จองตั๋วตอนนี้ยังทัน! พาไปส่องรายละเอียด Sapporo Snow Festival 2025

  • X
  • line

เปิดรายละเอียดงานเทศกาลหิมะที่ซัปโปโรปี 2025 แบบจุก ๆ ได้เวลาเก็บกระเป๋าออกไปสัมผัสหิมะที่ฮอกไกโดแล้ว!

นับว่าเป็นครั้งที่ 75 แล้ว สำหรับงานเทศกาลหิมะ งานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นทุกต้นปีที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งแน่นอนว่าจัดขึ้นเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่จังหวัดเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่น หรือชาวต่างชาติก็ตาม

มาทำความรู้จักกับเทศกาลหิมะซัปโปโรกัน

Sapporo Snow Festival หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อเทศกาลหิมะซัปโปโร เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1950 จุดเริ่มต้นเกิดจากการจัดแสดงรูปปั้นหิมะจำนวนเพียง 6 ชิ้นฝีมือนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งที่สวนสาธารณะโอโดริเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องโดยมีผู้เข้าร่วมงานเทศกาลมากมาย

ในปี 1972 ซัปโปโรเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และเทศกาลหิมะก็กลายเป็นที่รู้จักระดับสากล และในปี 1974 งานประกวดประติมากรรมหิมะก็ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เทศกาลนี้ถูกจัดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ยกเว้นปี 2021 ที่จำเป็นต้องจัดแบบออนไลน์เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของ Covid-19)

กำหนดการจัดงานในปี 2025

ในปี 2025 นี้ เทศกาลหิมะจะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 11 กุมภาพันธ์ 2025

© Sapporo Snow Festival

สถานที่จัดงาน Sapporo Snow Festival 2025

สถานที่จัดงานจะแบ่งเป็น 3 ที่ใหญ่ ๆ ได้แก่ ลานจัดงานโอโดริ (Odori Park), ลานจัดงานซูซูกิโนะ (Susukino) และลานจัดงานสึโดม (Tsudome)

ลานจัดงานโอโดริ (Odori)

📍บริเวณสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ลงสถานี Odori
https://maps.app.goo.gl/dLQERZGFpg6xYhS39

สวนสาธารณะที่เปรียบเหมือนโอเอซิสใจกลางเมืองซัปโปโร เมื่อถึงเทศกาลหิมะจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประติมากรรมจากหิมะจากช่างมากฝีมือจากทั้งในและนอกประเทศ และช่วงกลางคืน ยังมีการจัดแสงสีไลท์อัพจนถึง 4 ทุ่มของทุกวันอีกด้วย

บริเวณสวนโอโดริแบ่งการจัดงานเป็น 12 โซนหลักๆ

  • 1-chome : J:COM Square

เป็นโซนกิจกรรม Snow Activities ใกล้ Sapporo TV Tower ในโซนนี้มีกิจกรรมให้ได้ทำมากมาย เช่น Aroma Foot Bath, กิจกรรมปาบอลหิมะ หรือจุดให้ทดลองเล่น Snowboard เป็นต้น และโซนนี้ยังมีรูปปั้นหิมะขนาดกลางของ E-Defender ที่เป็นมาสคอตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากฮอกไกโดอีกด้วย

  • 2-chome : Citizen’s Square

จะมีการจัดแสดงรูปปั้นหิมะจากฝีมือของชาวเมืองมากถึง 80 ชิ้นที่โซน 2-chome และ 9-chome และทุกปีจะมีเปิดให้โหวตรูปปั้นหิมะที่ชอบด้วย 

© Sapporo Snow Festival

  • 3-chome : Sapporo Smile Square

ในโซนนี้แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ที่ฝั่งตะวันตกจะมี Smile Rink Sapporo by Shin Ramen ซึ่งเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และยังมีตัวอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของ Shin Ramen ให้ชิมอีกด้วย ส่วนฝั่งตะวันออกจะมีพื้นที่พักผ่อน จุดถ่ายรูปฟรี และบูธสำนักงานสิ่งแวดล้อมเมืองซัปโปโร เป็นต้น

ราคาค่าเข้าลานสเก็ต (รวมค่าอุปกรณ์)
ซื้อล่วงหน้า ผู้ใหญ่  2,500 เยน เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมปลาย) 800 เยน
ซื้อในวันนั้น ผู้ใหญ่  3,000 เยน เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมปลาย) 1,000 เยน

© Sapporo Snow Festival
  • 4-chome : STV Square 

โซนที่มีรูปปั้นหิมะจากอนิเมะและเกมชื่อดัง ได้แก่ 

  • รูปปั้นหิมะขนาดใหญ่จากอนิเมะเรื่อง “เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว” 
  • รูปปั้นหิมะขนาดกลางจากเกม “Blue Archive” และ “Arknights”
© Sapporo Snow Festival
© Sapporo Snow Festival
  • 5-chome : Doshin Snow Square

หนึ่งในไฮไลท์ของงาน เนื่องจากฮอกไกโดเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ม้าแข่งสายพันธุ์ดีที่มีชื่อเสียง ดังนั้นในทุก ๆ ปี เรามักจะได้เห็นรูปปั้นหิมะใหญ่ยักษ์ที่ทำเป็นรูปม้าแข่งอยู่เสมอ และมีการแสดงโดยการฉายภาพเคลื่อนไหวของม้าแข่งเข้ารูปปั้นหิมะ ในปีนี้พิเศษกว่าเดิม เพราะมีระบบเสียงแบบ 360° องศารอบตัว ทำให้จะได้ฟังเสียงการแสดงที่ดีขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นขนาดกลางจากเกม “Whiteout Survival” และรูปปั้นขนาดเล็กของมาสคอตต้นหอมสุดน่ารัก “Drinpin” ในโซนนี้ด้วยเช่นกัน

© Sapporo Snow Festival

ตัวอย่างการแสดงแสงสีเสียงจากเทศกาลหิมะปี 2023

  • 6-chome : Snow Art Square 

ในโซนนี้จะมีรูปปั้นหิมะขนาดเล็ก 5 ชิ้นจาก Hongo Shin Memorial Museum of Sculpture, Sapporo และยังมีรูปปั้นของ Black Magician Girl จากอนิเมะ “ยูกิโอ ดูเอลมอนสเตอร์” อีกด้วย

© Sapporo Snow Festival
  • 7-chome : HBC Square 

ในทุก ๆ ปี Hokkaido Broadcasting Corporation (HBC) จะรังสรรค์รูปปั้นหิมะขนาดใหญ่ยักษ์ที่ 7-chome เสมอ และเป็นหนึ่งในจุดที่ทุกคนพลาดไม่ได้ที่จะต้องไปถ่ายรูป ในปีนี้ HBC เลือกสร้างรูปปั้นเป็น “Red Brick Office” หรือศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดเก่า แต่ไม่ได้จบแค่ตัวรูปปั้นใหญ่แน่นอน ในโซนนี้ยังมีรูปปั้นหิมะอื่นๆ อาทิเช่น

  • รูปปั้นหิมะขนาดกลาง รูปกันดั้มรุ่นแรก RX-78-2  และ กันดั้มรุ่นล่าสุด GQuuuuuuX  
  • รูปปั้นหิมะขนาดกลางรูปมาสคอตน้องแมว โอตะอิเหมียว (Ohtainyan)
  • รูปปั้นหิมะขนาดกลางจากอนิเมะ “สืบคดีปริศนา หมอยาตำรับโคมแดง”
  • รูปปั้นหิมะขนาดเล็กของเจ้าหนูตะเภา “PUI PUI มอลก้า” พร้อมสไลเดอร์สำหรับเด็กเล็ก
  • รูปปั้นหิมะขนาดกลางจากเกม “Identity V”
© Sapporo Snow Festival
  • 8-chome : HTB Snow Square

ที่ 8-chome ก็ไม่น้อยหน้า เพราะปี 2025 นี้ เขาขน Ginrinsou จากเมืองโอตารุ มาไว้ใจกลางซัปโปโรเลย Ginrinsou เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ (Tangible Cultural Heritage) ในปี 2023 ที่ผ่านมานี้เอง

นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นหิมะขนาดกลางของเบียร์ Sapporo Classic ในโซนด้วย และที่พิเศษกว่าคือมี Japanese SAKE bar Ginrinsou บาร์ที่เปิดขายสาเกและอามะสาเกให้ได้จิบแก้หนาวกันในงานเลย และยังมีโชว์พิเศษ “Mina Mina” ที่จะถูกแสดงโดยนักร้องและนักเต้นชาวไอนุด้วยเช่นกัน (แอบกระซิบว่าโชว์พิเศษนี้มีแค่คืนเดียวเท่านั้น!)

© Sapporo Snow Festival
  • 9-chome : Citizen’s Square

มีการจัดแสดงรูปปั้นหิมะฝีมือชาวเมืองเช่นเดียวกันกับ 2-chome แต่เพิ่มเติมคือมีรูปปั้นหิมะขนาดกลางของกีฬาซูโม่ ที่เกี่ยวพันกับการทำนายผลการเกษตรในปีนั้น ๆ ด้วย

© Sapporo Snow Festival
  • 10-chome : UHB Family Land

พิเศษกว่าใคร เพราะในงานนี้จะมีรูปปั้นหิมะจากเกม “Monster Hunter Wilds” ที่จะเริ่มจำหน่ายวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้มาให้ดูด้วย! นอกจากนี้ในโซนยังจะมีสไลเดอร์และบูธบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจาก Nissin อีก อะไรจะดีไปกว่าการได้ซดน้ำซุปร้อน ๆ กลางหิมะและอากาศติดลบอีก!

© Sapporo Snow Festival
  • 11-chome : International Square

เป็นโซนที่มีการจัดประกวดประติมากรรมหิมะระดับนานาชาติ ในปีนี้มี 9 ทีมที่ส่งเข้าแข่ง และแน่นอนว่ามีทีมจากประเทศไทยของเราด้วยเช่นกัน และมีรูปปั้นหิมะ “Snow Miku Crystal Snow Ver.” ด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เป็นที่รัก และได้รับความสนใจในทุก ๆ ปีเลย

© Sapporo Snow Festival
© Sapporo Snow Festival

(Updateล่าสุดจากทางงาน✨)

สาวกซานริโอ้ห้ามพลาดเลย เพราะล่าสุดทางงานอัปเดทมาว่าโซนนี้จะมีรูปปั้นหิมะฉลองครบรอบ 50 ปี มายเมโลดี้ และครบรอบ 20 ปี คุโรมิด้วย! และได้อัปเดทรูปปั้นมาอีก 4 อันเพิ่มเติมได้แก่

  • รูปปั้นหิมะจากอนิเมะ “Re:ZERO รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก”
  • รูปปั้นหิมะคอลแลปของ Kyuruka แมวน้อยจาก “Nights With a Cat” และเจ้าฉลาม Kozame จาก “Little Shark’s Outings”
  • รูปปั้นหิมะจากอนิเมะ “MEDALIST ทอฝันบนลานสเกต”
  • รูปปั้นหิมะจากอนิเมะ “ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข”
© Sapporo Snow Festival

ลานจัดงานซูซูกิโนะ (Susukino)

📍ลงสถานี Susukino
https://maps.app.goo.gl/atL95RpkzNGoAQT36

ที่ลานจัดงานนี้จะเน้นเป็นประติมากรรมการแกะสลักน้ำแข็ง ปีนี้มาในธีม “สัมผัสและสนุกไปกับน้ำแข็ง” ที่ลานซูซูกิโนะมีไลท์อัพจนถึงเวลา 5 ทุ่ม ของทุกวัน (วันสุดท้ายถึงแค่ 4 ทุ่ม) นอกจากการจัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งมากถึง 60 ชิ้น แล้ว ยังมีอุโมงค์ไฟ จุดบริการถ่ายรูปฟรี รวมถึงบูธอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย

เวลาเข้าชม (จะมีการปิดถนนให้สามารถเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิด)
4-7 กุมภาพันธ์ และ 10 กุมภาพันธ์  15.00-23.00 น.
8-9 กุมภาพันธ์ 10.00-23.00 น.
11 กุมภาพันธ์ 10.00-22.00 น.

ลานจัดงานสึโดม (Tsudome)

📍ลงสถานี Sakaemachi แล้วนั่ง Shuttle Bus ไปลงที่ Tsudome รถออกทุก 10-15 นาที (รถให้บริการตั้งแต่ 9.40-16.20 น.) หรือเดินจากสถานีประมาณ 15 นาที
https://maps.app.goo.gl/ZDTFooEu8zwcmuVr6

ลานสึโดมมีชื่อเสียงมากในทุก ๆ ปีเกี่ยวกับกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะสนุก ๆ ที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในลานจัดงานมีทั้งกิจกรรมกลางแจ้งและโดมในร่ม ตัวอย่างกิจกรรมที่สามารถทำได้ในลานมีมากมาย อาทิ เช่น

  • สไลเดอร์หิมะ
  • เลื่อนหิมะ
  • เขาวงกตหิมะ
  • ปั้นตุ๊กตาหิมะ
  • ปาบอลหิมะ
  • ฟุตบอลหิมะ
  • Snow Strider
  • Snow Scooter
  • Snow Rafting
  • บูธอาหารและเครื่องดื่มในร่ม
  • บ้านลมในร่ม

ลานสึโดมเปิดให้เข้าไปร่วมกิจกรรมทุกวันตั้งแต่วันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 10.00-16.00 น.

© Sapporo Snow Festival

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับรายละเอียดจุก ๆ ของเทศกาลหิมะปีนี้ เรียกได้ว่าแต่ละลานจัดงานปีนี้ขนกิจกรรมและรูปปั้นหิมะสวย ๆ มาไม่แพ้กันเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสประสบการณ์สนุก ๆ เกี่ยวกับหิมะที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากที่เทศกาลหิมะนี้ คว้าเสื้อกันหนาว เก็บกระเป๋า แล้วไปฮอกไกโดกันค่ะ!

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURUFacebookInstagramX(twitter)

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
https://www.snowfes.com/

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS