Sponsored

พาส่องช็อป Vivienne Westwood Aoyama ในโตเกียว แฟชั่นจากดีไซเนอร์ขวัญใจชาวญี่ปุ่น

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

ใครชอบแฟชั่นมาทางนี้! ไม่ว่าจะหลงใหลในแฟชั่นชั้นสูงหรือสตรีทแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่น อย่าลืมแวะมาช้อปปิ้งที่ร้าน Vivienne Westwood สาขาโตเกียวแห่งนี้!

กว่าจะมาเป็น Vivienne Westwood ในญี่ปุ่น

Vivienne Westwood(วิเวียน เวสต์วูด) ดีไซน์เนอร์ชาวอังกฤษ ผู้เริ่มต้นเส้นทางแฟชั่นของตัวเองตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 เธอออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานแฮนด์เมดที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการขบถในยุคนั้น อีกทั้งยังเป็นผู้ปลุกวัฒนธรรมพังก์ขึ้นมาเป็นแฟชั่นกระแสหลัก ก่อนที่จะขยายขอบเขตไปสู่เวทีแฟชั่นโชว์ระดับสูง ถึงแม้ว่าหลายผลงานของ Vivienne Westwood จะสอดแทรกและสะท้อนถึงรากเหง้าของความเป็นอังกฤษ แต่ในปัจจุบันอิทธิพลของแฟชั่นที่เธอสร้างขึ้นได้ขยายออกไปทั่วโลกอย่างไร้พรมแดนแล้ว

ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ การออกแบบของ Vivienne Westwood ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น เพื่อเป็นการขอบคุณและเฉลิมฉลองกระแสตอบรับดี ๆ เธอจึงตัดสินใจเปิดช็อปต่างประเทศแห่งแรกที่โตเกียวในช่วงทศวรรษ 1980 การเปิดสาขาในโตเกียวนี้ได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอย่างเหนียวแน่น และเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เธอเข้ามามีอิทธิพลในแฟชั่นสตรีทของโตเกียวในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 อีกด้วย

และเมื่อโตเกียวกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่า Vivienne Westwood เองก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นญี่ปุ่น ตามที่เรามักจะเห็นเสื้อผ้าและงานของเธอในภาพถ่ายตามท้องถนนในแถบฮาราจูกุ หรือไปปรากฏอยู่ในมังงะและอนิเมะชื่อดังมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะของแบรนด์ว่าเป็นส่วนสำคัญในวงการแฟชั่นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

อีกทั้งในปัจจุบันโลโก้ Orb ที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงเป็นภาพที่พบเห็นได้บ่อยในหมู่คนที่เป็นผู้นำเทรนด์ของโตเกียว และเมืองนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ชื่นชอบแฟชั่น Vivienne Westwood จากทั่วโลก แม้ว่าโตเกียวจะไม่ใช่บ้านเกิดของเธอ แต่หลายคนกล่าวว่าโตเกียวคือสถานที่ที่ดีที่สุดในการช้อปปิ้งแฟชั่น Vivienne Westwood จากทั่วโลก เพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้น ลองอ่านในบทความนี้ได้เลย

ช็อป Vivienne Westwood ในโตเกียว

*สินค้าที่จัแสดงด้านหน้าร้านจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ

ทุกวันนี้ช็อป Vivienne Westwood กระจายตัวอยู่ทั่วโลก รวมถึงมีหลายสาขาในญี่ปุ่น ความพิเศษคือร้านแต่ละแห่งจะถูกออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ที่ตั้งอยู่ด้วย

ร้าน Vivienne Westwood สาขานี้ตั้งอยู่ในหนึ่งในย่านที่เก๋ที่สุดของเมือง อยู่ระหว่างถนนแฟชั่นสุดหรู Omotesando(โอโมเตะซันโด) และย่าน Aoyama(อาโอยามะ) ที่เต็มไปด้วยความทันสมัย ร้านแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในตรอกสงบไม่ไกลจากถนนหลักมากนัก ภายในร้านมีพื้นที่สองชั้นพร้อมชั้นลอฟท์เล็ก ๆ ที่ให้บรรยากาศเหมือนแกลเลอรี จัดแสดงคอลเลกชันเสื้อผ้าเหมือนงานศิลปะที่สวมใส่ได้

ภายในร้านเราจะได้พบกับสินค้าดีไซน์ตามฤดูกาล ไอเท็มคลาสสิกเหนือกาลเวลา และสินค้าลิมิเต็ดอิดิชันที่วางจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น หากอยากรู้ว่าทำไม Vivienne Westwood ถึงเป็นหนึ่งในดีไซน์เนอร์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รักในวงการแฟชั่นญี่ปุ่น ก็บอกเลยว่าที่นี่คือสถานที่ที่เราต้องไปช้อปปิ้งแล้วแหละ

Vivienne Westwood สาขา Aoyama
ที่อยู่: 5-49-2 Jingumae, Shibuya City, Tokyo
เวลาเปิดทำการ: 11:00 – 20:00 น.
การเดินทาง: 3 นาทีจากสถานีโอโมเตะซันโด (Omotesando Station) ทางออก B2
เว็บไซต์ทางการ (ภาษาญี่ปุ่น)

คอลเลกชันของ Vivienne Westwood ที่สาขา Aoyama

คอลเลกชันตามฤดูกาล

พื้นที่กว้างขวางของร้าน Vivienne Westwood สาขา Aoyama ทำให้ร้านมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดแสดงผลงานดีไซน์ของ Vivienne Westwood ได้อย่างเต็มรูปแบบ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมองหาและทดลองแฟชั่นสไตล์ใหม่ ๆ เช่นกัน ทีมงาน Japankuru ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมร้านในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ได้พบกับคอลเล็กชันหลากหลายให้เลือกสรร หยิบมามิกซ์แอนด์แมชต์ ใส่เป็นเลเยอร์เพิ่มความอบอุ่น เหมาะจะใส่ในช่วงฤดูหนาวนี้เป็นที่สุด และยังคงไม่ละทิ้งเอกลักษณ์เชิงศิลปะที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Vivienne Westwood หลังจากนี้จะขอหยิบชุดมาใส่คู่กันให้ดูค่ะ

ตัวแรกเลยคือ S Coat โค้ทขนสัตว์คลาสสิก ตัดเย็บด้วย Harris Tweed หรือการตัดเย็บให้ดูไม่สมมาตรอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ส่วนเนื้อผ้านี้ใช้เพื่อรำลึกถึง Scottish Highlands ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวของแบรนด์ เมื่อถอดโค้ทออกจะได้เห็นผ้าซับด้านในที่มีลวดลาย Tossed Orb ซ่อนอยู่เล็กน้อย ลวดลายนี้ ตามคำกล่าวของแบรนด์ถูกอธิบายว่าเป็น “สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ Vivienne ในสืบสานความดั้งเดิมสู่อนาคต”

เราลองจับคู่โค้ทนี้กับ Pleat Midi Skirt กระโปรงยีนส์ดีไซน์เก๋เข้ากับช่วงเทศกาล(และแน่นอนว่ายังใส่ได้ตลอดทั้งปี) กระโปรงนี้มาในทรงเรียบหรู ตัดเย็บให้เข้ารูป พร้อมดีเทลที่น่าสนใจ เช่น รอยผ่าหลัง กระเป๋าหน้าดีไซน์พิเศษ และโลโก้ทรงลูกโลกขนาดเล็กที่เพิ่มความสะดุดตา ในขณะที่ยังคงความหลากหลายในการใช้งานได้ในหลายโอกาส

Vivienne Westwood และลวดลายสก็อตแบบ Tartan

เนื่องจาก Vivienne Westwood สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง เธอจึงนำเรื่องราวของเหล่านั้นมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์หลาย ๆ ผลงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ้าลาย Tartan(ทาร์ทัน)สุดคลาสสิกประจำสกอตแลนด์ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมพังก์ และเธอก็ได้ส่งต่อเรื่องราวของวัฒนธรรมเหล่านั้นสู่สายตาชาวโลกโดยการยกระดับสู่รันเวย์แฟชั่นชั้นสูงต่อไป

อิทธิพลของผ้าทอและประเพณีการตัดเย็บของอังกฤษปรากฏชัดในคอลเลกชันของ Vivienne Westwood ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 และในฐานะที่เธอมีความมุ่งมั่นต่อการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม แบรนด์ของเธอจึงได้ร่วมมือกับอุตสาหกรรมในท้องถิ่นและช่างฝีมือเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากผ้าทอที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของสหราชอาณาจักรด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าลาย Tartan ได้กลายเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Vivienne Westwood ไปแล้ว ลายนี้ปรากฎในคอลเลกชันต่าง ๆ ของเธอในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงคอลเลกชันสำหรับเทศกาลสิ้นปีนี้ด้วย แน่นอนว่าที่ช็อป Vivienne Westwood สาขา Aoyama เราก็จะได้พบกับลาย Tartan ทั้งบนเสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

สำหรับลาย Tartan ในคอลเลกชันปี 2024 นี้มาในสีแดงสดใส หากเราต้องการเพิ่มความโดดเด่นและเติมให้ลุคของเราดูครบมากยิ่งขึ้น อาจลองเลือกเป็นเครื่องประดับชื้นเล็ก ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับ S Coat ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าใบเล็ก กระเป๋าสตางค์หรือที่คาดผมสีแดงหนา (ตามภาพด้านบน) ที่จะช่วยคอมพลีทลุคของเรามากยิ่งขึ้น

แต่หากใครที่มองหาความแปลกใหม่ในการแต่งตัว ขอแนะนำสินค้าที่ใช้ลวดลาย Draped Tartan ซึ่งเป็นการผสมผสานสีฟ้า แดง และเหลืองเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นลวดลายที่ดูลึกลับและน่าหลงใหล ถ้าถามว่าลายนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอะไร คำตอบก็คือแค่มาจากวอลเปเปอร์ในสำนักงานใหญ่ของ Vivienne Westwood เท่านั้นเอง

จะเห็นได้ว่าในคอลเลกชันนี้ เราจะพบผ้าลายนี้ถูกนำมาเพิ่มความโดดเด่นให้กับ Drunken Shirt ที่มีดีไซน์ปิดกระดุมแบบไม่สมมาตร พร้อมลูกเล่นการตัดเย็บสุดเซอร์ไพรส์ เพื่อรำลึกถึงผลงานดีไซน์สุดล้ำยุคในคอลเลกชัน Witches ของ Vivienne Westwood ช่วงต้นทศวรรษ 1980

เครื่องประดับสุดคลาสสิก ตั้งแต่โลโก้ลูกโลก (Orb Logos) จนถึงรองเท้า Rockinghorse

ช็อป Vivienne Westwood สาขา Aoyama ไม่ได้มีแค่เครื่องประดับลาย Tartan ที่โดดเด่นน่าดึงดูดเท่านั้น แต่ที่ช็อปแห่งนี้ยังมีเครื่องประดับอื่น ๆ ที่จะมาช่วยเสริมเติมแต่งลุคของเราตามใจต้องการ ทั้งกระเป๋าถือและกระเป๋าสตางค์ แหวนและสร้อยคอ ผ้าพันคอและหมวก รวมถึงรองเท้าอีกมากมาย ให้เราเดินบนถนนในโตเกียวราวกับเดินบนรันเวย์แฟชั่นโชว์

ใครที่กำลังมองหาดีไซน์ที่คลาสสิกเหนือกาลเวลาของ Vivienne Westwood แนะนำเป็นกระเป๋าถือรุ่น Hazel และรองเท้า Rockinghorse Ballerina แบบคลาสสิก(ภาพด้านบน) ที่มั่นใจได้ว่าจะยังคงเป็นที่นิยมและไม่ตกยุคไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี

อีกหนึ่งในเครื่องประดับที่ไม่เคยตกยุคก็คือไข่มุก และยิ่งเมื่อนำไข่มุกเข้ามารวมกับ Orb จนกลายเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งสร้อยข้อมือ Mini Bas Relief Pearl และจี้ Tillya ต่างมีดีไซน์ที่ดูปราณีตสวยงาม ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 และการออกแบบที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ก็สามารถเข้ากันได้ดีทั้งกับชุดลำลองในชีวิตประจำวันและชุดในโอกาสพิเศษ

แต่งตัวด้วย Vivienne Westwood เพิ่มเสน่ห์ในการเที่ยวโตเกียวกันเถอะ

จิตวิญญาณแห่งพังก์และมรดกการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivienne Westwood ยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในวงการแฟชั่นมาจนถึงทุกวันนี้ และผลงานของเธอได้ฝากลายเส้นอันโดดเด่นไว้ในวงการแฟชั่นญี่ปุ่น หากคุณเป็นแฟนของแบรนด์นี้หรือเพียงแค่หลงใหลในแฟชั่นและอยากลองสัมผัสสิ่งใหม่ ๆ ร้าน Vivienne Westwood สาขา Aoyama ในย่านโอโมเตะซันโดคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด! ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่ผสานแฟชั่นชั้นสูงเข้ากับสตรีทแฟชั่นได้อย่างลงตัว เชื่อว่าไม่มีใครอยากออกจากโตเกียวโดยไม่ได้ช้อปปิ้งกับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นต้นแบบของแฟชั่นสตรีทญี่ปุ่น! ยิ่งในช่วงนี้ที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวต่ำสุดในประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเรา ๆ ยิ่งต้องรีบใช้โอกาสนี้ในการช้อปปิ้งแล้ว ยังไม่รวมการขอคืนภาษีอีกนะ บอกเลยว่านาทีทองของการช้อปปิ้งได้เริ่มขึ้นแล้ว!

ดังนั้นอย่าลืมใส่ร้าน Vivienne Westwood สาขา Aoyama ไว้ในแพลนเที่ยวของเรา เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านสำหรับช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นโอกาสในการได้มาสัมผัสจิตวิญญาณและสไตล์ที่อันโดดเด่นของ Vivienne Westwood ซึ่งยังคงสร้างอิทธิพลในหนึ่งในเมืองแฟชั่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลกอย่างโตเกียว!

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURUFacebookInstagramX(twitter)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS