CONTENTS
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของจิบลิที่มีแพลนจะมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น แต่กำลังลังเลว่าจะเลือกไปที่ไหนดีระหว่าง Ghibli Museum vs. Ghibli’s Grand Warehouse มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย!
จุดท่องเที่ยวเกี่ยวกับ Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น
สตูดิโอจิบลิ เป็นสตูดิโอผลิตอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น ที่มีตัวมาสคอสสุดน่ารักซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่างโทโทโร่ (My Neighbor Totoro) และเป็นสตูดิโอผู้ผลิตภาพยนต์ Spirited Away ผลงานเลื่องชื่อระดับรางวัลออสการ์
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของจิบลิหรือเป็นคนที่หลงรักในเสน่ห์ความน่ารักของโทโทโร่และกำลังวางแพลนมาเที่ยวญี่ปุ่น ย่อมไม่พลาดที่จะใส่ Ghibli Museum เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทริปด้วยเป็นแน่ แต่ในปี 2022 ได้มีการเปิดตัว Ghibli’s Grand Warehouse ทำให้สาวกจิบลิมีจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัวเลือก
ทั้งสองที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? ไม่ว่าที่ไหนก็ดูน่าไป แต่ถ้าเลือกไปได้แค่ที่เดียวจะไปที่ไหนดีนะ? หากยังตัดสินใจไม่ได้ เรามาลองเปรียบเทียบ Ghibli Museum และ Ghibli’s Grand Warehouse แบบมัดต่อมัดกันไปเลยดีกว่า!
สถานที่ตั้ง
Ghibli Museum ตั้งอยู่ที่ชานเมืองโตเกียว จึงเหมาะกับผู้ที่มีกำหนดการณ์ท่องเที่ยวในแถบโตเกียวเป็นส่วนใหญ่และมีเวลาท่องเที่ยวจำกัด หากออกเดินทางจากสถานีรถไฟโตเกียวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารประมาณ 700 เยน ในขณะที่ Ghibli’s Grand Warehouse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ghibli Park ตั้งอยู่ที่จังหวัดไอจิ ภูมิภาคชูบุ หากจะเดินทางมาด้วยรถไฟจากโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงและมีค่าโดยสารประมาณ 11,600 เยน
แต่ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้จิบลิที่ไม่อยากพลาด Ghibli Park การวางแพลนท่องเที่ยวนาโกย่าสัก 2 – 3 วัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยนาโกย่าเป็นเมืองใหญ่ของจังหวัดไอจิที่มีขนาดและประชากรเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย สามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซนโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
พื้นที่
Ghibli Museum อาจเป็นต่อในเรื่องของตำแหน่งที่ตั้ง แต่ Ghibli Park ชนะขาดลอยในเรื่องของพื้นที่
Ghibli Museum ตั้งที่อยู่ที่มุมหนึ่งของสวนสาธารณะในเมืองโตเกียว แม้ว่าจะมีส่วนจัดแสดงที่น่าตื่นตาตึ่นใจ แต่ด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนัก ทำให้ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็สามารถเที่ยวได้จนทั่ว (เว้นแต่ว่าคุณจะแฟนตัวยงที่วางแผนเก็บทุกรายละเอียดของสิ่งจัดแสดงและตามหา Easter Egg ที่ซ่อนอยู่ในกระจกสี)
ในขณะที่ Ghibli Park จะแบ่งเป็นโซน ๆ ทั่วสวน Expo 2005 Aichi Commemorative Park เฉพาะส่วน Ghibli’s Grand Warehouse ก็ใหญ่พอจะให้เที่ยวชมได้อย่างจุใจตลอดวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาปิดให้บริการ
ส่วนจัดแสดง
Ghibli Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แนะนำแฟน ๆ ของจิบลิให้รู้จักกับความมหัศจรรย์ของอนิเมชั่น ประกอบไปด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์การสร้างอนิเมชั่นที่มีตั้งแต่โซโทรป (zoetrope) จนถึงแผ่นเซลลูลอยด์ (celluloid) และอีกห้องหนึ่งที่จะพาผู้เข้าชมไปแอบดูโต๊ะและพื้นที่ทำงานของเหล่าอนิเมเตอร์ ตั้งแต่อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้จนถึงภาพร่างที่ใช้รังสรรค์ภาพยนตร์
สำหรับ Ghibli’s Grand Warehouse ในส่วนของห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนจะคล้ายกับที่จัดแสดงใน Ghibli Museum บางครั้งก็อาจจัดในธีมเดียวกันด้วยสเกลที่ใหญ่ขึ้น มีส่วนจัดแสดง Becoming Characters in Memorable Ghibli Scenes จำลองฉากในอนิเมชั่นเรื่องดังของจิบลิหลายฉาก นำผู้เยี่ยมชมเข้าไปสู่ของโลกของจิบลิ ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ราวกับได้ก้าวเข้าในไปอยู่ในฉากหนึ่งของอนิเมชั่นเรื่องโปรด ไม่ว่าจะเป็น Ponyo, Princess Mononoke และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีหุ่นจำลอง 3 มิติที่ให้คุณสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่อง
จุดถ่ายรูป
นอกจากจุดถ่ายรูปในส่วนจัดแสดงของ Ghibli’s Grand Warehouse แล้ว ยังมีจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจอีกมากมายให้ถ่ายภาพได้เป็น 100 ใบ ไม่ว่าจะเป็น Cat Bus Room, บาร์โทโทโร่, ทหารหุ่นยนต์จาก Laputa: Castle in the Sky คุณสามารถเข้าไปถ่ายเซลฟี่กับยูบาบะในห้องทำงานของเธอ หรือมุดเข้าไปในขวดโหลขนาดเท่าคนจริงเพื่อสัมผัสประสบการณ์ของคนตัวจิ๋วจากเรื่อง Arietty
ด้วยลักษณะการออกแบบของสถานที่ที่ให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าไปโพสท่าทางราวเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวได้ ดังนั้นจะยิ่งสนุกมากขึ้นหากคุณมาเที่ยวที่นี่พร้อมกับเพื่อนที่รู้ใจเพื่อผลัดกันถ่ายภาพให้กันและกัน
ทางฝั่ง Ghibli Museum แม้จะน่าเสียดายที่โซนในอาคารทั้งหมดเป็นโซนห้ามถ่ายรูป แต่นอกตัวอาคารก็ยังมีจุดถ่ายภาพให้คุณได้เก็บความประทับใจไม่น้อย ได้ว่าจะเป็นตัวอาคาร, ส่วนกลางแจ้ง, พื้นที่รอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงสวนบนดาดฟ้า จุดถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาดคือทหารหุ่นยนต์จาก Laputa: Castle in the Sky และโทโทโร่ที่ประจำอยู่ในช่องจำหน่ายตั๋วจำลอง แม้จะไม่ตอบโจทย์มากนักสำหรับสายถ่ายภาพ แต่ก็ช่วยลดปัญหาขัดใจกับการรอคิวถ่ายภาพหรือการถูกบดบังจากผู้เยี่ยมชมท่านอื่น ๆ ทั้งยังช่วยให้เรารวบรวมความสนใจไปที่ส่วนจัดแสดงมากขึ้นได้อีกด้วย!
สรุปแล้วควรเลือกไปที่ไหนก่อนดีกันนะ?
อาจพูดฟันธงไปเลยไม่ได้ว่าที่ไหนดีกว่า เพราะทั้ง 2 แหล่งต่างก็มีข้อดีในแบบของตัวเอง Ghibli Museum ตั้งอยู่ในย่าน Mitaka ของโตเกียวที่สะดวกในการเดินทาง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่ารักและอบอุ่น ให้คุณอิ่มเอมใจได้อย่างเต็มที่แม้มีเวลาเที่ยวจำกัด ในขณะที่ Ghibli’s Grand Warehouse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ghibli Park นั้นอยู่ทางฝั่งนาโกย่า มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้คุณได้ใช้เวลาได้ตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปสุดเซอร์ไพรส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของอนิเมชั่น แต่ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นจุดท่องเที่ยวที่แฟนของ Studio Ghibli ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนให้ได้สักครั้ง!
ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Twitter และ Facebook!
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MOREMAP OF JAPAN
SEARCH BY REGION
LATEST
VIEW MOREEVENT CALENDAR
VIEW MOREMOST POPULAR
Tokyo Winter Recommendation: Don’t Miss Tokyo Mega Illumination, Japan’s #1 Light Show
ป้ายยาสินค้าน่าซื้อในร้านขายยาญี่ปุ่น | KOWA ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับคนยุคใหม่
Okinawa Family Road Trip: Japanese Glasses Shopping at San-A Urasoe West Coast PARCO CITY, Discount Coupons, & Okinawa Sightseeing with JINS