Sponsored

เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะในโตเกียวสกายทรี พร้อมอัปเดตโซนใหม่ในปี 2024

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

กำลังมองหากิจกรรมสนุก ๆ ทำในปี 2024 อยู่หรือเปล่า? หากยังไม่รู้จะไปไหน ขอแนะนำให้ไปสัมผัสกับเหล่าสัตว์น้ำและครอบครัวเพนกวินที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ” ในโตเกียวสกายทรี พร้อมพาไปอัปเดตโซนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสระแมงกะพรุน อุโมงค์แสงสี ทีมงาน JAPANKURU ได้รวบรวมความสนุกภายในอควาเรียมใจกลางโตเกียวแห่งนี้ไว้ให้แล้ว

พบกับความสนุกใกล้โตเกียวสกายทรี ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sumida



พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Solamachi ชั้นล่างของ Tokyo Skytree เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดฮอตฮิตสำหรับการไปเที่ยวกับครอบครัว หรือจะไปเดตกับแฟนก็ดีเหมือนกัน!
ไฮไลท์สำคัญของที่นี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “เหล่าครอบครัวเพนกวินกว่า 50 ตัว” ที่พากันว่ายน้ำเล่นกันอย่างสบายใจอยู่ภายใน แถมมี Family tree แผนผังอธิบายความเป็นมาของครอบครัวเพนกวินแบบละเอียดยิบ 
นอกจากจะเป็นดาวเด่นของซุมิดะอควาเรียมแล้ว เจ้าเพนกวินเหล่านี้ยังเป็นทูตการท่องเที่ยวของเขตซุมิดะอีกด้วย



ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ ไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่ของครอบครัวเพนกวินเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ทะเลอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แมงกะพรุนตัวใส แมวน้ำมีหู หรือปลาไหลสวนตัวจิ๋ว อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ผู้ดูแลเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัวสัตว์ทะเลเหล่านี้ จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ใช้ระบบน้ำทะเลเทียมพิเศษ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าน้อง ๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบายภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ



พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ (Sumida Aquarium)
Tokyo Skytree Town Solamachi 5F/6F, 1-1-2 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo
เวลาเปิดทำการ : วันธรรมดา 10:00 – 20:00 น. | วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์  9:00 – 21:00 น.
*เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิด
*โดยปกติ พิพิธภัณฑ์ซุมิดะเปิดทำการตลอดทั้งปี แต่อาจปิดชั่วคราวเพื่อบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก แนะนำให้เช็คในเว็บไซต์ก่อนเข้าชม
วิธีการเดินทาง : ติดกับสถานี Tobu Tokyo Skytree หรือเดิน 5 นาทีจากสถานี Oshiage (Skytree)
Official Website (en)

วันนี้ทีมงาน JAPANKURU จะพาไปส่องว่ามีสัตว์น้ำอะไรอยู่ในอควาเรียมแห่งนี้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย

① เหล่าเพนกวิน ที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็น่ารัก





ใจกลางอควาเรียมแห่งนี้ มีตู้ขนาดใหญ่ความจุกว่า 350 ตัน เป็นที่อยู่ของเหล่าเพนกวินหลายสิบตัว ตู้น้ำถูกสร้างตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำกิจกรรมของเพนกวิน ไม่ว่าจะกระโดดน้ำ ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือลอยตัวอยู่เฉย ๆ ก็ทำได้อย่างสบาย และด้วยลักษณะของตู้น้ำที่เปิดโล่งด้านบน ทำให้เราสามารถมองเห็นเหล่าเพนกวินได้จากชั้น 6 หรือจะลงมายืนดูตรงข้างตู้ที่ชั้น 5 ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสามารถชมความน่ารักของน้องได้ทุกมุมเลย



ใกล้ ๆ กับพื้นที่โชว์เพนกวิน มีแผนผัง Family tree ที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ต เพราะมันไม่ใช่แผนผังบอกความสัมพันธ์ของเหล่าเพนกวินธรรมดา ๆ  แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวและบุคลิกของเพนกวินแต่ละตัวไว้อย่างละเอียด รวมไปถึงมีบันทึกข้อความจากผู้ดูแลเพนกวินด้วย 
เนื่องจากแผนผังครอบครัวนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ปัจจุบันทางพิพิธภัณฑ์มีแปลเป็นภาษาอังกฤษ ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักเรื่องราวของเหล่าเพนกวินมากขึ้นแล้ว เชื่อว่าใครที่ได้อ่านแผนผังนี้จะต้องตกหลุมรักเพนกวินอย่างแน่นอนเลย

② เข้าสู่โลกอันแสนสงบของเหล่าเยลลี่แมงกะพรุน



หลบหลีกจากความครึกครื้นของเหล่าเพนกวิน มาพักในห้องแมงกะพรุนแสนสงบกันสักครู่ แรกเริ่มเดิมที ภายในห้องนี้มีแค่แมงกะพรุนไม่กี่สายพันธุ์ว่ายกันอยู่ในตู้น้ำบนผนัง แต่หลังจากได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2020 ได้มีการสร้างแท็งก์รูปทรงรีขนาดใหญ่ เพียงพอสำหรับเป็นที่อยู่ของแมงกะพรุนสีใสกว่า 500 ตัว ลำตัวโปร่งแสงของเหล่าแมงกะพรุนเปลี่ยนสีไปตามแสงที่ส่องสว่างในน้ำ ทำให้เรารู้สึกเหมือนแมงกะพรุนกำลังเปลี่ยนสีด้วยตัวมันเอง

บนแท็งก์รูปทรงรีนี้ มีทางเดินกระจกใสพาดด้านบน เราสามารถมองดูน้องล่องลอยผ่านใต้เท้าเราไปได้
พอได้มองบรรดาแมงกะพรุนลอยอย่างอิสระในน้ำ พร้อมบรรยากาศสลัว ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกเลย





เดินมาเรื่อย ๆ จากห้องแมงกะพรุนจะพบกับ “อุโมงค์คาไลโดสโคป” ทางเดินยาวตกแต่งด้วยกระจก แสงไฟ และแมงกะพรุนตัวจิ๋วในผนัง ใช้เป็นเส้นทางลัดเดินเข้าสู่ใจกลางอควาเรียม หรือจะแวะนั่งพักในอุโมงค์นี้ก็ได้เช่นกัน

ด้วยการตกแต่งที่ดูแปลกตา อุโมงค์นี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุด





แมงกะพรุนที่โชว์ตัวอยู่ทั้งหมดที่นี่ เป็นแมงกะพรุนที่เกิดและเติบโตภายในอควาเรียม เราสามารถชมห้องปฏิบัติการเพาะพันธุ์แมงกะพรุนจำลองได้ที่บริเวณโซน "Aqua Base" ที่จะเล่าการเติบโตตั้งแต่ยังเป็นแมงกะพรุนตัวจิ๋ว ไปจนถึงช่วงโตเต็มวัย!

รอบ ๆ โซน Aqua Base มีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายอยู่เพื่อคอยตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับแมงกะพรุน หรือแบ่งปันเรื่องราวของสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ทำให้อควาเรียมแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม

③ ยกทะเลมาไว้ในตู้ ดูสัตว์น้ำจากหมู่เกาะ Ogasawara



เดินไม่ใกล้จากเพนกวิน จะพบกับ "The Ogasawara Sea Life Tank" ตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่จำลองสภาพแวดล้อมของทะเลรอบหมู่เกาะโอกาซาวาระ ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโตเกียว ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกในปี 2011 แต่เราไม่ต้องไปไกลถึงหมู่เกาะโอกาซาวาระก็สามารถทำความรู้จักกับสัตว์น้ำกว่า 450 ตัวจาก 45 สายพันธุ์ได้ ที่ซุมิดะแห่งนี้





นอกจากตู้ปลาจำลองระบบนิเวศของหมู่เกาะโอกาซาวาระแล้ว ทางอควาเรียมยังได้เพิ่มโซน "Ogasawara Base" จัดแสดงสัตว์น้ำจิ๋วอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณชายหาดของเกาะ ซึ่งมีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต่าตนุ เรียกได้ว่าการเปิดอควาเรียมแห่งนี้ ไม่เพียงเพื่อสร้างความสนุกสนานให้มนุษย์อย่างเรา ๆ แต่ยังมีส่วนช่วยในการปกป้องเหล่าสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดอีกด้วย

ตั้งแต่ปี 2012 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะได้ร่วมมือกับชุมชนหมู่เกาะโอกาซาวาระ จัดทำโครงการต่าง ๆ เช่น ตู้ปลาขนาดใหญ่ Ogasawara Sea Life ที่เล่าไปด้านบน การอนุรักษ์เต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์ แม้กระทั่งการนำขยะพลาสติกที่เก็บได้บริเวณหมู่เกาะมาทำเป็นต่างหูรูปเต่าสุดน่ารัก



หนึ่งในเป้าหมายของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายให้กับเหล่าสัตว์ทะเล และยังมุ่งอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ด้วย พวกเขาร่วมมือกับ Aqua Design Amano ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตู้ปลาให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศจริงมากที่สุด โดยใช้พืชพรรณที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นแหล่งออกซิเจนธรรมชาติ และตกแต่งอย่างสวยงาม 

ตู้ปลาเหล่านี้ถูกนำมาจัดแสดงบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าไปเจอสัตว์น้ำอื่น ๆ ภายใน

④ พบกับเหล่าเพื่อนของนีโม่และปลาไหลจิ๋วตามแนวปะการัง



แนวปะการังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญของสัตว์ทะเลหลายชนิด อย่างเพื่อน ๆ ของนีโม่ ปลาการ์ตูนและปลาบลูแทงค์ (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อปลาดอรี่) นอกจากปลาสองชนิดนี้แล้วก็ยังมีปลาไหลสวน ที่อาศัยอยู่ในกระแสน้ำแรงและซุกตัวอยู่ในทรายลึกลงรอบ ๆ ปะการังอีกด้วย



อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือปลาไหลสวนตัวจิ๋ว ด้วยอุปนิสัยขี้อายอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อพิพิธภัณฑ์ต้องปิดตัวลงชั่วคราวจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ทางพิพิธภัณฑ์กังวลว่าน้องจะซุกซ่อนตัวกันอยู่ในทราย จึงจัดอีเวนต์ออนไลน์พิเศษ ''Video Call with Garden Eels'' ซึ่งช่วยสร้างสีสันในช่วงที่ทั่วโตเกียวกำลังเครียดกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี
หลังจากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มดีขึ้นจนกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เจ้าปลาไหลสวนก็กลับมาทำงานต้อนรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมกันตามปกติ ถึงบางครั้งจะงัวเงีย ไม่ค่อยยอมออกจากโพรงทราย (ตามรูปด้านบน) ในช่วงเช้าบ้างก็ตาม

⑤ หลุดเข้าไปในยุคเอโดะกับเหล่าปลาทอง





เพื่อเพิ่มความเป็นโตเกียวเข้าไปมากขึ้น ที่ซุมิดะจึงจัด “Edo-rium” สำหรับโชว์ปลาทอง ภายใต้การตกแต่งเหมือนได้ย้อนไปในยุคเอโดะ (ชื่อเก่าของโตเกียว) มีจัดแสดงปลาทองกว่า 20 สายพันธุ์ สามารถชมความสวยงามของหางและครีบได้ที่โซนนี้เลย 

นอกจากปลาทองในตู้ หากเราเงยหน้าขึ้นไปจะพบกับโคมไฟปลาทองลอยอยู่เหนือศีรษะ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในงานเทศกาลญี่ปุ่นอย่างบอกไม่ถูก

แวะสั่งน้ำสักแก้ว ขนมสักก้อน แล้วหาที่นั่งดูเหล่าสัตว์น้ำไปพร้อมกัน





ความน่ารักยังไม่จบ! เพราะที่ Penguin Cafe มีขนมและน้ำมาในธีมสัตว์น้ำสุดแสนจะน่ารัก ทั้งข้าวปั้นรูปเพนกวิน โดนัทแมวน้ำ บลูโซดาตกแต่งด้วยก้อนน้ำแข็งรูปเพนกวินด้านบน หรือโกโก้เย็นประดับด้วยช็อคโกแลตแมวน้ำอ้วนกลมบนวิปครีม เห็นแล้วน่ารักเกินกว่าจะกินลงเลย

พาความสนุกกลับบ้านได้ด้วยการซื้อของที่ระลึกที่ Aquarium Gift Shop



หลังจากเดินดูอควาเรียมมาจนครบทุกโซนแล้ว ร้านขายของที่ระลึกมีสินค้าเก๋ ๆ ให้เลือกซื้อ สามารถนำความสนุกของอควาเรียมกลับบ้านไปด้วยได้ มีตัวเลือกตั้งแต่หมวดอาหารอย่างไดฟูกุรูปสัตว์น้ำ ไปจนถึงหมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 
ตุ๊กตาสัตว์น้ำนานาชนิดแสนน่ารัก พวงกุญแจ หนังสือภาพ และเครื่องเขียน หรือจะซื้อสินค้า original ของอควาเรียมอย่างกระเป๋าผ้า และต่างหูเต่าอะคริลิก รีไซเคิลจากพลาสติกกลับไปก็เก๋ไม่ซ้ำใครเลย

สำหรับใครที่ชื่นชอบงานฝีมือของญี่ปุ่น ที่ร้านยังมีจำหน่ายสินค้า handmade โดยช่างฝีมือมากความสามารถในโตเกียว อย่างเช่น เครื่องแก้วเอโดะคิริโกะ แก้ววาดลวดลายสีสดใส มีต้นกำเนิดในสมัยเอดโดะ หรือตุ๊กตาเพนกวินแกะสลักไม้ ที่ควรค่าแก่การซื้อเก็บ หรือจะซื้อเป็นของฝากก็น่ารักไปหมด

Sumida Aquarium ชีวิตที่อยู่คู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ



ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตที่อยู่คู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ” ที่นี่จึงไม่หยุดที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าสัตว์น้ำให้ดีขึ้น และดูแลสิ่งมีชีวิตทุกชนิดด้วยความรัก 

เชิญชวนให้ทุกคนมาสัมผัสลมหายใจของทะเลด้วยตัวเองที่พิพิธภัณฑ์สัตวน้ำซุมิดะ มั่นใจได้เลยว่ายิ่งเข้ามาได้เห็นความน่ารักของเหล่าสัตว์น้ำใกล้ ๆ แล้ว จะยิ่งรักพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มากขึ้นไปอีกแน่นอน

Details

NAME:พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ (Sumida Aquarium)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS