Sponsored

เรื่องราวของเราในเมืองเทนโด ภาค 2

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

ประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบใหม่ในเมืองเทนโด

ครั้งก่อน เราได้นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจของเมืองเทนโดกันไปแล้ว และวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวน่าอัศจรรย์กันอีกครั้ง กับธรรมชาติที่สวยงาม, อาหารท้องถิ่น และวัฒนธรรม
เอาล่ะค่ะ พร้อมที่จะไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ที่ญี่ปุ่นกันรึยังเอ่ย ? ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย Let's go !

แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในยามากาตะ

วัดยามาเดระเป็นวัดของนิกายเทนได ที่ตั้งอยู่ในภูเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองยามากาตะ ก่อตั้งขึ้นในปี 860 โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Risshakuji ตั้งโดยพระสงฆ์ Ennin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศญี่ปุ่นในนาม Jikaku Daishi วัดยามาเดระเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สวยงาม บริเวณวัดครอบคลุมถึงบนเนินเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่สวยงามได้อย่างชัดเจน



คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับกวีนิพนธ์แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นชื่อ "ไฮกุ"ไหม 
มันเป็นรูปแบบของบทกวีภาษาญี่ปุ่นที่สั้นมากๆ การเขียนกลอนไฮกุ ผู้เขียนจะสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกและอารมณ์ของเขา และวัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีนักกวีไฮกุชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันในญี่ปุ่นขื่อ Matsuo Basho  นอกจากนั้นเขายังเป็นที่รู้จักในฐานะต้นแบบกวีไฮกุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย กลอนชื่อ Oku no Hosomichi (The Narrow Road to the Deep North) ถูกเขียนขึ้นในช่วง 150 วันที่เขาเดินทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และเมื่อตอนมาถึงที่นี่ Matsuo Basho นั้นประหลาดใจกับธรรมชาติที่สวยงาม จึงได้แต่งกลอนไฮกุอันไพเราะไว้ ซึ่งเกี่ยวกับความนิ่งและเงียบสงบของพื้นที่แห่งนี้ ปัจจุบันมีรูปปั้นของกวี Basho และแผ่นหินจารึกตั้งอยู่ด้านล่างของวัด

บันไดหินที่ช่วยให้คุณกำจัดปัญหาของคุณ!



เส้นทางที่เดินขึ้นไป Yama-dera เป็นบันไดหินประมาณ 1,015 ขั้น ตลอดทางจะพบโคมไฟหิน และรูปปั้นเล็กๆ ในป่า
และมีเรื่องเล่ากันว่า การก้าวขึ้นบรรได 1 ขั้น นั้นสามารถกำจัดปัญหาได้ 1 อย่าง อีกด้วย



บริเวณนี้ล้อมรอบด้วยต้นซีดาร์ เป็นสถานที่ชมวิวทิวทัศน์หุบเขาอันงดงาม คุณสามารถขอพรที่วัดหลักซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านบนของบันไดหิน และเมื่อคุณหันกลับมา คุณจะประหลาดใจกับวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่คุณสามารถดูได้จากที่นี่ !



สถานที่นี้ ถือเป็นสถานที่ที่ดีมากๆ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติ และผ่อนคลายจาดชีวิตในเมืองแสนวุ่นวาย  
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน



Godai-do ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผา ที่คุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของชุมชนในยามางาตะ ถือเป็นจุดที่สวยงามมากจริงๆ !



ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากสถานี Yamagata สถานี Yama-dera โดยรถไฟ JR Sendai Line

หากคุณเข้าชม Tendo ถนนน้ำพุร้อนก่อนที่จะไป Yama-dera คุณสามารถใช้รถไฟจากสถานี Tendo ไปยังสถานี Yama-dera. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 320 เยน และอย่าลืมว่าคุณต้องเปลี่ยนรถที่สถานี Uzenchitose ด้วยนะคะ

Yama-dera
ที่อยู่ : 4456-1 Yamadera, Yamagata, จังหวัดยามางาตะ
โทร : 023-695-2002
ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 300 เยน 
มัธยมศึกษาตอนต้นและนักเรียนมัธยม 200 เยน 
สำหรับเด็กอายุ 4 ปี ขึ้นไป 100 เยน
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://www.rissyakuji.jp/
สมาคมการท่องเที่ยว Yama-dera  (ภาษาญี่ปุ่น) : http://www.yamaderakankou.com/index.html
 



ไหนๆ เราก็ได้มาเยือนเมืองเทนโดกันแล้ว เรามาลองสัมผัสกับความพิเศษของที่นี่อีกอย่างกันนะคะ นั่นคือการที่คุณสามารถเก็บเชอร์รี่ทานได้ที่นี่ และยังสามารถหาผลไม้ชนิดอื่นๆ ได้ที่ฟาร์มของเมืองเทนโดนี่ด้วยนะคะ

Ohsyo Fruit Trees Garden
ที่อยู่ : 1303 Oaza Kawarago, Tendo City, Yamagata
โทร : 023-657-3211
เวลาทำการ : 8:30 -17:00 (เข้ารอบสุดท้าย 16:00)
เวลาเก็บผลไม้ : 30 นาที
ค่าเข้าชม : ผู้ัใหญ่ 1,620 เยน, เด็ก 1,420 เยน,
สำหรับกลุ่ม 15 ขึ้นไป 1,200 เยน
Holiday: Vary
เว็บไซต์ : http://www.ohsyo.co.jp/index.htm

ถ้าเชอร์รี่ไม่ถูกคอคุณเท่าไหร่ งั้นลองมาดูของที่ระลึกพิเศษอื่นๆ กันค่ะ







ที่ Ohsyo Fruit Trees Garden นอกจากผลไม้ตามฤดูกาล คุณสามารถซื้อของที่ระลึกอื่นๆได้ เช่น ไส้กรอก, น้ำผลไม้ และแม้แต่ไวน์ ญี่ปุ่น ก็มีให้คุณเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลินค่ะ

ยามางาตะสาเก (ไวน์ข้าวญี่ปุ่น) มีชื่อเสียงมาก เพราะทำมาจากข้าวและน้ำของยามางาตะ นอกจากนี้ ยามากาตะยังเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับไวน์เบียร์ ! ผลิตโดยโรงเบียร์สาเก Dewazakura ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขัน International Wine Challenge อีกด้วย ! 



หากคุณรักของหวาน คุณต้องห้ามพลาดที่นี่ Oh!Show!Cafe!! คุณสามารถลิ้มรสไอศกรีมใส่ผลไม้ตามฤดูกาล และสำหรับตอนนี้ที่ห้ามพลาดเลยนั่นก็คือ เชอร์รี่ซันเดย์แน่นอน ! โดยใช้เชอร์รี่ที่แตกต่างกันถึง 4 – 7 ชนิด ! ว้าว น่าทานมากๆ เลย !

☆Seasonal Fruit Sundae – Oh!Show!Cafe
ราคา : 700 เยน

Oh!Show!Cafe
ที่อยู่ : Ohsyo Fruit Trees Garden
โทร : 023-657-3211
เปิดทำการ : 0900-1500
วัยหยุดพิเศษ : ไม่มีวันหยุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม  และปิดให้บริการทุกวันพุธ ในเดือนกันยายน – ตุลาคม
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://www.ohsyo.co.jp/kanko/softcream.htm



เชอร์รี่     –    กลางเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนกรกฎาคม
องุ่น        –   ต้นเดือนสิงหาคม – กลางเดือนตุลาคม
ลูกพีช     –   ต้นเดือนสิงหาคม – ต้นเดือนกันยายน
แอปเปิ้ล  –    กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนพฤศจิกายน

แจ้งเตือน
1) สำรองสำหรับเก็บผลไม้
เวลา : 09:00-17:00
ข้อมูลเพิ่มเติม  (ภาษาญี่ปุ่น) : 
https://ohsyo.sakura.ne.jp/reserve/?_ga=1.267323338.57268247.1467950275
(จองออนไลน์สำหรับเก็บเชอร์รี่ในปี 2016 ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ กรุณาติดต่อฟาร์มก่อนที่คุณจะชมที่เบอร์ 0120-15-0440.) 
การจองเก็บผลไม้ในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป (ภาษาญี่ปุ่น)​
https://ohsyo.sakura.ne.jp/reserve/index2.php​
คูปองส่วนลดสำหรับฤดูผลไม้ (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.ohsyo.co.jp/kanko/cupon.htm​

 

เมืองแห่งการพักผ่อน – บ่อน้ำพุร้อนในเมืองเทนโด

ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น รอคุณมาสัมผัส ! ที่นี่ถือเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คุณสามารถหาโรงแรมชั้นยอดและพักผ่อนกับน้ำพุร้อนได้มากมายที่เมืองเทนโด !!  ได้เวลาสนุกกับน้ำพุร้อนแล้ว ลุยกันเลย !







หากคุณกำลังมองหาพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัว คุณสามารถจองห้องพักที่นี่ ที่มีน้ำพุร้อนส่วนตัวให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำที่เงียบสงบและผ่อนคลายกับครอบครัวและคนที่คุณรัก



ห้องพักที่ผสมผสานบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และยังให้คุณได้พักผ่อนอย่างเพลิดเพลินไปกับวิวธรรมชาติอันสวยงามเช่นภูเขาและแม่น้ำที่สามารถมองผ่านหน้าต่างของคุณได้
 



ความพิเศษคือไม่เพียงแค่ได้ทานเชอร์รี่ญี่ปุ่นในฟาร์มผลไม้เท่านั้นนะคะ คุณยังสามารถทานเชอร์รี่ญี่ปุ่นแสนอร่อยได้ในโรงแรมน้ำพุร้อนอีกด้วย ! แทบไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะ ? แต่นี่คือบริการพิเศษสำหรับคุณค่ะ !!

เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยพร้อมวัตถุดิบสดใหม่สำหรับคุณ







ด้วยสภาพอากาศที่ดีรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของยามากาตะ จึงทำให้อาหารของที่นี่มีวัตถุดิบสดใหม่ ! ให้คุณได้อร่อยกับทุกมื้ออาหารแน่นอนค่ะ

Hotel Itiraku
สถานที่ : 2-2-21 Kamatahoncho, Tendo City, Yamagata
(ใช้เวลาเดินจากสถานี Tendo City เพียง 15 นาที)
ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 เยน – 51,650 เยน
โทร : 023-654-3311
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : http://www.itiraku.com/foreign/en.html

 

สนุกกับการสร้าง Own Shogi ของคุณเอง



คุณสนใจในหมากรุกสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นไหมคะ ? จากที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เมืองเทนโดเป็นเมืองที่มีการผลิต Own Shogi หมากรุกญี่ปุ่นมากถึงที่สุด และ 95% ของหมากรุก Shogi ถูกผลิตในเมืองนี้ค่ะ !!

ทุกเดือนเมษายนในเมืองเทนโด จะมีการจัดแสดงพิเศษเกี่ยวกับหมากรุก มีการแต่งการแบบนักรบญี่ปุ่น พร้อมทั้งการเล่นหมากรุกบนกระดานหมากรุกขนาดใหญ่อีกด้วย !

สนใจในการทำชิ้นหมากรุกของคุณเองใช่ไหม ?

Eishundo
สถานที่ : 1-3-28 Kamatahoncho, Tendo City, Yamagata
การเดินทาง : ใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที จากสถานีรถไฟ JR Tendo
เวลาทำการ : 08:00-17:00
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) : http://eishundo.web.fc2.com/

Shogi Piece Making Class
ราคา : 860 เยน
เวลาทำการ : 09:00-16:00
อายุ : ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป
จองล่วงหน้า
เบอร์โทรสำหรับการจอง : 023-653-2843
(สำหรับกลุ่ม 6 ท่านขึ้นไป โปรดแจ้งให้พนักงานทราบเมื่อทำการจอง)
อีเมล์ : eishundo@silver.ocn.ne.jp​

เมืองแห่งความสนุกสนาน – เมืองเทนโด





ถ้ายามากาตะเป็นจุดหมายต่อไปของคุณ คุณต้องห้ามพลาดที่จะมาเมืองเทนโด เมืองแห่งความสนุกสนานนี้ เมืองที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อน, ธรรมชาติที่สวยงาม, สุดยอดอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่ และการเก็บผลไม้ อีกทั้งคุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม shogi และภาพอุกิโยะอีกด้วย มาสัมผัสความสนุกทั้งหมดนี้ที่เมืองเทนโดกันค่ะ !

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากแชร์เรื่องราวในญี่ปุ่นของคุณ มาร่วมพูดคุยกับเราได้ที่​ Google+ !!
แล้วเจอกันนะคะ ! 🙂

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination

Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025
 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change.
Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)
 *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details.
Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station

#japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025  *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)  *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

1|8

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

EVENT CALENDAR

VIEW MORE →
1|5

RELATED ARTICLES

PARTNERS