เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากเมเปิ้ล แปะก๊วย ก็ถึงเวลากลายร่างเป็นสีส้มของต้นโคเคียแล้วเหมือนกัน วันนี้ทีมงาน JAPANKURU ได้รวบรวม 6 สถานที่ห้ามพลาดสำหรับชมโคเคียในปีนี้

ต้นโคเคีย (Summer Cypress) 

เจ้าไม้พุ่มกลม ๆ สีส้มน่ากอดนี้มีชื่อว่า “ต้นโคเคีย” หรือคนญี่ปุ่นชอบเรียกกันว่าต้นไม้กวาด เพราะเมื่อก่อนน้องชอบถูกเอาไปใช้ทำเป็นไม้กวาดอยู่บ่อย ๆ โดยปกติแล้วต้นโคเคียจะเริ่มบานสะพรั่งเป็นสีเขียวสดในช่วงหน้าร้อน เมื่อเข้าช่วงปลายเดือนกันยายนจะเริ่มกลายเป็นสีแดงครึ่งเขียวครึ่ง จนกลายเป็นสีชมพูอมแดงสดเมื่อเข้าฤดูใบไม้ร่วงอย่างเต็มตัว

รวมลิสต์ 6 จุดชมต้นโคเคียทั่วญี่ปุ่น 

①ฮิตาชิ ซีไซด์พาร์ค (Hitachi Seaside Park) จังหวัดอิบารากิ

ฮิตาชิ ซีไซด์พาร์ค จังหวัดอิบารากิ เป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกไม้ยอดนิยมของญี่ปุ่น เพราะมีดอกไม้ผลัดเปลี่ยนกันบานตลอดทั้งปี ทำให้ผู้คนสามารถแวะเวียนมาชมได้ในทุก ๆ ฤดูกาล และในฤดูใบไม้ร่วงนี้ก็เป็นฤดูของน้องโคเคียของเรานี่เอง 

ฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศเย็นลง เสกให้ต้นโคเคียกว่า 40,000 ต้นภายในสวนค่อย ๆ เปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายาถึงตุลาคม จนในที่สุดก็กลายเป็นเนินเขาสีแดงสะดุดตา 

ฮิตาชิ ซีไซด์พาร์ค (Hitachi Seaside Park) 
ที่อยู่: 605-4 โอนุมะ, มาวาตาริ, เมืองฮิตาชินากะ, จังหวัดอิบารากิ 312-0012
เวลาเปิดทำการ: 9.30-17.00 น.
เดินทาง: Limited Express JR Joban Line จากสถานี Shinagawa ลงที่สถานี Katsuta (ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) 
ค่าเข้า: 450 เยน
Official Website

②สวนปิกนิกฮิรุกาโนะ (Hirugano Koen) จังหวัดกิฟุ

ถ้ารู้สึกว่าฮิตาชิ ซีไซด์พาร์คคนเยอะเกินไป อยากไปดูต้นโคเคียในบรรยากาศสงบ ๆ ขึ้นมาหน่อย แนะนำให้ไปที่สวนปิกนิกฮิรุกาโนะ (Hirugano Koen) บนเนินเขาฮิรุกาโนะจังหวัดกิฟุ ที่บอกเลยว่าสวยไม่แพ้กัน เพราะไม่เพียงแต่จะได้ชมความแดงจากต้นโคเคียเท่านั้น แต่ยังได้เจอกับทุ่งดอกบีโกเนียที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาที่สวนแห่งนี้คือการนั่งกระเช้าขึ้นไปชมทะเลสีแดงของดอกโคเคียและดอกบีโกเนียจากด้านบน

สวนปิกนิกฮิรุกาโนะ (Hirugano Koen) 
ที่อยู่: 4670-75 ฮิรุกาโนะ, ทากาวาชิ-โช, กูโจ-ชิ, กิฟุ 501-5301
เวลาเปิดทำการ: 

• เวลาเข้าสวน 9:00-17:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 16:00 น.)
• เวลากระเช้า 9:00-16:00 น.

การเดินทาง: รถบัสกิฟุ สายนาโกย่ากุโจฮิรุกาโนะ
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 600 เยน | เด็ก 400 เยน 
ค่านั่งกระเช้า:  ผู้ใหญ่ 800 เยน | เด็ก 500 เยน
Official Website

③สวนโออิชิ (Oishi Park) จังหวัดยามานาชิ

ที่มาภาพ Kawaguchiko Natural Living Center

ทุ่งดอกไม้แสนสวยท่ามกลางภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ ในจังหวัดยามานาชิ ที่สวนนี้มีดอกไม้ผลัดกันบานให้เราได้รับชมความสวยงามในทุกช่วงฤดู อย่างในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นคิวของเจ้าต้นโคเคียแล้ว แนะนำให้แวะมาชมดอกโคเคียพร้อมฉากหลังภูเขาไฟฟูจิได้ที่สวนโออิชิ

สวนโออิชิ (Oishi Park)
ที่อยู่: ที่อยู่ 11, 2525 Oishi, Fujikawaguchiko-cho, Minamitsuru-gun, จังหวัด Yamanashi 401-0305
เวลาเปิดทำการ: 24 ชั่วโมง
การเดินทาง: นั่งรถบัสสายสีแดง (Red-Line) จากสถานี Kawaguchiko ลงที่ป้ายหมายเลข 20 Kawaguchiko Natural Living Center
ค่าเข้า: ฟรี
Official Website

④สวนสาธารณะทาคิโนะซุซุรันฮิลล์พาร์ค ฮอกไกโด

ที่มาภาพ Hatena Blog

สวนสาธารณะรัฐบาลขนาดใหญ่แห่งเดียวในจังหวัดฮอกไกโด ตั้งอยู่ในเขตมินามิ เมืองซัปโปโร ภายในสวนกว้างกว่า 2,000 ไร่ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่บานกันตลอดทั้งปี แน่นอนว่าดาวเด่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็คือเจ้าต้นโคเคียนี่เอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ทั้งเครื่องเล่น กีฬากลางแจ้ง พื้นที่ธรรมชาติอย่างน้ำตก เหมาะแก่การไปใช้เวลากับครอบครัวแบบสุด ๆ 

สวนสาธารณะทาคิโนะซุซุรันฮิลล์พาร์ค ฮอกไกโด
ที่อยู่: 247 ทาคิโนะ, มินามิ-คุ, ซัปโปโร, ฮอกไกโด 005-0862
เวลาเปิดทำการ: แบ่งตามช่วงเวลา

• 20 เมษายน – 31 พฤษภาคม 9:00-17:00 น
• 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 9:00-18:00 น
• 1 กันยายน – 11 พฤศจิกายน 9:00-17:00 น
• 23 ธันวาคม – 31 มีนาคม 9:00-16:00 น

การเดินทาง: สามารถดูสรุปการเดินทางทั้งหมดได้ที่นี่ 
ค่าเข้า: 450 เยน
Official Website

⑤อุทยานแห่งชาติริมทะเลสาบมิชิโนะคุ จังหวัดมิยางิ

ที่มาภาพ Tohoku kanko

อุทยานประจำจังหวัดมิยางิที่อุดมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์  โดยเฉพาะดอกโคเคียในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ สวยจนกลายเป็นจุดดึงดูดทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก 

นอกจากจะมีดอกไม้สวย ๆ ให้ได้ชมแล้ว ยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับใครที่เป็นสายกิจกรรมด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ สนามกลางแจ้งและสนามเด็กเล่น เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย

อุทยานแห่งชาติริมทะเลสาบมิชิโนะคุ จังหวัดมิยางิ
ที่อยู่: 53-9 นิฮงมัตสึ, โอโนะ, คาวาซากิ-มาชิ, ชิบาตะ-กัน, จังหวัดมิยางิ
เวลาเปิดทำการ: แบ่งตามฤดูกาล

• ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน 9:30 – 17:00 น.
• ช่วงเดือนกรกฎาคม 9:30 – 18:00 น.
• ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม 9 :30-17:00 น.
• ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 9:30-16:00 น.

ปิดทุกวันอังคาร
เดินทาง: จากสถานี Sendai ขึ้นบัสสาย Akiu Line มาลงที่ป้าย Michinoku Mori-no-kohan Koen Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่าเข้า: 450 เยน
Official Website

⑥หมู่บ้านเยอรมันคันทรีฟาร์ม (Country Farm Tokyo German Village) จังหวัดชิบะ

ที่มาภาพ Country Farm Tokyo German Village Official Website (ซ้าย) / Visit Chiba (ขวา)

ธีมปาร์คสไตล์ตะวันตก ถอดแบบมาจากคันทรีฟาร์มในชนบทของประเทศเยอรมนี ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ต้นโคเคียราว 20,000 ต้นกลายเป็นสีแดงผสานกับอาคารสไตล์เยอรมันเป็นฉากหลังเข้ากันได้อย่างดี ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ 

นอกจากต้นโคเคียแล้ว ธีมปาร์คแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของงานประดับไฟอิลลูมิเนชั่นในฤดูหนาว ที่แปลงโฉมส่วนหนึ่งของจังหวัดชิบะให้กลายเป็นยุโรปโดยสมบูรณ์

ที่มาภาพ Visit Chiba

หมู่บ้านเยอรมันคันทรีฟาร์ม (Country Farm Tokyo German Village)
ที่อยู่: 419 นางาโยชิ เมืองโซเดะงะอุระ จังหวัดชิบะ 299-0204
เวลาเปิดทำการ: 9.30-17.00 น.
เดินทาง: จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย JR Sobu ลงสถานี Chiba → เปลี่ยนสาย JR Uchibo → ลงสถานี Kisarazu → เปลี่ยนไปสาย JR Kururi → ลงสถานี Higashi-Yokota → ขึ้นรถบัสต่อไปลงที่ป้าย Nokyohiraokasiten | มีที่จอดรถ
ค่าเข้า: 500 เยน 
Official Website

ออกไปดูโคเคียกันเถอะ

นอกจากต้นเมเปิ้ลและแปะก๊วยที่เรามักจะนึกถึงในช่วงใบไม้ร่วงแล้ว ก็ยังมีต้นโคเคียอันเป็นเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน ทีมงาน JAPANKURU จึงไม่อยากให้ทุกคนพลาดช่วงเวลานี้ อย่าลืมไปตามรอยชมน้องโคเคียสุดแสนน่ารักนุ่มฟูกันนะ

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง X(Twitter) และ Facebook!