัยชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่สองหลายพันคนด้วยการออกวีซ่าให้
Mino Udatsu Wall Historical District
Mino, Gifu
มิโนะเป็นเมืองที่เปลี่ยนการผลิตกระดาษวาชิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เป็นอุตสาหกรรม ส่งออกแผ่นกระดาษหม่อนไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ในทางกลับกันกระดาษวาชิก็ช่วยเปลี่ยนมิโนะให้กลายเป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรือง ปัจจุบันเรายังพบกระดาษวาชิได้ทั่วทุกแห่งในเมือง มีการประยุกต์นำกระดาษวาชิมาทำเป็นโคมวาชิประดับในงานต่าง ๆ
ทุกเดือนตุลาคมจะมีการจัดงาน Mino Washi Akari Art Exhibition จัดแสดงโคมไฟที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ถนนกลางใจเมืองมิโนะ และถึงจะมาไม่ตรงกับช่วงงานเทศกาลก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะมีการจัดประดับโคมไฟตลอดปีที่ Mino Washi Akari Art Museum ให้เราได้ไปสัมผัสกับแสงไฟสวย ๆ กัน
Mino Washi Akari Art Museum (美濃和紙あかりアート館)
1901-3 Motozumicho, Mino, Gifu
เวลาให้บริการ: 9:00 – 16:00 (หยุดทุกวันอังคาร)
Museum Official Page (jp) | Akari Art Exhibition Official Website (jp)
Night 2: เข้าพักคืนที่ 2 กันที่โรงแรม Fairfield by Marriott Gifu Mino
และแล้วก็มาถึงเวลาสำหรับการพักผ่อนหลังจากตะลอนเที่ยวจนหมดวัน โดยวันนี้เราเข้าพักกันที่ Fairfield by Marriott Gifu Mino ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำนาการะ แน่นอนว่าโรงแรมสาขานี้ก็ตั้งอยู่ใกล้กับจุดพักรถ จึงสะดวกในการแวะซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ
ภายในโรงแรมพรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายและ community counter เช่นเดียวกับสาขาที่เราเข้าพักเมื่อวาน ตัวห้องมีให้เลือกทั้งแบบห้องเตียงแฝดและเตียงคิงไซส์ แน่นอนว่าที่นี่ก็มีล็อบบี้ที่เราสามารถผ่อนคลายไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามนอกหน้าต่างและการตกแต่งภายในที่มีกิมมิคของความเป็นญี่ปุ่นไว้รองรับด้วยเช่นกัน
เพื่อไม่ให้เสียชื่อที่ตั้งอยู่ในแถบมิโนะ ทางโรงแรมก็มีการตกแต่งทั่วบริเวณด้วยของตกแต่งกระดาษวาชิ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟกระดาษลายลูกไม้ พัด และร่ม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงภาพถ่ายสถานที่สำคัญในท้องถิ่นและวัฒนธรรมมิโนะบนผนังในกรอบภาพกระดาษวาชิ (มีภาพถ่ายของย่านเมืองเก่าใกล้โรงแรม และภาพบ่อน้ำของโมเนต์ด้วย!)
ที่ร้านของขายที่ระลึก The Market ที่อยู่ภายในโรงแรมมีสินค้าท้องถิ่นมากมายให้เราได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟกระดาษวาชิ ของว่างหรือเครื่องดื่ม
Fairfield by Marriott Gifu Mino (フェアフィールド・バイ・マリオット・岐阜美濃)
2001-1 Shiroshita, Sodai, Mino, Gifu
Check-in/Check-out: 15:00/11:00
Official Website (en)
ภายในโรงแรมมีจุดจำหน่ายขนมญี่ปุ่นและของที่ระลึกในท้องถิ่น เช่น มิโนะมาชินามิมันจู (ซาลาเปาถั่วแดง) หรือหากเดินออกจากโรงแรมแล้วเดินข้ามลานจอดรถไปก็จะพบกับจุดพักรถ Mino Niwakajaya ที่มีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่ของสดไปจนถึงขนม เหมาะมาก ๆ สำหรับหาซื้อเสบียงไว้กินเล่นระหว่างนั่งรถกลับบ้านหรือหาของฝากท้องถิ่นติดไม้ติดมือ ถ้าไม่รู้จะเลือกอะไรดี ทางทีมงานขอขอแนะนำเป็นเส้นโซบะหรือแม้แต่คราฟต์โคล่าเข้มข้น!
Road Station Mino Niwakajaya (道の駅 美濃にわか茶屋)
2007 Sodai, Mino, Gifu
เวลาให้บริการ: 8:30 – 18:00
Official Website (jp)
กลับมาที่นาโกย่า
ทริปกิฟุ 2 วันเต็มพาเราท่องข้ามกาลเวลาไปยังเมืองเก่า ชมปราสาทซามูไร เที่ยวออนเซ็น ลิ้มรสเนื้อวากิวและโซบะ เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวในอีกมิติสำหรับคนที่อยากลองเที่ยวญี่ปุ่นในมุมที่แตกต่าง หากใครที่กำลังคิดอยากลองเช่ารถขับเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองสัก 2 – 3 วัน ทริปกิฟุก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
▶︎ สำหรับคนที่สนใจการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็สามารถดูรีวิวโรดทริปเกียวโตของเราได้ที่นี่ หรือหากใครที่กำลังมองหาที่พักแสนสบายใกล้จุดพักรถระหว่างการเดินทางในเส้นทางอื่น ๆ ก็สามารถดูเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Fairfield by Marriott ได้ที่นี่เลย
ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง X (Twitter) และ Facebook!
Details
NAME:Fairfield by Marriott (フェアフィールド・バイ・マリオット)
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MOREA Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00) *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination
Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru
See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium
The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส
Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics
⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta
Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon
Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄