JINS แจกพิกัดเที่ยวหนึ่งวันในฟุกุโอกะ ชมเมืองตั้งแต่เช้ายันค่ำ

  • X
  • line

กำลังแพลนทริปไปเที่ยวฟุกุโอกะอยู่รึเปล่า? วันนี้ Japankuru แวะมาแจกแพลน แนะนำที่เที่ยวในฟุกุโอกะตั้งแต่เช้ายันค่ำไปกับร้านแว่น JINS

ฟุกุโอกะ เมืองในฝันของใครหลาย ๆ คน

จังหวัดฟุกุโอกะ บนภูมิภาคคิวชูหรือภาคใต้ของญี่ปุ่น อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมอย่างศาลเจ้าชินโตในตำนาน ไปจนถึงแหล่งช้อปปิ้งและอาหารเลิศรส ผสมผสานกันอย่างลงตัวภายในเมืองเดียว

ในช่วงฤดูร้อนนี้ ทีมงาน Japankuru ได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมชมร้าน JINS ในห้าง Mina Tenjin ย่านช้อปปิ้งอันพลุกพล่านที่เปรียบเสมือนหัวใจของฟุกุโอกะ และได้ไปทัวร์บริเวณรอบ ๆ ร้านมา จึงอยากแวะมาแชร์ที่เที่ยวแถวนั้นให้ทุกคนด้วย✨

เดินเล่นยามค่ำคืนไปกับ JINS 30min Night Walk ใน Fukuoka

ได้มาญี่ปุ่นทั้งที วันนี้ Japankuru ชวนมาใช้เวลาช่วงเย็นหลังจากพระอาทิตย์ตกแล้วให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ไปกับ JINS 30min Night Walk in Fukuoka แคมเปญจัดโดยร้านแว่น JINS ที่จะพาทุกคนไปทัวร์ฟุกุโอกะยามค่ำคืน

ก่อนอื่นขอแนะนำร้าน JINS ซักนิด JINS ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านแว่นตาคุณภาพที่ราคาน่ารักและให้บริการอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 30 นาทีก็สามารถตัดแว่นใหม่ได้ง่าย ๆ แต่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนก็ไม่อยากแม้แต่จะเสียเวลา 30 นาทีนี้ไปกับการรอเฉย ๆ ร้าน JINS จึงจัดกิจกรรม JINS 30min Night Walk ขึ้น ที่จะแนะนำที่เที่ยวรอบ ๆ ร้านให้เราไปเดินเล่นในระหว่างที่รอแว่นตาได้ และพิเศษมาก ๆ สำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา ๆ ที่จะได้รับ Night Voucher ทันทีเมื่อซื้อสินค้าปลอดภาษี ตัว Night Voucher เป็นผ้าเช็ดแว่นลายแลนด์มาร์คของย่านช้อปปิ้งเทนจิน ที่สามารถใช้เป็นคูปองส่วนลดหรือบริการฟรีที่ร้านค้าและร้านอาหารที่ร่วมรายการได้อีกด้วย

ในบทความนี้ทีม Japankuru เลยอยากมาแจกพิกัดที่เที่ยว ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งที่เราได้แวะไปมา สามารถไปตามพิกัดในบทความนี้ได้เลย

จุดแวะแรก: ร้าน JINS สาขา Mina Tenjin

แน่นอนว่าจุดแรกที่แวะจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากที่ร้าน JINS สาขา Mina Tenjin ตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งเทนจิน

ทันทีที่เดินออกจากสถานี Tenjin ก็จะพบกับห้าง Mina Tenjin ภายในมีร้านค้ามากมาย ทั้ง Uniqlo GU รวมไปถึงร้านแว่น JINS ที่เป็นไฮไลท์ของบทความนี้ 

ภายในร้าน JINS ตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องปั้นดินเผาดั้งเดิมของฟุกุโอกะ และผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้ากับการตกแต่งร้าน ตั้งแต่เคาน์เตอร์ไปจนถึงจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส บรรยากาศสบาย ๆ ให้เราเดินเลือกช้อปแว่นกันเพลิน ๆ นอกจากนี้ในร้านยังมีคาเฟ่ให้ได้นั่งพักดื่มน้ำก่อนลุยต่อด้วย

JINS สาขา Mina Tenjin
4-3-8 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: 10:00 – 20:00 น.
Official Website (jp)

กรอบแว่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สำหรับเทรนด์กรอบแว่นมาแรงของร้าน JINS ในช่วงนี้ คือรุ่น BE BOLD กรอบหนาที่มาในสีดำแมตต์และสีน้ำตาลส้ม ใส่แล้วดูโดดเด่นเป็นตัวเองแบบไม่ซ้ำใคร หรือจะเป็นกรอบลวดโลหะที่ไม่เคยตกเทรนด์ของรุ่น Combination Titanium ที่ทำจากไททาเนียมคุณภาพสูงและมาในรูปทรงสุดเก๋

นอกจากนี้ที่ร้าน JINS ยังมีคอลเลกชันให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการและยังช่วยแก้ปัญหาในหลาย ๆ ด้านที่คนใส่แว่นล้วนเคยพบเจอ

อย่างเช่นปัญหาที่ว่าเมื่อใส่แว่นแล้วตาดูเล็กลง ขอแนะนำเป็นคอลเลกชัน “แว่นที่ไม่ทำให้ตาเล็ก (目が小さくならないメガネ)” ที่ออกแบบมาอย่างพิถึพิถันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดวงตาดูเล็กลงเนื่องจากเลนส์มีค่าสายตาที่หนักเกินไป ช่วยให้เมื่อใส่แว่นแล้วไม่ดูตาเล็กลงนั่นเอง!

หรือจะเป็นปัญหาแว่นหนีบจนเกินไป ใส่แล้วไม่สบาย JINS ก็มีคอลเลกชัน JINS HOME แว่นดีไซน์สวยที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบายเป็นหลัก โดยใช้แผ่นรองจมูกเป็นซิลิโคนและกรอบแว่นที่ยืดหยุ่นได้ แน่นอนว่าจะเอาไว้ใส่สบาย ๆ ที่บ้าน หรือจะใส่ออกไปข้างนอกก็ได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ ที่ร้านยังพัฒนาเทคโนโลยี JINS Airframe ทำให้กรอบแว่นบางเบาและมีความยืดหยุ่นสูง จนสามารถพับงอได้เลย เหมาะสำหรับพกใส่ตอนเดินทางสุด ๆ  

ส่วนใครที่เป็นสายออกกำลังกาย ขอแนะนำเป็นรุ่น Quick Fit ที่ปลายขาแว่นปรับให้ยึดกับใบหูของเราได้มากขึ้น มั่นใจได้เลยว่าแว่นจะไม่หลุดร่วงออกจากหน้าเราแน่นอน!

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนใส่แว่นอย่างเรา ๆ นอกจากจะเป็นเรื่องปัญหาที่กล่าวไปด้านบนแล้ว ยังมีเรื่องของดีไซน์ที่ไม่รู้ว่าจะเข้ากับรูปหน้าของเราไหม ที่ JINS จึงใช้ระบบ JINS BRAIN! เข้ามาช่วย โดยระบบจะวิเคราะห์รูปหน้าของเราและแนะนำกรอบแว่นจากคอลเลกชั่น JINS ที่น่าจะเหมาะกับเราที่สุด แถมจะโชว์ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์เลยว่าแว่นเข้ากับเราแค่ไหน ช่วยให้เรามั่นใจกับการใส่แว่นมากยิ่งขึ้น

เลือกเลนส์ได้ตามใจชอบ

นอกจากกรอบแว่นแล้ว ที่ร้าน JINS ยังให้ความสำคัญกับเลนส์ด้วย อย่างเลนส์ตัดแสงสีฟ้าช่วยลดแสงสว่างจากหน้าจอที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน เพราะสามารถสามารถป้องกันแสงจ้าจากหน้าจอได้ ยิ่งเมื่อนำเลนส์ตัดแสงสีฟ้ามาใช้ต่วมกับแว่นตาในคอลเลกชัน JINS Screen for Sleep ที่มาพร้อมกับกรอบแว่นสวมใส่สบาย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น!

หรือจะเป็นเลนส์โฟโตโคมิค (Photochromic Lens) ที่ตัวเลนส์จะเปลี่ยนจากสีใสเป็นสีเข้มขึ้น มาใน 2 รูปแบบคือ เปลี่ยนเป็นสีเข้มเมื่อโดนแสง UV หรือเปลี่ยนเป็นสีเข้มเมื่อโดนแสงอะไรก็ตาม ซึ่งทั้งสองแบบสามารถช่วยปกป้องดวงตาของเราจากแสงและช่วยให้มองเห็นง่ายยิ่งขึ้น เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือขับรถท่ามกลางแสงแดด

ถ้าอยากให้แว่นดูมีลูกเล่นมากขึ้น สามารถเลือกเป็นเลนส์สี ๆ ก็ได้ ที่ร้านมีจำหน่ายตั้งแต่สีอ่อนอย่างสีเบจ สีพีช ไปจนถึงสีเข้มอย่างสีน้ำเงินหรือสีแดง ให้เราปรับแต่งแว่นตากันแดดตามสไตล์ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

และที่สำคัญคือเลนส์ในร้านส่วนมากเป็นเลนส์ที่มีของพร้อมจำหน่ายเลย นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราสามารถรับแว่นได้เร็วภายในแค่ 30 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อาจมีเลนส์เสริมบางชนิดที่จำเป็นต้องสั่งเข้ามาก่อน หากสนใจตัดแว่นที่รา้น JINS แนะนำให้ลองไปตั้งแต่วันแรก ๆ เมื่อมาถึงญี่ปุ่นเพื่อสั่งเลนส์ไว้ จากนั้นก็มารับแว่นก่อนกลับบ้านได้เลย

เปิดประสบการณ์ใหม่กับร้านแว่น JINS พร้อมรับคูปองส่วนลด

หลังจากเลือกกรอบแว่นและเลนส์ที่ชอบเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการวัดสายตา โดยก่อนหน้านั้นจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลทั่วไปผ่านแท็บเล็ตก่อน จากนั้นก็สามารถแจ้งพนักงานได้เลยว่าจะวัดสายตายังไง คือจะวัดสายตาใหม่อีกครั้ง ให้ร้านตรวจสอบแว่นตาปัจจุบันเพื่อทำเลนส์ให้ตรงกัน หรือตัดแว่นตามใบสั่งจากจักษุแพทย์ก็ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ใส่คอนแทคเลนส์ ร้านมีจัดโซนให้ล้างมือ พร้อมกล่องใส่คอนแทคเลนส์และน้ำยาให้ด้วย เท่านี้ก็สามารถวัดสายตาได้แล้ว

เมื่อวัดสายตาเรียบร้อย สิ่งที่เหลือคือการเลือกสีของกล่องแว่นและจ่ายเงิน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับชาวต่างชาติสามารถโชว์หนังสือเดินทางเพื่อขอคืนภาษีและรับส่วนลดเพิ่มอีก 10% แต่พิเศษสุด ๆ สำหรับทุกคนที่อ่านบทความนี้ เพราะวันนี้ Japankuru มีคูปองส่วนลดให้เพิ่มอีก 5% เมื่อรวมภาษี ส่วนลดบวกกับค่าเยนที่ถูกลงก็บอกเลยว่าคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว พนักงานของ JINS จะให้รหัส QR ไว้โชว์สำหรับมารับแว่น พร้อมมอบ Night Voucher ให้ด้วย

หลังจากเสร็จธุระกับแว่น ต่อไปก็ถึงเวลาออกไปเดินเล่นยามค่ำคืนในฟุกุโอกะกันแล้ว!

ร้าน JINS สาขา Mina Tenjin
4-3-8 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: 10:00 – 20:00 น.
Official Website (jp)

ชวนไปดูฟุกุโอกะยามเย็นและยามค่ำคืน

คาเฟ่ชิว ๆ และศาลเจ้าร่มรื่น

สำหรับชาว Café hopping ต้องบอกเลยว่าฟุกุโอกะเป็นเมืองที่เหมาะกับการตะลอนกิน เพราะเต็มไปด้วยคาเฟ่น่ารัก ๆ แถมส่วนมากก็เปิดถึงค่ำ อย่างในร้าน JINS เองก็มีคาเฟ่ โดยใช้พื้นที่ร่วมกับ Onca Coffee สามารถเลือกการคั่วเพื่อให้ได้รสชาติที่ชอบได้ โดยมี 2 ตัวเลือกหลัก ๆ คือ คุโระ(อเมริกาโน่) ที่เรียบง่าย และชิโระ(ลาเต้) ที่กลมกล่อม หลังจากสั่งกาแฟซักแก้วแล้วก็มานั่งพักอ่านหนังสือที่ร้านจัดเตรียมไว้ให้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลีกหนีจากความวุ่นวายได้มากทีเดียว

ร้าน Onca Coffee
Mina Tenjin 1F, 4-3-8 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ วันธรรมดา 7:00 – 20:00 น. | วันเสาร์อาทิตย์ 10:00 – 20:00 น.
Official Website (jp)

เดินมาไม่ไกลจากแถวร้าน จะพบกับ ศาลเจ้าเคโกะ ศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปีค.ศ. 1608 ตัวห้องโถงหลักยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะดั้งเดิมที่เรียบง่ายและสง่างามไว้อยู่ นอกจากห้องโถงหลักแล้วยังมีอ่างน้ำแร่เล็ก ๆ สำหรับแช่เท้าสาธารณะด้วย ใครที่ต้องการพบกับความสงบหลังจากวุ่นวายมาทั้งวันแนะนำเลย!

หรือถ้ารู้สึกง่วงนอนและอยากได้คาเฟอีนอีกซักแก้ว ภายในศาลเจ้ามีร้านกาแฟ Blue Bottle Coffee ด้วย นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวศาลเจ้าไปพลาง ๆ

ศาลเจ้าเคโกะ (Kego Shrine)
2-2-20 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการของศาลเจ้า: 6:30 – 18:00 น.
เวลาเปิดทำการของร้านกาแฟ Blue Bottle: 8:00 – 20:00 น.
Official Website (jp)

แวะมาอีกหนึ่งคาเฟ่กับ Rec Coffee ตกแต่งด้วยผนังสีขาวและต้นไม้ตามสไตล์มินิมอล แสงสวยถ่ายรูปขึ้นสุด ๆ ถ้าใครรู้สึกว่าดื่มคาเฟอีนมาเยอะเกินไปแล้ว แนะนำให้ลองเบเกอรี่ของร้านดู อร่อยเพลินจนเกือบลืมไปรับแว่นเลยทีเดียว

Rec Coffee สาขา Tenjinminami
5−1−19, Watanabedori, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: 11:00 – 22:00 น. (วันศุกร์และเสาร์เปิดถึงเที่ยงคืน)
Official Website (jp)

แวะสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทางผ่านอย่าง Tenjin Central Park ซักครู่ พร้อมชมสถาปัตยกรรมทรงขั้นบันไดโดดเด่นแตะตาอย่าง Acros Fukuoka และ Fukuoka Symphony Hall

ลิ้มรสรสชาติแห่งฟุกุโอกะ

กว่าจะเลือกแว่นเรียบร้อยแล้วก็คงถึงเวลาของการเติมพลังแบบชาวฟุกุโอกะ คือการไปหม่ำราเมงชามโต แม้ว่าที่ฟุกุโอกะจะขึ้นชื่อเรื่องราเมงน้ำซุปทงคตสึ(น้ำซุปกระดูกหมู)ที่เข้มข้นและกลมกล่อม แต่วันนี้เราอยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งรสชาติแปลกใหม่กับราเมงซุปมะเขือเทศของร้าน Sanmi(333) ที่ผสมผสานรสชาติสดใหม่ของมะเขือเทศเข้ากับเครื่องเคียงอย่างชีส ผักโขมตุ๋นและใบยี่หร่าได้อย่างลงตัว บอกเลยว่าไม่ซ้ำใครในฟุกุโอกะแน่นอน!

ปัจจุบันร้าน Sanmi มีหลายสาขา สำหรับสาขาที่ร่วมรายการกับร้าน JINS Mina Tenjin คือสาขา Sanmi Tomato Ramen Central Tenjin Daimyo เมื่อสั่งราเมงมะเขือเทศที่ร้านและโชว์ Night Voucher จะได้รับริซอตโต้ชีสมะเขือเทศฟรี 1 ชาม ตัวริซอตโต้จะทำจากน้ำซุปที่เหลือจากราเมงของเรา (หลังทานเส้นและเครื่องเคียงจนพอแล้ว ทางร้านจะนำซุปที่เหลือไปทำริซอตโต้กลับมาให้แบบฟรี ๆ)

Sanmi Tomato Ramen สาขา Central Tenjin Daimyo
Passage Bldg 2F, 1-12-58 Daimyo, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: เปิด 24 ชั่วโมง
Official Website (jp)

Tenjin Underground Mall ช้อปปิ้งสตรีทสายหลักของฟุกุโอกะ เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านขายของน่ารัก ๆ ร้านขนม ไปจนถึงคาเฟ่เรียงรายตลอดทางกว่า 500 เมตร ที่สำคัญบางร้านอย่างร้านขายยา Ohga ยังร่วมรายการกับ JINS สามารถใช้ Night Voucher เพื่อรับสินค้าฟรีหรือส่วนลดได้อีกด้วย 

นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักของฟุกุโอกะที่โดดเด่นด้านร้านค้าแล้ว ยังโดดเด่นด้านการออกแบบและตกแต่งภายในอีกด้วย บริเวณทางเดินปูด้วยหินกรวดที่ดูแปลกตา เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็จะได้พบกับลวดลายบนเพดานและกระจกสีสไตล์ยุโรป ให้บรรยากาศอบอุ่นผสมความเป็นตะวันตกและตะวันออกได้อย่างดี ระหว่างเดินช้อปปิ้งก็อย่าลืมเงายหน้ามองกระจกสีน่ารัก ๆ ด้วยนะ

ช้อปปิ้งสตรีท Tenjin Underground Mall
2 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: 10:00 – 20:00
Official Website (jp)

พร้อมหรือยังสำหรับสตรีทฟู้ดญี่ปุ่น? ในย่าน Nakasu ริมแม่น้ำ Naka มีแหล่งรวมร้านอาหารแผงลอย(หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Yatai)มากมาย จนย่านนี้ถูกเรียกว่า Nakasu Yatai ทุกร้านจะเป็นร้านแผงลอยเล็ก ๆ ประมาณไม่เกิน 10 ที่นั่ง มีตั้งแต่ร้านราเมงทงคตสึ ร้านยากิโทริ(ไก่เสียบไม้ย่าง) ครั้งนี้อยากแนะนำร้านโอเด้ง อาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิก ในจานมีทั้งหัวไชเท้าก้อนโต ลูกชิ้นปลา เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปรสเค็มจาง ๆ กลมกล่อมกำลังดี ทานคู่กับเบียร์เย็น ๆ ซักแก้ว แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศการทานสตรีทฟู้ดริมน้ำ

แผงลอย Nakasu
1-8 Nakasu, Hakata Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: ประมาณ 18:00 – 01:00 น. (เวลาอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละร้านแผงลอย)

จุดหมายถัดไปมาเอาใจคนชื่นชอบประวัติศาสตร์ หลังจากเดินผ่านบรรยากาศอันรื่นเริงของแผงลอยริมแม่น้ำ Naka แล้ว เราก็จะเดินมาถึงหน้าอาคารอิฐแดงอันสะดุดตา อาคารนี้คือศูนย์วัฒนธรรม Fukuoka Akarenga ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกคนเดียวกันกับที่สถานีโตเกียวเลยมีกลิ่นอายคล้าย ๆ กัน และปัจจุบันยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเดินทางมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย 

หากใครที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบอาคารและอยากรู้ว่าฟุกุโอกะใน 100 ปีที่แล้วเป็นยังไง มีอะไรแตกต่างจากปัจจุบันบ้าง แนะนำให้แวะไปชม

ศูนย์วัฒนธรรม Fukuoka Akarenga
1-15-30 Tenjin, Chuo Ward, Fukuoka
เวลาเปิดทำการ: 9:00 – 22:00 น.
Official Website (jp)

จบกิจกรรมยามค่ำคืนพร้อมรับแว่นใหม่จาก JINS

หลังจากเที่ยวเล่นยามค่ำคืนไปกับคาเฟ่ ราเมง หรือเดินเล่นจนหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะกลับมารับแว่นที่ร้าน JINS เพียงแค่สแกน QR Code ที่ได้รับจากพนักงานก่อนออกไปก็สามารถหยิบแว่นออกจากล็อกเกอร์ได้เลย เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการไปผจญภัยที่อื่น ๆ ในฟุกุโแกะ พร้อมชมเมืองผ่านมุมมองใหม่ด้วยแว่นใหม่อันนี้

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวสนุก ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์ Japankuru และ Facebook

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS