CONTENTS
Mary’s Chocolate ผู้ผลิตช็อคโกแล็ตชั้นดีในญี่ปุ่นมากว่า 50 ปี และเป็นผู้นำเทรนด์ช็อคโกแล็ตวาเลนไทน์
มาที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย (ช่วงที่ดีที่สุดของเทศกาล) นอกจากนี้แค่เพียงเดินมานิดหน่อยจากสถานีโตเกียว
ตามกลิ่นหวานๆของช็อคโกแล็ตมา ก็จะเจอกับ Mary’s Cafe ที่สามารถสั่งทำช็อคโกแล็ตแท่งรสพิเศษได้
ลืมช็อคโกแล็ตร้านสะดวกซื้อไปเลย เราแนะนำให้คุณมาลองที่ Mary’s Cafe (หรือลองซื้อ Mary’s Chocolate ในสนามบิน )
รับรองว่าลองทานแล้วคุณจะไม่เสียใจที่ซื้อเลย!
Mary’s Chocolate: อุดมไปด้วยรสชาติและประวัติศาสตร์
Mary's Chocolate เข้ามามีบทบาทในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น
เมื่ออิทธิพลจากตะวันตกนำสิ่งต่างๆ เข้ามาในประเทศรวมถึงขนมหวานต่างๆ
ทำให้เด็กๆที่ชื่นชอบในขนมต่างชาติยิ้มแย้มแจ่มใส และแมรี่กับสัญลักษณ์
สาวน้อยผูกโบว์ก็กลายเป็นชื่อที่อยู่กับช็อคโกแล้ตญี่ปุ่นอีกนาน
เป้าหมายของบริษัทคือการทำช็อคโกแล็ตและเป็นที่รัก
เหมือนความรู้สึกของแฟนคลับที่มีให้กลับนักร้อง
ด้วยจุดมุ่งหมายนั้น Kentaro Hara จึงเปิดโรงงานเล็กๆ
ชื่อ Mary's Chocolate ในปี 1950 ที่โตเกียวเขต Meguro
เมื่อคุณชิม Mary's Chocolate คุณก็จะได้ชิมประวัติของมันด้วย
ในปี 1950 วันวาเลนไทน์เนี่ย ไม่มีใครรู้จักเลยในญี่ปุ่น
บางทีวันแห่งความรักก็อาจจะถูกฉลองในเดือน ก.ค.
อย่างวันทานาบะตะแต่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ 14 กุมภาเลยแม้แต่น้อย
จนมาถึงวันนั้นในปี 1958 เดือนมกราคม ที่พนักงานของ Mary's Chocolate
ได้รับจดหมายจากเพื่อนที่ฝรั่งเศสที่พูดถึงการให้ของขวัญ ดอกไม้ ช็อคโกแล็ต
กับคนที่เรารักในวันที่ 4 กุมภา ทำให้พนักงานคนนั้นได้แรงบันดาลใจ
และนำเรื่องราวความโรแมนติคแบบปารีสมาใช้ในญี่ปุ่น
แน่นอนว่าโลกของการตลาดไม่มีอะไรที่ง่ายดาย ทุกอย่างจำเป็นต้องใช้เวลา
Mary's Chocolate ก็สามารถจัด Valentine's Day Fairs ที่ห้างในโตเกียวได้
ในปี 1958 เดือนกุมภา พวกเขาขายช็อคโกแลตได้เพียง 3 แท่งและการ์ด 1 ใบ
รวมเป็นยอดเงินทั้งสิ้นแค่ 170 เยนเท่านั้น
Image Source: Mary's Chocolate Website
ทุกอย่างในญี่ปุ่นเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ในปี 1958 Mary's Chocolate ก็ยังคง
ผลักดันและสนับสนุนวันวาเลนไทน์ที่ผู้หญิงจะซื้อช็อคโกแล็ตไปให้คนที่ชอบ
โดยช็อคโกแล็ตที่ขายจะเป็นช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ พร้อมปากกาโลหะ
ที่ผู้ซื้อสามารถนำไปจ่าหน้าบนช็อคโกแล็ตได้ด้วยตัวเอง
และ Mary's Chocolate ก็ยังไม่เคยสูญเสียความคิดสร้างสรรค์
และไม่หยุดพัฒนาการเพื่อที่เข้าร่วมงานนานาชาติของโลกช็อคโกแล็ต
ในปี 2000 บริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่ได้เข้าสู่ Salon du Chocolat
และเขาก็ได้นำรสชาติแบบญี่ปุ่นใส่เข้าไปในการแข่งขันตั้งแต่ตอนนั้น
ทั้งช็อคโกแล็ตที่หอมส้มยูซุ หรือ รสขมละมุนลิ้นของมัทฉะ ก็กลาย
เป็นรสชาติแปลกใหม่ในโลกของช็อคโกแล็ตชั้นดี
ในปี 2016 Mary's Chocolate ยังได้รับรางวัล CCC Award
ที่มีไว้สำหรับแค่ช็อคโกแล็ตชั้นนำของโลกอีกด้วย!
ทริปเที่ยว Mary’s Chocolate Cafe แบบเก๋ๆ
หลังจากรู้ประวัติของ Mary's Chocolate แน่นอนว่าเราห้ามใจที่จะไม่ลองชิมไม่ได้
พวกเราจึงไปที่คาเฟ่ของ Mary's Chocolate ที่ตั้งอยู่ในห้างKitte ใกล้กับสถานีโตเกียว
ถ้าเหนื่อยจากการเที่ยวโตเกียวแล้วอยู่ใกล้ๆลองมาพักขาชิวที่คาเฟ่นี้ดูก็ได้นะ!
Mary's Cafe
1F KITTE Marunouchi, 2-7-2, Marunouchi, Chiyoda-ku, Tokyo
10:00 am ~ 10:00 pm
Official Website
(แม้ว่าตอนนี้จะมีแค่ 1 ร้าน แต่ Mary's มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นจนครบในฤดูใบไม้ร่วงปี 2019!)
เมื่อเข้าไปในร้านเราก็จะเจอกับคาเฟ่น่ารักและเก้าอี้ที่ดูสบาย
พร้อมกับกลิ่นช็อคโกแล็ตที่ลอยมาติดจมูก
(และดูเครื่องทำกาแฟแบบสตรีมพังค์โบราณตรงทางเข้านั่นสิ!)
เราถามพนักงานถึงโลโก้รูปตัว R บนกำแพง ทางพนักงานบอกว่า
มันมาจาก "Ruru Mary's" ในภาษาญี่ปุ่น ruru (縷々)
แปลว่าความยาวนาน เป็นตัวแทนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของ Mary's
และความต่อเนื่องของของหวานแสนอร่อย โดยตัวโลโก้ก็ทำออกมาให้คล้าย
ตัว R และตัว Ru(る) ในภาษาญี่ปุ่นด้วย!
เราได้รับการต้อนรับจาก chocolatier ที่ทำงานที่หน้าร้าน ที่ขนมต่างๆ
อย่างเช่นช็อคโกแล็ตแท่งที่สั่งคัสตอมได้ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เจ๋งที่สุดในร้าน
นอกจากจะอร่อยแล้วยังเป็นของฝากที่ดีได้อีกด้วย (ยากมากที่จะไม่ซื้อไปฝากเพื่อน)
ลองคุยกับโปรแบบ chocolatier พวกเขาจะช่วยเลือกองค์ประกอบที่ดีที่สุด
ให้กับช็อคโกแล็ตแท่งของคุณไม่ว่าช็อคโกแล็ตอันนี้จะทำเพื่อคุณหรือคนพิเศษ
ไม่ว่าจะรสชาติ ท็อปปิ้ง หรือความเข้มข้นของช็อคดกแล็ต อันไหนเข้ากันไม่เข้ากัน
ถามchocolatierดูได้เลย รับรองว่าออกมาแล้วต้องอร่อยแน่ๆ!
เลือกชนิดของชช็อคโกแล็ตที่จะสั่งทำ โดยเลือกจาก
– ช็อคโกแล็ต (white, milk, หรือ dark)
– ท็อปปิ้ง (ผลไม้แห้ง ถั่วต่างๆ ของตามฤดูกาล และอีกมากมาย)
ด้วยของที่เยอะมากๆ ทำให้ chocolatier มีความจำเป็นมากในการช่วยเหลือ
ตัวพนักงานบอกว่าแคนดี้รสเลม่อนเป็นที่นิยมในช่วงหน้าร้อน
(เพราะว่ามีรสชาติทาร์ตโดดขึ้นมาจากช็อคโกแล็ต)
ส่วนรสส้ม Kiyomi เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบรสชาติแบบญี่ปุ่น
ทางเราก็ลองเลือกหน้ามาสามสี่แบบและก็ใส่รสส้มขมๆ Kiyomi เข้าไป
ให้มีรสชาติโดดเด่น เป็นคำแนะนำที่อร่อยไม่เลวเลย!!
ช็อคโกแล็ตของเราจะกลายเป็นแท่งแล้ว!
ค่อยๆขึ้นรูป….
เราโชคดีมากที่ได้ดูขั้นตอนการทำขนมของวันนี้ แต่ถ้าคุณพลาด
คุณก็สามารถดู chocolatier ทำคัสตอมช็อคโกแลตแท่งของคุณเองได้
เพราะพนักงานจะหล่อช็อคโกแล็ตและเอาออกจากพิมพ์ และค่อยๆใส่ท็อปปิ้งที่คุณเลือก
เราทำช็อคโกแล็ตแท่งขนาดมาตรฐาน แต่ถ้าอยากได้ใหญ่กว่านั้น ทางร้านก็มี
ขนาดให้เลือกหลากหลาย เหมือนกับเลือกไซต์พิซซ่าแต่เปลี่ยนเป็นช็อคโกแลตหรูๆแทน
ถั่วกับส้มถูกจัดวางอย่างสวยงาม เป็นช็อคโกแลตที่ทั้งหน้าและรสชาติต่างก็ดี!
เพิ่มเงินอีก 100 เยน ก็จะได้กล่องสวยๆไว้ใส่ช็อคโกแลตแล้ว
ระหว่างที่รอช็อคโกแลตสั่งทำ…
เอาล่ะเลือกท็อปปิ้งเสร็จแล้ว รอช็อคโกแลตเย้นแต่ไม่รู้จะทำอะไรดี?
ระหว่างรอช็อคโกแล็ตเย็น มักจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง
พนักงานจะมีตัวเลือกให้เรา 2 ทาง :
① ถ้ามาเที่ยวก็สามารถไปเที่ยวตามทริปได้เลย แล้วมารับช็อคโกแล็ตวันกลับ (ถ้าพักแถวโตเกียวนะ)
② รอสักพักที่ร้าน ลองทานขนม หรือเครื่องดื่ม นั่งเล่นชิวๆในคาเฟ่ แป๊บๆก็ชั่วโมงแล้ว
พวกเราเลือกตัวเลือก 2 ล่ะ เพราะดุเป็นอะไรที่สะดวกและก็ง่ายกว่า มาดูว่าคาเฟ่มีอะไรให้ทานบ้าง!
ถ้าได้ช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญเนี่ยมันยากมากนะ กับการหักห้ามใจไ่ให้ลอง
เราเลยขอให้คุณลองขนมที่มีขายอยู่ในร้าน ตอนที่คุณรอช็อคโกแล็ตสั่งทำของคุณ
นอกจากช็อคโกแล็ตที่โรยผลไม้แห้งแล้ว ก็ยังมีช็อคโกแล็ตกลมๆขายที่ร้านด้วย
(ของทุกอย่างทำใหม่ๆในคาเฟ่เลยนะ ท็อปปิ้งที่ใส่ก็อร่อยด้วย!)
โดยช็อคโกแล็ตที่ขายจะขายเป็นกรัม ตามน้ำหนัก ที่จัดโชว์จะแทนขนาด 100 กรัม
ที่ช่วยเราได้มากว่าเราอยากกินช็อคโกแล็ตมากแค่ไหน
และเราก็ห้ามใจไม่ได้ที่จะสั่งเครื่องดื่มเพิ่มระหว่างที่เรารอ ดูช็อคโกแล็ตมูส
ชาUjiมัจฉะช็อคโกแล็ตลาเต้ และ ไวท์ช็อคโกแล็ตมูสกับซอสราสเบอร์รี่นั่นสิ!!
ในบรรดา 3 อย่างช็อคโกแล็ตมูสน่าจะหวานน้อยที่สุด ด้วยรสของช็อคโกแล็ตเข้มๆ
และครีมมูสที่ช่วยตัดรสชาติ แต่อีก 2 อย่างก็อร่อยไม่แพ้กัน และถ้าคูนเป็นคอกาแฟ
ที่นี่ก็มีกาแฟร้อน/เย็นต่างๆให้สั่งเหมือนกัน!
หลังจากโดนกลิ่นหอมๆของช็อคโกแล็ตเล่นงาน ท้องก็เริ่มหิว
เราคงต้องหาสารอาหารอย่างอื่นนอกจากช็อคโกแล็ตให้ร่างกายบ้าง
คาเฟ่นี้ก็มีตัวเลือกเบาๆให้เราได้ลองทาน อย่างแซนด์วิสและซุป
เราลอง baguette sandwich trio ที่เสียบมาอย่างน่ากิน
นอกจากนี้ก็ได้เวลาลองของหวานจริงๆแล้ว ที่นี่ไม่ได้มีแค่ช็อคดกแล็ตแท่งขายนะ
มีทั้งเค้ก และของหวานอีกหลายชนิดให้เลือกทาน (บางอย่างเปลี่ยนตามฤดูกาลด้วย)
ถ้าเจอเมนูใหม่ๆอย่าลืมบอกให้เรารู้ด้วยล่ะ!
chocolate terrine ทำจากผงโกโก้ Venezuelan chocolate 75 %
เป็นรสชาติที่ทั้งอร่อยและเข้มข้น (ถ้าเบื่อขนมเค้กญี่ปุ่นเนื้อบางเบาง อาจจะจะชอบเมนูนี้นะ)
แถมไอศครีมวานิลล่าและเบอร์รี่สดที่เสิร์ฟมาคู่กันก็ช่วยตัดรสได้ดี
(และก็อย่าลืมลองดอกไม้ช็อคโกแล็ตด้วยล่ะ!)
crème brûlée เนื้อครีมคัสตาร์ทที่โรยด้วยน้ำตาลคาราเมล
พร้อมไอศครีมเบอร์รี่ กับถั่วที่ช่วยเพิ่มสัมผัสอร่อยๆให้กับจานนี้
นี่อาจจะดูเหมือนคาเฟ่น่ารักเล็กๆ แต่เขาจัดเต็มเรื่องของหวานนะ
เราพอใจกับเวลาที่เราใช้ในการรอช็อคโกแล็ตมากๆ…
เอาช็อคโกแล็ตกลับบ้าน และแบ่งปันความอร่อยกันเถอะ!
ช็อคโกแล็ตที่เราสั่งเย็นเรียบร้อยแล้ว เอากลับไปที่ออฟฟิศและแบ่งกันได้
แต่เราสั่งทำแค่แท่งเดียวคงจะไม่พอ เราเลยเอาขนมอย่างอื่นกลับไปด้วย
Mary's Chocolate มีสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่ช็อคโกแล็ตวาเลนไทน์
ช็อคโกแล็ตก้อนเล็กแบบญี่ปุ่น ขนมชนิดอื่นๆ แน่นอนว่าต้องมีสักอย่างที่คุณชอบ
ถ้าไม่อยากจะวิ่งหาขนมของฝากในห้างหลายๆที่ ที่คาเฟ่นี่ก็มีตัวเลือกอร่อยๆให้ลองนะ
gateau chocolat ที่มาใน 4 รสชาติ พร้อมกับรสน้ำผึ้งอ่อนๆ
หรือถ้าอยากเน้นไปที่รสชาติเราขอแนะนำเซ็ตที่ทำจาก
Ecuador หรือ Madagascar cacao ที่จะมีรสชาติเด่นเตะลิ้น
แล้วเพิ่มผลไม้แห้ง ส้ม หรือลูกเกดลงไปก็ได้
โดยขนมเหล่านี้จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นิดหน่อย
เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติอย่าง บรั่นดี วิสกี้ รัม หรือครองต์โทร
terrine ที่เราทานที่ร้านก็มีขายในหล่องสวยๆแบบนี้เหมือนกัน
ดดยมีท็อปปิ้งผลไม้ให้เลือกด้วย ถ้าอยากซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านก็ซื้อได้เลย
ถ้ามีเพื่อนที่ไม่ชอบทานช็อคโกแล็ต ลองซื้อ Ruru galettes ไปฝากได้
เพราะเป็นคุกกี้ที่ทำจากเนยใส่รัมนิดหน่อย เพื่อเพิ่มความอร่อย
ช็อคโกแล็ตแท่งสำเร็จรูปก็มีขายที่นี่ พร้อมกับท็อปปิ้งยอดนิยม
หรือท้อปปิ้งตามฤดูกาล อย่างในรูปจะเห็นช็อคโกแล็ตมิ้นท์โรยน้ำตาลน่าอร่อย
กลัวช็อคโกแล็ตจะละลายงั้นเหรอ?
ถ้ายังต้องไปเที่ยวต่อ หลังจากที่คุณมาที่คาเฟ่นี้ ไม่ต้องห่วงไป
เพราะ Mary's Chocolate มีขายตามห้างต่างๆ สามารถหาซื้อได้ก่อนกลับ
หรือสะดวกที่สุดก็คือซื้อที่สนามบินไปเลย
โดยในรูปเป็นตัวอย่างช็อคโกแล็ตวาเลนไทน์ที่ทั้งสวยและดูหรูหราสุดๆ
หาได้ทั่วไปช่วงวาเลไทน์ในญี่ปุ่นเลยนะ!
ที่สนามบินคุณอาจจะไปเจอ Mary's Chocolate ในรูปแบบ
กล่อง Silky Soft Chocolate ที่ให้สัมผัสนิ่มๆครีมๆ
แถมมีรสเมลอนฮอกไกโดด้วย เหมาะมากที่ช็อคโกแล็ตรสเมลอน
จะกลายเป็นของฝากที่ดีตอนบินกลับหรือจะเป็นของทานเล่นระหว่างขึ้นเครื่องก็ยังได้เลยนะ!
กว่า 70 ปี ของการพัฒนา Mary's Chocolate ได้กลายเป็นของที่ดีมากๆไปแล้ว
อยากลองทำอะไรตอนไปคาเฟ่ล่ะ? ลองทานทุกอย่างเลยดีไหม? ไม่ว่าคุณจะลอง
ช็อคโกแลตทั่วไป หรือจะช็อคโกแล็ตterrine สุดหรู ยังไงรสชาติที่ได้ก็ต้องอร่อยจนทำให้คุณพอใจแน่
อย่าลืมเข้ามาติดตามบทความดีๆได้ในทุกๆวันที่ JAPANKURU.
Details
NAME:Mary’s Café
MAP
ACCESS:Tokyo Station
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MOREMAP OF JAPAN
SEARCH BY REGION
LATEST
VIEW MOREEVENT CALENDAR
VIEW MOREMOST POPULAR
- Tokyo Winter Recommendation: Don’t Miss Tokyo Mega Illumination, Japan’s #1 Light Show
- ป้ายยาสินค้าน่าซื้อในร้านขายยาญี่ปุ่น | KOWA ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับคนยุคใหม่
- Okinawa Family Road Trip: Japanese Glasses Shopping at San-A Urasoe West Coast PARCO CITY, Discount Coupons, & Okinawa Sightseeing with JINS