Sponsored

3 ที่พักใกล้ที่เที่ยวในคาบสมุทรอิซุ ชิซุโอกะ – โรงแรมวินเทจพร้อมวิวทะเล หรือแกลมปิ้งข้าง ๆ คาปิบารา!

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

CONTENTS

แจกพิกัด 3 ที่พักสะดวกสบายใกล้สถานี Izu Kogen เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตได้ง่าย ทั้งสวนสัตว์อิซุชาโบเท็นของเหล่าคาปิบารา จุดชมวิวภูเขาโอมุโระ หรือ Illumination ที่สวนอิซุแกรนพาล แอบกระซิบไว้ก่อนเลยว่าน่าไปทั้งหมดจนจะเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว

มาให้ธรรมชาติบำบัดที่อิซุ กับทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา ทะเล และสัตว์โลกน่ารัก

คาบสมุทรอิซุ(Izu Peninsula) คาบสมุทรที่ถูกถักทอและห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์อย่างภูเขาโอมุโระและชายฝั่งโจกาซากิ จนได้รับการรับรองให้เป็นเป็นอุทยานธรณีวิทยาระดับโลกแห่งที่ 9 ของญี่ปุ่น นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอให้เราไปสำรวจ อย่างเช่นสวนสัตว์อิซุชาโบเท็นที่เราจะได้พบกับเจ้าคาปิบาราและสัตว์น่ารักอื่น ๆ ซึ่งทุกปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อพบกับเจ้าคาปิบาราโดยเฉพาะ

ขอบคุณรูปภาพด้านขวาบนจาก Izu Granpal Park

อิซุไม่เพียงเต็มไปด้วยธรรมชาติ แต่ยังมีที่เที่ยวสนุก ๆ อีกมากมาย อย่าง “Izu Granpal Park” สวนที่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมกลางแจ้งและ illumination ยามค่ำคืน หรือ “New York Lamp Museum & Flower Garden” พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโคมไฟทิฟฟานี่โบราณและสวนดอกไม้ที่จะทำให้เราได้กลายเป็นเจ้าหญิง! 

เพราะอิซุมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ ดังนั้นการเลือกที่พักที่มีทำเลดี จะยิ่งช่วยให้เราประหยัดเวลาการเดินทางและเที่ยวได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น วันนี้ทีมงาน JAPANKURU เตรียมที่พักและที่เที่ยวรวมให้ในบล็อกนี้แบบจุใจ จนจะเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว 

ที่พัก① โรงแรม SKY-HILL HOTEL Izukogen น้ำพุร้อน วิวทะเล และฟูจิซัง

โรงแรม SKY-HILL HOTEL Izukogen กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนเมษายนปี 2023 ที่ผ่านมา พร้อมบ่อน้ำพุร้อนใหม่ ๆ และห้องพักสะดวกสบาย ให้เราได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวย ๆ ของทะเลอิซุ ที่สำคัญคือโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมในเครือเดียวกันกับ “สวนสัตว์อิซุชาโบเท็น” ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถเดินเข้าไปยังสวนสัตว์ได้โดยตรงผ่านทางเดินพิเศษที่สงวนสิทธิ์ไว้ให้สำหรับแขกในโรงแรมเท่านั้น ถ้าโชคดีเผลอ ๆ ก็จะได้เจอกับน้องนกยูงของสวนสัตว์ที่ออกมาเดินเล่นตามระเบียงห้องพักของโรงแรมก็ได้นะ นอกจากนี้ตัวโรงแรมยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ อย่าง ภูเขาโอมุโระอีกด้วย

การตกแต่งแบบเรโทรย้อนยุคคือจุดเด่นของโรงแรมนี้ ภายในเกือบทุกห้องพักจะถูกจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสไตล์ย้อนยุค อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงวันวาน นอกจากนี้ที่โรงแรมยังมีห้องหลากหลายสไตล์ให้เลือกเข้าพัก ทั้งห้องสไตล์ตะวันตกผสมความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว โดยห้องนี้สามารถรองรับแขกได้มากที่สุดถึง 6 คนเลยทีเดียว หรือจะเป็นห้องพักที่มีห้องนั่งเล่นในตัว ไปจนถึงห้องดีลักซ์ไซส์ใหญ่รองรับได้ 5 คน ให้เราได้ใช้เวลาพักผ่อนแสนสบายกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน(แน่นอนว่าจะมาเดทกับคุณแฟนก็ได้เหมือนกัน)ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าจะเป็นห้องสไตล์ไหนก็สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของอิซุจากทุกห้องพักเลย

อีกหนึ่งสิ่งขึ้นชื่อคือของ SKY-HILL HOTEL Izukogen แห่งนี้คือ “บ่อน้ำพุร้อนย้อนยุค” มีอ่างน้ำพุร้อนขนาดใหญ่พร้อมวิวสวย ๆ ของอิซุเป็นฉากหลัง ให้เราได้แช่น้ำพร้อมชมวิวเพลิน ๆ โดยตัวน้ำพุร้อนมีเป็นน้ำพุร้อนอัลคาไลน์ หรือที่ถูกเรียกว่า “น้ำพุร้อนผิวสวย” เพราะว่ากันว่าจะช่วยทำให้ผิวนวลนุ่มนั่นเอง 

ไม่เพียงแค่บ่อน้ำพุร้อน แต่ทางโรงแรมยังจัดเตรียมห้องซาวน่า ไปจนถึงห้องปิงปอง ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถสวมชุดยูกาตะหลังขึ้นจากแช่น้ำ และออกมาตีปิงปองแบบที่เราเคยเห็นกันในอนิเมะหรือตามละครทีวีญี่ปุ่นก็ได้ เป็นอีกหนึ่งสีสันของการมาแช่ออนเซ็นในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ถัดจากโซนบ่อน้ำพุและห้องปิงปอง ทางโรงแรมยังเตรียมพื้นที่สำหรับให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกัน รวมถึงพื้นที่สาธารณะที่ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับวิวทะเลบนระเบียงขนาดใหญ่บริเวณชั้น 3 ขอบอกเลยว่าวิวที่ได้เห็นจากระเบียงนี้จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจจนลืมไม่ลง เพราะมองลงมาเห็นอ่าวซากามิ (Sagami Bay) และหมู่เกาะอิซุชิจิโท (Izu Shichito Islands) หรือก็คือหมู่เกาะทั้ง 7 ที่เรียงต่อกันอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ในวันฟ้าใสจะสามารถมองเห็นฟูจิซังด้วยนะ

การได้ดื่มด่ำไปกับอาหารเลิศรสก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสนุกให้กับทริป อิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลอย่างปลาทรายแดงทะเลสูตรพิเศษของที่อิซุและอาหารจากวัตถุดิบตามฤดูกาลมากมายที่ SKY-HILL HOTEL Izukogen แห่งนี้วิวสวย ห้องพักสบาย อาหารอร่อยและบ่อน้ำพุร้อนชั้นเลิศ เดินไม่ไกลถึงสวนสัตว์อิซุชาโบเท็น ดังนั้น SKY-HILL HOTEL Izukogen เป็นที่พักสุดแสนจะสมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางไปยังอิซุ เรียกได้ว่าเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเพลินและสนุกไปในโรงแรมแห่งนี้ได้

โรงแรม SKY-HILL HOTEL Izukogen
ที่ตั้ง: 1317-624 Futo, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เช็คอิน: 15:00-20:00 น.(หากจองมื้อเย็นกับทางโรงแรมควรเช็คในช่วง 15:00-17:00 น.)
เช็คเอาท์: 10:00 น.
Official Websiteจองที่พัก

ที่พัก Izu Shaboten Village Glamping แคมป์ปิ้งแบบติดแกลมที่เชิงเขาโอมุโระ

ชวนมาลองแคมป์ปิ้งแบบติดแกลม หรือที่เราเรียกกันว่า “แกลมปิ้ง” ที่ Izu Shaboten Village Glamping ตรงเชิงเขาโอมุโระ ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์แคมป์ปิ้งในรูปแบบที่สะดวกสบาย ด้วยความที่ Izu Shaboten Village Glamping นี้ก็เป็นที่พักในเครือเดียวกับสวนสัตว์อิซุชาโบเท็น ทางเข้าเต็นท์แต่ละหลังจึงถูกตกแต่งด้วยภาพประกอบสัตว์น่ารัก ๆ ที่มีในสวนสัตว์อิซุชาโบเท็น

การออกแบบภายในเต็นท์มีความน่ารักอย่างลงตัว ด้วยผ้าปูที่นอนและพรมสีสันสดใส เบาะนั่งและหมอนอิงเม็ดโฟม ที่ต้องถูกใจเด็ก ๆ อย่างแน่นอน และยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแกลมปิ้งคือมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในเต็นท์ แม้จะเป็นวันที่ฝนตกหรืออากาศหนาวก็ไม่ต้องออกไปอาบน้ำข้างนอก สะดวกสุด ๆ !

สำหรับเต็นท์แกลมป์ปิ้งก็มีให้เลือกหลายสไตล์ ทั้งเต็นท์สไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตกที่จะมีเตียงกับมุมนั่งพื้น หรือจะเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นไปเลย ภายในเต็นท์รองรับได้ 5-6 คน เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจกับครอบครัว กับเพื่อน ๆ กับคุณแฟน หรือจะมาเหมาห้องคนเดียวก็ไม่ติด

ขอบคุณรูปภาพจาก Izu Shaboten Village Glamping

เพราะการตั้งแคมป์มาคู่กับบาร์บีคิว มื้อค่ำที่ Izu Shaboten Village Glamping เขามีจัดเตรียมชุดบาร์บีคิวไว้ 2 ชุดให้เลือกคือชุด Regular และชุด BBQ ซึ่งอาจมีวัตถุดิบสำหรับปิ้งย่างต่างกันเล็กน้อย แต่ส่วนมากทั้งสองชุดจะประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ รวมไปถึงอาหารทะเลตามฤดูกาลของอิซุ 

สำหรับใครที่แพ้อาหาร ทานมังสวิรัติหรือมีข้อจำกัดด้านอาหารอื่น ๆ สามารถเช่าแค่ชุดบาร์บีคิวแล้วซื้อวัตถุดิบอื่น ๆ ตามสไตล์ตัวเองจากซุปเปอร์ใกล้ ๆ มาปิ้งก็ได้ 

ส่วนมื้อเช้าเป็นแซนด์วิชต้นตำรับสอดไส้ผักและผลไม้ในท้องถิ่นอิซุ ทานคู่กับนมสดหรือกาแฟดริป เติมพลังให้เช้าวันใหม่อันสดใส🥰

Izu Shaboten Village Glamping เป็นโรงแรมในเครือเดียวกันกับสวนสัตว์อิซุชาโบเท็น ห่างกันในระยะที่เดินเพียงแค่ 3 นาทีถึง และยังใกล้กับท่าขึ้นกระเช้าของภูเขาโอมุโระ เดินแค่ 2 นาทีถึง สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การตั้งแคมป์และเพลิดเพลินกับการสัมผัสกับธรรมชาติ Izu Shaboten Village Glamping อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

Izu Shaboten Village Glamping
ที่ตั้ง: Japan, 〒413-0231 Shizuoka, Itō, Futo, 1317-584
เช็คอิน: 15:00-18:00 น.
เช็คเอาท์: ก่อน 11:00 น.
Official Websiteจองที่พัก

ที่พัก③ Izu Grand Village Glamping ขั้นกว่าของการแกลมปิ้ง คือการแกลมปิ้งแบบไพรเวท!

แกลมปิ้งแบบธรรมดาก็ว่าหรูแล้ว แต่ที่ Izu Grand Village Glamping คือขั้นกว่า เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดวางเต็นท์ให้กระจายตัวออกจากกันและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับแต่ละเต็นท์มากยิ่งขึ้น ภายในเต็นท์ตกแต่งด้วยโทนสีที่ดูเรียบง่ายและผ่อนคลาย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์วินเทจน่ารัก ๆ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ชิว ๆ แตกต่างจากบรรยากาศสดใสของ Izu Shaboten Village Glamping เล็กน้อย

แน่นอนว่าในเต็นท์มีห้องน้ำส่วนตัวและมีอ่างอาบน้ำที่สาว ๆ ชอบแช่กันด้วย เนื่องจากภายในตัวเต็นท์กว้างขึ้น หน้าต่างในตัวเต็นท์จึงกว้างขึ้นตามไปด้วย ทำให้เรามองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างเต็มตาโดยเฉพาะวิวของลานกองไฟตรงกลาง

นอกจากเต็นท์ทรงโดมแล้ว ยังมีเต็นท์ทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่พิเศษ(ที่เกือบจะเรียกว่าบ้านพักได้แล้ว)อีกด้วย พื้นที่กว้างขึ้นและแน่นอนว่ามีห้องน้ำในตัว 

อีกหนึ่งสิ่งพิเศษของที่นี่คือมีให้บริการห้องซาวน่า สามารถจองและชำระค่าบริการได้ที่แผนกต้อนรับเลย 

มื้อค่ำยังคงคอนเซ็ปต์เป็นบาร์บีคิว ในชุดมีตั้งแต่ผักย่างตามฤดูกาล เนื้อหมูสันนอกของ Fujinokuni แบรนด์ประจำจังหวัดชิซุโอกะ สะโพกไก่ เนื้อวัวสันนอก ไปจนถึงอาหารทะเลสด ๆ 

นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานประจำแคมป์ไฟอย่าง “สมอร์(S’more)” หรือขนมปังกรอบสอดไส้มาร์ชเมลโลว์ย่าง รวมไปถึงช็อกโกแลตกับผลไม้ประจำฤดูกาลด้วย

สำหรับใครที่ต้องการอาหารที่หรูหรายิ่งขึ้นก็สามารถเลือกเป็นเมนูอัปเกรดได้ ซึ่งจะมีเบคอนเนื้ออะชิทากะท้องถิ่นของอิซุ ปลาแซลมอนพิเศษที่เติบโตในน้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจิ และสลัดกะหล่ำปลีเย็น หรือถ้ายังไม่จุใจพอ จะเพิ่มหอยเชลล์และกุ้งล็อบสเตอร์ก็ได้ 

ในส่วนของอาหารเช้าจะเป็นแซนด์วิชพิเศษสอดไส้ผักและวัตถุดิบตามฤดูกาลของอิซุ ทานก่อนออกไปผจญภัยตอนเช้าได้เลย🥪

หนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนอร่อยที่ Izu Grand Village Glamping คือบาร์เครื่องดื่มแบบบริการตนเองที่ตั้งอยู่ในเต็นท์ต้อนรับ ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มฟรีไม่อั้น มีตั้งแต่กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เบียร์สด เลมอนซาว่า ไปจนถึงไวน์แดงและไวน์ขาวแบบไม่จำกัด สำหรับใครที่ชื่นชอบไวน์ก็สามารถเลือกแบรนด์เองได้โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเล็กน้อย หรือเครื่องดื่มสำหรับคุณหนูตัวน้อยอย่างนมสดก็มีให้บริการ

หากกำลังมองหาที่พักแกลมปิ้ง แนะนำให้ลองมาพักที่ Izu Grand Village Glamping และ Izu Shaboten Village Glamping ซึ่งทั้งสองที่นี่อาจจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เลือกที่พักที่ตอบโจทย์เราที่สุดได้เลย!

Izu Grand Village Glamping
ที่ตั้ง1089-5 Futo, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เช็คอิน: 15.00-18.00 น.
เช็คเอาท์: ก่อน 11.00 น.
Official Websiteจองที่พัก

พาไปทัวร์สถานที่เที่ยวรอบสถานี Izu Kogen

ที่พักมีแล้ว ต่อไปไปดูที่เที่ยวกัน! พาทัวร์ที่เที่ยวรอบ ๆ สถานี Izu Kogen

ภูเขาโอมุโระ: ภูเขาที่เหมือนกับพุดดิ้งมัทฉะ?

ภูเขาโอมุโระ ภูเขาไฟที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของญี่ปุ่น ด้วยความที่ตัวภูเขาไม่มีต้นไม้สูง ส่วนมากปกคลุมด้วยพุ่มไม้และทุ่งหญ้า พอมองจากกระเช้ามุมสูงน้องเลยดูเหมือนพุดดิ้งโรยผงมัทฉะ และเพื่อให้ภูเขาลูกนี้ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นพุ่มไม้และทุ่งหญ้าแบบนี้ไว้ จึงมี “เทศกาลเผาหญ้าบนภูเขา” ในทุกเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี กลายเป็นงานเทศกาลยิ่งใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

เราสามารถนั่งกระเช้าจากตีนเขาขึ้นไปถึงปากปล่องเพื่อเดินเล่นและชมวิวแบบ 360 องศา เมื่อมองวิวจากความสูง 580 เมตร จะสามารถเห็นเกาะทั้งเจ็ดของอิซุเรียงตัวกัน รวมถึงมองเห็นอ่าวซากามิ และแน่นอนว่าในวันฟ้าใสสามารถมองเห็นฟูจิซังได้อย่างเต็มตาเลย

กระเช้าจุดชมวิวภูเขาโอมุโระ
ที่ตั้ง672-2 Ike, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เวลาเปิดทำการ
ช่วงเดือนมีนาคม-กันยายน: 9.00-17.00 น. (กระเช้าลงรอบสุดท้าย 17.15 น.)
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม: 9.00-16.00 น. (จำหน่ายตั๋วถึงเวลา 16.15 น.)
ช่วงวันปีใหม่ เปิดบริการพิเศษให้ชมพระอาทิตย์แรกของปี ตั้งแต่เวลา 5.40-8.15 น. (จำหน่ายตั๋วถึง 7.00 น.)
วิธีการเดินทาง: ลงที่สถานี Izu Kogen ของสาย Izukyu จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส Tokai ที่มุ่งหน้าไปยัง Shaboten Park ใช้เวลาประมาณ 15 นาที และลงที่ป้ายสุดท้าย
Official Website

สวนสัตว์อิซุชาโบเท็น (Izu Shaboten Zoo) ผ่อนคลายไปกับคาปิบารา แพนด้าแดง และต้นกระบองเพชร

สวนสัตว์อิซุชาโบเท็น อีกหนึ่งแลนด์มาร์คประจำอิซุ ไฮไลท์ประจำสวนสัตว์แห่งนี้ก็คือเจ้าคาปิบารา(หรือหมามะพร้าวที่เราชอบเรียกกัน) ในช่วงฤดูหนาวของทุกปีทางสวนสัตว์มีจัดกิจกรรมเปิดให้เข้าชมเหล่าคาปิบาราแช่น้ำ แค่มายืนมองน้องแช่น้ำกันก็รู้สึกหายเหนื่อยและอบอุ่นหัวใจตามไปด้วยแล้ว

นอกจากคาปิบารายังมีสัตว์น่ารักอีกกว่า 140 สายพันธุ์ ทั้งสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย(Fennec Fox) แพนด้าแดง จิงโจ้ และค่างหางแหวนที่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้เจ้าคาปิบาราเลย

สิ่งที่ทำให้สวนสัตว์อิซุชาโบเท็นพิเศษกว่าที่อื่น คงจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ไม่จำกัดพื้นที่ของสัตว์ไว้เพียงแต่ในกรงเล็กจิ๋ว แต่ให้น้อง(บางตัว)สามารถเดินได้อย่างอิสระในพื้นที่ที่กำหนด  โดยจะใช้ธรรมชาติเข้ามาช่วย อย่างทำพุ่มไม้เตี้ย ๆ หรือสร้างทางน้ำเล็ก ๆ เพื่อเป็นการกันให้น้องอยู่ในพื้นที่นั่นเอง เราจึงสามารถพบเจอกับนกยูงและลิงกระรอกที่เดินเล่นอยู่ทั่วสวนสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงมีจัดแสดงและเพาะพันธุ์กระบองเพชรและพืชอวบน้ำอีกประมาณ 1,500 ชนิดด้วยเช่นกัน เรียกว่าได้ดูทั้งสัตว์และพืชแบบครบจบในที่เดียว

ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์จัดแสดงกระบองเพชร ที่นี่มีกิจกรรมให้เราเลือกกระบองเพชรที่ชอบและ DIY ลงในกระถางของตัวเองได้ด้วย! ชอบต้นไหนก็สามารถคีบใส่ตะกร้า จัดวางลงในกระถางและหิ้วกลับบ้านไปได้เลย เหมาะจะซื้อเป็นของที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนอื่นก็น่ารักไม่แพ้กัน

หลังจากทำกิจกรรมกันจนเหนื่อยแล้ว อย่าลืมแวะมาเติมพลังที่ “Forest Animal Restaurant GIBBONTEI” ร้านอาหารภายในสวนสัตว์ที่ยังคงคอนเสปต์ความน่ารักเอาไว้ได้ เข้ามาด้านในร้านอาหารจะพบกับกองทัพตุ๊กตาทั้งคาปิบาราและแพนด้าแดงมานั่งหม่ำข้าวเป็นเพื่อน เหมาะสำหรับถ่ายรูปลงไอจีแบบสุด ๆ

สวนสัตว์อิซุชาโบเท็น
ที่ตั้ง1317-13 Futo, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เวลาเปิดทำการ: 9:30-17:00 น.(เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนปิด)
※เวลาเปิดปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงในบางช่วง
วิธีการเดินทาง:จากสถานีรถไฟ Izu Kogen ต่อรถบัส Tokai ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือจะต่อแท็กซี่จากสถานีรถไฟใช้เวลาประมาณ 10
Official Website

ชายฝั่งโจกาซากิ วิวมหาสมุทรราวกับโปสการ์ดในอิซุ

ชายฝั่งโจกาซากิ อีกหนึ่งจุดชมวิวอันเป็นไฮไลท์ เพราะสวยเหมือนหลุดออกมาจากภาพถ่ายบนโปสการ์ด มองจากชายฝั่งไปจะเห็นสะพานแขวนคาโดวากิ โดยมีท้องฟ้าสีครามและทะเลสีน้ำเงินเข้มเป็นพื้นหลัง 

เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟโอมูระในอดีตกว่า 4000 ปีที่แล้ว ลาวาที่ปะทุออกมาจากปากปล่องของภูเขาไฟไหลลงมาที่อ่าวซางามิ (Sagami Bay) จนเกิดเป็นชายฝั่งโจกาซากิที่มีระยะทางทอดยาวกว่า 9 กิโลเมตรแบบในปัจจุบัน

ชายฝั่งโจกาซากิ
ที่ตั้งFuto, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
วิธีการเดินทาง:ลงที่สถานี Jogasaki Kaigan ของสาย Izukyu แล้วเดินต่อประมาณ 35 นาที
Official Website (Izu Guide)

New York Lamp Museum & Flower Garden แปลงโฉมเป็นเจ้าหญิง ชมโคมไฟทิฟฟานี่ และเดินเล่นในสวนดอกไม้

New York Lamp Museum & Flower Garden เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโคมไฟกระจกทิฟฟานี่สไตล์วินเทจ ภายในมีผลงานกว่า 80 ชิ้นมาจัดแสดง ซึ่งเป็นผลงานจาก Tiffany Studio ของคุณ Louis Comfort Tiffany ศิลปินที่มีชื่อเสียงในฐานะช่างเครื่องแก้ว ผลงานที่นำมาจัดแสดงมีทั้งโคมไฟตั้งโต๊ะและหน้าต่างกระจกทิฟฟานี่ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อกว่าศตวรรษที่ผ่านมา คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม

ขอบคุณรูปภาพจาก New York Lamp Museum & Flower Garden

ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์จะพบกับสวนดอกไม้ทอดยาวออกไปตามแนวชายฝั่งอิซุ ภายในสวนมีทั้งดอกไม้ ต้นไม้ และสมุนไพรด้วย ยิ่งในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายธันวาคมถึงปลายเดือนมกราคมจะเต็มไปด้วยดอกทิวลิปไอศกรีมบานสะพรั่ง ผสมผสานกับทิวทัศน์ทะเลเป็นพื้นหลังขอบอกเลยว่าถ่ายรูปสวยสุด ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าชุดเจ้าหญิงสไตล์ตะวันตกด้วย ไปเปลี่ยนชุดเป็นเจ้าหญิงแสนสวยแล้วมาเดินเล่นถ่ายรูปในพิพิธภัณฑ์และสวนกันเถอะ! 

หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปกันแล้ว อย่าลืมแวะพักจิบกาแฟพร้อมชมวิวทะเลที่ร้านกาแฟข้าง ๆ พิพิธภัณฑ์ด้วยละ

*ขอความร่วมมือไม่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มช่วงที่แต่งตัวเป็นเจ้าหญิงนะคะ 

New York Lamp Museum & Flower Garden (พิพิธภัณฑ์โคมไฟนิวยอร์กและสวนดอกไม้)
ที่ตั้ง841-1 Futo, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เวลาเปิดทำการ:9:30-17:00 น. (เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนปิด)
※ เวลาเปิดปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา
วิธีการเดินทาง:พิพิธภัณฑ์โคมไฟนิวยอร์กและสวนดอกไม้อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะอิซุไคโย จากสถานี Izu Kogen ต่อรถบัส Tokai ลงที่ป้าย Izu Kaiyo Koen ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
Official Website

Izu Granpal Park สนุกไปกับกิจกรรมในสวน ทั้งโซนไดโนเสาร์และไฟประดับ

ขอบคุณรูปภาพจาก Izu Granpal Park

สวนอิซุแกรนพาล (Izu Granpal Park)  สวนประวัติยาวนานกว่า 60 ปี ภายในเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายให้ทำ ทั้งโซน “Dino Age Kart” ที่เราสามารถนั่งรถโกคาร์ทชมไดโนเสาร์ราวกับหลุดเข้าไปในยุคจูราสสิก หรือโหนสลิง Zip line ข้ามสวน

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของสวนอิซุแกรนพาลแห่งนี้คือ “เทศกาลไฟประดับอิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ (Izukogen Granillumi)” ที่จัดขึ้นไม่เพียงแต่ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเท่านั้น แต่จัดเกือบตลอดทั้งปี ทั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนด้วย(แนะนำให้เช็คเวลาทำการใน Official Website อีกครั้ง) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ Illumination ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นนั่นเอง

ด้วยขนาดสวนที่ใหญ่ตระการตาประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสี และความวิเศษราวกับเวทมนตร์ของไฟประดับเหล่านั้น ทำให้ที่นี่ครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับเทศกาลไฟประดับระดับประเทศที่จัดโดย Walker+ มานานกว่า 7 ปีซ้อนเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก Izu Granpal Park

นอกจากนี้ กิจกรรมในตอนกลางวันอย่างโกคาร์ทในโซนไดโนเสาร์หรือโหนสลิงก็สามารถเล่นตอนกลางคืนช่วงที่จัด Illumination ก็ได้เช่นเดียวกัน ขอบอกเลยว่าให้บรรยากาศแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยเฉพาะการโหนสลิงข้ามสวน เราจะได้ใส่เสื้อเรืองแสงและรับบทเป็นดาวตก  พร้อม ๆ กับชมมุมกว้างของสวนประดับไฟจากด้านบน 

สวนอิซุแกรนพาล (Izu Granpal Park) 
ที่ตั้ง1090 Futo, Itō, Shizuoka 413-0231, Japan
เวลาเปิดทำการ
วันจันทร์-ศุกร์: 9:30-17:00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์: 18.00-21.30 น.
※เวลาเปิดปิดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา
ช่วงเวลาจัด Illumination อิซุโคเก็น แกรนอิลูมิ (Izukogen Granillumi): 11 พฤศจิกายน 2023 – 31 สิงหาคม 2024
※สวนสาธารณะจะปิดให้บริการในวันธรรมดาตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2024 เป็นต้นไป แนะนำให้เช็คที่ประกาศบนเว็บไซต์
วิธีการเดินทาง: จากสถานี Izu Kogen นั่งรถบัส Tokai ประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย Granpal Park
Official Website

วิธีการเดินทางมายังอิซุ

การเดินทางด้วยรถไฟจากโตเกียวมายังสถานี Izu Kogen ในเมืองอิซุ จังหวัดชิซุโอกะ สามารถนั่งรถด่วนพิเศษ JR East โอโดริโกะ(ODORIKO) ที่จะพาเรามุ่งหน้าจากกลางกรุงโตเกียวสู่สถานี Izu Kogen ภายใน 2 ชั่วโมงนิด ๆ หรือถ้าอยากยกระดับความหรูหราให้มากขึ้น สามารถเลือกนั่งเป็น ซาฟีร์ โอโดริโกะ (Saphir ODORIKO) รถไฟด่วนที่มาพร้อมห้องส่วนตัวได้
หรือถ้าอยากประหยัดมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกซื้อเป็น “JR TOKYO Wide Pass” ที่ออกโดย JR East Group ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเรา ๆ ในราคา 15,000 เยน(ผู้ใหญ่) มอบสิทธิ์ในการนั่งรถไฟทั้งชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษ ที่อยู่ภายในพื้นที่ของ JR East Group ได้ไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลา 3 วัน ในส่วนของซาฟีร์ โอโดริโกะ (Saphir ODORIKO) จำเป็นต้องซื้อตั๋วแยกนะคะ


ขอบเขตการใช้บัตรโดยสารฟรีโทไกบัส “One day pass อิซุโคเก็นและโจกาซากิ” (ที่มาภาพ: EMot)

แนะนำ Tokai Bus ตั๋วรถบัสสำหรับเที่ยวคาบสมุทรอิซุแบบขึ้นได้ตามใจทุกเส้นทาง ไม่จำกัดรอบ บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ 

Tokai Bus มีให้บริการบัตร “One day pass อิซุโคเก็นและโจกาซากิ” หรือใครที่เที่ยวหลายวันก็มี “ตั๋วอิโตะและอิซุโคเก็นไม่จำกัดเที่ยว 2 วัน” ไปเที่ยวให้จุใจกันไปเลย โดยทั้งสองพาสที่แนะนำครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักที่ในบทความนี้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าใครอยากจัดทริปตามข้างบนแล้ว ก็ซื้อตั๋วพาสแบบนี้ที่สถานี Izu Kogen หรือจะจองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บ EMot ไปก่อนได้เลย

นอกจากการเดินทางโดยรถบัสแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยแท็กซี่ หรือถ้ามากันเป็นกลุ่มใหญ่ การเช่ารถก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก

จัดทริปไปยังขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติที่อิซุโคเก็นกันเถอะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวและที่พักในอิซุ สามารถจัดทริปตามสถานที่ในบทความนี้ได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวัง! และแน่นอนว่านอกจากสถานที่ที่เล่ามาในบทความนี้แล้ว ที่จังหวัดชิซุโอกะยังมีที่เที่ยวอีกมากมายรอให้เราไปค้นพบ ทั้งเมืองอาตามิ คาวาซุหรือชิโมดะ หากมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมแวะมากันเยอะ ๆ นะคะ💖

ติดตามเรื่องราวสนุกอื่น ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์ JAPANKURU และ Facebook

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji
#newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ 
#รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

Tokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru

See Kyoto Clearly With Your New Glasses
#japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU
#japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง 
#ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup
#pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon!
🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중
💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~
#tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon!
用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️
코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기

#pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items!
#pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄

|

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS