Sponsored

[ปลาโจบัง-โมโน คืออะไรกันนะ?] พาร์ท 6 จะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารมีการปนเปื้อน? ระบบการตรวจสอบสารกัมมันตภาพรังสีในฟุกุชิมะ

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

ชาวประมงและธุรกิจประมงของจังหวัดฟุกุชิมะ มีการตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและมากกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้อีกด้วย

ฟื้นธุรกิจประมงหลังแผ่นดินไหว



ทะเลสาบมัตสึคาวาอุระ เมืองโซมะ จังหวัดฟุกุชิมะ

เหตุการณ์แผ่นดินไหวโทโฮคุ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ตามมาด้วยภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะ เป็นเหตุการณ์ช็อคโลก ที่แม้กระทั่งในปัจจุบันยังเป็นบาดแผลลึกอยู่ในใจของหลายคน ภัยพิบัตินิวเคลียร์นั้นได้ทำลายฟาร์ม ไร่ สวน การประมง และอุตสาหกรรมอาหารของฟุกุชิมะ ไม่ว่าเมื่อก่อนโจบังโมโนจะเคยมีชื่อเสียงขนาดไหน หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง ก่อนหน้านี้ทีม Japankuru ได้เขียนบทความเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมประมงในฟุกุชิมะ โดยเฉพาะเมืองอิวากิและเมืองโซมะ ในพาร์ทที่ 3 และ 4 ของซีรี่ยส์โจบังโมโน ที่ คุณ Mitsunori Suzuki รองประธานสมาคมสหกรณ์การประมงอิวากิ และคุณ Kanji Tachiya ประธานสมาคมสหกรณ์ประมงโซมะฟุตาบะ ได้อธิบายถึงความมั่นใจที่พวกเขามีต่อโจบังโมโน แม้จะต้องเผชิญกับความเสียหายหลังเกิดภัยพิบัติในปี 2011 

บริเวณชิโอเมะที่อยู่นอกชายฝั่งโจบัง (ตั้งแต่ชายฝั่งฟุกุชิมะยาวไปถึงอิบารากิ) เป็นจุดที่กระแสน้ำเย็นโอยาชิโอะและกระแสน้ำอุ่นคุโรชิโอะได้บรรจบกัน ซึ่งบางครั้งมีการเรียกบริเวณนี้ว่า ทะเลชิโอเมะ (潮目の海 ชิโอเมะ โนะ อุมิ) นอกจากจะสามารถจับปลาได้แล้ว บริเวณนี้ยังทำให้แพลงก์ตอนเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งกลายเป็นอาหารที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของปลา และเป็นแหล่งทำการประมงที่มีคุณภาพ ปลาที่จับได้จากชายฝั่งโจบัง จะตัวอวบอ้วน มัน และรสชาติดี เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของเหล่าชาวประมงในฟุกุชิมะ อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุกาณ์ที่ส่งผลต่อชีวิตของชาวประมงในท้องถิ่น เพราะสึนามิและแผ่นดินไหว ไม่เพียงแต่จะพลัดพรากคนที่รักและบ้านเรือนของพวกเขาไป แต่ข่าวลือเรื่องรังสีนั้นก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงเข้าอย่างจัง แม้เหตุการณ์จะเป็นอย่างนั้น ชาวประมงก็ยังคงมุ่งมั่น กำหนดนโยบายใหม่ ร่วมมือกับรัฐบาลจังหวัดฟุกุชิมะ เพื่อให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมาอีกครั้ง ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ได้จัดตั้งปฏิบัติการทดสอบใหม่ ทำงานแบบช้าแต่ชัวร์ เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการประมงพื้นบ้าน

ปฏิบัติการทดสอบ คืออะไร?



ปลาที่จับได้สดใหม่ทุกวัน

การประมงบริเวณชายฝั่งของฟุกุชิมะและอุตสาหกรรมประมงอวนลากนอกชายฝั่ง ต้องหยุดออกหาปลาการหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติอย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติขึ้น แต่ก็ยังมีการตรวจสอบหารังสีและเฝ้าระวังสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล กว่า 60,000 ครั้ง ปลาและสัตว์ทะเลที่จับขึ้นมาได้ และได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภค ตามมาตรฐานความปลอดภัยแห่งชาติที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด ในทางกลับกัน ข้อจำกัดต่างๆนั้นค่อยๆได้รับการผ่อนคลายทีละนิด โดยอนุญาตให้อุตสาหกรรมประมงขนาดเล็กและผู้ขายอาหารทะเล สามารถกลับมาทำงานได้ในระดับเล็กๆ (เฉพาะสายพันธุ์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเกินมาตรฐาน) และมีการจับตาดูปฏิกิริยาของตลาดตลอดเวลา กระบวนการและนโยบายการตรวจสอบนี้ คือ”การปฏิบัติการทดสอบ” ของจังหวัดฟุกุชิมะ และจากข้อมูลที่ได้เผยแพร่โดยสำนักงานจังหวัดฟุกุชิมะ วันที่ 26 มีนาคม 2020 ได้ยืนยันว่า ปลาและอาหารทะเล 231 ชนิด มีความปลอดภัย

"monitoring test" หมายถึง การตรวจสอบรังสี ตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่า ไม่มีปัญหาในการขนส่งปลาหรืออาหารทะเลที่ตรงตามมาตรฐาน เพื่อออกสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม เมืองโซมะ เมืองอิวากิ และการประมงของจังหวัดฟุกุชิมะ ได้ทำการทดสอบรังสีเพิ่มเติมเองทุกวัน เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้นในเรื่องของความปลอดภัย ทำให้ปลาและอาหารทะเลจากที่นี่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดไว้ การทดสอบเพิ่มเติมนี้เรียกว่า "screening test" ซึ่งชาวฟุกุชิมะต้องการให้คนภายนอกได้รับรู้ว่า กว่าที่โจบังโมโนจะออกสู่ตลาดได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนทดสอบความปลอดภัยทั้งสองอย่าง

การตรวจสอบเพื่อรับประกันความปลอดภัย



ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ โคริยามะ จังหวัดฟุกุชิมะ

ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะมีบทบาทสำคัญในการประกันความปลอดภัยของอุตสาหกรรมการเกษตร การป่าไม้ และการประมงของฟุกุชิมะ โดยทำการตรวจสอบรังสีในสินค้าทางการเกษตรและอาหารทะเลของจังหวัด อาจเรียกที่แห่งนี้ได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่างๆในฟุกุชิมะเลยก็ว่าได้ เพราะโจบังโมโนเป็นหนึ่งในสินค้าท้องถิ่นที่มีการทดสอบที่นี่ และมีการกำหนดว่าปลาชนิดใดปลอดภัยที่สามารถจับได้ หรือชนิดใดที่ต้องปล่อยไป



แผนกวิเคราะห์รังสี ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ – ตารางการทดสอบรังสีและติดตามผล

การวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ อยู่ในเมืองโคริยามะ ซึ่งทำการทดสอบและติดตามสินค้าทางการเกษตรและอาหารทะเลของจังหวัดฟุกุชิมะเป็นรอบๆ มีทั้ง ผัก ผลไม้ อาหารทะเล พืชป่าที่กินได้ เห็ด น้ำผึ้ง ธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อ ไข่ และอาหารสัตว์ ทำให้มีหลายรายการที่ต้องรอตรวจสอบ บางครั้งทางศูนย์ต้องส่งผลิตภัณฑ์บางส่วน เช่น อาหารแปรรูปและอาหารสัตว์ ไปยังห้องปฏิบัติการอื่น ที่มีอุปกรณ์ทดสอบ นอกเหนือจากการเผยแพร่การทดสอบให้ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงแล้ว เรายังสามารถดูผลการทดสอบเองได้บนเว็บไซต์ของจังหวัดฟุกุชิมะได้ตลอดเวลา



นักวิจัยค่อยๆหั่นปลา เพื่อนำไปทดสอบ

ทีมงาน Japankuru มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมการทดสอบปลาโจบังโมโน และกระบวนการตรวจสอบที่ศูนย์ ก่อนที่เราจะเข้าไปยังแล็บ สตาฟก็ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษในการตรวจสอบรังสี รวมทั้งรายละเอียดเล็กๆ เสื้อผ้าหรือเส้นผม ที่อาจส่งผลต่อการทดสอบได้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารทะเลถูกส่งไปยังศูนย์ ทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี เมื่อสินค้ามาถึงศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร ก็ต้องค่อยๆนำออกจากห่อ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปใส่ในภาชนะที่ทำขึ้นพิเศษ ชั่งน้ำหนัก จากนั้นจึงนำไปใส่ในเครื่องตรวจจับเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้เจอร์เมเนียมที่มีความแม่นยำสูงเพื่อวัดระดับรังสี จากนั้นนักวิจัยจะวิเคราะห์ผลและนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะ



ปลาที่หั่นแล้วถูกบรรจุในภาชนะพิเศษ ที่มีการปิดผนึกอย่างดี และมีการติดฉลาก QR code กำกับไว้ ทำให้สามารถติดตามข้อมูลได้จาก QR Code



เครื่องตรวจจับสารกึ่งตัวนำที่ใช้เจอร์เมเนียม

ตอนนี้ห้องปฏิบัติการของศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะมีเครื่องตรวจจับสารกึ่งตัวนำที่ใช้เจอร์เมเนี่ยม 11 เครื่อง พร้อมกับนักวิจัยอีก 9 ท่าน ตัวเครื่องได้รับการทดสอบเป็นระยะ โดยสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความถูกต้องของการทดสอบแต่ละครั้ง ในปี 2017 ห้องปฏิบัติการได้อออกระบบ QR Code ที่จะลงทะเบียนข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในกระบวนการทดสอบ และด้วยมาตรการเหล่านี้ ทำให้ประสิทธิภาพการทดสอบทางรังสีของห้องปฏิบัติการเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีการทดสอบเฉลี่ยประมาณ 150 ครั้งต่อวัน



ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2011 เป็นต้นมา มีตัวอย่างที่ตรวจไปแล้วจำนวนกว่า 230,000 ตัวอย่าง

คุณ Hitoshi Kusano หัวหน้านักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารทะเลส่วนใหญ่ที่ทดสอบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยจากรังสีที่เป็นที่ยอมรับ มาตรฐานความปลอดภัยแห่งชาติ สำหรับอาหารทะเลอยู่ต่ำกว่า 100Bq / kg และดูเหมือนว่าไม่มีตัวอย่างปลาทะเลใดเกินขีดจำกัดดังกล่าว นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 เป็นต้นมา เราทุกคนสามารถไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการตรวจสอบที่ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ และให้ผู้เชี่ยวชาญอธิบายขั้นตอนการทดสอบโดยละเอียดเพื่อดูผลลัพธ์เหล่านี้ได้ด้วยตนเอง (แต่ต้องจองล่วงหน้านะ)

การคัดกรอง (Screening)

ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะเป็นหน่วยงานของรัฐ และการทดสอบการเฝ้าติดตามเกิดจากกฎหมายสุขาภิบาลอาหารของญี่ปุ่น แต่สมาคมสหกรณ์การประมงแห่งฟุกุชิมะ (ซึ่งจัดการอุตสาหกรรมประมงของฟุกุชิมะ) มีแนวทางของตนเองในการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทางทะเลและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ในตลาดปลาที่เมืองอิวากิและเมืองโซมะ สหพันธ์จะทำการทดสอบตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในทะเลของตนเองในระบบที่เรียกว่าการตรวจคัดกรอง ทุกๆวันกระบวนการคัดกรองจะรวบรวมตัวอย่างจากปลาและอาหารทะเลทุกชนิดที่จับได้ในเช้าวันนั้นและทำการทดสอบเพื่อความปลอดภัย



การเตรียมตัวอย่างปลาเพื่อตรวจคัดกรองที่ห้องทดสอบของตลาดปลาโอนะฮามะ

กฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารของญี่ปุ่น กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับสารกัมมันตรังสีซีเซียมในผลิตภัณฑ์อาหารที่ 100Bq / kg หรือน้อยกว่า แต่การประมงของ Fukushima ยังคงรักษามาตรฐานที่เข้มงวดกว่ามาก เพื่อให้ผู้บริโภคอุ่นใจมากขึ้น โดยอนุญาตเฉพาะปลาและอาหารทะเลให้มีปริมาณสูงสุดอยู่ที่ 50Bq / kg นั่นหมายความว่าไม่มีอาหารทะเลของฟุกุชิมะออกสู่ตลาด ในปริมาณต่ำกว่า 50Bq / kg ซึ่งมีรังสีน้อยกว่าขีดจำกัดด้านความปลอดภัยของรัฐบาลญี่ปุ่น

ที่น่าสนใจก็คือ หากลองเปรียบเทียบมาตรฐานแห่งชาติของญี่ปุ่นที่ระดับ 100Bq / kg กับกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารของประเทศอื่น ๆ จะเห็นว่ามันเข้มงวดกว่าประเทศอื่นๆในโลก ตัวอย่างเช่น ขีดจำกัดด้านความปลอดภัยของ Codex Alimentarius (ชุดของมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลซึ่งกำหนดโดย UN และ WHO) คือ 1,000Bq / kg มาตรฐานของสหรัฐอเมริกาคือ 1200Bq / kg และ EU อนุญาตให้ได้ถึง 1250Bq / kg จากข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าชาวประมงของฟุกุชิมะมุ่งเป้าไปที่มาตรฐานที่เข้มงวดอย่างยิ่ง และผลิตภัณฑ์จากทะเลของที่นี่ก็มีความปลอดภัยมาก



ห้องปฏิบัติการของตลาดปลาโอนะฮามะ มีเครื่องสำหรับทดสอบตัวอย่าง 9 เครื่อง

ตลาดปลาโอนะฮามะ เมืองอิวากิ และตลาดปลาฮารากามะ เมืองโซมะ มีห้องทดสอบของตนเอง ซึ่งพวกเขาทำการสุ่มตัวอย่างประจำวันและทดสอบปลาแต่ละชนิดที่จับได้ในวันนั้น ห้องทดสอบเหล่านี้มีเครื่องทดสอบไม่มากเท่ากับห้องทดลองของศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร แต่เพื่อเพิ่มทั้งความเร็วและความแม่นยำจึงต้องซื้อเครื่องจักรใหม่เป็นระยะ ๆ และซ่อมแซมเครื่องที่เก่า ขณะนี้ตลาดปลาโอนะฮามะมีเครื่องจักรเก้าเครื่องใน เป็นคนละรุ่นกันทั้งหมด เครื่องที่เก่าแก่ที่สุดใช้เวลาประมาณ 40 นาทีในการประมวลผลตัวอย่างทั้งหมด ส่วนเครื่องใหม่สามารถทำงานได้ในเวลาเพียง 5 นาที
 
ในกรณีที่ตัวอย่างมีน้ำหนักเกิน 50Bq / kg จะหยุดขายปลาชนิดนั้นทั้งหมด และตัวอย่างจะถูกส่งไปยังศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล เพื่อการทดสอบที่แม่นยำและเจาะลึกยิ่งขึ้น หากการทดสอบขั้นที่สองพิสูจน์ได้ว่าตัวอย่างมีน้ำหนักเกิน 50Bq / kg จริง ปลาชนิดนั้นจะถูกเรียกคืนทั้งหมดและห้ามเรือประมงจับปลาชนิดนั้นชั่วคราว ในทางปฏิบัติจริง กรณีของปลาตาเดียวที่จับได้ในอิวากิ เดือนกรกฎาคม 2018 พบว่ามีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม 59Bq / kg ซึ่งอยู่ในระดับของมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่กำหนดโดยรัฐบาลญี่ปุ่น แต่เนื่องจากมันเกิน 50Bq / kg ระดับมาตรฐานที่กำหนดโดยการประมงเอง การขายปลาตาเดียวก็ต้องหยุดลงเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลังจากเหตุการณ์นั้นปลาตาเดียวในพื้นที่ ได้รับการสุ่มตัวอย่างและทดสอบอย่างต่อเนื่อง และการจับปลาตาเดียวจะกลับมาวางขายได้ปกติ ก็ต่อเมื่อตัวอย่างลดลงต่ำกว่า 50Bq / kg อีกครั้ง



ห้องทดสอบที่ตลาดปลาโซมะฮารากามะ

ที่ชาวประมงในพื้นที่มีความมั่นใจในปลาที่พวกเขาจับได้นั้น ก็เป็นเพราะมาตรฐานที่เข้มงวด และในขณะที่การคัดกรองดำเนินไปทุกวัน ก็แสดงเห็นได้ชัดว่าชาวประมงของฟุกุชิมะกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคจะไม่สูญเสียศรัทธาในโจบังโมโนของพวกเขาอีกแล้ว หากมองไปในแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่น จะไม่พบจังหวัดอื่นที่มีระบบการทดสอบแบบนี้ และข้อมูลที่พิสูจน์ได้นั้นมันจะทำหน้าที่ของมันเอง คุณ Maeda จากสมาคมสหกรณ์การประมงอวนลากโอนะฮามะได้กล่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะใส่ข้อมูลให้พวกเขามากแค่ไหนผู้คน 10% ก็ยังไม่ยอมรับ" พร้อมกับเสริมว่า "แต่เราต้องสู้กับผู้คนอีก 90% ที่ยินดีที่จะรับฟังสิ่งที่เรากำลังพูดออกไป ทุกวันนี้เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสื่อสารถึงความตั้งใจของเรา พร้อมกับยังดำเนินการทดสอบอย่างเข้มงวดต่อไปเรื่อยๆ" เขาจบความคิดเห็นโดยกล่าวว่า ในความเป็นจริงแล้วในปีที่แล้วแทบไม่มีตัวอย่างที่ทดสอบ ที่มีการปนเปื้อนของรังสีที่ตรวจจับได้เลย

ความแตกต่างระหว่างการเฝ้าติดตามและการคัดกรอง



เมื่ออ่านถึงตรงนี้อาจจะยังงงๆว่า "การตรวจสอบ" (monitoring) ของจังหวัดฟุกุชิมะ และ "การคัดกรอง" (screening) ของการประมงแตกต่างกันอย่างไร 

ในจังหวัดฟุกุชิมะมีโครงสร้างการทดสอบรังสี 2 แบบ ได้แก่ การตรวจติดตามการทดสอบ (monitoring testing) ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจังหวัด และการทดสอบคัดกรอง (screening testing) ที่ใช้ตัวอย่างจากการจับในแต่ละวันดำเนินการโดยองค์กรประมง

[ความเหมือน]
กระบวนการทั้งสองจะวัดรังสีสิ่งมีชีวิตในทะเล และตัดสินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทางทะเลโดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ โดยขั้นตอนการทดสอบขั้นพื้นฐานนี้จะเหมือนกัน ทั้งในการเฝ้าติดตาม (monitoring) และการคัดกรอง (screening)

[ความแตกต่าง]
●องค์กร
การเฝ้าติดตาม (monitoring): ดำเนินการโดยจังหวัดฟุกุชิมะ ตามมาตรฐานของรัฐบาลญี่ปุ่น
การคัดกรอง (screening): ดำเนินการโดยสมาคมการประมงที่เป็นอิสระและไม่ใช่ภาครัฐ
●มาตรฐาน
การเฝ้าติดตาม (monitoring): มาตรฐานความปลอดภัยแห่งชาติ (100 Bq / kg) ซึ่งกำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยทุกวัย
การคัดกรอง (screening): กำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้น (50Bq / kg) เพื่อให้ผู้บริโภคอุ่นใจมากขึ้น
●หน่วยงาน
การเฝ้าติดตาม (monitoring): ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ
การคัดกรอง (screening): สมาคมสหกรณ์การประมงฟุกุชิมะ (ตลาดปลาโอนะฮะมะ และตลาดปลาโซมะฮารากามะ) 
●ความถี่
การเฝ้าติดตาม (monitoring): สัปดาห์ละสองครั้ง
การคัดกรอง (screening): ทุกวัน ตามวันทำการของการประมง
 

ให้โจบังโมโนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน



ป้าย “โจบังโมโน” ที่ Shuen-teru ร้านอาหารและบาร์ ในเมืองอิวากิ

หลายปีที่ผ่านมานี้ ต้องขอบคุณการทำงานอย่างหนัก ความร่วมมือของรัฐบาลและชาวประมงของฟุกุชิมะในที่สุดอาหารทะเลของฟุกุชิมะก็หาทางกลับเข้าสู่ชีวิต (และอาหาร) ของคนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐและสมาคมการประมง เผยแพร่ผลการทดสอบของพวกเขา เช่น สถาบันวิจัยทรัพยากรประมง จังหวัดฟุกุชิมะ มีการเชิญนักเรียนในพื้นที่ องค์กรชุมชน และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมสัมมนา และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับรังสีสู่สาธารณะ ความพยายามมากมายเหล่านี้ กำลังทำให้ความเชื่อมั่นในโจบังโมโนของผู้คนกลับคืนมาอีกครั้ง



เมนูจากโจบังโมโน

ในปี 2017 กรมวิชาการเกษตร ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของเมืองอิวากิ ได้จัดตั้งเว็บไซต์ "Joban-mono" เพื่อแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับภูมิภาคและปลาในท้องถิ่น สูตรอาหารยอดนิยม เคล็ดลับการทำอาหาร และอาหารโจบังโมโนทุกประเภท นอกจากนี้ยังกำหนดให้วันที่ 7 ของทุกเดือน เป็น “วันปลา” (魚の日) โดยได้รับการส่งเสริมและความร่วมมือจากตลาดปลา ร้านอาหาร บาร์ และร้านขายของกระจุกกระจิกในท้องถิ่น เมื่อทีม Japankuru ไปเยี่ยมเมืองอิวากิ เราแวะที่ Shuen-teru ซึ่งเป็นบาร์และร้านอาหารในบรรยากาศสบาย ๆ และที่นี่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตด้วยเช่นกัน ― ป้ายเล็ก ๆ 2 อัน ตั้งอยู่บนชั้น พร้อมกับข้อความ “โจบังโมโน” และ “วันปลา” 



ตลาดปลาโอคาวะ อุเท็น ย่านโยสึคุระ เมืองอิวากิ ตั้งอยู่ใกล้ทะเล

ถ้าพูดถึงตลาดปลาที่ดังเรื่องโจบังโมโน ต้องเป็น ตลาดปลาโอคาวะ อุเท็น (Ookawa Uten) ในเมืองอิวากิ เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีมาตั้งแต่ยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912)) ร้านขายปลาและอาหารทะเลที่จับได้สด ๆ รวมถึงอาหารพร้อมทาน เช่น  "อูนิโนะไคยากิ" (ウニの貝焼きไข่หอยเม่นในเปลือกหอย) และ "คัทสึโอะโนะวารายากิ" (カツオの藁焼きปลาทูน่าย่างฟาง ) อาหารเหล่านี้เป็นเมนูเด็ดประจำภูมิภาค ในช่วงเทศกาลหรือมีอีเวนท์ เราจะเห็นพนักงานมาย่างให้ดูกันที่หน้าร้านแบบสดๆ



ปลาทูน่าย่างฟาง ควันหอมๆ ชวนให้น้ำลายไหล



อูนิในเปลือกหอย เมนูดังของอิวากิ

ในการเดินทางครั้งนี้ เราได้เห็นผู้คนซื้อ ทำอาหาร และรับประทานอาหารทะเลท้องถิ่นหลากหลายชนิด ในขณะที่เราเดินผ่านตลาดปลาทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก โรงแรม ร้านอาหาร ทั่วทั้งอิวากิและโซมะ ทีม Japankuru สามารถบอกได้ว่าโจบังโมโนนั้นกลับมาพบเห็นได้ตามสถานที่ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านในฟุกุชิมะอีกครั้ง สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของชาวประมงในฟุกุชิมะและจังหวัดฟุกุชิมะตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี



พ่อค้ากำลังเตรียมปลาทูน่าที่ตลาดปลาโอคาวะ อุเท็น



การประมูลปลาที่ตลาดปลาโซมะ ฮารากามะ

บทความครั้งนี้เรามุ่งเน้นไปที่ระบบการทดสอบที่ใช้ในการตรวจสอบระดับรังสี ในผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของฟุกุชิมะ ครั้งหน้าเราจะมาดูเพิ่มเติมที่ สถาบันวิจัยทรัพยากรประมง และงานวิจัยที่เกี่ยวกับน่านน้ำในมหาสมุทรและสิ่งมีชีวิตในทะเลของฟุกุชิมะ เตรียมติดตามข้อมูลเชิงลึก พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย 
 
ติดตามข้อมูลข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นจาก Japankuru (เจแปนคุรุ) ได้ทาง Facebook และ Twitter ได้ทุกวัน

Details

NAME:ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร จังหวัดฟุกุชิมะ (農業総合センター)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS