Sponsored

รีวิวเทศกาลที่น่าสนใจในญี่ปุ่น | มาร่วมเทศกาลของญี่ปุ่น (หรือมัตสึริ) กับเทศกาลเมืองสีรุกะ จังหวัดมัตสึริกันเถอะ!!

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line



ในวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา JAPANKURU ได้เดินทางไปที่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่อยู่ค่อนไปทางใต้ของจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ที่เรียกว่าเมืองสึรุกะ (Tsuruga (敦賀市)) โดยปกติแล้ว หากให้เพื่อนๆนึกถึงเมืองท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เพื่อนๆก็คงจะนึกถึงโตเกียว, โอซาก้า, เกียวโต และโอกินาว่า ประมาณนี้ใช่ไหมละ สำหรับเพื่อนๆหลายคน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำไป ที่ได้ยินชื่อจังหวัดฟุกุอิ และถ้าหากเพื่อนๆลองไปถามคนญี่ปุ่นดูเกี่ยวกับจังหวัดฟุกุอิละก็ คนญี่ปุ่นหลายคนก็จะตอบว่า ไม่รู้ว่ามีอะไรที่น่าไปเที่ยวที่นั่นอยู่เหมือนกัน แล้วจากคำกล่าวแบบนี้แล้ว ทำไมพวกเราถึงยังตัดสินใจที่จะเดินทางไปที่นั่นอีกละ? โดยในทุกๆปีของการเริ่มต้นเดือนกันยายน จะมีการจัดเทศกาล (ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า มัตสึริ (Festival)) ในเมืองสึรุกะ จังหวัดฟุกุอิ เป็นจำนวน 4 วัน แต่ว่าในครั้งที่เรามานี้ เป็นช่วงพายุไต้ฝุ่นเข้าประเทศญี่ปุ่นพอดี ทำให้ในวันสุดท้ายของเทศกาลมีฝนตกตลอดทั้งวัน ซึ่งวันสุดท้ายนั้น ก็เป็นกิจกรรมหลักของเทศกาลนี้เสียด้วยสิ แต่ถึงจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เทศกาลนี้ก็ยังคงมอบประสบการณ์ดีๆให้กับพวกเราอยู่ดีละนะ และแน่นอนว่าทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ก็มีเทศกาลที่น่าสนใจอยู่มากมาย แต่ว่าในครั้งนี้ พวกเราขอมาแนะนำเทศกาลสึรุกะ (Tsuruga Festival (敦賀祭り)) พร้อมกับอธิบายเหตุผลว่าทำไมเราถึงมาเที่ยวเทศกาลนี้ให้เพื่อนๆฟังกัน มาดูกันเลยดีกว่า~

มาทำความรู้จักกับเมืองสึรุกะ จังหวัดฟุกุอิกันก่อนดีกว่า



จังหวัดฟุกุอิ ตั้งอยู่ที่บริเวณภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ในภูมิภาคชูบุ และเมืองสึรุกะนี้ ก็ตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของจังหวัดฟุกุอิ และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 6,600 คน และเมื่อถึงช่วงเวลาแห่งเทศกาลสึรุกะที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนกันยายนของทุกๆปีนั้น เมืองที่เงียบสงบแห่งนี้ ก็เติมแต่งไปด้วยสีสันมากมาย ทำให้เทศกาลนี้ดูน่าสนใจ และดึงดูดใจสุดๆ บางทีอาจจะสามารถดึงดูดความสนใจจากมิกกี้เมาส์แห่งโตเกียวดิสนีย์แลนด์ได้เลยด้วยซ้ำนะ!

วิธีการเดินทางมายังเมืองสึรุงิ จังหวัดฟุกุอิ:
➤ จากโตเกียว:
ขึ้นรถไฟหัวกระสุนฮิการิ (Hikari) มายังสถานีมาอิบาระ (Maibara Station (米原駅)) และเปลี่ยนรถไฟไปยังรถไฟด่วนพิเศษชิราซางิ (Shirasagi) และไปลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

➤ จากโอซาก้า:
จากสถานีโอซาก้า (Osaka Station (大阪駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

➤ จากเกียวโต:
จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station (京都駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

เทศกาลสึรุกะ (Tsuruga Festival (敦賀祭り))



เทศกาลสึรุกะนี้ จัดขึ้นในทุกๆปีของต้นเดือนกันยายน และบางทีชาวเมืองก็เรียกเทศกาลนี้กันว่า “บากะมัตสึริ” (baka matsuri) เพราะว่าทุกๆคนที่มา ดูบ้าบอกันสุดๆเลยในช่วงเวลานี้ โดยปกติแล้ว การจัดเทศกาลงานต่างๆในประเทศญี่ปุ่น มักจะจัดขึ้นในฤดูร้อน เพราะว่าทั้งครอบครัวจะได้มาร่วมงานเทศกาลด้วยกันทั้งหมดได้ แต่ว่าเทศกาลสึรุกะนี้กลับจัดในช่วงเวลาที่พ้นการปิดภาคเรียนฤดูร้อนของเด็กๆมาแล้ว และโรงเรียนก็เปิดเรียนกันไปตามปกติแล้ว ถ้าจะเข้าร่วมละก็ เด็กๆสามารถลาเรียนได้ และผู้ใหญ่ก็สามารถลางานได้ด้วย เพื่อนๆพอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมละ ว่าเทศกาลสึรุกะนี้ มันสำคัญต่อชาวเมืองฟุกุอิขนาดไหน โดยในเทศกาลก็จะมีกิจกรรมมากมายหลากหลายธีมต่างๆนานากันไป เป็นการสร้างสรรค์การแลกเปลี่ยนในเรื่องราวต่างๆ รวมถึงประสบการณ์ต่างๆระหว่างแต่ละกลุ่มของคนในเมือง ดูๆแล้วไม่เหมือนกับเทศกาลอื่นๆที่จัดขึ้นในเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียว หรือเกียวโตเลยใช่ไหมละ



ในปีนี้เทศกาลเริ่มต้นขึ้นด้วยคานิวัล ยาวตลอดแนวถนนคากุระโจ (Kagura-cho Street (神楽町)) ในวันที่ 1 กันยายน ส่วนตัวงานเทศกาลจริงๆนั้น จะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าจะถึงวันที่ 2 กันยายน และในวันแรกที่เริ่มต้นด้วยคานิวัลที่เหมือนเป็นการป่าวประกาศ หรือ “การแจ้งเตือน” ให้กับทุกๆคนได้ทราบ ได้เริ่มต้นด้วย โยอิยามะ จุนโก (Yoiyama Junko (宵山巡行)) ชาวเมืองฟุกุอิจะมีความคิดต่อโยอิยามะ จุนโกะ ว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากๆของเทศกาลสึรุกะ เพราะชาวเมืองจะเชื่อกันว่า หากไม่มีสิ่งนี้ เทศกาลก็จะเริ่มต้นไม่ได้เลยทีเดียว ลองดูไปที่การตกแต่งของขบวนเกี้ยวนี้สิ (จากที่เห็น เกี้ยวจะถูกยกลอยขึ้น ในภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกการแห่เกี้ยวแบบนี้ว่า “dashi” 山車) ชาวเมืองจะเรียกกันว่า “โยอิยามะ” (Yoiyama) และบนเกี้ยวก็จะมีเด็กๆที่เต้นรำไปพร้อมๆกับเพลงญี่ปุ่นดั้งเดิมที่บรรเลงไป และในขณะเดียวกัน ก็จะแห่เกี้ยวมุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าเคฮิ (氣比神宮) เพื่อไปรับพรโดยพระจากนิกายชินโตที่นั่น จากนั้นก็จะทำการแห่ขบวนเกี้ยวนี้ไปวนรอบๆเมืองเลยละ

พวกเราได้เห็นอะไรแบบนี้มานิดหน่อยจากเทศกาลอื่นๆ แต่ว่ายังไม่เคยดึงโยอิชะ (Yoisha) หรืออะไรทำนองนี้แบบจริงๆมาก่อนเลย! โดยปกติแล้ว อะไรแบบนั้นคงจะเอาไว้ให้เฉพาะชาวเมืองไว้สำหรับการสักการะ หรือกิจกรรมประเพณีดั้งเดิมเท่านั้น แต่ว่าในความเป็นจริง ที่เมืองสึรุกะนี้ ยินดีต้อนรับทุกผู้ทุกคนที่มีความสนใจให้มาเข้าร่วมกันได้หมดเลยละ! โดยไม่สนว่าเพื่อนๆจะอาศัยอยู่ที่ใด หรือจะมาจากไหน –ทุกๆคน– สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ในเทศกาลญี่ปุ่นแบบนี้ได้จริงๆ!! และนั่นแหละก็เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงได้เดินทางมาเข้าร่วมเทศกาลนี้ที่เมืองสึรุกะละ!









ในคืนนั้นพวกเราได้โอกาศอันดีพอดีที่จะได้เข้าร่วม และสัมผัสกับชาวเมืองท้องถิ่นที่นี่ ที่ขบวนพาเหรดเต้นรำพื้นเมืองยามค่ำคืนของเทศกาลสึรุกะ โดยในระหว่างการเดินขบวนพาเหรดนี้ แต่ละแขวงของเมืองสึรุกะ ก็จะแสดงถึงความเป็นตัวตนของแต่ละแขวงออกมาโดยการทำ “ขบวนแห่” เพื่อแห่และเต้นไปรอบๆเมือง พร้อมกับการใส่ชุดฮัปปิ (ハッピ; happi) ด้วยลักษณะที่ต่างๆกันไป และชุดยูกาตะก็ด้วย และในค่ำคืนนี้ก็มีการแสดงการเต้นรำพื้นเมืองทั้งหมด 3 ชุดด้วยกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยนะ เพราะเนื่องจากเรามาเข้าร่วมกับแขวงแขวงหนึ่งที่ทำการแสดงในเทศกาลนี้ พวกเขาก็สอนวิธีเต้นให้กับพวกเราละ!

ในค่ำคืนนี้มีประชาชนชาวเมืองรวมๆแล้วก็กว่า 3,000 คน มาเข้าร่วมในขบวนพาเหรดเต้นรำพื้นเมืองกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว และนอกเหนือจากการเต้นรำแล้ว ก็ยังมีร้านแผงอาหารท้องถิ่นขายอยู่เยอะแยะไปหมดเลยละ แล้วยังมีมาสคอตที่เป็นไดโนเสาร์เดินไปเดินมารอบๆอีกด้วย ทั้งสนุกและคุ้มค่าสุดๆที่ได้มาเห็นมาเยี่ยมชมเลยละ~







ขบวนแห่ศาลเจ้าเคลื่อนที่ (神輿渡御; Mikoshi Togyo)

มิโคชิ (มักจะแปลได้ว่า “ศาลเจ้าเคลื่อนที่”) ใช้สำหรับการแห่พระเจ้าไปรอบๆเมืองในระหว่างที่อยู่ในเทศกาลชินโต พระเจ้าจะถูกย่อส่วนให้อยู่ในศาลเจ้าขนาดย่อส่วนนี้ และการขบวนการแห่นี้ก็จะมีแค่ในช่วงเทศกาลแบบนี้เท่านั้น โดยขบวนจะเคลื่อนไปรอบๆเมือง เพื่อไปหาผู้ที่กำลังเฉลิมฉลองกับเทศกาล และอยากจะขอพรกับพระเจ้า ประเพณีดั้งเดิมแบบนี้จะรู้จักกันในชื่อ “มิโคชิ โทเกียว” (Mikoshi Togyo (神輿渡御)) แล้วก็เช่นกัน ขบวนการแห่ศาลเจ้านี้จะคล้ายๆกับการเต้นรำพื้นเมือง ที่แต่ละแขวงก็จะมีเอกลักษณ์ของตนเองที่ต่างๆกันออกไป ส่วนแขวงที่พวกเราได้ไปเข้าร่วมด้วยนั้น มีการแต่งกายด้วยชุดสีขาวล้วน ที่มีการตกแต่งเป็นลายสีน้ำเงินหน่อยๆ พร้อมทั้งแห่มิโคชิของเด็ก และแม้ว่าจะเป็นมิโคชิของเด็ก แต่ก็หนักใช่เล่นเลยนะเนี่ย!! นี่พวกเขาทำกันมาหลายต่อหลายปีแล้วได้ยังไงเนี่ย







และหลังจากที่ได้รับโอกาสในการเปลี่ยนชุดเป็นชุดตามแบบประเพณีดั้งเดิมที่ฮอลล์รวมของแขวงแล้ว พวกเราก็ได้เริ่มต้นเข้าร่วมขบวนมิโคชิ โทเกียวกันแล้วละ! พวกเราได้แบกมิโคชิไปรอบๆเมืองเพื่อไปยังศาลเจ้าเคฮิ และยังมีการหยุดตามตึกรามบ้านช่องเพื่อโยนมิโคชินี้ขึ้นไปบนอากาศอีกด้วย และถ้าหากว่ามีใคร หรือบริษัทไหนที่ทำการบริจาคให้ พวกเขาจะแขวนกระดาษเกียรติยศสีขาวที่ได้มาจากพระ เอาไว้บนหน้าต่างของศาลเจ้า เมื่อผู้ที่แบกมิโคชิเห็น พวกเขาจะทำการโยนมิโคชิขึ้นบนอากาศ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ​ และเมื่อพวกเขาแห่กันไปถึงศาลเจ้าเคฮิแล้ว จะมีพิธีการสวดให้พรเล็กๆน้อยๆอยู่ จากนั้นพวกเราก็มาแบกมิโคชิกันไปรอบๆเมืองกันต่อ และในเทศกาลนี้ก็ยังมีโอกาสให้พวกเราได้ดื่มสาเกญี่ปุ่นกันอีกด้วย! ทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมดั้งเดิมทั้งหมดเลยละ พอพวกเราได้ดื่มสาเกกันให้ชื่นใจแล้ว ก็ลืมเป็นปลิดทิ้งไปเลยว่าจริงๆแล้วมิโคชิมันหนักมากแค่ไหนน่ะ

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆในจังหวัดฟุกุอิ – เรนโบว์ไลน์​ (Rainbow Line)





แล้วถ้าหากเพื่อนๆไปเที่ยวทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุอิในช่วงที่ไม่มีเทศกาลแล้ว จะไปไหนดีละ? พวกเราขอแนะนำที่นี่เลย เรนโบว์ไลน์​ (Rainbow Line) ในเมืองวากาซะ ลองขึ้นลิฟต์ไปยังยอดเขาของภูเขาบะอิโจดาเคะ (Mt.Baijodake) และไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุดๆกับ ทะเลสาบมิกาตะทั้งห้า ดูสิ ทะเลสาบนี้จะประกอบไปด้วย ทะเลสาบมิกาตะ (三方湖), ทะเลสาบซุยเกะสึ (水月湖), ทะเลสาบซุกะ (菅湖), ทะเลสาบคุกุชิ (久々子湖) และทะเลสาบฮิรุกะ (日向湖) แล้วทำไมถึงต้องเรียกว่าเรนโบว์ไลน์ เพื่อนๆสงสัยกันอยู่ใช่ไหมละ ท่านเจ้าของได้อธิบายเอาไว้ว่า ทะเลสาบทั้งห้าที่นี่นั้น มีคุณภาพความเค็มในน้ำต่างกันอยู่ (มี 1 ทะเลสาบที่เป็นน้ำทะเล, 3 ทะเลสาบตรงกลางเป็นน้ำกร่อย (คือนำ้ทะเลผสมน้ำจืด) และอีก 1 ทะเลสาบที่เหลือเป็นน้ำจืด) ด้วยความต่างแบบนี้ ทำให้สีของน้ำในแต่ละทะเลสาบแตกต่างกันออกไปด้วย และเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังผิวน้ำของแต่ละทะเลสาบแล้ว จะเกิดเชดสีใหม่ๆของสีเขียวและน้ำเงินขึ้น ทำให้เกิดเป็น “สีรุ้ง” (Rainbow) นั่นเอง

และสิ่งที่พวกเราชื่นชอบมากๆเกี่ยวกับสถานที่นี่ก็คือ ไม่เพียงแต่ที่นี่จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากมายให้ทำกัน และที่นี่ก็ยังเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับการมาเพลิดเพลินทำกิจกรรมต่างๆได้อีกด้วย มีตั้งแต่สวน, หินคู่รัก, ชิงช้า และเปลให้ได้ผ่อนคลายกัน ที่นี่ไม่เหมือนยอดเขาอื่นๆที่เราเคยเห็นกันมาก่อนเลยละ และสิ่งที่น่าสนุกที่น่ามาลองทำกันอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การไปเยี่ยมชมคาวาราเกะ (かわらけ) ที่อยู่ใกล้ๆกับเทนงุ-โดะ (天狗堂) ไปเขียนคำขอพรบนจานดินเหนียวกัน จากนั้นก็โยนมันลงไปในทะเลสาบได้เลย! ไม่ต้องห่วงเรื่องจานว่าจะเป็นยังไง จะเป็นขยะไหมหลังจากที่โยนลงไปเลยนะ เพราะว่าจานนี้จะสามารถย่อยสลายเองได้เมื่อเจอฝนละ



✴Rainbow Line (レインボーライン )
18-2-2 Kiyama, Wakasa-cho, MikataKaminaka-gun, Fukui
Google Maps
⏰08:00 ~ 18:00 น.
*เวลาเปิดทำการอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลต่างๆได้ ดังนั้นขอให้เพื่อนๆลองตรวจสอบที่หน้าเว็บไซต์โฮมเพจกันก่อนนะ
💴ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 600 เยน (อายุ 6-15 ปี) และส่วนลดสำหรับผู้พิการ 600 เยน
💻Rainbow Line homepage





เฮชิโกะ เป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณที่ไม่สิ้นสุด และยังเป็นสินค้าแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่เมืองวาคาซะ และโอบามะ มีชื่อเสียงในจังหวัดฟุกุอิ เฮชิโกะ หรือปลาแม็กเคอเร็ลดองนี้ เป็นการดองที่ผสมผสานไปด้วยการหมักจากรำข้าว และน้ำเกลือ และหลายๆคนที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับจานอาหารแบบนี้ ก็อาจจะแบบ ว้าว นิดหน่อย ในหลายปีก่อน ปลาแม็กเคอเร็ลของจังหวัดฟุกุอินี้ มีการนำมารับประทานกันเป็นปกติ แต่เนื่องมาจากการจับปลาที่มากเกินไป ทำให้ตอนนี้มันแทบจะไม่มีอยู่ในฟุกุอิอีกแล้ว ฉะนั้นปลาแม็กเคอเรลที่นำมาทำเฮชิโกะและเสิร์ฟในจังหวัดฟุกุอินี้ ล้วนนำเข้ามาจากประเทศนอร์เวย์ทั้งสิ้น

ที่นี่ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านที่เพื่อนๆสามารถมาลองทานเฮชิโกะกันได้ แต่ว่าถ้าหน้าตาของเฮชิโกะมันแปลกๆไปหน่อย เพื่อนๆก็สามารถไปทานกันได้ที่ร้าน ออโรร่า (Aurora) เพราะที่นี่เพื่อนๆสามารถทานเฮชิโกะที่อยู่ในรูปแบบแซนด์วิชเฮชิโกะ, สปาเกตตี้เฮชิโกะ และคาร์ปาซโซเฮชิโกะได้เลย เพื่อนๆสงสัยกันหรือเปล่าว่าทำไมร้านอาหารนี้ถึงนำปลาแม็กเคอเร็ลดอง มาทำให้อยู่ในรูปแบบของคาร์ปาซโซน่ะ แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลที่มีนั่นก็คือ ทางร้านอยากจะให้เด็กๆสามารถลองรับประทานกันได้ แต่ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้น มันล้ำลึกกว่านั้นไปอีก คือ โดยดั้งเดิมแล้ว ผู้คนจะกินเฮชิโกะกันเป็นมื้ออาหารเช้า พร้อมกับข้าวสวยสักถ้วย หรือจะทานพร้อมกับขนมและเบียร์ก็ได้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างจัดทำยากไปหน่อย ทำให้ผู้คนเริ่มไม่ชอบที่จะกินเฮชิโกะ และไม่ซื้อกินกันอีก เมื่อได้ยินดังนั้น จึงเกิดไอเดียขึ้นมา โดยนำเฮชิโกะนี้มาตัดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทำเป็นแบบอาหารแนวตะวันตกมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ชาวเมืองได้เห็นถึงวิธีการใหม่ๆที่จะกินเฮชิโกะได้ ในแบบที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

✴Aurora (オーロラ )
33-44-1 Kugushi, Mihama, Mikata-ku, Fukui
Google Maps
⏰08:00 ~ 22:00 น.

อย่าลืมติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆทุกวันของพวกเราได้ที่ JAPANKURU🐶

หรือเพิ่มพวกเราบน Google+InstagramFacebook และแบ่งปันรูปภาพสไตล์ญี่ปุ่นของคุณกัน 💖🗾



พวกเราได้มีช่วงเวลาดีๆที่เพลิดเพลินไปกับเทศกาลสึรุกะอย่างสนุกสนานเต็มที่กันไปเรียบร้อยแล้ว!
แล้วเพื่อนๆละ มาลองร่วมเทศกาลในปีหน้าดูสักหน่อยดีไหมละ?!!

วิธีการเดินทางมายังเมืองสึรุงิ จังหวัดฟุกุอิ:
➤ จากโตเกียว:
ขึ้นรถไฟหัวกระสุนฮิการิ (Hikari) มายังสถานีมาอิบาระ (Maibara Station (米原駅)) และเปลี่ยนรถไฟไปยังรถไฟด่วนพิเศษชิราซางิ (Shirasagi) และไปลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

➤ จากโอซาก้า:
จากสถานีโอซาก้า (Osaka Station (大阪駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

➤ จากเกียวโต:
จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station (京都駅)) ให้ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษทันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) มาลงที่สถานีสึรุกะ (Tsuruga Station (敦賀駅))

Details

ACCESS:สถานี Tsuruga

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji
#newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ 
#รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

See Kyoto Clearly With Your New Glasses
#japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU
#japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง 
#ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup
#pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon!
🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중
💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~
#tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon!
用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️
코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기

#pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items!
#pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

|

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS