พูดถึงฟุกุชิมะ หลายคนอาจไม่รู้ว่าที่นี่เป็นขุมทรัพย์ของการท่องเที่ยว และอาหาร ตามไปรู้จักฟุกุชิมะให้มากขึ้นกับ Japankuru กัน

จังหวัดฟุกุชิมะ มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด

ญี่ปุ่นประกอบไปด้วย 47 จังหวัด หรือที่เรียกว่า  ("都道府県" ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกมาเที่ยวมักจะเป็น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮอกไกโด หรือโอกินาว่า แล้วฟุกุชิมะหละอยู่ที่ไหน? มีอะไรเด่น มีอะไรดัง บางคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ก็ยังไม่รู้ถึงรายละเอียดของจังหวัดนี้สักเท่าไร 

ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับฟุกุชิมะให้มากขึ้น กับจังหวัดที่มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด เหนือสิ่งอื่นใดเราได้ค้นพบว่าตัวเองกำลังสำรวจ ปลาโจบัง-โมโน ของจังหวัดฟุกุชิมะ และในซีรีย์นี้เราจะพาไปรู้จักกับจังหวัดฟุกุชิมะให้มากขึ้น ทั้งชายฝั่งและธรรมชาติอันสวยงาม และเราจะมาตอบคำถาม "ปลาโจบัง-โมโน คืออะไรกันนะ?"

ในพาร์ทที่ 1 นี้จะขอมาแนะนำจังหวัดฟุกุชิมะแบบคร่าวๆกันก่อน

วิวริมอ่าวที่จังหวัดฟุกุชิมะ

จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น

ฟุกุชิมะตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น รองจากฮอกไกโด และอิวาเตะ ถ้าพูดถึงขนาด จังหวัดฟุกุชิมะนั้น มีขนาดใหญ่กว่าโตเกียว 6.3 เท่า หรือสนามเบสบอล 290,000 สนาม ในจังหวัดฟุกุชิมะนั้นมีลักษณะเฉพาะของแต่ละภูมิภาครวมกัน จนกลายเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นจังหวัดหนึ่ง 

ฟุกุชิมะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ บริเวณชายฝั่ง หรือ ฮามะโดริ (Hama-dori, 浜通り) บริเวณกลางจังหวัด หรือ นากะโดริ (Naka-dori, 中通り) และฝั่งตะวันตก หรือบริเวณไอสุ  (Aizu Area, 会津) พื้นที่ต่าง ๆ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดตามแต่ฤดูกาล  และฟุกุชิมะเองก็เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย

เส้นทางรถไฟที่โรแมนติกที่สุดในโลก "เส้นทางรถไฟสายทาดามิ"

บริเวณที่ 1 – ฮามะโดริ (Hama-dori, 浜通り) หรือบริเวณชายฝั่ง – พรจากมหาสมุทรแปซิฟิก

บริเวณฮามะโดริ (浜通り) อยู่ทางตะวันออกของจังหวัดติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ได้แก่ 1.บริเวณอิวาคิ (ทางตอนใต้ของฮามะโดริ)  2.บริเวณโซโซ (相双) ที่รวมเอา ฮามะโดริตอนเหนือ (เมืองโซมะ 相馬市, เมืองมินามิโซมะ 南相馬市) และฮามะโดริตอนกลาง (เมืองฟุตาบะ 双葉郡) เข้าด้วยกัน บริเวณชายฝั่งนี้มีวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เห็นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรือประมง ไปจนถึงออนเซ็น และวัฒนธรรมของซามูไรก็ยังมีให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ ชายฝั่งของจังหวัดฟุกุชิมะเป็นจุดรวมของสองกระแสน้ำหลักคือ กระแสน้ำโอยาชิโอะ และกระแสน้ำคุโรชิโอะ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งตกปลาที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และยังมีชื่อเสียงในเรื่องว่าปลาอร่อยอีกด้วย

เมืองอิวากิเป็นเมืองที่อยู่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีฤดูร้อนที่เย็นสบาย และฤดูหนาวที่อบอุ่น และยังเป็นที่ที่มีระยะเวลาของแสงแดดยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น จึงเป็นที่ที่สามารถเอ็นจอยกับแสงแดดและทะเลได้ยาว ๆ บริเวณริมทะเลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอย่างเช่น ประภาคารชิโอยะซากิ (Shioyazaki Lighthouse, 塩屋崎灯台), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Aquamarine Fukushima Aquarium และตลาดปลาอิวากิ ลาลามิว (Iwaki Lalamew fish market) และยังเป็นที่ตั้งของ ออนเซ็นอิวากิ ยูโมโตะ รีสอร์ทและสปาสไตล์ฮาวายแห่งแรกของญี่ปุ่น 

ทางตอนเหนือ บริเวณเมืองโซมะนั้นจะเต็มไปด้วยอาหารการกินที่เป็นพืชผลจากภูเขาและทะเล นอกจากนี้ยังมีเทศกาลชื่อดังอย่าง เทศกาลโซมะโนมะโออิ (Soma Nomaoi, 相馬野馬追) เทศกาลที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี

ประภาคารชิโอยะซากิ (Shioyazaki Lighthouse, 塩屋崎灯台) เมืองอิวากิ

ตลาดปลาอิวากิ ลาลามิว (Iwaki Lalamew fish market)

เทศกาลโซมะโนมะโออิ (Soma Nomaoi, 相馬野馬追)

บริเวณที่ 2 – นากะโดริ ศูนย์กลางของจังหวัด

บริเวณนากะโดริ นั้นเป็นบริเวณตอนกลางของจังหวัด ไม่ติดกับทะเล และถูกประกบด้วย เทือกเขาโอ Ou Mountains (奥羽山脈) ทางตะวันตก และที่ราบสูงอาบุคุมาโกจิ (Abukumakochi highlands, 阿武隈高地) ทางตะวันออก สำหรับภูมิภาคนี้นั้นมีลักษณะยาวและผอม มีเมืองฟุกุชิมะเป็นที่ตั้งของสำนักงานจังหวัด มีศูนย์กลางทางการคมนาคมและเศรษฐกิอยู่ที่เมืองโคริยามะ (Koriyama, 郡山)ใจกลางของจังหวัด  และชิราคาวะ (Shirakawa, 白河) ทางตอนใต้ โดยทั้งสามเมืองหลักนี้มีรถไฟชินคันเซ็นสาย Tohoku Shinkansen line วิ่งผ่าน รวมถึงทางด่วนที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคคันโตและโทโฮคุ 

สำหรับบรรยากาศในตัวเมืองนั้นไม่ได้มีแค่เพียงปราสาทคาซุมิกะโจ และปราสาทชิราคาวะโคมิเนะ เท่านั้น แต่ยังมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ในช่วงบาคุมัตสึและเมจิ (ปลายศตวรรษที่ 19 – ต้นศตวรษที่ 20) หลงเหลืออยู่ รวมถึงธรรมชาติที่สวยงาม จุดชมดอกซากุระ (และดอกไม้ชนิดอื่น) และลูกพีช ผลผลิตที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด นอกจากนี้ยังสามารถไปเที่ยวชมสวนสาธารณะนันโก (Nanko Park, 南湖公園) สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ได้ในนากะโดริ

และหากพูดถึงออนเซ็นในบริเวณนี้ แต่ละแห่งก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ออนเซ็นบันไดอะตามิ (Bandaiatami Hot Spring, 磐梯熱海温泉) ที่โด่งดังในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ (bijin no yu, 美人の湯), ออนเซ็นทากะโนะยู (Takayu Onsen, 高由温泉) ที่รู้จักกันในนาม ออนเซ็นลับ และออนเซ็นอิซากะ (Iizaka Onsen, 飯坂温泉) แหล่งออนเซ็นเก่าแก่กว่าพันปี

สวนสาธารณะนันโก (Nanko Park, 南湖公園)

ปราสาทชิราคาวะโคมิเนะ

กิจกรรมเก็บลูกพีช

บริเวณที่ 3 ไอสุ ความกลมกลืนกันของธรรมชาติและประเพณีญี่ปุ่น

บริเวณไอสุหรือฝั่งทางตะวันตกของจังหวัดฟุกุชิมะ สามารถแยกออกได้อีก 2 ส่วนคือ ไอสุเหนือ ที่รวม Aizu-Wakamatsu, และเมืองคิตะคะตะ ส่วนไอสุใต้นั้นจะมี เมืองฮิโนเอะมาตะ (Hinoemata) เมืองชิโมโกะ (Shimogo) ซึ่งแต่ละแห่งยังคงเอกลักษณ์ของสมัยเอโดะ (ปีค.ศ.1603-1868) เอาไว้ ประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้เริ่มต้นจากปราสาทสึรุกะ หรือสึรุกะโจ (Tsurugajo, 鶴ヶ城) รวมถึงมีศาลเจ้าและวัดจำนวนมาก จนบางครั้งมีการเรียกว่าเป็นเมืองที่มีพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง (Butto Aizu, 仏都会津) 

ไอสุตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบอินาวะชิโระ (Inawashiro, 猪苗代湖) และเชิงเขาบันได (Mount Bandai, 磐梯山) ที่เหมาะแก่การชมธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งปี ที่มีทั้งทะเลสาบสงบนิ่ง ไปจนถึงใบไม้แดง ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว 

มินามิไอสุมีความสูงเฉลี่ย 500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีภูเขาทุกด้าน จึงเหมาะอย่างยิ่งในการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมของฟุกุชิมะ และออนเซ็นลับที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา นอกจากนี้ยังมีสกีรีสอร์ตที่มีหิมะคุณภาพเยี่ยม และหมู่บ้านโออุจิจุกุ (Ouchijuku, 大内宿) ที่ยังคงโครงสร้างสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยเอโดะเอาไว้ ทำให้เราเหมือนได้ย้อนเวลาไปในยุคเอโดะได้จริงๆ

หมู่บ้านโออุจิจุกุ (Ouchijuku, 大内宿)

ทาคาโทโซบะ/เนกิโซบะ Ztakato soba/negi soba, 高遠そば/ねぎそば) โซบะที่ต้องใช้ต้นหอมในการกิน

เขาบันได (Mount Bandai, 磐梯山)

ออนเซ็นอาชิโนะมากิ (Ashinomaki Onsen)

แล้วปลาโจบัง-โมโนคืออะไร?

อย่างที่บอกไปว่าจังหวัดฟุกุชิมะมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด เราจะพาคุณไปรู้จักให้มากขึ้น รวมถึงปลาโจบัง-โมโนของฟุกุชิมะ พร้อมทั้งประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว อาหารท้องถิ่น และเทคนิคการท่องเที่ยว จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วฟุกุชิมะนั้นเป็นอย่างไรในปัจจุบัน และอย่าลืมติดตามข่าวสาร เรื่องราวอัพเดตจากญี่ปุ่นกับ Japankuru (เจแปนคุรุ) ได้ที่ facebook และ twitter