ปฎิทินวันหยุดญี่ปุ่น ฉบับปี 2025

  • X
  • line

วางแผนก่อนเที่ยวญี่ปุ่นกับตารางวันหยุดของญี่ปุ่นประจำปี 2568✨

CONTENTS

วันหยุดราชการญี่ปุ่นประจำปี 2568

ปัจจุบันญี่ปุ่นมีวันหยุดราชการประจำปีประมาณ 16 วัน รวมถึงช่วงวันหยุดยาวอย่างโกลเด้นวีคหรือช่วงโอบ้ง และแน่นอนว่าคนญี่ปุ่นเองก็นิยมออกมาเที่ยวกันในวันหยุด ทำให้หลายสถานที่ท่องเที่ยวจะพลุกพล่าน อาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และทำให้เราหมดสนุกได้ง่าย ๆ เพื่อไม่ให้ทุกคนต้องประสบปัญหานั่นและสามารถวางแผนการเที่ยวล่วงหน้าได้ ในบทความนี้ JAPANKURU จึงได้รวบรวมวันหยุดราชการและวันหยุดสำคัญต่าง ๆ ของญี่ปุ่นไว้ให้แล้ว! ชวนมาไล่ดูกันไปทีละเดือนเลย

เดือนกุมภาพันธ์

11 กุมภาพันธ์ (วันสถาปนาประเทศ)

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้เป็นวันระลึกถึงการสถาปนาประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะตรงกับวันอังคาร แต่อย่าลืมว่าเหล่าพนักงานออฟฟิศสามารถใช้วันลาพักร้อนในวันที่ 10 ทำให้ได้หยุดยาวทั้งหมด 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 ถึง 11 ได้ ดังนั้นอย่าลืมวางแผนการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการไปไหนไกล ๆ ในช่วงวันดังกล่าวนะคะ

23 กุมภาพันธ์ (วันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ)

ทุก ๆ ปีเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ จึงหยุดชดเชยเป็นวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์แทน ทำให้กลายเป็นวันหยุดยาว 3 วันติดกันไปโดยปริยาย คนญี่ปุ่นอาจเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ดังนั้นแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางสำหรับการจราจรที่อาจติดขัดด้วย

เดือนมีนาคม

20 มีนาคม (วสันตวิษุวัต)

วันที่ 20 มีนาคมเป็นวันวสันตวิษุวัต ใช้เรียกวันสุดท้ายของฤดูหนาวก่อนเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิ สำหรับปี 2568 นี้ตรงกับวันพฤหัสบดี นั่นหมายความว่าคนญี่ปุ่นสามารถลาวันศุกร์เพิ่มให้เป็นวันหยุดยาว 4 วันได้ บวกกับการเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว บอกเลยว่าทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวน่าจะหนาแน่นทีเดียว

เดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม

26 เมษายนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม (Golden Week)

ช่วงสัปดาห์ทองหรอโกลเด้นวีค ถือเป็นวันหยุดยาวที่สุดช่วงหนึ่งของญี่ปุ่น โดยในปี 2568 นี้หยุดยาวตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม คาบเกี่ยวกับวันหยุดราชการสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้ คือวันที่ 29 เมษายน(วันโชวะ) วันที่ 3 พฤษภาคม(วันรัฐธรรมนูญ) วันที่ 4 พฤษภาคม*(วันสีเขียวหรือวันขอบคุณธรรมชาติ) วันที่ 5 พฤษภาคม(วันเด็ก) วันที่ 6 พฤษภาคม(วันหยุดชดเชยวันสีเขียว) ทำให้รวม ๆ แล้วอาจหยุดยาวได้ถึง 11 วันเลยทีเดียว คาดว่าสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก และค่าตั๋วอาจแพงกว่าปกติ ดังนั้นหากใครที่เดินทางมาญี่ปุ่นช่วงนี้แนะนำให้รีบวางแผนการเดินทางล่วงหน้าให้ดีน้า

เดือนกรกฎาคม

21 กรกฎาคม(วันทะเล)

ทุกวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคมของทุกปีเป็นวันแห่งทะเล ในปีนี้ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม ทำให้มีวันหยุดยาว 3 วันตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 21 บวกกับเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน คาดว่าคุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเองก็น่าจะพาลูก ๆ ไปเที่ยวด้วยเช่นกัน

เดือนสิงหาคม

11 สิงหาคม(วันภูเขา)

สำหรับวันหยุดราชการในเดือนสิงหาคมคือวันที่ 11 สิงหาคมหรือวันภูเขา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ ทำให้เกิดเป็นวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน และเนื่องจากตรงกับช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของเด็ก ๆ งานนี้บอกเลยว่าคนเยอะแน่นอน วางแผนให้ดีก่อนเดินทางไปไหนน้า

13 ถึงวันที่ 16 สิงหาคม(เทศกาลโอบ้ง)

เทศกาลโอบ้ง หนึ่งในวันหยุดราชการอันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ในทุก ๆ ปีจะตรงกับช่วงกลางเดือนสิงหาคม สำหรับในปี 2568 ตรงกับวันที่ 13 ถึง 16 สิงหาคม ในช่วงนี้การเดินทางภายในญี่ปุ่นค่อนข้างคึกคักมาก ทำให้การขนส่ง ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจพลุกพล่าน ดังนั้นหากเป็นไปได้ แนะนำให้เลือกช่วงเวลาอื่นจะดีกว่า

เดือนกันยายน

15 กันยายน(วันเคารพผู้สูงอายุ) 

วันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกันยายนเป็นวันเคารพผู้สูงอายุ และปีนี้ตรงกับวันที่ 15 กันยายน ทำให้ตั้งแต่วันที่ 13-15 กลายเป็นวันหยุดยาว 3 วัน

23 กันยายน (ศารทวิษุวัต)

วันที่ 23 กันยายน เป็นวันศารทวิษุวัตเพื่อกราบไหว้และทำความเคารพต่อบรรพบุรุษ สำหรับปีนี้ตรงกับวันอังคาร คาดว่าวันจันทร์ที่ 22 คนญี่ปุ่นอาจใช้วันลาพักร้อนเพิ่มเป็นหยุดยาว 4 วันและออกไปเที่ยวด้วยเช่นกัน

เดือนตุลาคม

13 ตุลาคม(วันกีฬา)

วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมตรงกับวันกีฬา ปีนี้เป็นวันที่ 13 ตุลาคม กลายเป็นวันหยุดยาว 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 เลย

เดือนพฤศจิกายน

3 พฤศจิกายน(วันวัฒนธรรม)

วันที่ 3 พฤศจิกายนตรงกับจันทร์ทำให้มีวันหยุด 3 วันตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 3

23 พฤศจิกายน(วันขอบคุณแรงงาน)

วันที่ 23 พฤศจิกายนเป็นวันขอบคุณแรงงาน ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ จึงมาหยุดชดเชยในวันที่ 24 พฤศจิกายนแทน กลายเป็นวันหยุดยาว 3 วันไปเลย

เดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม

27 ธันวาคมถึง 4 มกราคม(เทศกาลปีใหม่)

ช่วงวันหยุดสิ้นปีของคือบอกเลยว่าญี่ปุ่นหยุดยาวกว่าที่บ้านเรามาก ๆ ยิ่งมีปี 2568 วันหยุดช่วงปีใหม่จะกินเวลานานถึง 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมถึงวันที่ 4 มกราคม ในช่วงนี้ไม่เพียงแต่การจราจรจะคับคั่งเท่านั้น แต่ที่พักและค่าโดยสารเครื่องบินอาจแพงกว่าปกติอีกด้วย นอกจากนี้ร้านค้าหลายแห่งก็อาจปิดทำการ ดังนั้นแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางกันซักหน่อย

ตารางสรุปวันหยุดญี่ปุ่นประจำปี 2568

11 กุมภาพันธ์วันสถาปนาประเทศ
23 กุมภาพันธ์วันพระราชสมภพของพระจักรพรรดิ
20 มีนาคมวันวสันตวิษุวัต
29 เมษายนวันโชวะ
3 พฤษภาคมวันรัฐธรรมนูญ
4 พฤษภาคม (ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ชดเชยเป็นวันที่ 6 พฤษภาคม)วันสีเขียว
5 พฤษภาคมวันเด็ก
วันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม (ปีนี้ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม)วันทะเล
11 สิงหาคมวันภูเขา
13 ถึงวันที่ 16 สิงหาคมเทศกาลโอบ้ง
วันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกันยายน (ปีนี้ตรงกับวันที่ 15 กันยายน)วันเคารพผู้สูงอายุ
23 กันยายนวันศารทวิษุวัต
วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม (ปีนี้ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม)วันกีฬา
3 พฤศจิกายนวันวัฒนธรรม
23 พฤศจิกายนวันขอบคุณแรงงาน
27 ธันวาคม – 4 มกราคมเทศกาลปีใหม่

รู้ก่อนก็วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดได้!

และนี่ก็คือวันหยุดราชการของญี่ปุ่นในปี 2568 นี้ แนะนำให้ทุกคนที่มีแผนจะเดินทางไปญี่ปุ่นตรวจสอบวันหยุดและวางแผนเดินทางให้ดีก่อนเพื่อให้การเที่ยวญี่ปุ่นของเราสนุกและไม่เหนื่อยจนเกินไป ขอให้ทุกคนมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสนุกสนานในปีนี้กันนะคะ✨

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURUFacebookInstagramX(twitter)!

บทความต้นฉบับโดย Kim Heewon
แปลและเรียบเรียงโดย Sarita(Nan)

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS