เช็คอิน เรโทร คาเฟ่ (Retro Cafe) 3 ร้านดัง ! เดินทางง่ายผ่านรถไฟสายยามาโนเตะ

  • X
  • line

คาเฟ่มินิมอล คาเฟ่น่ารัก หรือตีมแปลกๆมีให้เห็นทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลยคือ คาเฟ่เรโทร สไตล์ย้อนยุค ที่หากได้เข้าไปแล้วอาจจะนึกว่าหลงอยู่ในญี่ปุ่นยุคโชวะ นอกจากบรรยากาศดีๆแล้ว อาหารก็เด็ดไม่แพ้กัน ! เจแปนคุรุจะพามาทัวร์ 3 ร้านดัง ที่เดินทางไปได้ง่ายๆผ่านรถไฟสาย ยามาโนเตะ

รักเราไม่เก่าเลย .. เรโทร คาเฟ่ กลับมาฮิตให้หมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นอีกครั้ง !



อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าช่วงนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นกลับมาฮิตเข้าร้านคาเฟ่ สไตล์เรโทร (Retro Cafe レトロカフェ) กันเยอะมากๆ จริงๆแล้วคาเฟ่หรือร้านกาแฟ เมื่อก่อนภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า คิซาเทน (喫茶) ไม่ได้เรียกว่า คาเฟ่ (カフェ) แบบในปัจจุบัน .. ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาร้าน สไตล์เรโทร กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง หากได้เข้าไปในร้านแล้วด้วยบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ ของตกแต่งสมัยโชวะ กลิ่นบดกาแฟ และกลิ่นหอมอันอบอวลของแซนวิส อาจจะทำให้ทุกคนหลงรักได้ง่ายๆ

ยุคโชวะ คือช่วงปีค.ศ. 1926 – 1989 และถือเป็นช่วงรัชกาลที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น (62 ปี 14 วัน) ถือเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นได้ประดิษฐ์ พัฒนาสินค้าต่างๆภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เศรษฐกิจถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ในยุคนี้มีกลิ่นอายของความเป็นยุโรปที่เหมือนถูกปรับเปลื่ยนให้เข้ากับความเป็นญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากเครื่องใช้ และสิ่งของในชีวิตประจำวันต่างๆ รวมทั้งอาหารการกินด้วย

➡︎ อุเอโนะ / ร้าน คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee 珈琲王城)



คิซาเทน โอโจ ตั้งอยู่หลังห้างสรรพสินค้า มารุอิ ตรงข้ามกับสถานีรถไฟอุเอโนะเลย ถือเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เปิดบริการมา 50 ปี หากย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ผู้คนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือ เครื่องมือสื่อสารอย่างปัจจุบัน ร้าน คิซาเทน โอโจ ถือเป็นจุดนัดพบของผู้คนสมัยนั้น ที่มาพบปะ ดื่มกาแฟ และทานอาหารกัน บรรยากาศภายในร้านยังคงบรรยากาศเดิมไว้ อาจจะมีปรับปรุงใหม่ในบางส่วน แต่ก็ยังถือว่ายังมีความวินเทจอย่างแท้จริง โต๊ะไม้วางคู่ไปกับโซฟาบุพรมลวดลายละเอียด มีโคมไฟดวงใหญ่อยู่กลางร้าน สร้างบรรยากาศอบอุ่น ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ

2-3 ปีมานี้ช่วงที่ทุกคนกลับมาฮิตเรโทร คาเฟ่ ขนมหวานอย่างพาเฟ่ต์ที่ใส่วิปครีมล้นถ้วยของ คิซาเทน โอโจ เป็นที่พูดถึงอย่างมากในออนไลน์ และยังมีอาหารมื้อเบา ของว่างต่างๆอย่างเช่น แซนวิชไข่ และ ขนมปังปิ้งชิ้นหนา ก็ถือเป็นเมนูขายดีของทางร้านที่ลูกค้าทุกคนการันตีว่าดีทั้งรสชาติ และ หน้าตา นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือเจ้า ครีมโซดา (クリームソーダ) หรือ ที่เรียกว่า เมล่อนโซดา (เครื่องดื่มหวานๆ เมล่อน โค้ก หรือ กาแฟ โปะด้วย ไอศครีมสวานิลา ด้านบน) ฉบับออริจินอลที่ถือเป็นเมนูตัวแทนแห่งยุคโชวะเลยทีเดียว อีกเมนูที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านคิซาเทน หรือ คาเฟ่สไตล์เรโทร คือ นัปโปริตัน (Naporitan ナポリタン) สปาเก็ตตี้ผัดกับซอสมะเขื่อเทศ ใส่ไส้กรอกและพริกหยวกญี่ปุ่น รสชาติสุดคลาสสิกที่หากมาเยื่อนญี่ปุ่นแล้วอยากให้ทุกคนมาลองให้ได้

เมล่อนโซดาถูกเสิร์ฟมาในแก้วทรงกลมสูง ประดับด้วยเชอร์รี่สีแดงสดตัดกับสีเขียวของน้ำเมล่อน ยิ่งทานควบคู่ไปกับสปาเก็ตตี้ที่เสิร์ฟมาพร้อมผงพาเมซานชีสแล้วละก็ เข้ากันดีมากๆ !



เนื่องจากทำเลที่ตั้งของ คิซาเทน โอโจ อยู่ในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านอย่างอุเอโนะ หากมาวันหยุดเสาร์อาทิตย์แล้วละก็อาจจะไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ทันที ต้องต่อแถวรอคิวที่หน้าร้าน ทางเราแนะนำว่าให้มาวันธรรมดา คิวจะได้ไม่ยาวมาก หรืออาจจะฟลุ๊คเข้าใช้บริการได้ทันที

คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee 珈琲王城)
6-8-15 Ueno, Taito City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟอุเอโนะ (JR / TokyoMetro) ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟอุเอโนะ (Keisei Ueno) 3 นาที
เวลาทำการ : 8:00-19:00 น.
ทวิตเตอร์ (ภาษาญี่ปุ่น)

➡︎ ชินจุกุ / ร้าน คิซาเทน ลัมบุรุ (L’ambre Coffee 名曲・珈琲 らんぶる)



คิซาเทน ลัมบุรุ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ ชินจุกุ ซันโจเม (Shinjuku-sanchōme) สามารถเดินมาได้ทั้งจากทาง JR สถานีชินกุจุ หรือจากรถไฟใต้ดิน ชินจุกุ ซันโจเม .. หากเดินเข้าทางหน้าร้านแล้วจะเหมือนร้านกาแฟปกติ แต่หากเข้ามาจะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ เหมือนกับบรรยากาศล็อบบี้ของโรงแรมระดับห้าดาวในยุคก่อนๆ คิซาเทน ลัมบุรุ เปิดบริการในปีค.ศ. 1950 ทำการมามากกว่า 70 ปี ข้าวของเครื่องใช้ยังคงเอกลักษณ์ในยุคเดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ บันไดไม้ ถือเป็นร้านที่อยู่คู่กับย่านชินจูกุมาเป็นเวลานาน



จริงๆแล้วแซนวิส ขนมปังปิ้ง พาร์เฟ่ต์ และ เค้ก ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของ คิซาเทน ลัมบุรุ ! แต่วันนี้โซเฟีย (สตาฟของร้านเจแปนคุรุ) ในฐานะชาวอเมริกาที่ชอบทาน โซดาโฟลต และ สปาเก็ตตี้เป็นชีวิตจิตใจ ได้สั่ง เมลอนโซดา กับ สปาเก็ตตี้โบโลเนส มาทาน ปรากฎว่าโซเฟียกระซิบหลังจากทานเสร็จว่าควรสั่งเมนูแนะนำของทางร้านตั้งแต่แรกจะดีกว่า .. หากคุณเป็นสายคาเฟ่แล้วละก็การได้มาลองคาเฟ่ สไตล์เรโทรในญี่ปุ่น ก็ถือเป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่งในทริปเหมือนกัน

คิซาเทน ลัมบุรุ (L'ambre 名曲・珈琲 らんぶる)
3-31-3 Shinjuku, Shinjuku City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟ ชินกุจุ ซันโจเม ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟ ชินจุกุ (JR) 3 นาที
เวลาทำการ : 9:00-18:00 น.
ข้อมูลร้านเพิ่มเติม (ภาษาญี่ปุ่น)

➡︎ ทาคาดะโนะบาบะ / ร้าน คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 喫茶ロマン)

คิซาเทน โรมานซ์ ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอย่าง ทาคาดะโนะบาบะ นั่งรถไฟออกมาจากชินกุจุไม่ถึงห้านาที ถือเป็นร้านที่ถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำละครบ่อยๆ อย่างเรื่อง People Who Do Not Rent ที่แสดงโดย มัสสึดะ ทาคาฮิสะ จากค่ายจอห์นนี่ หรือเป็นสถานที่ถ่ายภาพโฟโต้บุ๊คของ ดาราสาวอย่าง อากิโกะ คิคุจิ .. คิซาเทน โรมานซ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่แคบยาวด้วย บรรยากาศเงียบสงบ มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวด้านนอกถนน มีทั้งโต๊ะริมหน้าต่างที่บรรยากาศดีสุดๆ และโต๊ะกาแฟแบบธรรมดา



คิซาเทน โรมานซ์ เปิดให้บริการในปีค.ศ. 1969 มีกลิ่นอายและบรรยากาศแบบสบายๆ เหมาะสำหรับเข้ามานั่งชิวจิบกาแฟในวันที่ไม่เร่งรีบ อาหารและเครื่องดื่มของ คิซาเทน โรมานซ์ ถือว่ารสชาติดีทีเดียว หากต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง สามารถโทรจองล่วงหน้าได้

คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 名曲・珈琲 らんぶる)
1-18-11 Takadanobaba, Shinjuku City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟ ทาคาดะโนะบาบะ ประมาณ 1 นาที
เวลาทำการ : 11:30-21:00 น.
Instargram (ภาษาญี่ปุ่น)

อายุจริง 30 แต่บางทีเพื่อนรุ่นเดียวกันก็เรียกป้า

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
reCaptcha Error: grecaptcha is not defined

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS