มาถึงตอนสุดท้าย ตอนที่ทุกคนรอคอย นั่นก็ เรื่องความรักนั่นเอง ใครอยากสมหวังตามมาค่ะ

อย่างที่บอกไปใน 2 ตอนก่อนหน้าแล้วว่า ทุกแห่งที่แนะนำ มาจากประสบการณ์ส่วนตัว และรู้สึกได้ผลจริง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความสบายใจของแต่ละบุคคล ที่สำคัญคือความพยายาม มานะบากบั่น และตั้งใจที่จะทำให้สิ่งนั้นประสบความสำเร็จด้วยค่ะ

ศาลเจ้าโตเกียวไดจิงกุ ( 東京大神宮 Tokyo Daijingu) ตั้งอยู่ในเขตจิโยดะ ห่างจากสถานีอิดาบาชิ (飯田橋駅 Idabashi Station) เพียง 3 นาที ออกทางออก A4 นะคะ

วิธีไหว้หรือขอพร ก็จะเหมือนกับ 2 ศาลเจ้าที่ได้เล่าไปในตอนก่อนหน้าแล้ว ก็คือ 
ค่อยๆโยนเหรียญ 5 เยนลงไป →โค้งคำนับ 2 ครั้ง→ ปรบมือ 2 ครั้ง→ อธิษฐาน→แล้วก็คำนับอีกที 

อ่านเพิ่มเติมว่าทำไมต้องใช้เหรียญ 5 เยน

เรื่องเล่าจากเรา…
เมื่อหลายปีก่อนเรามีความรู้สึกดีๆให้กับคนหนึ่ง แต่จะไปต่อดีหรือจะพอแค่นี้ ไม่อยากเสียใจ กลัว และอีก108เหตุผล ก็เลยลองค้นหาดูว่าศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น ที่ดังในเรื่องการขอความรักมีที่ไหนบ้าง ไม่รู้จะปรึกษาใคร กลัวโน่นนี่บ้างหละ เลยพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดีกว่า ฮ่าๆ ก็มาเจอที่นี่ ในอินเตอร์เน็ตต่างก็เขียนว่า คนที่มาขอพรที่นี่ได้แต่งงาน ได้เจอคู่ หรือคนที่เราชอบนั้นชอบเรากลับ ส่วนใหญ่แล้วมีแต่แง่บวก เลยลองไปดู

รูปภาพจากเว็บไซต์ศาลเจ้า Tokyo Daijingu

ได้ขอพรว่า ถ้าคนที่เข้ามาในชีวิตเราตอนนี้ เค้าเป็นคู่เราจริงก็ขอให้เค้าอยู่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ขอให้เค้าไป และได้ซื้อเครื่องรางมาด้วย เป็นรูปดอกลิลลี่สีขาว 2 ดอก มีกระดิ่งอยู่ข้างใน (ความสุขกำลังจะมาถึง), กุญแจ (ไขประตูหัวใจของคนๆนั้น) , เสี่ยงเซียมซี หมดไปเยอะค่ะ (ฮ่าๆ) 

พวกเครื่องรางนี้เราพกติดตัวตลอดค่ะ จะใส่ในกระเป๋าสตางค์บ้าง กระเป๋าใส่เหรียญ หรือห้อยไว้กับกุญแจบ้าน 

หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนก็ได้ตกลงคบหากัน จนถึงตอนนี้ก็ 3 ปีแล้วค่ะ ต้องขอบคุณเครื่องราง (ฮ่าๆ)

นี่เขียนไปก็เขินไปนะคะ ปกติไม่ค่อยเล่าเรื่องความรักให้ใครฟัง รู้สึกเป็นเรื่องส่วนตั้วส่วนตัว แต่เพราะอยากให้คุณผู้อ่านทุกคนได้รับความสุข สมหวัง เลยเอาเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกันค่ะ

เครื่องรางที่นี่ก็จะเน้นไปด้านความรักเป็นส่วนใหญ่ สังเกตได้จาก เครื่องรางที่มีคำว่า 縁結 (การสมหวังในความรัก) และ 愛 หรือ 恋 (ความรัก) จะมีเยอะเป็นพิเศษ

ที่นั่งพัก ตอนเราไป ก็ไปนั่งอ่าน นั่งแปลใบเซียมซีตรงนี้แหละค่ะ

ลืมบอกไปว่า ศาลเจ้าจะมีจุดให้คืนเครื่องราง ที่หมดอายุแล้ว เนื่องจากว่าเครื่องรางมีอายุแค่ 1 ปีเท่านั้น ครบ 1 ปี ต้องเอามาคืนค่ะ ของเรา 3 ปีแล้ว เพิ่งจะได้ฤกษ์มา สายจะขาดแล้วค่ะ (ฮ่าๆ)

สบายใจกันแล้ว ก็ต้องสบายท้องกันด้วยค่ะ 

เราจะพาไปกินขนมกัน เดินจากศาลเจ้าไป 11 นาทีค่ะ หรือประมาณ 800 เมตร อาจฟังดูไกล แต่คุณจะไม่รู้สึกไกลเลยค่ะ เพราะระหว่างทางเดินไป มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมมากมาย ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของกุ๊กกิ๊ก ร้านเสื้อผ้า เรียงรายไปตลอด 2 ข้างทางเลยค่ะ เป็นอีกย่านที่อยากให้ทุกคนได้ไปเดินเล่นกันค่ะ 

หลังจากเดินเพลินๆก็มาถึงจุดหมายของเราแล้วค่ะ ร้านคากุระซากะ ซะเรียว (神楽坂 茶寮 本店 Kagurazaka Saryo) เป็นคาเฟ่ นั่งสบาย มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor ได้บรรยากาศบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น เหมาะแก่การนั่งจิบชา กินขนมมากๆค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เลยจะเป็นสาวๆมานั่งคุยกันค่ะ 

เซ็ตอาหารกลางวัน 

ขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น

ดูเมนูเต็มๆได้ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น และรูปภาพ)

ขนมที่สั่งไปมาแล้วค่ะ อันมิตสึชาเขียว และน้ำชา (เนื่องจากมีชาหลายประเภทมากๆ เลยถามพนักงานว่ามีเมนูแนะนำไหม จึงได้มาเป็นชาจีนรสเข้มตัวนี้ค่ะ) อย่างที่ทราบกันดีว่าขนมญี่ปุ่นจะมีรสชาติที่หวานจัด การได้กินคู่กับชาจีนเข้มๆ ร้อนๆ มันลงตัวอย่าบอกใครเลยค่ะ

ต้องบอกว่าการได้กินขนมหวานๆ หลังจากไปไหว้พระขอพรเรื่องความรักมา มันก็เข้ากันดีเหมือนกันนะคะ 

ขอบคุณที่ติดตามซี่รี่ย์ศาลเจ้าเด็ดในโตเกียวกันมานะคะ 
ขอให้ทุกคนสมหวังในความรัก และโชคดีในทุกๆเรื่องเลยค่ะ