CONTENTS
พาไปดูช็อป Vivienne Westwood ในญี่ปุ่น พร้อมส่องคอลเลกชันใหม่ประจำปลายปี 2024 และต้นปี 2025
Vivienne Westwood กับญี่ปุ่น
Vivienne Westwood (วิเวียน เวสต์วูด) ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษผู้ปลุกกระแสวัฒนธรรมพังก์ให้กลายเป็นแฟชั่นกระแสหลัก เธอเริ่มออกแบบเสื้อผ้าในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มชนชั้นกลางโดยเฉพาะวัยรุ่นในอังกฤษเริ่มมีแนวคิดต่อต้านสังคม จากการที่รัฐบาลรวมถึงชนชั้นสูงละเลยความเป็นอยู่ของคนชนชั้นล่าง และในช่วงเวลาสำคัญนี้เองก็ได้มีการใช้แฟชั่นพังก์ของ Vivienne Westwood เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอด“ความขบถ”เหล่านั้นด้วย จึงไม่อาจปฎิเสธได้ว่า Vivienne Westwood เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมเช่นกัน
ในแง่ของการออกแบบ แบรนด์ได้ผสมผสานเอกลักษณ์ของอังกฤษเข้าไปอย่างลงตัว มองเพียงแวบเดียวก็จะสัมผัสได้ถึงความเป็นอังกฤ๊ษอังกฤษ อย่างดีไซน์รูปธงสหราชอาณาจักรหรือชุดสูทลายสก็อต ในขณะเดียวกันแบรนด์ก็ได้เติบโตขยายไปทั่วโลก และค้นพบช่องทางของตัวเองในประเทศญี่ปุ่นด้วย
ในช่วงทศวรรษที่ 1980 Vivienne Westwood ได้เริ่มก้าวใหม่กับการเปิดช็อปแรกนอกอังกฤษที่ประเทศญี่ปุ่น การเข้ามาของ Vivienne Westwood ได้ส่งอิทธิพลต่อปรากฏการณ์สตรีทแฟชั่นที่เกิดขึ้นในโตเกียวตลอดช่วงทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ฮาราจูกุกลายมาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลก งานของ Vivienne Westwood จึงกลายเป็นหนึ่งในกระแสหลักของแฟชั่นสตรีทในโตเกียวจนถึงปัจจุบัน เรายังสามารถพบเจอผู้คนสวมใส่เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่มีจี้สัญลักษณ์ ORB โลโก้ดาวเสาร์ใส่มงกุฎอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivienne Westwood ได้โดยทั่วไป รวมถึงช็อปสาขาใหม่ ๆ ที่เปิดขึ้นทั่วญี่ปุ่น
ฮาราจูกุอันขึ้นชื่อว่าได้เป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลกในยุคหนึ่ง ทั้งยังมีความสำคัญกับร้าน Vivienne Westwood จึงไม่น่าแปลกใจที่ฮาราจูกุจะกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้ง Vivienne Westwood เพราะนอกจากจะมีสินค้าให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีสินค้าบางชิ้นที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้นด้วย
ช้อปปิ้ง Vivienne Westwood ในญี่ปุ่น
จากกระแสความโด่งดังของ Vivienne Westwood ทำให้ในปัจจุบันนี้เราสามารถพบเจอกับช็อป Vivienne Westwood ได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ความพิเศษคือแต่ละสาขาได้รับการออกแบบให้เข้ากับบริเวณที่ตั้งร้านโดยรอบ รวมไปถึงสินค้าภายในร้านก็อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสาขาด้วย อย่างในย่านฮาราจูกุซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความหมายของ Vivienne Westwood เราจะได้พบกับช็อป Vivienne Westwood ถึง 3 สาขาด้วยกัน ทั้ง Vivienne Westwood RED LABEL ตั้งอยู่ใจกลางย่านฮาราจูกุ Vivienne Westwood MAN บนถนน Omotesando และ Vivienne Westwood Aoyama อันคลาสสิกที่มีวางจำหน่ายสินค้าทุกอย่างจากดีไซเนอร์
ปัจจุบันสินค้าและเครื่องประดับที่วางจำหน่ายใน Vivienne Westwood RED LABEL และ Vivienne Westwood MAN เป็นสินค้าที่ออกแบบโดยคำนึงถึงพื้นเพและเทรนด์แฟชั่นของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นไซส์และรูปทรงที่เหมาะกับชาวเอเชีย โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Vivienne Westwood ควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นสินค้าลิมิเต็ดเฉพาะในญี่ปุ่นที่ไม่สามารถพบที่ไหนอีกแล้วก็ว่าได้
ที่สำคัญที่สุดคือคอลเลกชันลิขสิทธิ์เหล่านี้ผลิตขึ้นตามมาตรฐานที่เข้มงวดของญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคการผลิตที่พิถีพิถันและวัสดุคุณภาพสูง ทำให้สินค้า Vivienne Westwood ในญี่ปุ่นสิ่งที่นักช็อปทุกคนอยากจะหวนกลับมาซื้ออีกครั้งในทุกฤดูกาล
ไอเท็มเฉพาะในญี่ปุ่นประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนี้
ในช่วงแรก ๆ ของการออกแบบ Vivienne Westwood ได้หยิบยกเอากระแสแฟชั่นย้อนยุคมาออกแบบใหม่ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และกระบวนการดังกล่าวยังคงเป็นหัวใจสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน
สำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง เหล่าดีไซน์เนอร์ก็ออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจเพื่อคงรักษากลิ่นอายความย้อนยุคเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงดีไซน์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้นด้วย
ความพิเศษของญี่ปุ่นที่มีช็อป Vivienne Westwood หลากหลายสาขา ก็คือการที่แต่ละสาขามีลิขสิทธิ์พิเศษเฉพาะของญี่ปุ่น และสินค้าแตกต่างกันไปในแบบคอนเซ็ปต์ของตัวเอง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น เช่นเดียวกับร้าน Vivienne Westwood RED LABEL และ Vivienne Westwood MAN
Vivienne Westwood RED LABEL: Preppy & Punk แฟชั่นลูกคุณผสมพังก์
ภาพประกอบจาก Vivienne Westwood
อย่างที่เล่าไปด้านบนว่าสินค้าในแต่ละช็อปของ Vivienne Westwood อาจแตกต่งกันไปในแต่ละสาขา สำหรับ RED LABEL ได้นำเทรนด์แฟชั่นสไตล์ลูกคุณ (Preppy Style) มาผสมผสานเข้าไปด้วยกันกับแฟชั่นแบบพังก์ ออกมาเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้าแนวชุดนักเรียนนักศึกษาที่เหมือนหลุดออกมาจาก Ivy League
หากอยากลองแต่งตัวสไตล์ลูกคุณผสมความเป็นพังก์ ขอแนะนำให้ลองแมตช์เสื้อคาร์ดิแกนหลวม ๆ อย่าง Patchwork Chunky Knit (รูปกลาง) กับกระโปรงลายสก็อต Tartan Check Mini Skirt (รูปกลาง) จากนั้นเติมเต็มลุคด้วยรองเท้าโลฟเฟอร์และถุงเท้าสีขาว (หรือถ้าอยากเพิ่มความแซ่บ ลองใส่คู่กับถุงน่องสีดำบาง ๆ ด้านในก็ได้นะ) เท่านี้ก็จะเหมือนนักเรียนไฮสคูลคุณหนูคุณใจแล้ว
หรือหากอยากลองเป็นนักกีฬา ก็สามารถใส่อย่าง Big Pitch Stripe Rugger Shirt (รูปซ้าย) ไอเท็มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์สปอร์ต หรือจะเป็นชุดวอร์ม Recycled Polyester Double-Knit (รูปขวา) ที่ให้ความรู้สึกวินเทจขึ้นมาอีกหน่อยก็ย่อมได้
ภาพประกอบจาก Vivienne Westwood
แน่นอนว่าในคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของ Vivienne Westwood RED LABEL ไม่ได้มีแค่แฟชั่นลุคคุณหนูคุณใจเท่านั้น เพราะยังมีเสื้อผ้าที่ดึงเอาเทรนด์ล่าสุดของฮาราจูกุมาเป็นแรงบันดาลใจด้วย อย่าง Cotton Fleece-Lined Animal Cut Top (เสื้อคัตติ้งรูปสัตว์บุขนแกะ) กับเสื้อเชิ้ต Organic Cotton Broadcloth (ผ้าฝ้ายออร์แกนิก) ไซส์ XXL (รูปซ้าย) ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายของแฟชั่นสไตล์โกธิก-เกิร์ลของฮาราจูกุอย่าง “จิไร เคอิ (Jirai kei)” โดยเฉพาะเมื่อแมตช์กับถุงเท้า ถุงน่อง และรองเท้าโลฟเฟอร์เพิ่ม
นอกจากนี้ยังมี Melton Shortcut Beaver Wool Trench (รูปขวา) เสื้อโค้ทยาวสุดคลาสสิกที่นำไปแมตช์เข้ากันได้ดีกับลุคโกธิกและโลลิต้าที่พบเห็นตามท้องถนนในย่านฮาราจูกุ
Vivienne Westwood MAN: ทรงสวยและเนื้อผ้าหลากหลาย
ภาพประกอบจาก Vivienne Westwood
ในส่วนของ Vivienne Westwood MAN มีเอกลักษณ์ในเรื่องของเนื้อผ้าที่หลากหลาย ทั้งกำมะหยี่เนื้อนุ่ม เดนิมเนื้อหยาบ ขนแกะนุ่มฟู และผ้าแจ็คการ์ดแวววาว ให้เราได้สนุกและตื่นเต้นไปกับความแตกต่างทางเนื้อสัมผัส อย่าง Velvet Hals Collar Denim Jacket (รูปซ้าย) แจ็กเก็ตเดนิมแต่งด้วยปกกำมะหยี่สุดหรูหรา เหมาะสำหรับเดือนที่อากาศเริ่มหนาวขึ้น
หากยังไม่รู้จะแต่งตัวยังไง สามารถหาไอเดียได้จาก lookbook ของ Vivienne Westwood MAN ลองไปแต่งตามและสนุกกับเนื้อผ้าที่แตกต่างกันได้ อย่างรูปกลางที่นำเสื้อเชิ้ต Multi Stripe มาแมตช์กับผ้าถักนุ่ม ๆ ของเสื้อฮู้ด Shadow Roo และกางเกง Shadow Felpa หรือจะใส่ตามรูปขวา แมตช์เสื้อกั๊ก เสื้อเชิ้ตตัวยาว กางเกงและหมวกจากซีรีส์ Mist Check เพิ่มความโดดเด่นที่คาดไม่ถึงให้กับชุดสูทลายตารางคลาสสิกของ Vivienne Westwood
Images courtesy of Vivienne Westwood
ไม่ใช่แค่เรื่องของเนื้อผ้าเท่านั้นที่ทำให้คอลเลกชันนี้มีความโดดเด่น แต่ยังมีเรื่องการคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสไตล์พังก์แบบ Vivienne Westwood ทั้งการใช้ลวดลายซ้ำ ๆ อย่าง Twin Eagles (รูปขวา) ทั้งขนาดแบบโอเวอร์ไซส์ที่ดูหลวม ๆ ที่ทำให้คอลเลกชันนี้ดูเป็นหนึ่งเดียวกัน
สำหรับวันฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่นขึ้น ขอแนะนำเป็นกางเกงขายาว Cropped Wash Denim (รูปกลางและขวา) กางเกงเดนิมทรงหลวม ซึ่งตัดเย็บแบบครึ่งแข้งตรงกลางเพื่อสร้างลุคที่โดดเด่น
อย่าลืมแวะมาที่ช็อป Vivienne Westwood ครั้งต่อไปเมื่อมาญี่ปุ่น!
ภาพประกอบจาก Vivienne Westwood
ถึงแม้ Vivienne Westwood จะมีช็อปในไทยบ้างแล้ว แต่ต้องบอกเลยว่าช็อปในญี่ปุ่นมีของลิมิเต็ดที่วางขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น รวมถึงมีสินค้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจมากมายที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้นในคอลเลกชันใหม่นี้ สำหรับสายแฟที่ชอบในสินค้า Vivienne Westwood อยู่แล้ว หรือใครที่อาจกำลังมองหาของที่ระลึกรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันของการมาโตเกียว ช็อป Vivienne Westwood อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรแวะมา
ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ อื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์ Japankuru และ Facebook!