Sponsored

JINS ร้านแว่นตากลางชิบุยะ ตัดเร็ว ราคาดี แถมมีกรอบเก๋ๆให้เลือกอย่างจุใจ

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

เมื่อพูดถึงร้านแว่นตาในญี่ปุ่น แบรนด์ JINS ถือเป็นแบรนด์ระดับท็อปๆที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดี วันนี้เจแปนคุรุพาทัวร์ร้าน JINS สาขา ชิบุยะ ที่ทางร้านเคลมว่าสามารถตัดแว่นตาได้เร็วสุด 30 นาที ! ที่ร้านมีทั้งกรอบแว่นตามเทรนด์ใหม่ล่าสุด และ แว่นตาแบบพิเศษต่างๆ พร้อมให้เพื่อนๆมาเดินเลือกซื้อกันอย่างจุใจก่อนจะไปแวะช็อปปิ้งและกลับมารับสินค้าได้ทันที ได้ทั้งแว่นตาคุณภาพ และ สนุกเหมือนเดินเล่นอยู่ในพิพิธภัณฑ์กับ JINS สาขา ชิบุยะ

ที่ JINS ชิบุยะ เป็นมากกว่าร้านแว่นตาธรรมดา



ชิบุยะ ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งชื่อดังกลางกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น หากเดินเล่นช็อปปิ้งไปรอบๆชิบุยะจะพบกับร้านค้าทันสมัยขายสินค้าตามเทรนด์ใหม่ๆมากมาย มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เกมส์ หรือแม้แต่ร้านอาหารใหม่ๆ รวมถึงร้านแว่นตาของ JINS ด้วย

แน่นอนว่าร้านแว่น JINS สาขาชิบุยะ มีแว่นตาราคาย่อมเยาว์วางจำหน่าย ภายในร้านขนาดใหญ่ 2 ชั้นที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังคุณ ฟุจิโมโตะ โซ (Fujimoto Sou , 藤本壮介) มีการตกแต่งภายในอย่างเรียบง่าย สบายตาและดูสดชื่น มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ไม่ว่าจะมองจากด้านนอกเข้ามาด้านในร้าน หรือ อยู่ในร้านมองออกไปที่ถนนก็สามารถเห็นชิบุยะที่มีผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของเป็นระยะๆ เรียกได้ว่ากว้างขวาง และ สะดวกสบายรองรับลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก ที่ร้านมีกรอบแว่นตาหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกซื้อ และ พนักงานที่นี่เรียกได้ว่ามีความเชี่ยวชาญเรื่องแว่นตาสูง รอต้อนรับลูกค้าทุกคนอยู่



ที่นี่เป็นมากกว่าร้านแว่นตา หากมองเผินๆแล้วชอป JINS สาขานี้เหมือนพิพิธภัณฑ์มากกว่าแกลเลอรีขายแว่นซะอีก หากเดินเข้าไปในร้านจะพบกับแว่นแบบต่างๆให้เลือกกันอย่างจุใจ ที่นี่ไม่ได้มีเฉพาะแว่นที่เหมาะกับรูปหน้าคุณเท่านั้น ยังมีแว่นที่ใช้เทคนิคใหม่ๆในการผลิตที่อาจจะราคาสูง หรือ หาซื้อได้ยากในไทยวางจำหน่ายอีกด้วย ถือได้ว่าครบในที่เดียว วันนี้เจแปนคุรุขอพาทุกคนไปชมว่า JINS Shibuya ในปี 2023 นี้มีอะไรอัพเดตล่าสุดบ้างตามมาเลย

⑴ ใช้เวลาตัดแว่นอย่างเร็วสุดเพียง 30 นาทีเท่านั้น



ร้าน JINS ถือเป็นร้านแว่นตาที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าราคาไม่แพง และ ให้บริการอย่างรวดเร็ว เหมาะกับทั้งชาวญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวที่มีเวลาในญี่ปุ่นอย่างจำกัดก็สามารถซื้อและรอรับสินค้าได้ง่ายๆ โดยมีขั้นตอนการให้บริการและรายละเอียดตามด้านล่างนี้

Step. 1 เลือกกรอบแว่นที่ต้องการ
ที่ JINS กรอบแว่นและเลนส์แบบธรรมดาเริ่มต้นที่ราคาเพียง 5,900 เยน (รวมภาษี) เท่านั้น ! และหากต้องการแว่นที่มีเลนส์ฟังก์ชั่นพิเศษส่วนใหญ่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกในราคา 3,300 เยนถึง 5,500 เยน สามารถเดินเลือกกรอบ ลองใส่ และปรึกษาขอคำแนะนำกับสตาฟในร้านได้อย่างสบายๆ เรียบร้อยแล้วก็นำแว่นที่เลือกไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์เพื่อรอเรียกและเริ่มดำเนินการวัดสายตาพร้อมตัดแว่นในขั้นตอนต่อไป





Step. 2 วัดสายตา
ลองวัดสายตาที่ญี่ปุ่น ! ที่ร้าน JINS สาขาชิบูย่า มีการวัดสายตาด้วยกัน 2 แบบ ทั้งแบบเป็นตัวอักษรฮิระงะนะ (สำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่น) และ ตัวอักษรภาษาอังกฤษ (สำหรับลูกค้าต่างชาติ) โดยปกติแล้วภาษาอังกฤษจะใช้ตัว "E" ตามแบบสากล หากใครเรียนญี่ปุ่นมาบ้าง อ่านอักษร "ฮิระงะนะ" ออกก็สามารถขอพนักงานลองแบบฮิระงะนะได้เช่นกัน นอกจากนี้ภายในร้านยังมีเครื่องตรวจวัดสายตาอัตโนมัติที่รองรับหลากหลายภาษา เพื่อรอบรับลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ 

หรือหากใครมีใบวัดสายตาที่ออกโดยจักษุแพทย์มาก็สามารถนำมายื่นได้เลยทันทีโดยไม่ต้องวัดสายตาที่ร้านซ้ำ

Step. 3 ตรวจสอบกรอบแว่น และ เลนส์ ที่เลือกมา
หลังจากวัดสายตาเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะมาตรวจสอบความถูกต้องของกรอบแว่นและเลนส์อีกครั้ง ก่อนจะเริ่มทำการประกอบแว่นของจริง

Step. 4 รอเวลา และ รับสินค้าได้เลย
หลังจากตรวจสอบเลนส์ และ สต็อกที่ร้านแล้ว พนักงานจะเริ่มทำการประกอบแว่นและใช้เวลารออย่างเร็วที่สุดเพียง 30 นาทีเท่านั้นก่อนได้รับสินค้า ! (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสต็อกสินค้า ชนิดเลนส์ และ ช่วงเวลาลูกค้ามากหรือน้อย) 

⑵ มีแว่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก อย่าลังเลที่จะลอง



ร้านแว่น JINS เรียกได้ว่ามีทีมออกแบบและโรงงานผลิตเลนส์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไลน์ JINS CLASSIC แว่นออริจินอลของแบรนด์ , JINS SCREEN แว่น UV cut ตัดแสงสีฟ้า , JINS Switch แว่นกันแดดย้อนยุคสุดคลาสสิกที่สามารถถอดเปลื่ยนเลนส์ได้ และล่าสุดแว่นซีรีส์ใหม่ที่เหมาะสำหรับเด็กอย่าง JINS VIOLET+ 

นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา JINS ได้วางจำหน่าย JINS PROTECT MOIST แว่นตาที่ป้องกันฝุ่นละอองเกสรและกันตาแห้ง และยังมีไลน์แว่นที่น่าสนใจ ผลิตและวางจำหน่ายเข้ากับเทรนด์การเข้าซาวน่าของวัยรุ่นญี่ปุ่นอย่างแว่นรุ่น JINS SAUNA อีกด้วย !





จุดเด่นของร้าน JINS สาขา Shibuya นี้อยู่ที่นี่เลย เลนส์ย้อมสีมีสีให้เลือกเยอะมากรอจับคู่กับกรอบแว่นหลากหลายดีไซน์ อย่างที่เกรินไปว่าแบรนด์ JINS มีโรงงานผลิตเลนส์ของตัวเองทำให้มีทีมพัฒนาสินค้า จนปัจจุบันเลนส์ของ JINS มีความบาง น้ำหนักเบา วางจำหน่ายในราคาย่อมเยา รวมทั้งมีเลนส์กรองแสง ป้องกันรังสียูวี 99% อีกด้วย



แน่นอนว่าที่ร้าน JINS มีเทคโนโลยีนการพัฒนาเลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับเลนส์ระยะใกล้ และ เลนส์ปรับแสงโฟโตโครมิกที่เหมาะกับคนสายตายาว เป็นเลนส์ที่มีจุดบิดเบือนน้อย ช่วยให้การมองเห็นชัดเจนและกว้างไกลยิ่งขึ้น ขายอยู่ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,500 เยน เท่านั้น มีทั้งสายตาใกล้ไกลในเลนส์เดียวเรียกได้ว่าคุ้ม และ ตอบสนองการใช้งานได้อย่างดี

⑶ คอแลปกับแบรนด์ดังมากมาย ออกคอเลคชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง



ไม่ว่าจะมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงไหน หากลองเดินเข้าร้าน JINS คุณจะพบกับกรอบแว่นลายน่ารัก เท่ห์ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้น JINS มีการคอลแลปส์กับแบรนด์ดังต่างๆตลอดทั้งปี มีทั้งคอเลคชั่นสินค้ากรอบแว่นลายพิเศษ และกล่องแว่นเฉพาะลิมิเต็ด อิดิชั่น



นอกเหนือจากงานคอลแลปส์กับแบรนด์ดังอย่างต่อเนื่องแล้ว ที่ JINS ยังมีโปรเจคพิเศษ “DESIGN Project” ที่ร่วมมือออกแบบแว่นตากับดีไซน์เนอร์จากทั่วโลก ผลัดเปลื่ยนหมุนเวียนกันมาร่วมงาน

⑷ แว่นตาประสานกับสมาร์ทเทคโนโลยี !



อีกจุดที่เจแปนคุรุทีมประทับใจในการเดินชมร้านในวันนี้ คือ จุดวัดแว่นตาอัจฉริยะ ! ที่ร้านมีระบบ AI ตรวจจับจุดบนใบหน้าที่สามารถแนะนำกรอบแว่นทรงต่างๆที่เหมาะกับรูปหน้าของคุณ และจุดวัดสายตายังมีเครื่องวัดสายตาแบบบริการตนเองที่รองรับหลายภาษา เพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นอกจากแว่นแบบปกติทั่วไปแล้วอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ของ JINS อย่าง JINS MEME แว่นรุ่นพิเศษที่คอยตรวจจับสภาวะของจิตใจและร่างกาย คอยปรับท่านั่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ มาพร้อมกับบลูทูธและชิปเซ็นเซอร์แบบพิเศษ และ แอปพิเคชั่นเฉพาะ เหมาะสำหรับใครที่นั่งทำงานนานๆหรือต้องการปรับบุคลิกภาพ

เรื่องแว่น คือ เรื่องใหญ่



ที่ JINS สาขา Shibuya ไม่เพียงแต่จำหน่ายแว่นตาเท่านั้น หากได้ลองมาเดินชมจะพบกับแว่นตาหลากหลายรูปแบบตามเทรนด์ เรียกได้ว่าเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่นของญี่ปุ่นในอีกรูปแบบ ที่นี่ให้ความสำคัญกับทั้งแฟชั่น ความงาม และเทคโนโลยี หรือหากใครที่ใส่แว่นพร้อมหน้ากากอนามัยเป็นประจำอยู่แล้ว พบกับปัญหาแว่นเป็นฝ้า ที่ JINS ยังมีเลนส์แว่นที่ไม่เกิดฝ้าที่ทางบริษัทใส่ใจและรับฟังเสียงของผู้ใช้ นำมาพัฒนาและวางจำหน่ายในอยู่ปัจจุบัน

หากคุณกำลังมองหาแว่นสายตา หรือ แว่นตาแฟชั่น แนะนำที่ JINS สาขาชิบุยะเลย รับรองไม่ผิดหวัง

อย่าพลาดส่วนลดพิเศษ JINS X JAPANKURU เพียงแค่โชว์คูปองด้านล่างนี้



※ คูปอง JINS x JAPANKURU สามารถใช้ได้ที่ร้าน JINS ในญี่ปุ่นเท่านั้น ได้รับส่วนลดปลอดภาษี (Tax Free) และ ลดเพิ่มอีก 5% มีอายุการใช้งานถึง 31 สิงหาคม 2024

JINS Shibuya store
ที่ตั้ง:31-1 Udagawa-cho, Shibuya-ku, Tokyo , Japan 150-0042
เวลาทำการ : 11:00 ~ 21:00 น.
(เวลาทำการอาจมีการเปลื่ยนแปลงในภายหลัง กรุณาเช็คในเว็บไซต์เพิ่มเติม)
วิธีเดินทาง : สถานี ชิบุยะ (Shibuya station) เดินประมาณ 4-5 นาทีถึงร้าน
Shibuya Store WebsiteJINS Official Website

Details

NAME:JINS Shibuya (JINS渋谷店)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
reCaptcha Error: grecaptcha is not defined

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination

Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025
 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change.
Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)
 *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details.
Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station

#japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025  *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)  *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

1|8

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

EVENT CALENDAR

VIEW MORE →
1|5

RELATED ARTICLES

PARTNERS