Sponsored

สนามแข่งม้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น! 🐴 ในการแข่งขันขี่ม้าของคนญี่ปุ่น 🏇

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

สนามแข่งม้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น! 🐴 ที่ Tokyo Racecourse





การแข่งขันขี่ม้านั้น เกิดขึ้นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักร ในปีค.ศ.1540 นั้นก็ได้มีการสร้างสนามแข่งม้าที่เหมือนๆกับที่เห็นในทุกวันนี้
การแข่งม้า เป็นที่นิยมมากในประเทศยุโรป และเริ่มเข้าสู่ทวีปเอเชียในปีค.ศ. 1842 เมื่อมีการจัดแข่งม้าขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ และประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มมีกับเขาบ้างในปีค.ศ. 1860 (แค่ 150 ปีที่ผ่านมานี้เองละ!)

เห็นได้ชัดว่า หลายปีที่ผ่านมานี้
การแข่งขันขี่ม้าในญี่ปุ่นมีการพัฒนาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก



ที่จริงแล้วในประเทศญี่ปุ่นมีสนามแข่งม้ามากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ และนี่ก็เป็นอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ Tokyo Racecourse โดยสามารถเดินทางโดยรถไฟจากโตเกียว จากลักษณะของสนามแข่งม้าโดยปกติจะต้องเป็นพื้นที่ที่เปิดโล่งและกว้างใหญ่ หลายๆคนอาจจะคิดว่า การจะมีสนามแข่งแบบนี้ได้ คงจะต้องเป็นต่างจังหวัดอย่างแน่นอน และนั่นก็ทำให้การเดินทางไปสนามแข่งแต่ละที มันช่างยากเสียเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่กับที่นี่! สนามแข่งนี้มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเองเลยทีเดียว ดังนั้นนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ ก็จะเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย
*ปฏิทินการแข่งขัน JRA Racing คลิกที่นี่!

การเดินทางไปยัง Tokyo Racecourse จากใจกลางเมืองโดยรถไฟ



สถานีรถไฟ



ทางเข้าที่เต็มไปด้วยผู้คน



ทางเดิน

🚃เดินทางโดยรถไฟ🏇
①รถไฟสาย Keio
สถานี Fuchukeiba-seimommae ⇒ ใช้เวลาเดิน 2 นาที

② รถไฟสาย Keio
สถานี Higashi-fuchu ⇒ ใช้เวลาเดิน 10 นาที

③ รถไฟสาย JR Musashino Line, Nambu Line
สถานี Fuchuhommachi ⇒ ใช้เวลาเดิน 5 นาที

④ รถไฟสาย Seibu Tamagawa Line
สถานี Koremasa ⇒ ใช้เวลาเดิน10 นาที

เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม

ราคาเพียงแค่ 200 เยนเท่านั้น (ประมาณ 60 บาท) เพื่อที่จะเข้าไปยังด้านใน





อย่าลืมซื้อใบทำนายผลการแข่งกันนะ



มาเอา “ใบทำนายผล” กัน



เอกสารสำหรับอ้างอิง



เขียนลงไปเลยยย

นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคน มาเที่ยวที่นี่ก็เพื่ออยากที่จะเช็คดวงของตัวเองกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ด้วยเหตุผลนั้น ทางสนามแข่งจึงทำใบทำนายผลลงไปในตั๋วเสียเลย

*ตั๋วทำนายผลคืออะไร?
เลือกและโหวตม้าที่ชอบ! จากนั้นถ้าม้าที่คุณเลือกชนะละก็ คุณก็รับเงินไปเลย!

แล้วถ้าเกิดว่าที่นี่เป็นสวนสนุกละ…

คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยม้าที่มีอยู่มากมายหลายตัวที่นี่! มันค่อนข้างที่จะชัดเจนว่าทำไมถึงมีคนเรียก Tokyo Racecourse ว่า "สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ" และมากกว่านั้น ทุกอย่างตรงนี้มันฟรี! พวกเราจะนำคุณไปชมกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้ทั้งหมดที่นี่กัน!



ใกล้ชิดกับม้าแบบสุดๆ



ขี่ม้ากัน!



นั่งพักผ่อนหย่อนใจไปบนรถม้ากันเถอะ



พื้นที่สีเขียวภายในสนามแข่ง



ช่วงเวลาของครอบครัวที่จะมาขี่รถไฟจิ๋วด้วยกัน

พบกับร้านอาหารมากมายหลายรูปแบบ



บูทร้านอาหารกลางแจ้งมากมาย



โซนร้านอาหาร Restaurant Plaza

ที่ Tokyo Racecourse นี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่มากมาย แต่เรื่องของอาหารนั้นน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด
และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ



ที่นี่มีร้านอาหารมากมายให้เลือกสรร แต่เราเลือกที่จะรับประทานทงคัตสึกัน!
ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า "คัตสึ" (katsu) ใน ทงคัตสึ (tonkatsu) นั้น
เป็นคำเดียวกันกับคำศัพท์ว่า "คัตสึ" (katsu)
ที่มีความหมายว่า "ชนะ"!
ดังนั้นการรับประทานทงคัตสึนี้
มันก็เหมือนกับการรับโชคดีแห่งชัยชนะ!

ดูแข่งม้ายังไงให้อิน



สังเกตม้าที่คอกข้างสนามม้า

ถ้าคุณอยากที่จะทำนายผลสักเล็กๆน้อยๆแล้วละก็
คุณก็ต้องดูม้า แล้วก็เลือกมันสักตัวก่อนใช่ไหมละ?
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราอยากแนะนำให้คุณไปดูม้าที่คอกข้างสนามเป็นอันดับแรกก่อน



วิธีการดูม้าที่ดี

โดยปกติแล้ว
ช่วงลำตัวของม้าจะมีความยาวไม่มาก และมีรูปร่างที่ดูแข็งแรง
อย่างไรก็ตาม มีคนกล่าวไว่ว่า ยิ่งลำตัวยาว จะยิ่งแข็งแรง และจะเป็นที่หนึ่งของการแข่งขันนั้นอย่างแน่นอน

ซื้อตั๋วกัน!



กรอกข้อมูลลงในใบการ์ดทำนายผลกันก่อน



ลองตรวจสอบจากพยากรณ์การชนะการแข่งขันดู



เลือกม้าที่ถูกใจได้เลย



ตัวอย่างเช่น: เมื่อซื้อจะตั๋วทำนายผล
1. เลือกก่อนว่าเป็นสนามแข่งม้าไหน (ในกรณีนี้ก็จะเป็นที่โตเกียว)
2. เลือกรอบการแข่งขัน (มี 12 รอบต่อวัน)
3. เลือก "ชนะ" (Win)
4. ในการทำนายผลครั้งแรก เลือกหมายเลขของม้าที่คุณคิดว่าจะชนะ
5. ในคอลัมภ์ "จำนวน" (Amount) ทางขวามือ ให้เลือกจำนวนเงินที่จะพนันลงไป
6. ใส่ใบการ์ดทำนายผลนี่ลงไปในเครื่องออกตั๋วทำนายผลเลย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิกที่นี่



วิธีการใช้เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติ
① ใส่เงินเข้าไป
② ใส่การ์ดที่เราเพิ่งทำการกรอกไปเมื่อสักครู่นี้
③ ดูที่หน้าจอเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ว่าตรงกับที่เรากรอกไป
④ กดปุ่ม "Checkout" ที่มุมบนขวามือ
⑤ รับตั๋วทำนายผลของคุณไปเลย!

เพลิดเพลินไปกับการแข่งกันเถอะ!



เริ่ม!



ประตูที่ม้าแต่ละตัวจะวิ่งออกมานั้น จะถูกติดตั้งเอาไว้ก่อน
และจากนั้นก็จะมีคนนำม้าที่จะเข้าแข่งขัน มาเข้าสนามต่อไป



หลังจากที่การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สนามแข่งที่เงียบกริบเมื่อสักครู่นี้ ก็กลายเป็นสนามที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์โห่ร้องไปทั่วสนาม
มันจะรู้สึกแตกต่างไปจากการเชียร์แบบปกติ
ที่เราจะเคยได้ยินจากการแข่งขันกีฬาทั่วๆไปอยู่หน่อยๆ



โอ้พระเจ้า! ที่หนึ่ง!!!!
พวกเรายังไม่เชื่อตัวเราเองเลย!!
จริงดิ?!
ม้าที่เราพนันไป ชนะงั้นหรอ?!
เอาละ ถึงเวลาแล้วที่จะเอาเงินของเรา💸

วิธีการรับเงิน



ใส่ตั๋วทำนายผลลงไป



กดที่ปุ่มสีเขียว



รับเงินไปเลย



ที่นี่ก็มีสถานที่ที่จะให้คุณเพลิดเพลินอยู่ในร่มได้เหมือนกัน
นี่คือพื้นที่ที่คล้ายๆกับโรงภาพยนตร์ โดยมีชื่อเรียกว่า "โถงตะวันตก" (West Hall)
อันที่จริง ตรงที่นั่งรับชมกลางแจ้งก็มีหลังคา
ที่จะจัดการกับฝนได้อยู่
แต่คุณก็สามารถมาชมการแข่งม้าได้ในที่ร่ม และมีห้องให้นั่งรับชมจำนวนที่มากกว่า
ที่นี่สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงเชียร์ และการแข่งขันได้เหมือนกันกับข้างนอกเลยละ!

เปิดทำการวันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 9.00~17.00 น.
Facebook Page

Details

NAME:Tokyo Racecourse (東京競馬場)

MAP

ADDRESS:

1-1 Hiyoshicho, Fuchu, Tokyo 183-0024

ACCESS:สถานี Fuchū-Keiba-Seimon-mae

CONTACT TEL:03-5785-7373

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS