Sponsored

PAUL & JOE เปิดตัวไพรเมอร์ MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N สีใหม่ประจำ 2024 นี้!✨

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

PAUL & JOE ร่วมกับ korekoko จัดอีเวนต์เปิดตัวสีใหม่ของ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N(มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ฟาวน์เดชั่น ไพรเมอร์ เอ็น) ไพรเมอร์งานผิวชื่อดังจากแบรนด์ PAUL & JOE ที่โอโมเตะซันโดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

สัมผัสความงามแบบปารีเซียงด้วยเครื่องสำอางของแบรนด์ PAUL & JOE

PAUL & JOE(พอล แอนด์ โจ) แบรนด์งานผิวชื่อดังส่งตรงจากฝรั่งเศส ที่ตั้งใจนำเสนอไลฟ์สไตล์สนุกสนานของชาวปารีเซียงออกไปทั่วโลก มีผลิตภัณฑ์ครบสำหรับทุกขั้นตอนในการแต่งหน้า ตั้งแต่การเตรียมผิวขั้นแรกไปจนถึงการแต่งหน้าในขั้นตอนสุดท้าย! เป็นหนึ่งในแบรนด์คุณภาพที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย ทั้งในบ้านเราและในญี่ปุ่นเองด้วย

สำหรับอีเวนต์เปิดตัวในครั้งนี้ คือเปิดตัวสีใหม่ของซีรีส์ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N(มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ฟาวน์เดชั่น ไพรเมอร์ เอ็น) ไพรเมอร์ตัวดังของแบรนด์ที่วางจำหน่ายต่อเนื่องมาแล้วกว่า 20 ปี

หากพูดถึงภาพจำและผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ PAUL & JOE แล้ว คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N(มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ฟาวน์เดชั่น ไพรเมอร์ เอ็น) ไพรเมอร์ตัวดังของแบรนด์ที่วางจำหน่ายต่อเนื่องมาแล้วกว่า 20 ปี และมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เรื่อย ๆ จนตอนนี้ก็มีทั้งหมดเจ็ดรุ่นแล้ว

สำหรับปี 2024 นี้ทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัวสีเบอร์ 00 สีใหม่ของซีรีส์ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในไลน์ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N มีถึง 4 เฉดสีด้วยกัน(สี 00 / สี 01 / สี 02 / สี 03) นับเป็นผลิตภัณฑ์เมคอัพเบสที่ดีที่สุดสำหรับการปรับผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น

ในส่วนของแพ็คเกจมาในขวดแก้วสีหวานสลักลายแบบติดแกลมที่คงความหรูหราไว้เช่นเดิม ดูเข้ากับไลฟ์สไตล์ปารีสตามคอนเซปต์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N สีใหม่แกะกล่อง

มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สี 00 / สี 01 / สี 02 และสี 03

PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในเอเชีย เพราะมีคุณสมบัติช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกันกับสี 00 ที่เพิ่งเปิดตัวก็สามาถช่วยให้ผิวของเราดูสดใสอมชมพูมากขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการเพิ่มพลังความชุ่มชื้นและช่วยให้เมคอัปติดทนมากยิ่งขึ้น

สิ่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ คือการผสานนาโนไลโปแคปซูลลงในไพรเมอร์ ซึ่งเป็นสารที่สามารถซึมลึกลงถึงชั้นผิวและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสารสำคัญอื่น ๆ อย่างไนอาซินาไมด์เข้าไปด้วย แม้จะเพิ่มความชุ่มชื้นแบบจัดเต็มขนาดนี้ แต่เนื้อสัมผัสมีความบางเบาเกลี่ยง่าย แม้อยู่ที่ไทยก็สามารถใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะหยา แถมให้ฟินิชที่ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และผิวเรียบเนียนเป็นประกายเงางาม

ปัจจุบันไพรเมอร์ไลน์นี้จึงมีให้เลือกถึง 4 เฉดสี นอกจากสีเบอร์ 00 ที่เพิ่งเปิดตัวไปแล้วนั้น ยังมีอีก 3 สีที่ให้งานผิวสวยไม่แพ้กัน อย่างสี 01 ซึ่งกำลังฮิตกันในสาวเกาหลีเพราะให้ลุคหน้าสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สี 02 ออกโทนส้มสดใสดูสุขภาพดี และสี 03 ซึ่งเน้นความโปร่งใสดูกลืนไปกับผิว สามารถเลือกใช้ได้ตาม undertone สีผิวของเราเลย

รายละเอียดสินค้า
PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N สีเบอร์ 00
ขนาด 30 มิลลิลิตร
คุณสมบัติ SPF 15 PA+
เว็บไซต์ทางการ https://www.paul-joe-beaute.com/products/apabvh00 

รีเฟรชผิวหมองคล้ำและเตรียมผิวให้พร้อมในคราวเดียว

ขอบคุณภาพจาก PAUL & JOE

ความพิเศษของ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N คือการนำส่วนผสมของนาโนไลโปแคปซูลสองชนิดมาใช้เป็นครั้งแรกชนิดแรกคือเซราไมด์ที่มีคุณสมบัติเพื่อช่วยสร้างปราการผิว และไฟโตสเตอรอล (ไขมันที่พบในเซลล์ผิวหนัง) เพื่อกักเก็บน้ำในผิว ด้วยนาโนไลโปแคปซูลสองชนิดนี้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างไนอาซินาไมด์หรือไฮยาลูโรนิกแอซิดสามารถซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้ เมื่อแต่งหน้าโดยใช้ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N เป็นเบสจึงสามารถช่วยให้ผิวดูนุ่มฟูอิ่มน้ำอละแต่งหน้าติดทนตลอดวัน

เคล็ดลับผิวสวยติดทนยาวนาน

ขอบคุณภาพจาก PAUL & JOE

ด้วยนาโนไลโปแคปซูลและสารอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์ ทำให้เจ้าไพรเมอร์ตัวนี้สามารถสร้างแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อเหงื่อและความมันได้เป็นอย่างดี(ยกเว้นสี 03) จึงสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้น ทำให้เมคอัปติดแน่นทนนาน

นอกจากนี้ภายในไพรเมอร์ยังประกอบไปด้วย secret d’or หรือประกายมุกสีทองอันเป็นเอกลักษณ์ของ PAUL & JOE ทั้งยังมีส่วนประกอบของแป้งโปร่งแสงด้วย ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและเงางามเปล่งประกายตลอดวัน สร้างลุคฉ่ำโกลว์ตามเทรนด์ของญี่ปุ่นในขั้นตอนเดียวง่าย ๆ !

ชวนมาดูบรรยากาศภายในงานอีเวนต์ของ PAUL & JOE และ korekoko ที่โอโมเตะซันโดะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา PAUL & JOE ร่วมกับ korekoko ได้จัดกิจกรรมเปิดตัว PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่สนใจได้เข้าสู่โลกของ PAUL & JOE และสามารถมาลองสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ใหม่ชิ้นนี้ก่อนใครได้ โดยในงานล่าสุดที่ผ่านมามีผู้ร่วมงานจากหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนจีน และคนไต้หวัน ในบทความนี้เลยขอนำภาพบรรยากาศภายในงานมาให้ดูกันเล็กน้อย

บอกเลยว่างานนี้ทาง PAUL & JOE เตรียมกิจกรรมและของแจกไว้ให้แบบจัดเต็ม นอกจากจะได้ลองแต่งหน้าด้วยผลิตภัณฑ์จาก PAUL & JOE แล้ว ยังได้รับมาการองและกระเป๋าผ้าติดไม้ติดมือกลับบ้านเพิ่มไปด้วย รวมถึงภายในงานยังมีจุดถ่ายรูปน่ารัก ๆ อย่างขวดไพรเมอร์ยักษ์ แบ็คดรอปโลโก้ PAUL & JOE สีหวาน และมุมขนมมาการองสแกนชื่อแบรนด์สุดน่ารัก

การจัดอีเวนต์ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้มาลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนวางจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเหมือนพื้นที่ให้ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนของทั้งผู้ร่วมงานกันเอง และระหว่างผู้ร่วมงานและทางแบรนด์เช่นกัน

📌korekoko คืออะไร? มีจัดกิจกรรมอะไรอีก? เข้าร่วมได้ยังไงบ้าง? สามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

ผิวเงางามเปล่งประกายตลอดช่วงหน้าหนาว

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่อากาศทั้งแห้งและเย็น อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าแห้งและแต่งหน้าไม่ติดตามมาได้ นอกจากการลงวกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว การลงเบสเมคอัปก่อนแต่งหน้าก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้ลองใช้ PAUL & JOE MOISTURIZING FOUNDATION PRIMER N เป็นตัวช่วยผิวสวยเงางามตลอดหน้าหนาวนี้กันเถอะ!

ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์ Japankuru และ Facebook Japankuru

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS