ช่วงต้นฤดูร้อนในโตเกียวเมืองจะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ ละอองฝน และดอกไฮเดรนเยีย ซึ่งศาลเจ้าฮะคุซันเป็นที่ที่เราสามารถเห็นได้ทุกอย่างที่กล่าวมา

เที่ยวฤดูฝน เดือนมิถุนายน

เวลาที่เราไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นทะเล เมือง หรือภูเขา เราต่างก็หวังว่าอากาศจะดี ฝนไม่ตก แต่สำหรับการเที่ยวในช่วงต้นฤดูร้อนนั้น หากเรารู้ว่าที่ไหนสวย ก็จะเห็นความสวยงามของฤดูนี้มากขึ้น

เมื่อวันฝนตก เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้ไปเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างกระทันหันในขณะที่อยู่ที่ศาลเจ้าฮะคุซันในโตเกียว และได้เห็นภาพที่สวยงามของดอกไฮเดรนเยียที่ระยิบระยับท่ามกลางสายฝน
 

ที่มารูปภาพ：Pinterest

เมื่อนานมาแล้ว หลังจากที่เราได้ดูฉากหนึ่งของอนิเมะเรื่องการ์ดแค็ปเตอร์ซากุระ (Cardcaptor Sakura) ในช่วงฤดูฝน ต้นฤดูร้อนของญี่ปุ่น และความสวยงามของสวนชินจุกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) ในช่วงฤดูฝน จากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง The Garden of Words ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการออกไปเดินในฤดูฝน ตอนที่เราอาศัยอยู่ที่ไต้หวัน เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวภูเขาเพื่อดูดอกไฮเดรนเยียในวันฝนตก อย่างไรก็ตามดอกไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้ที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ทั้งตามถนน บ้านพัก ศาลเจ้า และสวนสาธารณะ เพราะฉะนั้นการเดินเที่ยวดูดอกไฮเดรนเยียในวันฝนตก อาจดูเป็นเรื่องตลกนิดหน่อย สำหรับในตอนนี้เราอาศัยอยู่ในโตเกียว มีตัวเลือกให้เที่ยวมากขึ้น และจุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้คือ ศาลเจ้าฮะคุซัน

ศาลเจ้าฮะคุซันและดอกไฮเดรนเยีย

ศาลเจ้าฮะคุซัน เขตบุงเคียว โตเกียว เป็นสาขาย่อยของศาลเจ้าชิรายามะฮิเมะ จังหวัดอิชิคาวะ ที่สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน เมื่อตอนที่ยังเป็นจังหวัดคากะอยู่ สำหรับสาขาโตเกียวนี้ ดังเรื่องดอกไฮเดรนเยีย ภายในศาลเจ้าและสวนฮะคุซันที่อยู่ใกล้เคียงมีพุ่มดอกไฮเดรนเยียประมาณ 3,000 พุ่ม และเมื่อดอกไฮเดรนเยียบานเต็มที่ในเดือนมิถุนายน จะมีการจัดงานเทศกาลดอกไฮเดรนเยีย Bunkyo Hydrangea Festival ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง

ตอนที่เราไปเมื่อปี 2020 งานเทศกาลดอกไฮเดรนเยียถูกยกเลิก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ดอกไฮเดรนเยียก็ไม่ได้หยุดบาน เราเลยรอวันที่มีฝนตก คว้ากล้อง หยิบร่ม ออกไปศาลเจ้ามา!

เราเลือกเส้นทางที่ประหยัดที่สุด จากบ้านเพื่อไปยังศาลเจ้า ลงรถไฟที่สถานี Sugamo และเดินต่ออีก 20 นาที กูเกิ้ลแมปไม่ได้พาเราเข้าไปตรงทางเข้าหลักของศาลเจ้า แต่พาไปทางที่สามารถมองเห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานอยู่หน้าบันไดบนเนินเขาสุดคลาสสิคของโตเกียว 

วิวของศาลเจ้าที่เราได้เห็นอย่างแรกเลยก็คือ ที่จอดรถ ฮ่าๆ มันเป็นความผิดของเราเองแหละที่เลือกเส้นทางที่ไม่ผ่านทางเข้าหลัก

ในที่สุดเราก็ถึงเขตของศาลเจ้าแล้ว เราเห็นพุ่มดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าและม่วงเรียงรายอยู่ตลอดเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังอาคารหลักของศาลเจ้า แม้ว่าจะเป็นวันฝนตกก็ยังเห็นมีคนมาศาลเจ้า พร้อมกับหยิบกล้องและโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปในวันฝนตกเหมือนกับเรา เมื่อฝนหยุดเราตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายรูปดอกไม้ ซึ่งตอนที่เรากำลังเล็งที่จะถ่ายรูปดอกไฮเดรนเยียอยู่นั้น ก็มีแมวสองตัวโผล่ออกมาจากใต้ดอกไม้เพื่อทักทายกันด้วย 

この投稿をInstagramで見る

Kenshin Lucy Wu(@kenshin6666)がシェアした投稿

เราเป็นแฟนของรุคาว่า คาเอดะ จากเรื่องสแลมดังก์ จึงดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นแมวดำ เพื่อนใหม่ทั้งสองที่เราเพิ่งเจอหน้ามีปากเสียงกันนิดหน่อย และวิ่งหนีไปยังสวน เราเดินตามไปและพบว่าพวกมันไม่ได้มีแค่สองตัว แต่มีถึงสาม! 

ในวันฝนตกแบบนี้ ศาลเจ้าค่อนข้างเงียบเหงา บวกกับความกดอากาศที่อาจทำให้อารมณ์ดาวน์ลงไปได้ แต่โชคดีที่สีสันของดอกไฮเดรนเยีย ทำให้วันฝนตกกลายเป็นวันที่สดใส

ตอนที่เรามองหาแมวอยู่นั้น ก็ทำให้เราได้เห็นดอกไฮเดรนเยียในมุมมองใหม่ๆอีกด้วย

เราเคยได้ไปดูดอกไฮเดรนเยียที่ที่ชื่อเสียงของวัดฮาเซเดระและวัดเมเกทสึอิน ในคามาคุระ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าศาลเจ้าฮะคุซันแตกต่างกันสักเท่าไร แต่การได้ออกไปเดินเล่น ได้ชมดอกไม้ ในบรรยากาศที่สบายๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าที่นี่ก็ดีเหมือนกัน

ด้านหลังของศาลเจ้า มีเนินที่เรียกว่า hydrangea Mount Fuji ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ โดยเราสามารถเข้าได้เฉพาะช่วงเทศกาล แต่แม้ว่าเทศกาลจะถูกยกเลิกไป แค่ได้มองจากระยะไกลก็สวยมาก

ความสนุกของการได้มาเที่ยวที่นี่คือ การได้ค้นหาดอกไฮเดรนเยียที่แตกต่างไปจากดอกอื่น ต้นไฮเดรนเยียมีระดับความสูงอยู่ในระดับสายตา จึงสามารถดูได้อย่างใกล้ๆ และรู้หรือไม่ว่าค่า PH ในดิน ทำให้ดอกไฮเดรนเยียมีสีต่างกันออกไป จึงทำให้สวนไฮเดรนเยียแต่ละแห่งมีสีที่ต่างกันออกไป

ภายในสวนมีไฮเดรนเยียพันธุ์พื้นเมืองญี่ปุ่น ไฮเดรนเยียภูเขา ที่บางครั้งเรียกว่า ชาจากสวรรค์ ปลูกไปพร้อมๆกับไฮเดรนเยียนำเข้าจากอเมริกาและฝรั่งเศส

ส่วนมากเราจะถ่ายภาพจากสีของดอกไฮเดรนเยียที่อยู่ข้างกับประตูศาลเจ้าฮะคุซัน สีม่วงแดง ม่วงอมฟ้า และสีเหลืองเขียวไล่เฉด ซึ่งให้อารมณ์ความเป็นเรโทรนิดๆ ซึ่งต่อมาเราได้รู้ว่าสีเฉพาะแบบนี้เกิดขึ้นจากการที่ผ่านช่วงไพร์มมาแล้ว และสีก็เริ่มจางลง ซึ่งร้านดอกไม้ที่อยู่ใกล้ๆกัน ก็มีต้นไฮเดรนเยียแบบนี้ขาย และมีป้ายเขียนกำกับไว้ว่า “ไฮเดรนเยียฤดูใบไม้ร่วง” แน่นอนหละว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียวแน่ๆที่ชอบดอกไม้สีแบบนี้!

เรายังชอบไฮเดรนเยียที่เริ่มแห้งนิดๆ กลีบดอกเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีอ่อนลง ออกเหลืองๆและเหี่ยวหน่อยๆ ที่น่าสนใจคือ การได้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ทำให้เราได้ค้นพบว่าดอกไฮเดรยเยียไม่ได้เพียงแต่ร่วงจากต้นโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อฤดูของดอกไฮเดรนเยียสิ้นสุดลง ถ้าไม่มีใครไปตัดมันทิ้ง ดอกที่เหี่ยวก็จะเหี่ยวคาต้น ทำให้เราสามารถเห็นดอกไฮเดรนเยียสีน้ำตาลได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้ แต่อย่างไรก็ตาม การตัดดอกที่เหี่ยวทิ้งไป เป็นการดูแลต้นไม้อย่างหนึ่ง ทำให้ดอกออกได้สวยมากยิ่งขึ้นในฤดูร้อนปีถัดไป

จริงๆแล้วเราชอบดอกไฮเดรนเยียตอนเหี่ยวๆนะ แต่ตัวดอกไม้เองนั้นชอบน้ำมากๆๆ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงบานช่วงฤดูฝนนั่นเอง

หากคุณต้องการเก็บภาพของช่วงต้นฤดูร้อนญี่ปุ่น ภาพของดอกไฮเดรนเยียที่มีหยดน้ำเกาะก็เป็นภาพหนึ่งที่ไม่ควรพลาด และศาลเจ้าฮะคุซันยังมีดอกไม้ให้ชมในช่วงที่อากาศอุ่นขึ้นอีกด้วย

ศาลเจ้าฮะคุซัน (Hakusan Shrine, 白山神社)
5-31-26 Hakusan, Bunkyo City, Tokyo
การเดินทาง: สถานี Hakusan (白山駅) / สถานี Honkomagome (本駒込駅)

ติดตามข่าวสารและข้อมูลจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook และ Twitter