แม้ว่ายุคนี้อะไรๆก็เป็นดิจิตอลไปแทบจะทุกอย่าง แต่การได้ใช้อะไรที่มัน manual บ้าง ก็ทำให้เราได้คิดถึงอดีต วันเก่าๆ เช่นกล้องฟิล์ม

ก่อนหน้านี้เราได้เคยเล่าถึง E-mook (หรือเรียกง่ายๆว่า นิตยสารที่มีของแถม) กันไปแล้ว ว่ามีสินค้ามากมาย หลากหลายชนิดวางขายอยู่ในร้านหนังสือทั่วไปในญี่ปุ่น เช่น กระเป๋า ของใช้ หมอน ฯลฯ ซึ่งวันนี้เราก็มีหนึ่งใน E-mook ที่น่าสนใจมาเล่าให้ทุกคนฟัง ซึ่งหากดูจากหัวข้อก็น่าจะรู้กันแล้วว่ามันคือ กล้อง นั่นเอง! 

E-mook เล่มนี้ เป็นหนึ่งในซีรี่ย์ 大人の科学マガジン (Otona no Kagaku Magazine, แปลได้ว่า นิตยสารวิทยาศาสตร์สำหรับผู้ใหญ่) มีการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2003 โดยเป็นอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ให้เราได้ประกอบใช้งานเอง เช่น กล้องจุลทรรศน์, เครื่องเล่นแผ่นเสียง, รถจักรไอน้ำ, นาฬิกากลไก แบบบาลานซ์, กล้อง Twin Lens Reflex, Pinhole planetarium (ท้องฟ้าจำลองแบบรูปเข็ม) และอีกมากมาย ดูรายชื่อทั้งหมดได้ที่นี่  รวมทั้งหมดกว่า 50 เล่ม ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจในวิทยาศาสตร์และชื่นชอบการ DIY ทำให้เกิดการตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง ในชื่อ Otona no Kagaku Magazine BEST SELECTION ในปี 2018 โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 3 เล่ม ได้แก่ 01 Pinhole planetarium (ท้องฟ้าจำลองแบบรูปเข็ม), 02 Twin Lens Reflex Camera และ 03 Projection Kaleidoscope 

ซึ่งสิ่งที่เราได้ไปเจอมาจากร้านหนังสือก็คือ Otona no Kagaku Magazine BEST SELECTION 02 Twin Lens Reflex Camera กล้องแบบคลาสสิก 

แต่ตอนแรกค่อนข้างลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ กลัวจะประกอบยาก กลัวจะใช้ไม่เป็น แต่มันก็น่าสนุกดี เราลองนึกภาพดูว่า ในขณะที่คนอื่นใช้สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด แต่เราถือกล้องตัวนี้ออกไปเดินเล่นและถ่ายรูปมันจะเท่ห์ขนาดไหนกันนะ เลยตกลงกับตัวเองว่า ซื้อ! ขนาดกล่องไม่ใหญ่ เท่ากับกระดาษ A4 ซึ่งภายในกล่องจะมีคู่มือ 1 เล่ม และอุปกรณ์สำหรับประกอบกล้อง แค่แกะออกมาก็ตื่นเต้นมากๆ

เริ่มประกอบแล้ว ภายในกล่องมีไขควงมาให้ด้วย สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มก็มีแค่ กรรไกรสำหรับตัดถุง แหนบ ซึ่งเราใช้สำหรับลอกสติ๊กเกอร์และเทปกาวสองหน้า (แต่ในคู่มือบอกว่าให้ใช้สก๊อตเทปแปะแล้วลอกออก) สายคล้องกล้อง (ถ้าต้องการ) และฟิล์ม 35mm ! 

ชิ้นส่วนแต่ละอย่างมีขนาดค่อนข้างเล็ก ต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้หล่นหาย 

ใกล้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว 

หมุนเลนส์ทั้งสองอันพร้อมๆกัน

ช่องมองภาพ ดูค่อนข้างยาก เพราะภาพที่เห็นนั้นกลับด้าน แต่มันมีเสน่ห์และทำให้เราอยากออกไปถ่ายรูป

เสร็จแล้ว! 
เราใช้เวลาประกอบกล้องไป 1 ชั่วโมงพอดี แม้ว่าบนกล่องจะเขียนไว้ว่า 40 นาทีก็ตาม (ฮ่าๆ) ขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ 

สำหรับภาพที่ได้จะได้มีความนวลๆ ฟุ้งๆ สไตล์วินเทจ แต่เนื่องจากว่าเราลืมซื้อฟิล์ม จึงยังไม่มีภาพจากกล้องมาให้ดูกัน ตอนนี้ดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายโดยกล้องตัวนี้ที่อยู่ในคู่มือและใน Instagram กันไปก่อน แต่ถ้าเราไปซื้อฟิล์มมาแล้วจะเก็บภาพมาอวดทุกคนแน่นอน!

🇯🇵ติดตามเรื่องราวจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook และ Twitter