ที่เที่ยวต้อนรับปีงู✨ 5 ศาลเจ้าญี่ปุ่นต้องไปในปี 2568 นี้

  • X
  • line

เพื่อเป็นการต้อนรับปีงูในปี 2568 ในบทความนี้ JAPANKURU อยากจะพาทุกคนไปสักการะศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับงูในญี่ปุ่น พร้อมแนะนำวิธีการเตรียมตัวก่อนไปขอพร

วันเสริมโชคที่เกี่ยวข้องกับงู “วันทสึจิโนะโตะมิ” (己巳之日)

(圖片拍攝:Shan Tseng 於 Tokyo Snake Centre

“วันทสึจิโนะโตะมิ” (己巳之日) เป็นวันที่มีความเกี่ยวข้องกับงูในปฏิทินจีนโบราณ โดยเชื่อกันว่าเป็นวันมงคลที่พลังงานแห่งงูมีความแข็งแกร่งที่สุด งูในวัฒนธรรมญี่ปุ่นถือเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟู การเจริญเติบโต และความมั่งคั่ง จึงทำให้วันกิชิถูกมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการขอพรเสริมดวงและเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ

ในวันนี้ ผู้คนนิยมไปสักการะที่ศาลเจ้าซึ่งบูชาเทพเจ้าแห่งงู เช่น เบ็นไซเท็น เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งและสติปัญญา เพื่อขอพรให้มีโชคลาภ ความสำเร็จ และความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในด้านการเงินและการทำธุรกิจ

หากคุณกำลังมองหาวันที่เหมาะสมสำหรับการเสริมพลังด้านบวก การไปสักการะในวันกิชิถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด!

วันทสึจิโนะโตะมิในปี 2567

เดือนธันวาคมวันที่ 31

วันทสึจิโนะโตะมิในปี 2568

เดือนมีนาคมวันที่ 1
เดือนเมษายนวันที่ 30
เดือนมิถุนายนวันที่ 29
เดือนสิงหาคมวันที่ 28
เดือนตุลาคมวันที่ 27
เดือนธันวาคมวันที่ 26

วิธีเพิ่มโชคลาภใน“วันทสึจิโนะโตะมิ”

วันทสึจิโนะโตะมิ เป็นโอกาสพิเศษที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเสริมโชคลาภ โดยเฉพาะด้านการเงินและความมั่งคั่ง การเตรียมตัวก่อนการขอพรจะช่วยเพิ่มพลังในจิตใจ ทำให้มั่นใจและส่งเสริมคำอธิษฐานให้มีพลังยิ่งขึ้นเป็นสองเท่า!

ศาลเจ้าเบ็นไซเท็น

มีศาลเจ้าหลายแห่งที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าเบ็นไซเท็นทั่วทั้งญี่ปุ่น และศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ ศาลเจ้าเบ็นไซเท็นหลักสามแห่งได้แก่ ศาลเจ้าทาเคบุชิมะในจังหวัดชิกะ ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ และศาลเจ้าเอโนะชิมะในจังหวัดคานากาว่า

นอกจากศาลเจ้าทั้งสามข้างต้นแล้ว ยังมีศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพญานาคขาวอีกหลายแห่งซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ศรัทธาเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในญี่ปุ่น หากอยากขอพรเพิ่มโชคลาภ แนะนำให้แวะไปศาลเจ้าเหล่านี้ในวันมงคลอย่าง “วันทสึจิโนะโตะมิ”

พิธีชำระล้างธนบัตรและเหรียญ เสริมโชคด้านการเงิน

ในบรรดาพิธีกรรมต่าง ๆ ที่ทำเพื่อขอพรให้ร่ำรวย พิธีกรรมที่เป็นตัวแทนมากที่สุดคือ “พิธีชำระล้างเงิน” หรือก็คือการซักธนบัตรและล้างเหรียญ ประเพณีนี้มีที่มาจากตำนานของเบ็นไซเท็น เทพเจ้าที่ถือกำเนิดจากน้ำ เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของน้ำและการไหลเวียนของความมั่งคั่ง ดังนั้นการประกอบพิธีนี้จึงเชื่อกันว่าจะนำพาโชคลาภและโชคลาภอันยิ่งใหญ่มาให้

วิธีการก็คือนำเหรียญหรือธนบัตรไปใส่ลงในอ่างหรือตะกร้าที่ศาลเจ้าจัดเตรียมไว้ (ในยุค cashless แบบนี้ หากไม่มีเงินสด จะใส่บัตรเครดิตลงไปแทนก็ได้ 😃) แล้วล้างเบา ๆ ซึ่งหมายถึงการชำระล้างความมั่งคั่งและดึงดูดเงินและพรเข้ามามากขึ้น เราเรียกเงินที่ถูกล้างแล้วว่า “เมล็ดพันธุ์เงิน” และมีการกล่าวไว้ว่าการใส่เงินไว้ในกระเป๋าสตางค์โดยไม่ได้ใช้ทันทีจะนำมาซึ่งความมั่งคั่งโดยเฉพาะการใช้ธนบัตรใหม่

นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นยังเชื่อกันว่าการชำระล้างธับัตรและเหรียญนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงโชคทางการเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยขจัดโชคร้ายในอดีตและเปรียบเสมือนการเเปิดโชคทางการเงินของเราอีกด้วย

โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อขอโชคลาภหรือเพื่อดึงดูดความมั่งคั่ง พิธีชำระล้างเงินนี้ได้กลายมาเป็นกิจกรรมสำคัญของศาลเจ้าเบ็นไซเท็นทั่วญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอีกด้วย ใครมาญี่ปุ่นห้ามพลาดแล้ว!

กระเป๋าสตางค์ใบใหม่

เมื่อจะขอพรเรื่องความร่ำรวยก็อย่าลืมเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ด้วยนะ! โดยทั่วไปแล้วคนญี่ปุ่นจะว่าการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาทองในการดึงดูดความมั่งคั่ง เนื่องจากสองฤดูนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “การเกิดในฤดูใบไม้ผลิ” และ “การเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง” ซึ่งสื่อถึงการเติบโตและการสะสมความมั่งคั่งนั่นเอง

นอกจากนี้การนำเงินที่ผ่านพิธีชำระล้างจากเทพเจ้าเบ็นไซเท็นลงในกระเป๋าสตางค์ใหม่จะสามารถเพิ่มโชคลาภของเราได้อีกด้วย รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกทางพิธีกรรมไม่เพียงแต่จะสร้างพรให้กับกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เท่านั้น แต่ยังคอยเตือนให้เราใช้อย่างประหยัดอีกด้วย

แนะนำ 5 ศาลเจ้าและวัดสำหรับไปสักการะในปีงู

ศาลเจ้า Hebikubo จังหวัดโตเกียว

(รูปถ่ายโดย:Shan Tseng)

ที่ ศาลเจ้า Hebikubo ในโตเกียว มีพิธีการขอพรที่เรียกว่า “พิธีขอพรงูขาว” ที่ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของโชคดีและความสัมพันธ์ที่ดี เพราะงูขาวมีการลอกคราบอันหมายได้ถึงการฟื้นฟูและการคืนชีพ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภทางการเงิน มีพลังศักดิ์สิทธิ์ในการรักษาโรคและชำระล้างจิตใจและร่างกายให้สะอาด เทพเจ้าที่โด่งดังที่สุดคือ “เทพเจ้างูขาวแห่ง Hebikubo” เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าที่สามารถทำให้ความปรารถนาต่าง ๆ เป็นจริงได้

นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้ายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการขอพรเรื่องการเงินและการทำพิธีชำระล้างเงิน ทำให้เป็นสถานที่อันเหมาะสมในการขอพรทั้งเรื่องโชคลาภและการเดินทางตามรอยของปีงูในโตเกียว

(ที่มาภาพ:Official Instagram

ภาพซ้ายคือตราประทับที่จะมีแจกเฉพาะในวันทสึจิโนะโตะมิเท่านั้น(อ้างอิงวันที่ตามด้านบน) ส่วนภาพขวาจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมในวันทสึจิโนะโตะมิเป็นต้นไป ซึ่งตราประทับในรูปซ้ายนี้สามารถรับได้ตลอดทั้งปี 2568 เป็นตราประทับทำโดยช่างฝีมือญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงทักษะที่ประณีตและให้ความรู้สึกหรูหราแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับญี่ปุ่น

ศาลเจ้า Hebikubo
ที่อยู่:〒142-0043 4-4-12 Futaba, Shinagawa-ku, Tokyo
เดินทาง:
・สาย JR โยโกสุกะ สถานี Nishi-Oi เดินประมาณ 11 นาที
・รถไฟใต้ดินสายอาซากุสะ สถานี Nakanobu เดิน 8 นาที
Official WebsiteOfficial X

ศาลเจ้า Kanahebisui จังหวัดมิยางิ

(ที่มาภาพ:Official Instagram)

ศาลเจ้า Kanahebisui เป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นในการบูชางูทองคู่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความมั่งคั่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ศาลเจ้านี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในฐานะสถานที่ขอพรเกี่ยวกับการเงินและความเจริญรุ่งเรือง

ศาลเจ้ายังแจกตราประทับแบบพิเศษในช่วงเวลาจำกัด ที่บอกเลยว่าฮอตฮิตอย่างมาก นอกจากตราประทับประจำปีงูแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีการออกตราประทับถึง 12 แบบ ให้เราสามารถเลือกสะสมได้ โดยแต่ละแบบมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป เพิ่มความหลากหลายและความสนุกสนานในการสะสม

(ที่มาภาพ:Official Website)

หลังจากสักการะศาลเจ้าแล้ว สามารถไปพักผ่อนที่ Sando Terrace ซึ่งตั้งอยู่ข้างศาลเจ้า เป็นอาคารอเนกประสงค์ที่ผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความทันสมัย ตัวตึกถูกออกแบบให้เหมือนกับสายน้ำที่เชื่อมโยงกับรูปร่างของงู และจากอาคารสามารถเดินเชื่อมไปยังส่วนอื่น ๆ อย่างสวนและศาลเจ้าเข้าด้วยเช่นกัน เปรียบเสมือกับการสร้างสมดุลและความกลมกลืนระหว่างโลกมนุษย์และโลกศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

สิ่งที่น่าสนใจคือ ร้านกาแฟ เพราะมีเมนูพิเศษที่เกี่ยวข้องกับงูขาว เช่น ขนมปังรูปงูขาวและแกงกะหรี่พิเศษ ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ การมาเยือนศาลเจ้านี้ไม่เพียงแต่ได้ขอพรเรื่องโชคลาภ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติและลิ้มลองอาหารพิเศษได้อีกด้วย เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการสำรวจวัฒนธรรมและทิวทัศน์ของจังหวัดมิยากิ

ศาลเจ้า Kanahebisui
ที่อยู่:
〒989-2464 Miyagi Prefecture, Iwanuma City, Sanshoku Yoshimizugami 7
เดินทาง:สายหลักโทโฮคุ สถานี Iwanuma
Official WebsiteOfficial Instagram

ศาลเจ้า Hakuja Benzaiten จังหวัดโทจิกิ

ศาลเจ้า Hakuja Benzaiten ได้รับความเชื่อถืออย่างกว้างขวางในฐานะเทพเจ้าแห่งการเสริมโชคลาภทางการเงินและการเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ดีหรือการเปลี่ยนแปลงทางโชคชะตา งูขาวสองตัวจะปรากฏขึ้น ผู้ที่ศรัทธาในงูขาวสามารถใช้การปรากฏตัวของงูขาวและการปกป้องจากเทพเบ็นไซเท็นเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ รักษาโรค และสะสมความมั่งคั่ง

หนึ่งในไฮไลท์ของศาลเจ้านี้คือ น้ำตกชำระล้างเงิน (銭洗滝) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เชื่อกันว่า ถ้าเราใส่ธนบัตรหรือเหรียญลงในน้ำตกแล้วล้าง จะนำมาซึ่งโชคลาภทางการเงิน ภายในศาลเจ้ายังมีรูปปั้นงูขาวสองตัวที่ตั้งอยู่เงียบ ๆ เพื่อปกป้องผู้ที่มาเยี่ยมเยียนและนำมาซึ่งคำอวยพรที่อบอุ่น

ไม่ว่าจะเป็นตราประทับหรือเครื่องรางโอมาโมริ ก็ล้วนมีสัญลักษณ์ที่สื่อถึงงู ก็ถือเป็นของขลังที่ผู้มาเยี่ยมเยียนศาลเจ้า Hakuja Benzaiten ต้องการขอเป็นที่ระลึก โดยเฉพาะเครื่องรางจากหนังงูขาว ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายเกล็ดงู เป็นของขลังที่มีจำนวนจำกัดและมีความหมายลึกซึ้งในการเสริมโชคลาภทางการเงินและความโชคดี

หากมีโอกาสไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ อย่าลืมซื้อเครื่องรางจากหนังงูขาวกลับไปเป็นที่ระลึกเพื่อขอพรให้โชคลาภไหลมาเทมา ให้ชีวิตมีความสุขและปลอดภัย

ศาลเจ้า Hakuja Benzaiten
ที่อยู่:2-63 Kugeta Nishi, Moka City, Tochigi Prefecture, 321-4522
เดินทาง: สายมิโตะ ลวสถานี Kushimoda เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
Official WebsiteIG

ศาลเจ้า Iwakuni Shirohebi จังหวัดยามากุจิ

(ที่มาภาพ:yamaguchi-tourism.jp

ศาลเจ้า Iwakuni Shirohebi เป็นศาลเจ้าที่ค่อนข้างใหม่ สร้างขึ้นในปี เฮเซ 24 (ค.ศ. 2012) โดยบูชาทวยเทพหลักที่ได้รับการเชิญมาจากศาลเจ้าอิซูมิยะมะ ศาลเจ้านี้มีความเชื่อว่าในพื้นที่อิวาคุนิมีงูขาวอาศัยอยู่มานานกว่า 300 ปี และเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้าหลักที่บูชา งูขาวเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภทางการเงิน การเริ่มต้นใหม่ และความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจ ดึงดูดให้ผู้คนจำนวนมากมาสักการะขอพร

(ที่มาภาพ:yamaguchi-tourism.jp

ศาลเจ้ามีความโดดเด่นที่การออกแบบและตกแต่งภายในศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับงูขาว เช่น สัญลักษณ์ของศาลเจ้าใช้รูปตาของงูเป็นลวดลาย ส่วนโคมไฟและที่ล้างมือก็ผสมผสานกับองค์ประกอบที่เป็นงู เพื่อแสดงความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างจากศาลเจ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ ข้างศาลเจ้ายังมี สถานที่ชมงูขาว ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางธรรมชาติ ซึ่งหลังจากการสักการะสามารถไปเยี่ยมชมเหล่งงูขาวที่หายากนี้ได้ เป็นประสบการณ์ที่ดีในการสัมผัสกับวัฒนธรรมและธรรมชาติของท้องถิ่น

ศาลเจ้า Iwakuni Shirohebi
ที่อยู่:6-4-2 Imazucho, Iwakuni City, Yamaguchi Prefecture, 740-0017
เดินทาง:สายหลัก Sanyo สถานี Iwakuni เดินประมาณ 22 นาที
Official Website

ศาลเจ้า Aso Shirohebi จังหวัดคุมาโมโต้

(ที่มาภาพ:Official Website)

(ที่มาภาพ:Official Instagram)

ศาลเจ้า Aso Shirohebi ศาลเจ้าบูชางูขาวมีชีวิต ตามตำนานกล่าวว่าในถ้ำหินภายในศาลเจ้า เมื่อปี 2000 และ 2001 มีงูขาวสามตัวปรากฏขึ้น ซึ่งทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ และเริ่มมีการบูชาเทพเจ้าที่นี่ นอกจากนี้ ศาลเจ้าดังกล่าวยังเป็นที่บูชาเทพเจ้าหลักที่เกี่ยวข้องกับงูขาว เช่น เบ็นไซเท็น อูกะกามิ และฮัตไดริวโอ

ภายในศาลเจ้ามีที่สำหรับสักการะ ซึ่งสามารถวางงูขาวมีชีวิตไว้บนกระเป๋าสตางค์ เพื่อขอพรเรื่องโชคลาภและการเริ่มต้นใหม่ ศาลเจ้าก็ยังมีของขลังพิเศษให้กับผู้ที่มาเยี่ยม เช่น เครื่องรางหนังงูขาว และ ตราประทับ ที่มีให้เลือกในแต่ละฤดูกาล ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่รักจากผู้ศรัทธา

ศาลเจ้า Aso Shirohebi
ที่อยู่:〒869-1505 3290-1 Nakamatsu, Minamiaso Village, Aso District, Kumamoto Prefecture
เดินทาง:รถไฟสาย Minamiaso สถานี Shiramizu Kogen เดินประมาณ 28 นาที
Official WebsiteIG

วางแผนเที่ยวปีงูต้อนรับปีงูกันเถอะ!

ที่ญี่ปุ่น นอกจากการเยี่ยมชมศาลเจ้าที่มีธีมเกี่ยวกับงูและสะสมตราประทับที่มีธีมเกี่ยวกับงูแบบลิมิเต็ดแล้ว ยังมีกิจกรรมเกี่ยวข้องกับงูที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมายด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแวะไปคาเฟ่งูหรือซื้อถุงโชคดีปีใหม่ ปี 2568 นี้ก็มาวางแผนและสนุกกับการเที่ยวปีงูในญี่ปุ่นกันเถอะ!

ต้นฉบับโดย:Shan Tseng
แปลโดย:Sarita(Nan)

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS