Sponsored

ที่เที่ยวฮอกไกโด | 3 ประสบการณ์ห้ามพลาดในเมืองโทคาจิ จุดหมายปลายทาง(ลับ)สำหรับเที่ยวช่วงหน้าหนาว

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

"เมืองโทคาจิ" ที่เที่ยว Hidden gems ของฮอกไกโด ที่นี่เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ฤดูหนาวของฮอกไกโดแบบเต็มอิ่ม พร้อมกับ 3 ประสบการณ์ที่ต้องทำ เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายลุย ขอแนะนำให้ลองไปตอนนี้เลย!

โทคาจิ ที่เที่ยวลับหมุดหมายใหม่ของนักเดินทาง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่มุ่งหวังจะหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่และมองหาการเดินทางที่มีคุณค่าและพิเศษมากขึ้น เริ่มหันมาสนใจ “โทคาจิ” ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของฮอกไกโด เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่กว้างใหญ่และสวยงามแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น แถมยังได้สัมผัสเสน่ห์ของทั้งสี่ฤดูกาลอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่โทคาจิเต็มไปด้วยกิจกรรมแปลกใหม่และทัวร์ชิมอาหารที่เน้นใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญยังมีประสบการณ์ท้องถิ่นที่เราอาจไม่ได้พบในที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอื่น ๆ  เมืองโทคาจิจึงกลายเป็นที่เที่ยวพิเศษไม่ควรพลาด 

ในบทความนี้เราจะมาบอก 3 กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับฤดูหนาวของฮอกไกโดอย่างเต็มรูปแบบ มาลองไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการเดินทางในโทคาจิกันไปพร้อม ๆ กันเลย!

ตามรอยไวน์ฮอกไกโด

ในช่วงหลัง ๆ มานี้ เทรนด์การดื่มไวน์กำลังมาแรง ผู้คนเริ่มสนใจไวน์กันมากขึ้น ไม่ใช่แค่การชิมไวน์หรือเรียนรู้การจับคู่ไวน์เท่านั้น แต่ยังมีคนที่อยากออกเดินทางไปค้นหาไวน์อร่อย ๆ ในสถานที่ใหม่ ๆ และสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปตามรอยไวน์ที่สุดก็คือ “IKEDA WINE CASTLE” โรงไวน์อันขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทไวน์ ในฮอกไกโดนั่นเอง

ทันทีที่เปิดประตูเข้าสู่ “IKEDA WINE CASTLE” เราจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของไวน์ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เราจะได้พบกับไวน์จากท้องถิ่นโทคาจิที่หลากหลาย พร้อมเรียนรู้กระบวนการทำไวน์แบบง่าย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมห้องเก็บไวน์ใต้ดินสุดลึกลับ และห้องรับรองพิเศษที่ไม่ค่อยเปิดให้เข้าชม ดังนั้นการเข้าร่วมโปรแกรมนี้จะพาเราดำดิ่งลงสู่โลกของไวน์ เผยความลับที่เราอาจไม่รู้มาก่อน และสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารสุดพิเศษไม่เหมือนใคร

“IKEDA WINE CASTLE” ถ่ายทอดตำนานแห่งไวน์

จุดเด่นของประสบการณ์นี้ไม่ใช่แค่การชิมไวน์เท่านั้น แต่ยังได้เข้าไปสัมผัสและเรียนรู้กระบวนการทำไวน์แบบใกล้ชิด ที่นี่มีพื้นที่เก็บไวน์ที่มีทั้งถังไวน์ที่กำลังบ่มและไวน์ที่บรรจุขวดแล้ว รวมถึงไวน์เก่าที่มีประวัติ เช่น ไวน์จากปี 1969 ที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี ทำให้หลายคนเลือกซื้อไวน์ปีเกิดของตัวเองเป็นของที่ระลึก ซึ่งก็กลายเป็นของฝากที่มีความหมายอีกด้วย

ที่ IKEDA WINE CASTLE ยังมีถังไวน์ผลิตพิเศษ ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ใช้ ทำให้ทุกถังไวน์ที่นี่มีความพิเศษในตัวเอง ภายในสถานที่ตกแต่งด้วยถังไวน์ขนาดใหญ่ถึง 8,000 ลิตรที่เรียงรายถึงบนเพดาน สร้างบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนคุณอยู่ในห้องบ่มไวน์จริง ๆ ทำให้ช่วงเวลาชิมไวน์ของเรายิ่งพิเศษขึ้นไปอีก! (สำหรับใครที่สนใจถังไวน์ สามารถซื้อกลับบ้านได้เช่นกันนะคะ)

ไฮไลท์สำคัญหนึ่งของปราสาทไวน์แห่งนี้ก็คือ โกดังเก่า ซึ่งเก็บรักษาไวน์จากโทคาจิกว่า 20,000 ขวด บนแต่ละขวดมีฝุ่นจับหนา ซึ่งแสดงร่องรอยของกาลเวลาว่าบ่มมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่ที่ให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์และความลึกซึ้งของไวน์ด้วยตาของตัวเอง

นอกจากนี้ ยังมีล็อกเกอร์เก็บไวน์ส่วนตัวในห้องบ่มไวน์ใต้ดิน สำหรับใครที่ซื้อไวน์จากที่นี่ สามารถใช้บริการฝากเก็บได้ในราคา 6,600 เยนต่อปี ซึ่งมักจะมีผู้มาใช้บริการนี้เพื่อเก็บไวน์สำคัญในโอกาสพิเศษอย่างเช่นสำหรับเฉลิมฉลองวันบรรลุนิติภาวะของลูก จึงอาจกล่าวได้ว่าที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่เก็บไวน์ แต่ยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถสร้างความทรงจำพิเศษร่วมกับคนสำคัญผ่านไวน์ได้ด้วย

ไวน์แพริ่งสุดพรีเมียม & ดินเนอร์สุดหรู จับคู่ไวน์กับอาหารอย่างลงตัว

ปิดท้ายประสบการณ์ด้วยคอร์สอาหารสุดพิเศษ ห้องรับรองแขกคนสำคัญที่เปิดให้ใช้เฉพาะในโอกาสพิเศษ กลายเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมครั้งนี้ มอบบรรยากาศหรูหราราวกับอยู่ในพระราชวัง ท่ามกลางเมนูที่รังสรรค์จากวัตถุดิบท้องถิ่นของโทคาจิ ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งอบสไตล์ฝรั่งเศส(Galette) คัสตาร์ดไข่ปลามากุโระ ซอสบูร์บล็องปลาแซลมอน เนื้ออิเคดะ ไปจนถึงชีส 5 ชนิดและของหวาน ให้ได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศพร้อมดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันผ่อนคลาย

ที่นี่ไม่เพียงแค่เสิร์ฟอาหารสุดพิเศษ แต่ยังคัดสรรไวน์จากโทคาจิที่จับคู่มาอย่างลงตัวกับแต่ละเมนู ยกระดับรสชาติให้ละมุนยิ่งขึ้น ไฮไลต์อยู่ที่ “ไอซ์ไวน์” ไวน์หอมหวานที่เกิดจากองุ่นซึ่งถูกแช่แข็งตามธรรมชาติท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ความหวานที่เข้มข้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติทำให้แม้แต่มือใหม่ก็สามารถดื่มด่ำได้อย่างเพลิดเพลิน

นอกจากนี้ ในช่วงเช้ายังมีกิจกรรมพิเศษที่พาไปเยี่ยมชมไร่องุ่นสำหรับผลิตไอซ์ไวน์ สัมผัสบรรยากาศเย็นสดชื่น พร้อมชมกระบวนการผลิตไวน์อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ไร่องุ่นจนถึงขวดไวน์ในมือ เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและเติมเต็มเสน่ห์ของไวน์โทคาจิให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ประสบการณ์การดื่มไวน์และทานอาหารที่ปราสาทไวน์

ช่วงเวลาที่เปิดทัวร์: ปลายเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์

เวลา: 10:00 น. ~14:00 น.

จำนวนคนที่เปิดรับ: 4~10 คน(ผู้เข้าร่วมทัวร์ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป)

ดูรายละเอียดทัวร์เพิ่มเติมได้ที่นี่

สมัครเข้าร่วมโปรแกรมได้ที่นี่

สัมผัสฤดูหนาวของฮอกไกโดแบบเต็มอิ่ม

สโนว์ซาฟารีที่อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง

เปลี่ยนฤดูหนาวของฮอกไกโดให้พิเศษยิ่งขึ้น ไปกับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สโนว์ซาฟารี & แคมป์ปิ้งสุดหรูกับเนื้อวากิว ที่จัดขึ้นในฟาร์มปศุสัตว์ Naitai Highland Farm ท่ามกลางความกว้างใหญ่กว่า 1,700 เฮกตาร์ พื้นที่ที่ปกติไม่เปิดให้เข้า ได้เปิดเป็นกรณีพิเศษเฉพาะโปรแกรมนี้เท่านั้น มอบบรรยากาศสุดพิเศษและเป็นส่วนตัวให้ได้ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของฤดูหนาวอย่างเต็มที่

เริ่มต้นการผจญภัยด้วยการนั่งรถ 4WD ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังที่ระดับความสูง 800 เมตร สัมผัสความตื่นเต้นจากการไต่ขึ้นสู่ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของฟาร์มที่เงียบสงบและถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เป็นภาพที่หาชมได้ยากและตราตรึงใจแบบที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง!

Snowshoes, snowmobile และ glamping

ต่อไปจะเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับหิมะขาวโพลนของฮอกไกโดแบบจุใจ เริ่มต้นด้วย “Snowshoe Trekking” ใส่รองเท้าลุยหิมะ แล้วออกเดินทอดน่องไปตามฟาร์มไนไตไคเก็งท่ามกลางทิวทัศน์ฤดูหนาวสุดเงียบสงบ คนไม่ถนัดเล่นกีฬาโลดโผนอย่างสกีก็สามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ต้องฝึกซ้อมให้ยุ่งยาก แค่สวมรองเท้าลุยหิมะแล้วก้าวเดินก็สามารถเพลิดเพลินกับวิวหิมะสุดอลังการได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ร่วมสนุกได้แบบสบาย ๆ

แต่ความสนุกยังไม่จบแค่นั้น! หลังจากเดินชมวิวหิมะประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงเวลาสัมผัสความมันส์ขั้นสุดไปกับสโนว์โมบิลซาฟารี! ลากเลื่อนพิเศษไปตามเส้นทางธรรมชาติราวกับเป็นเวอร์ชันฤดูหนาวของบานาน่าโบ๊ต ความเร็วที่พุ่งทะยานผ่านภูมิประเทศหลากหลายที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้ทั้งตื่นเต้นและเร้าใจสุด ๆ และที่สำคัญ ยังได้ชมวิวฤดูหนาวของฮอกไกโดในมุมมองที่แปลกใหม่อีกด้วย 

เติมพลังด้วยชาบูเนื้อวากิวร้อน ๆ 

หลังจากผจญภัยกับกิจกรรมสโนว์ซาฟารีอย่างสุดเหวี่ยงแล้ว ก็ถึงเวลาเติมพลังกับชาบูเนื้อวากิวร้อน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแกลมปิ้งชิว ๆ ความพิเศษของชาบูนี้ก็คือเนื้อวากิวที่เลี้ยงในธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของฮอกไกโด เราจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติเข้มข้นจนแทบลืมความหนาวเย็นที่พบเจอเมื่อสักครู่ไปในทันที บวกกับภาพวิวของหิมะนอกหน้าต่างที่ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกให้กับการเดินทางในฤดูหนาวนี้

นอกจากนี้ ภายในพื้นที่แกลมปิ้งยังมีที่นั่งพักผ่อนและพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการเล่นเลื่อนหิมะด้วเรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมที่รวบรวมทั้งกิจกรรมสนุก ๆ อาหารอร่อย ๆ และการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบไว้ที่เดียว 

ทัวร์ซาฟารีหิมะและแกลมปิ้งวากิวที่ฟาร์มไนไท

ช่วงเวลาเปิดทัวร์: 15 ธันวาคม 2024 ~ 15 กุมภาพันธ์ 2025

เวลา: 9:00~15:00 น.

จำนวนคน: 2~6 คน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

สมัครเข้าร่วมโปรแกรมได้ที่นี่

เต็มคำกับรสชาติของฮอกไกโด

สุดท้าย สำหรับนักเดินทางที่มุ่งหวังจะเพลิดเพลินกับรสชาติอาหาร การเดินทางไปยัง ฟาร์มโทคาจิทามะ ที่สามารถมองเห็นทุ่งนาและเทือกเขาฮิดากะได้แบบเต็มตา และเข้าร่วมกิจกรรม ทำมิโสะและปรุงอาหารจากฟาร์ม เป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาด!

ทำมิโสะของตัวเอง

เนื่องจากมิโสะมีรสชาติกลมกล่อมและสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายเมนู จึงกลายมาเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยม แล้วถ้าได้ลองทำมิโสะด้วยตัวเองแล้วนำกลับไปเป็นของฝากจะดึแค่ไหนกันนะ? ในโปรแกรมนี้เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การทำมิโสะด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่การบดถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนละเอียด แล้วนำไปแช่เย็น จากนั้นนำถั่วเหลือง โคจิ(จุลินทรีย์หมักธรรมชาติ) และเกลือมาผสมในอัตราส่วน 1:1:0.5 หลังจากนั้นต้องบีบให้แน่นเพื่อไม่ให้มีอากาศเข้าไป ก่อนบรรจุลงในภาชนะเก็บ เท่านี้ก็จะได้มิโสะสูตรเฉพาะที่ทำด้วยความรักและพิถีพิถัน

มิโสะที่ทำเสร็จแล้วจะสามารถทานได้หลังหมักไว้เป็นเวลาประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง การเก็บรักษาที่สำคัญคือควรเก็บไว้ในที่เย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส และแนะนำให้เขียนวันที่ที่ทำลงบนกระดาษห่อจะได้ไม่ให้ลืมนะ

ประสบการณ์การปรุงอาหารสไตล์เกษตรกรท้องถิ่นในฮอกไกโด

นอกจากการทำมิโสะแล้ว ยังสามารถร่วมทำและทานอาหารโดยเกษตรกรในพื้นที่ ให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์แบบยิ่งกว่าโลคอล อร่อยไปกับสลัดราดซอสอะโวคาโดที่ดีต่อสุขภาพ(และอร่อยจนหยุดกินไม่ได้) ดังโงะมันฝรั่งอันเลื่องชื่อในฐานะอาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด รวมไปถึงข้าวปั้นปั้นเองด้วยมือเรา การได้ลองทำอาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ได้ลิ้มรสชาติของฮอกไกโดแท้ ๆ แต่ยังเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งในทุกคำ หากใครกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของท้องถิ่น อย่าพลาดที่จะเพิ่มโปรแกรมนี้ไว้ในลิสต์การเที่ยว

ประสบการณ์การทำมิโสะในฤดูหนาวที่ฟาร์มโทคาจิ โทยามะ

ช่วงเวลาที่เปิดทัวร์: 1 ธันวาคม ~28 กุมภาพันธ์

ตั้งแต่เวลา: 9:30~13:30 น.

จำนวนคน: 2~8 คน

ดูรายละเอียดทัวร์เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

สมัครเข้าร่วมทัวร์ได้ที่นี่

สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของฤดูหนาวแบบญี่ปุ่น

โทคาจิ (十勝) แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวที่คึกคักทั่วไป ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย ที่นี่คือแหล่งที่รวบรวมเสน่ห์เฉพาะของฤดูหนาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ดังนัใน้นฤดูหนาวนี้ลองหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวันและมาสัมผัสกับเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของโทคาจิผ่านสามประสบการณ์ที่แนะนำไปด้านบนกันเถอะ!

ติดตามข่าวสาร และเรื่องราวอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ทางเว็บไซต์ JAPANKURUFacebookInstagramX(twitter)

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
reCaptcha Error: grecaptcha is not defined

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS