Sponsored

White atelier BY CONVERSE ฮาราจูกุ มาทำ ALL STAR ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพียงคู่เดียวในโลกกัน! 🎨👟✨

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

เคยคิดไหมว่าจะเท่แค่ไหน หากได้สวมรองเท้าผ้าใบต้นฉบับของตัวเอง? วันนี้ JAPANKURU ขอพาไปรู้จักกับร้านคอนเซ็ปต์ของ CONVERSE “White atelier BY CONVERSE Harajuku” ที่แคทสตรีท (Cat Street) ในย่านฮาราจูกุ โตเกียว ที่ ๆ เราสามารถทำ ALL STAR ปรับแต่งตามความชอบและแสดงออกถึงตัวตนได้เต็มที่

สัมผัส CONVERSE แบรนด์คลาสสิกคู่ใจตลอดกาล

จาก “วงการกีฬา” สู่ “แฟชั่นสตรีทไอคอน”

CONVERSE” แบรนด์ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ก้าวผ่านกาลเวลากว่าศตวรรษด้วยดีไซน์คลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค มาพร้อมกับสโลแกน “Design Yourself,” สื่อถึงแนวคิดที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้แสดงตัวตนผ่านสไตล์ของตัวเอง ทำให้รองเท้าคอนเวิร์สกลายเป็นไอเทมที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้สวมใส่ได้เสมอ

CONVERSE ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากคนทุกเจเนอเรชั่น ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นเช่นกัน โดยมีสินค้าหลากหลายที่ตอบโจทย์เทรนด์และความต้องการของยุคสมัย รุ่นที่ผลิตในประเทศอย่าง “MADE IN JAPAN” ถือเป็นซีรีส์พิเศษที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงในญี่ปุ่น ซึ่งมักจะมีสีสันใหม่ออกตามฤดูกาล จนกลายเป็นที่ชื่นชอบไม่เพียงแต่ของคนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

สนุกไปกับการทำรองเท้า All Star ของตัวเองที่ White atelier BY CONVERSE Harajuku

White atelier BY CONVERSE 原宿店
ที่อยู่: HOLON-Ⅲ 6-16-5 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo 150-0001
เวลาเปิดทำการ: 12:00~20:00

เดินทาง:

  • จากสถานี JR Harajuku (原宿駅) เดินไปตามถนนแคทสตรีทในทิศทางไปยังชิบูย่า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  • จากสถานี Meiji-Jingumae (明治神宮前駅) ออกทางออกหมายเลข 7 แล้วเดินไปในทิศทางชิบูยะ ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที

เว็บไซต์ทางการ

สำหรับใครที่กำลังมองหารองเท้าสุดพิเศษไม่เหมือนใคร ชวนให้ลองแวะมาที่ White atelier BY CONVERSE Harajuku ที่นี้เปิดให้ทุกคนได้ปรับแต่งรองเท้าได้ตามความชอบ คำว่า Atelier ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง “สตูดิโอ” หรือ “เวิร์กชอป” ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร และยิ่งเป็นการตอบรับกับสโลแกน “Design Yourself,” ของ CONVERSE ที่เน้นให้ทุกคนได้ออกแบบและแสดงออกถึงตัวตนผ่านการสร้างสรรค์ลุคในแบบที่เป็นตัวเอง

ชั้นแรกของร้านเต็มไปด้วยสินค้าหลายรายการที่สามารถซื้อได้เฉพาะในญี่ปุ่น เช่นรองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิกในซีรีส์ “MADE IN JAPAN”  รวมถึง “ONE STAR J SUEDE ทำจากหนังกลับญี่ปุ่นคุณภาพสูง มาพร้อมสีสันสดใสดึงดูดสายตา หรือ โมเดลรองเท้าโลฟเฟอร์ทรงสวยดีไซน์เรียบหรู และยังมีไลน์อัปสินค้าคอลแลปส์อีกมากมาย นอกจากนี้ยังอุปกรณ์เสริมอย่างเชือกรองเท้า ถุงเท้า อุปกรณ์ทำความสะอาดรองเท้า แผ่นพื้นรองเท้าด้านใน และอื่น ๆ อีกมากมาย!

เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 จะได้พบกับพื้นที่โปร่งโล่งในโทนสีขาวสำหรับปรับแต่งรองเท้า ที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนสนุกไปกับการสร้างสรรค์ All Star ในแบบของตัวเอง ตั้งแต่การเลือกแพทเทิร์นที่ชอบ ใส่ชื่อหรือวันสำคัญ หรือการปรับแต่งอื่น ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกออปชันเสริม อย่างเชือกรองเท้าและชาร์ม เพื่อทำรองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่ไม่ซ้ำใครบนโลก หากอยากสัมผัสประสบการณ์การสร้าง ALL STAR ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว White atelier BY CONVERSE Harajuku บนชั้น 2 แห่งนี้ยินดีต้อนรับค่ะ!

ปรับโฉมใหม่ พร้อมดีไซน์และประสบการณ์ใหม่!

White atelier BY CONVERSE Harajuku เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ในฐานะร้านขายรองเท้า CONVERSE แห่งแรกในญี่ปุ่น และได้กลายเป็นร้านยอดฮิตที่มีสินค้าหลากหลายประเภทรวมถึงบริการปรับแต่งอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2024 ที่ผ่านมา ร้านได้ย้ายโซนปรับแต่งรองเท้าขึ้นมายังชั้น 2 พร้อมทั้งเพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งมากขึ้นกว่าเดิม

ตั้งแต่เปิดร้าน เคยจำหน่ายและให้ปรับแต่งแค่โมเดลพื้นฐานอย่างรองเท้า ALL STAR สีขาวล้วน แต่ตอนนี้ได้เพิ่ม  CANVAS ALL STAR รุ่นมาตรฐานและ ALL STAR พื้นหนาเข้ามาด้วย ทำให้เราสามารถสร้างรองเท้าคู่หนึ่งที่มีเอกลักษณ์มากกว่าที่เคย

ออกแบบรองเท้าแค่ 3 ขั้นตอน 

ครีเอทรองเท้าที่สุดพิเศษในโลกง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน

Step ① เลือกรองเท้า Base Model และไซส์

ในส่วนของรองเท้า มีทั้งรุ่น CANVAS ALL STAR HI หรือ OX  (6,380 เยน รวมภาษี)  / ALL STAR Ⓡ HI หรือ OX สีขาว (8,250 เยน รวมภาษี) / ALL STAR Ⓡ TREKWAVE HI หรือ OX (14,850 เยน รวมภาษี)

เมื่อเลือกรุ่นรองเท้าที่ชอบเรียบร้อยแล้ว ก็แค่แจ้งไซส์ที่ต้องการกับพนักงาน หรือถ้าไม่แน่ใจเรื่องไซส์รองเท้า พนักงานจะช่วยให้คำแนะนำและช่วยลองรองเท้าให้เราได้ รับรองว่าใส่ได้พอดีแบบไม่มีปัญหา

Step ② เลือกดีไซน์ที่หลากหลายได้ตามต้องการ

หลังจากที่เราเลือกโมเดลรองเท้าที่ถูกใจ ลองไซส์เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็มาเลือกดีไซน์กัน! เพื่อความง่ายต่อการเลือก ในแคตตาล็อกตัวอย่างจะแบ่งดีไซน์ตามสีพื้นของรองเท้า มีลายดาวที่สะท้อนความเป็น CONVERSE มากมาย นอกจากนี้ในบางช่วงเวลายังมีดีไซน์ลิมิเต็ดอิดิชันที่คอลแลปส์กับศิลปินในญี่ปุ่นให้เลือกด้วยนะ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะออกแบบยังไง สามารถเลือกดูรองเท้าจริงที่โชว์อยู่ในร้านเป็นไอเดียได้เลย

บริเวณที่พิมพ์ลายได้คือด้านนอกของอัปเปอร์ (ด้านซ้ายและขวา) และบริเวณลิ้นรองเท้า โดยสามารถเลือกดีไซน์ตามที่ชอบได้อย่างอิสระ และยังสามารถทำดีไซน์ที่แตกต่างกันในแต่ละข้างได้ด้วย  ก็ไม่มีใครบอกว่ารองเท้าหนึ่งคู่ต้องลายเหมือนกันนี่นา?

ในส่วนของราคา หากพิมพ์ลายข้างเดียวอยู่ที่ 2,200 เยน (ราคารวมภาษีแล้ว) หากเลือกพิมพ์ลายซ้อนกันแบบ W Print อยู่ที่ 4,400 เยน (ราคารวมภาษีแล้ว) ส่วนลิ้นรองเท้าข้างละ 2,200 เยน(ราคารวมภาษีแล้ว) หากเลือกพิมพ์ลายซ้อนกันแบบ W Print อยู่ที่ 4,400 เยน (ราคารวมภาษีแล้ว) 

*หมายเหตุ: บางลายบางสีอาจไม่สามารถพิมพ์ได้ขึ้นอยู่กับสีพื้นของรองเท้า สามารถสอบถามกับพนักงานก่อนได้

Step ③ ตรวจสอบดีไซน์แล้วพิมพ์เลย!

ขั้นตอนสุดท้ายคือเช็คความถูกต้องของดีไซน์กับพนักงาน หลังจากนั้นพนักงานจะวางรองเท้าผ้าใบของเราลงในเครื่องพิมพ์และจัดการพิมพ์ให้ เราก็เตรียมรับน้องกลับบ้านหรือใส่อวดโฉมความเท่ได้เลย!

สนุกกับการดูรองเท้าที่ค่อย ๆ มีชีวิต

อีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นคือการได้เห็นรองเท้าที่เราเลือกลายเองค่อย ๆ มีชีวิตขึ้นมา ที่ชั้นนี้มีพื้นที่เปิดให้เราสามารถชมกระบวนการปรับแต่งรองเท้าผ่านกระจกใส ซึ่งจะทำให้คุณได้เห็นทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน✨

ออปชันเสริม

ความพิเศษของ White atelier BY CONVERSE Harajuku ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นอกจากจะออกแบบรองเท้าได้แล้ว ยังสามารถเลือกออปชันเสริมต่าง ๆ ให้กับรองเท้าของเราได้ด้วย 

เชือกรองเท้า

ออปชันเสริมอย่างแรกที่สามารถเลือกได้คือ เชือกรองเท้า(880 เยน รวมภาษีแล้ว)  เป็นจุดที่จะช่วยเพิ่มลูกเล่นและเอกลักษณ์ให้รองเท้าของเราดูโดดเด่นยิ่งขึ้น! สำหรับที่ White atelier BY CONVERSE Harajuku แห่งนี้มีสีให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกสีที่ชอบได้เลย

ชาร์ม

อีกหนึ่งความสนุกของการปรับแต่งรองเท้าคือการเลือก อุปกรณ์เสริม หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่แบบเท่ ๆ หรือแบบน่ารัก ๆ บอกเลยว่ามีให้เลือกเพียบ! โดยราคาเริ่มต้นที่ 440 เยน(รวมภาษีแล้ว) ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละลายที่เลือก

ของขวัญเพื่อคนพิเศษ

คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังอยากเติมแต่งรองเท้าเพื่อก้าวแรกของเจ้าตัวน้อย ที่นี่เขามีให้เลือกถึง 2 โมเดล ได้แก่ CHILD ALL STAR N V-1 HI(4,950 เยน รวมภาษีแล้ว) สำหรับเด็กและ BABY ALL STAR N V-1 / WA (4,730 เยน รวมภาษีแล้ว) สำหรับทารก

นอกจากนี้ยังมีบริการถุงของขวัญ (880 เยน รวมภาษีแล้ว) เป็นออปชันเสริม ถ้ากำลังมองหาของขวัญให้คนสำคัญ ลองมาออกแบบรองเท้าที่จากใจและมีเพียงคู่เดียวในโลกดูไหม?

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q: ราคาเท่าไร?
A: ราคาจะแตกต่างกันไปตามโมเดลรองเท้าและการเพิ่มออปชันเสริม เรนจ์ราคาอยู่ที่ 8,580 เยน (รวมภาษีแล้ว) ขึ้นไป

Q: ใช้เวลานานแค่ไหน?
A: ขึ้นอยู่กับลายที่เราเลือกและคิวในวันนั้น ๆ แต่โดยปกติแล้วใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถรอรับกลับได้ในวันนั้นเลย แนะนำให้ไปตั้งแต่ร้านเปิด จะได้เป็นคิวแรก ๆ ค่า

Q: ถ้าไม่สะดวกรอรับกลับทำยังไง?
A: ทางร้านมีบริการส่งภายในประเทศญี่ปุ่นค่ะ สามารถให้ร้านส่งไปที่โรงแรมก็ได้เช่นกัน

Q: White atelier BY CONVERSE มีสาขาที่ไหนบ้าง?
A: มี 2 สาขาคือที่ฮาราจูกุ โตเกียวและฟุกุโอกะ

Q: สั่งทำออนไลน์ได้ไหม?
A: สามารถสั่งทำออนไลน์ได้ แต่จะสามารถสั่งซื้อได้แค่โมเดลพื้นฐานอย่าง All Star สีขาวล้วนเท่านั้น ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้รองเท้าสีพื้นอื่น ๆ แนะนำให้เข้ามาเลือกที่ร้านค่า

Q: สามารถขอคืนภาษีได้ไหม?
A: ได้แน่นอนค่ะ แค่มีพาสปอร์ต

Q: สตาฟภายในร้านสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ไหม?
A: โดยปกติแล้วสามารถสื่อสารทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษได้ค่ะ ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศสามารถใช้บริการของเราได้อย่างมั่นใจ

เหตุผลที่ต้องไปแวะไปที่ White atelier BY CONVERSE Harajuku

ที่ White atelier BY CONVERSE Harajuku เราสามารถปรับแต่ง ALL STAR ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของตัวเองได้เหมือนกับการสร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่ง! ภายในบริเวณชั้น 1 ของร้านมีรองเท้าแบบลิมิเต็ดอิดิชันและรองเท้าคอลแลปส์ที่ไม่เหมือนใคร ส่วนบนพื้นที่ออกแบบบนชั้นสอง เราสามารถเลือกสีที่ชอบหรือใส่ข้อความส่วนตัว จนออกมาเป็นรองเท้าพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน! 

White atelier BY CONVERSE Harajuku จึงกลายมาเป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มจินตนาการ ให้เราได้ออกแบบรองเท้าผ้าใบที่บอกเล่าเรื่องราวพิเศษของตัวเอง อย่าลืมแวะมาทำรองเท้าสุดพิเศษกันนะ!

ความพิเศษที่ไม่เหมือนใครคือการเปิดตัว CONVERSE STORE HARAJUKU ร้านแฟล็กชิปแห่งแรกในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ภายในร้านสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คอนเวิร์สได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมบรรยากาศที่นำเสนอความเป็นมาของ CONVERSE ทั้งในโลกของ “บาสเกตบอล” และ “สตรีทแฟชั่น” ร้านนี้จึงไม่เพียงเป็นแค่ร้านขายรองเท้า แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทำให้ได้สัมผัสกับความเป็นมาของแบรนด์และเปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่างอย่างแท้จริง ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจาก White atelier BY CONVERSE Harajuku ด้วยน้า ทำไมไม่ลองแวะไปดูล่ะ?

สามารถอ่านบทความแนะนำแฟล็กชิปสาขาฮาราจูกุได้ที่นี่เลย

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURU, Facebook, Instagram, X(twitter)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
reCaptcha Error: grecaptcha is not defined

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS