Tokyo Snake Cafe: ใช้เวลาช่วงบ่ายที่คาเฟ่สัตว์เลี้ยงสุดแปลกในญี่ปุ่น

  • X
  • line

ในประเทศญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยคาเฟ่สัตว์มากมาย Tokyo Snake Center หรือ “คาเฟ่งู” เป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะเป็นคาเฟ่สัตว์แปลกที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว และยังน่ารักที่สุดอีกด้วย น่ารักที่สุดจริงไหม ลองมาดูในบทความนี้กัน!

คาเฟ่งูในญี่ปุ่นที่เป็นทุกอย่างให้งูแล้ว

The Tokyo Snake Center เปิดตัวในปี 2015 จากการนำกองทัพงูเล็ก ๆ มายังใจกลางฮาราจูกุ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับทุกคนที่สนใจอยากรู้จักกับเพื่อนเลื้อยคลานตัวน้อยเหล่านี้ ในช่วงเกือบสิบปีที่ผ่านมาศูนย์แห่งนี้ได้ให้บริการหลากหลายที่เกี่ยวกับงูในพื้นที่เขตโตเกียว ไม่ว่าจะให้บริการเป็นโรงแรมงู เป็นสถานที่จำหน่ายอาหารงู ไปจนถึงการให้เช่าเป็นสตูดิโอถ่ายภาพที่เต็มไปด้วยงู และอีกสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดีก็คือการเปิดเป็นคาเฟ่งูให้เราได้แวะมาชื่นชมความน่ารักของงูไปพร้อมจิบกาแฟในบริเวณใจกลางฮาราจูกุ

ปัจจุบันที่คาเฟ่หรือศูนย์แห่งนี้มีงูมากกว่า 100 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงูที่อาศัยอยู่ในศูนย์เลย และมีบางส่วนที่เป็น “แขกพิเศษ” คือแวะมาพักชั่วคราวระหว่างที่เจ้าของติดธุระ พนักงานของศูนย์เล่าว่างูบางตัวที่อยู่ที่นี่เป็นงูนำเข้าที่ทางศูนย์ซื้อมาตลอดหลายปีนี้ และบางส่วนเป็นงูที่ทางศูนย์ไปช่วยเหลือมาในรูปแบบต่าง ๆ อย่างบางตัวรับมาจากเจ้าของเดิมที่ไม่สามารถดูแลน้องได้อีกต่อไป หรือบางตัวเป็นงูหลงทางที่ตามตัวเจ้าของไม่เจอแล้ว บอกเลยว่าเบื้องหลัวเรื่องราวของเหล่างูที่อยู่ที่นี่มีทั้งเรื่องเศร้าและเรื่องตลก แต่ที่แน่ ๆ ท่ามกลางเมืองใหญ่วุ่นวายอย่างโตเกียว ศูนย์งูแห่งนี้คือสถานที่พักพิงสุดแสนอบอุ่นที่มอบชีวิตปลอดภัยและสงบสุขให้กับเหล่างู พร้อมเมนูหนูให้กินกันอย่างเต็มอิ่ม!

JAPANKURU จึงอยากมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับคาเฟ่งูแห่งนี้ ลองเปิดใจเข้ามาสัมผัสประสบการณ์คาเฟ่สัตว์ที่ไม่เหมือนใคร แล้วคุณจะพบว่าน้องน่ารักและสงบกว่าที่คิด!

Tokyo Snake Center: Cafe & Snake
Sanpo Bldg. 8F, 6-5-6 Jingumae, Shibuya City, Tokyo
เวลาเปิดทำการ: 11:00 – 20:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
ค่าเข้า: 1,650 เยน (รวมค่าเครื่องดื่มแล้ว)
Official Website (jp/en)

เปิดประสบการณ์ใหม่ในคาเฟ่งูกัน

The Tokyo Snake Center ตั้งอยู่ใจกลางฮาราจูกุที่เดินทางสะดวก สามารถเดินเพียงไม่กี่นาทีจากสถานี JR ฮาราจูกุ (และแทบจะอยู่เหนือสถานีรถไฟใต้ดินพอดี) ตัวคาเฟ่อยู่บริเวณสุดสายของถนนทาเคชิตะ(Takeshita-dori Street) และอยู่ตรงข้ามกับ ฮาระคาโดะ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของฮาราจูกุแบบพอดิบพอดี เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่มีแผนแวะไปโตเกียวน่าจะต้องมีฮาราจูกุในแพลน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะลองแวะไปคาเฟ่งูแห่งนี้ โดยทั่วไปสามารถเข้าได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า (แต่หากกังวล ร้านรับจองในวันธรรมดา ช่วงเช้าหรือเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์)

คาเฟ่งูนี้ตั้งอยู่บนชั้น 8 ต้องเดินเข้ามาขึ้นลิฟต์ข้างในตัวตึก บวกกับป้ายชองคาเฟ่เป็นสีดำเรียบง่าย ทั้งยังเป็นภาษาญี่ปุ่นอีก ทำให้หลาย ๆ คนที่ตั้งใจมาคาเฟ่นี้หาทางเข้าไม่เจอไปบ้าง จุดสังเกตคือให้มองหาร้านราเมงข้อสอบ Ichiran และทางเข้าคาราโอเกะสีฟ้าสดใส จากนั้นเดินเข้าไปในอาคารจะเจอลิฟต์สำหรับพาขึ้นไปยังชั้น 8

เมื่อเข้ามาข้างในคาเฟ่แล้ว ขั้นตอนแรกก็คือ”การเลือกงู”ประจำโต๊ะของเราเอง โดยจะมีงูอยู่ในกล่องเรียงรายบริเวณหน้าประตูให้ได้เลือกสรร งูที่เราเลือกจะมาอยู่ที่โต๊ะกับเราตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในคาเฟ่ และแน่นอนว่าสามารถหมุนเวียนเปลี่ยนเป็นงูตัวอื่นได้ (หากตัวนั้น ๆ ยังไม่ถูกเลือกไปเสียก่อน) งูทุกตัวอยู่ในกล่องใสปิดมิดชิด เราสามารถชื่นชมความน่ารักของน้องได้อย่างใกล้ชิดและปลอดภัย

หลังจากเลือกงูได้แล้ว ก็ถึงเวลาสั่งเครื่องดื่มและของว่าง เมนูที่นี่มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย โดยเครื่องดื่มอย่างกาแฟและชารวมอยู่ในค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1,650 เยนแล้ว ส่วนเครื่องดื่มพิเศษ เช่น โกโก้วิปครีมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 110 ~ 220 เยน นอกจากนี้ยังมีเมนูของว่างและขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น แซนด์วิชและเฟรนช์ฟรายส์ สำหรับคนที่อยากทานอะไรเบาๆ

ทุกวันนี้ คาเฟ่สัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นหลายแห่งเป็น “คาเฟ่” แค่ในชื่อ แต่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สำหรับเล่นกับสัตว์ในเวลาจำกัด แต่สำหรับโตเกียวสเนคคาเฟ่เป็นคาเฟ่ที่เราสามารถนั่งชิลจิบเครื่องดื่มใช้เวลากับเหล่าน้องงูได้อย่างเต็มที่

นอกจากการได้นั่งชื่นชมความน่ารักของงูแล้ว ที่คาเฟ่แห่งนี้เรายังสามารถให้อาหารงูได้ด้วย! โดยใช้คีมยาวป้อนหนูแช่แข็งให้งูที่กำลังหิวโซ แต่ละโต๊ะยังสามารถเลือกเวลาสำหรับเล่นกับงูได้โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ความสนุกอย่างหนึ่งคือการสังเกตงูในตู้กระจก เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่างูน่ารักแค่ไหนตอนที่มันอ้าปากหาวหรือดื่มน้ำ จนกระทั่งได้เห็นกับตาตัวเอง!

หากร้านไม่แน่นจนเกินไป เราสามารถสตาฟประจำร้านเกี่ยวกับชื่อที่ไม่ธรรมดาและเรื่องราวต้นกำเนิดของงูแต่ละตัวได้ เช่น “เท็น” (รูปซ้าย) เป็นงูญี่ปุ่นพื้นเมืองที่เคยถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงมาก่อน ส่วน “ไซล์” (รูปกลาง) เป็นงูคิงสเนคแคลิฟอร์เนียที่ได้ชื่อตามวงบอยแบนด์ญี่ปุ่น และ “ชินากาวะ” (รูปขวา) งูคอร์นสเนคสีสันสดใสที่เคยหนีออกจากบ้านในเขตชินากาวะ โตเกียว และถูกตำรวจจับตัวได้ ก่อนถูกส่งมาที่โตเกียวสเนคเซ็นเตอร์ เนื่องจากไม่พบเจ้าของค่ะ!

เล่นกับงูที่น่ารักใจดี(?)ที่สุดในโตเกียว

ที่คาเฟ่งูแห่งนี้มีบริการให้เล่นกับงูได้ ซึ่งส่วนมากงูที่ทางร้านเลือกมาเป็นงูที่เรียบร้อยและขี้เล่น แม้ว่างูเหล่านี้ยังคงเป็นสัตว์ป่าที่อาจไม่มีอะไรการันตีความปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของสตาฟอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา หากเราเล่นกับน้องอย่างเป็นมิตร จับน้องเบา ๆ หรือปล่อยน้องเลื้อยอย่างอิสระบนตัว น้องเองก็ตอบสนองเราอย่างเป็นมิตรและน่ารักเช่นกัน

ความรู้สึกหลังจากได้ลองจับครั้งแรกคือน้องตัวค่อนข้างเย็น มีพื้นผิวเกล็ดแต่เรียบลื่น จุดที่น่าสนใจคือบริเวณกล้ามเนื้อด้านข้างที่ขยับอยู่ตลอดเวลา เป็นสัมผัสที่น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ!❤︎

และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้งูเครียด หลังจากที่ออกมาเล่นกับคนแล้ว สตาฟจะให้เวลางูกลับไปพักผ่อนหลังจากนั้นด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าน้องจะเครียดน้า

ไหน ๆ ก็ได้จับน้องแล้ว อย่าลืมแชะภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ

สำหรับค่าบริการ คิดตามจำนวนงูและประเภทของงู หากเลือกเป็นงูปกติ(สายพันธุ์เล็กอย่างคอร์นสเนค)จะอยู่ที่คนละ 550 เยนต่องู 2 ตัว ถ้าอยากเล่นกับน้องมากกว่านั้น ราคาจะอยู่ที่คนละ 1,100 เยนต่องู 2 ตัว แต่ถ้าเป็นงูพิเศษ ซึ่งส่วนมากจะเป็นงูตัวใหญ่หรืองูลายหายาก เช่น “นิจิโกะ” ในรูปด้านบน

Before You Go…! 🐍

ก่อนกลับอย่าลืมแวะดูกู๊ดส์น่ารัก ๆ ของที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ทำจากหนังงูลอกคราบ ไปจนถึงเครื่องประดับที่มีรูปทรงงู นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมโหวตให้กับงูที่ชื่นชอบ งูที่ได้รับผลโหวตสูงสุดจะได้ขึ้นปฎิทินประจำปีนั้น ๆ ไปเลย

ใครที่ลองแวะมาแล้วติดใจในความน่ารักของงูเหล่านี้และอยากกลับไปอีก ก็สามารถทำบัตรสะสมแต้มของร้านได้บริเวณทางออก เมื่อสะสมแต้มครบ 12 ดวงจะได้รับตั๋วเข้าคาเฟ่ฟรี และถ้าสะสมครบ 24 ดวงก็รับไปเลย “บัตร King Cobra” พร้อมสิทธิ์จับงูได้ฟรีทุกครั้ง! มั่นใจว่าใครที่ได้มา(และชอบงู)จะต้องวางแผนกลับมาที่นี่อีกแน่นอน!

Half a lifetime ago I came to Japan for a semester abroad... and I never left. I guess I really like the place! I spent my first few years in Japan living in the middle of nowhere, so I'd love to hear your Tokyo recommendations via Japan's social media accounts!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS