CONTENTS
รอบๆเมืองโตเกียวนั้น มีอีกเป็นสิบๆร้อยๆเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก แต่ควรค่าแก่การไปท่องเที่ยวสักครั้งในชีวิตนะ หลังจากที่เพื่อนๆท่องเที่ยวสถานที่เด่นๆดังๆในโตเกียวเรียบร้อยแล้ว ทำไมไม่ลองแวะไปตามชานเมืองโตเกียวเสียหน่อยละ? ในครั้งนี้ JAPANKURU จะพาเพื่อนๆไปยังเมืองนางาเรยามะ (Nagareyama) ในจังหวัดชิบะ (Chiba) ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง หรือ 30 นาที จากโตเกียวเท่านั้นเอง!
ในปีที่ผ่านๆมา พวกเราได้ยินเกี่ยวกับช่างหัตถกรรมทั้งชายและหญิง ที่ยังคงทำการประดิษฐ์ของต่างๆตามแบบสมัยก่อนที่หายากในปัจจุบันอยู่ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างสำคัญกับพวกเขา และครอบครัวของพวกเขา แม้ว่าในปัจจุบันจะเต็มไปด้วยวัฒนธรรม และเทรนด์ใหม่ๆเยอะแยะไปหมดแล้วก็ตาม คล้ายๆกับย่านคากุระซากะ (Kagurazaka) ในโตเกียว หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อนๆจะสามารถหาได้จากนางาเรยามะ (Nagareyama) นี้ ไม่ใช่เพียงแต่ประวัติศาสตร์ในอดีตเพียงเท่านั้น แต่ยังความอบอุ่นและความปรารถนาของทุกๆคน ที่เชื่อมต่อทุกๆคนไว้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างมั่นคง
เพื่อนๆจะสามารถเดินทางไปยังเมืองนี้ได้ โดยการนั่งรถไฟใต้ดิน หรือ TX Tsukuba Express เท่านั้น ดังนั้นถ้าเพื่อนๆอยากจะหลบหลีกจากเมืองที่แออัดเบียดเสียดไปด้วยผู้คน และยังใช้ชีวิตแบบเร่งรีบวุ่นวายไปหมดอย่างกรุงโตเกียว หรืออยากจะมาสัมผัสประสบการณ์กับเมืองใกล้ๆ ที่คุ้นเคยแล้วละก็ มาติดตามไปกับ JAPANKURU ที่จะพาไปทัวร์ในนางาเรยามะ (Nagareyama) กัน!
(流山おおたかの森駅)
เส้นทางที่เร็ว และง่ายที่สุดในการเดินทางไปที่นั่น
ก็คือ Tsukuba Express (つくばエクスプレス)
เพื่อนๆสามารถไปยังที่นั่นได้โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที จากอะกิฮาบาระ (Akihabara) ละ
เพื่อนๆสามารถขึ้นรถไฟ Tobu Railways (東武鉄道) เพื่อไปยังสถานีที่ต้องการได้
สาเกคุโบตะ (KUBOTA SAKE 窪田酒造)
โรงเบียร์คุโบตะ (窪田酒造) คือโรงงานผลิตสาเกญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1872 โดยจังหวัดชิบะ มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสาเกอันยาวนานเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ นิฮงชุ (Nihonshu หรือก็คือ สาเก นั่นเอง) คัทสึชิกะ (勝鹿) ที่ถูกผลิตขึ้นที่นี่ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว สาเกนั้นเริ่มมาเป็นประวัติศาสตร์หลักของจังหวัดชิบะ เนื่องจากการขนส่งน้ำที่มีคุณภาพสูงผ่านทางคลอง โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณยุค Kanei ของญี่ปุ่น (ปี 1624-1643) เลยทีเดียว
ที่โรงกลั่นนี้ พวกเขาได้พาเราไปดูกระบวนการผลิตของสาเกญี่ปุ่นกันละ; เริ่มตั้งแต่กระบวนการทำความสะอาดตัวเมล็ดข้าวกันก่อน จากนั้นก็อบไอน้ำข้าว กระบวนการ koji making และกระบวนการอื่นๆอีกมากมาย และสุดท้ายก็คือโต๊ะ ที่จะเสิร์ฟสาเก และมิริน ให้เพื่อนๆ และเพื่อนของเพื่อนๆให้ได้ชิมกันอย่างมากมายหลายประเภทเลยละ! และนี้ก็เป็นครั้งแรกของพวกเราที่ได้ลองดื่มมิรินแบบเพียวๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะหวานแบบธรรมชาติอย่างนี้น่ะ!
ไปกันต่อที่ประตูถัดไป เพื่อนๆจะพบกับซอสถั่วเหลืองคุโบตะล่ะ (窪田味噌醤油) ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ 1925 เพื่อนำไปผลิตมิโสะ และซอสถั่วเหลืองต่อ และถ้าหากเพื่อนๆเปิดเข้าไปข้างใน ก็จะพบกับพื้นที่ที่ขายวัตถุดิบของมิโสะ และซอสถั่วเหลือง ดั่งคำกล่าวที่ว่า "มีเฉพาะในนางาเรยามะ" เท่านั้น เครื่องปรุงที่ดีๆทั้งหลายเหล่านี้ เหมาะกับผู้ที่สนใจในอาหารญี่ปุ่นมากๆเลย!
🏢658 Yamazaki, Noda-shi, Chiba
🌏Google maps
⏰เวลาทำการ: 8:30~17:30 น.
📞โทร.: 04-7125-3331
💻เว็บไซต์ทางการของ Kubota Sake (ภาษาญี่ปุ่น)
💻เว็บไซต์กรอกใบสมัครสำหรับการขอใช้บริการไกด์นำเที่ยวที่นางาเรยามะ (ภาษาอังกฤษ)
→ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่อยากจะสัมผัสประสบการณืในนางาเรยามะ
ถ้าหากเพื่อนๆไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น เพื่อนๆสามารถสมัครเพื่อขอไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษในในลิงค์ข้างต้นนี้เลย
คาเฟ่โทวะ (TOWA 蔵のカフェ+ギャラリー灯環)
คาเฟ่ TOWA เหมาะสุดๆสำหรับผู้ที่ชอบคาเฟ่ และร้านอาหารที่ดูจะหลบๆซ่อนๆอยู่หน่อยๆ โดยดั้งเดิมแล้วที่นี่เป็นโรงเก็บของ และกลายมาเป็นคาเฟ่ที่ดูสว่างไสว และยังขายของทำมือ หรือแฮนด์เมดต่างๆของชุมชนย่านนั้นอีกด้วย
นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีเมนูอาหารหลักๆ 3 อย่างให้ได้เลือกสรรกัน ได้แก่ อาหารเจต่างๆ พร้อมข้าว (Veggies and Rice Plate 農園野菜のごはんプレート), เมนูสำหรับมื้อกลางวันแรกของวัน แป้งอบกรอบใส่คัสตาร์ด เนย และอื่นๆ (Quiche Brunch Plate キッシュブランチプレート) และแกงกะหรี่เนื้อ (Beef Curry 牛すじカレー)
ที่นางาเรยามะ (Nagareyama) นี้ ไม่ได้โด่งดังแต่เพียงเรียงมิรินเท่านั้นนะ ยังโด่งดังในเรื่องของมิโสะอีกด้วย ถ้าหากเพื่อนๆเลือกที่จะรับประทานอาหารที่โทวะ (Towa) แล้วละก็ พวกเราก็อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองอาหาร หรือเครื่องดื่มใส่มิโสะ หรือมิรินลงไปละ อย่างเช่น น้ำมะนาวใส่มิรินของโทวะ (Towa's mirin lemonade)! ซึ่งเมนูนี้ก็จะมีความเปรี้ยวจี้ดๆของมะนาวอยู่ แต่ก็มีมิรินที่เข้ามาช่วยเพิ่มความหวานในแบบที่แตกต่างกันออกไปละ ลงตัวสุดๆ~
🏢1-155 Nagareyama, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: 10:30 ~ 17:30 น. (รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 17:00)
ปิดทำการ: ทุกวันอังคาร และวันพุธ
💻เว็บไซต์ทางการของ TOWA (ภาษาญี่ปุ่น)
คิมุระ อิงคัง (KIMURA INKAN 木村印鑑店)
ไปกันต่อเลย~ พวกเราได้มุ่งหน้าไปยังร้านตราปั๊มของญี่ปุ่น (Japanese Hanko Store) ร้านคิมุระ อิงคังนี่เอง (Kimura Inkan 木村印鑑店) ที่นี่ดำเนินกิจการจากรุ่นสู่รุ่น โดยในตอนนี้ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว และเมื่อเพื่อนๆเดินเข้ามายังข้างในร้านนี้ ก็จะพบกับโคมไฟแขวนอยู่บนผนังเต็มไปหมดเลยละ…นั่นทำให้พวกเราสงสัยสุดๆว่านี่มันร้านอะไรกันแน่นะ? ปรากฎว่าร้านนี้จริงๆแล้วไม่ได้เพียงแต่เป็นร้านที่จัดทำตราปั๊ม หรือฮังโกะ (Hanko) เท่านั้น แต่ยังรับทำโคมไฟแบบญี่ปุ่นโบราณอีกด้วย ถ้าหากว่าเพื่อนๆอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นแล้วละก็ เจ้าตัวตราปั๊ม (Hanko) นี้ จะต้องมีการประทับเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร, รับรองเอกสารสำคัญๆ และอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตัวโคมไฟนั้น เพื่อนๆอาจจะคิดว่าในปัจจุบันคงไม่มีการใช้กระดาษมาทำโคมไฟอะไรแบบนี้อีกแล้ว แต่ในช่วงวันหยุดแห่งชาติของญี่ปุ่นอย่างโอบ้ง (Obon) มีผู้คนมากมายนำโคมไฟประจำครอบครัวมาเตรียมไว้ เพื่อที่จะเอามาใช้นำทางให้กับบรรพบุรุษที่จากไป จากหลุมศพกลับมายังบ้านได้นั่นเอง
โคะโนะโคะโนะ (KONO CONO あかり館@雑貨konocono)
ที่นี่เป็นบ้านไม้ญี่ปุ่นโบราณที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมากเลยละ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 80 ปี เลยทีเดียว มีโคมไฟที่ทำจากกระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เรียกว่า "วาชิ" (washi 和紙) มาจากเมืองมิโนะ (Mino City 美濃市) จังหวัดกิฟุ (Gifu) ทำให้ภายในร้านมีแสงสลัวๆที่ดูนุ่มนวลสุดๆเลยละ ถ้าทุกๆร้านค้าในญี่ปุ่นเป็นแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อยเลย ที่นี่มีโคมไฟทุกประเภท ทุกสไตล์ ทุกแบบขายเลยละ และถ้าหากเพื่อนๆอยากจะได้โคมไฟในดีไซน์พิเศษในแบบของตัวเองแล้วละก็ สามารถสั่งพรีออเดอร์ได้เลยสำหรับโคมไฟสุดพิเศษของตัวเอง พวกเราก็ได้ซื้อโคมไฟน่ารักๆสำหรับเปิดตอนกลางคืนมาอันหนึ่งด้วย ถึงแม้จะใช้ไฟแบบอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน แต่ก็ทำให้บ้านดูอบอุ่นสุดๆไปเลยละ
แต่กระดาษที่ใช้ทำโคมไฟนั้น ไม่มีขายที่นี่นะ! แต่ที่นี่ยังมีสินค้าอื่นๆอีกมากมายอย่างเช่น ขนมปังที่อบสดๆใหม่ๆ หรือจะของตกแต่งบ้านทำมือกระจุกกระจิก แม้แต่ภาชนะกับอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการรับประทานอาหารก็มีขายที่นี่ในทุกๆวันเลยละ ส่วนชั้น 2 ของร้านจะเป็นพื้นที่จัดแสดงโคมไฟกระดาษ โดยร้านค้านี้ก็ยังจัดหลักสูตรเป็นครั้งเป็นคราวด้วย อย่างเช่น การคัดลายมือ และโยคะเป็นต้น
🏢6-1324 Ka, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: วันธรรมดา 10:00 ~ 16:00 น.
วันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 13:00 ~ 17:00 น.
ปิดทำการ: ทุกวันอาทิตย์ และวันจันทร์ Every Sunday and Monday
💻เว็บไซต์ทางการ kono cono (ภาษาญี่ปุ่น)
มิเสะกุระ พิพิธภัณฑ์ศิลปะกล้องสลับลาย หรือคาไลโดสโคป (KALEIDOSCOPE GALLERY MISEGURA 万華鏡ギャラリー 見世蔵)
มิเสะกุระ (Misegura) เป็นร้านค้ากล้องสลับลาย หรือคาไลโดสโคป (Kaleidoscope) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1889 โดยร้านค้าจะจัดแสดงผลงานกล้องสลับลายของนักเขียนอันโด่งดังระดับโลก นาคากาว่า (Nakagawa)
พวกเราไม่เคยคิดมาก่อนว่าที่นั่นจะเป็นที่ที่สามารถพบเจอกับกล้องสลับลาย หรือคาไลโดสโคป (Kaleidoscope) ได้มากมายขนาดนั้นในที่ที่เดียว มีหลากสี หลากรูปแบบ หลากสไตล์เลยทีเดียวละ ถ้าหากเพื่อนๆจะไปเยี่ยมชมกันละก็ พวกเรามั่นใจเลยว่าเพื่อนๆจะต้องมีช่วงเวลาที่ดีๆที่นั่นละ
🏢2-101-1, Nagareyama, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: 10:00 ~ 17:00 น. (ปิดทำการทุกวันจันทร์ และอังคาร)
📞โทร: 04-7190-5100
💻เว็บไซต์ทางการ Kaleidoscope Misegura (ภาษาญี่ปุ่น)
มาชิยะ โกะฟุคุยะ (MASHIYA GOFUKUYA ましや呉服屋)
มาชิยะ โกะฟุคุยะ เป็นร้านค้ากิโมโน (Mashiya Gofukuya ましや呉服屋) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
พวกเราได้พบกับผู้ดูแลร้านค้า ที่เป็นรุ่นที่ 6 ที่สืบทอดร้านค้านี้ และยังเป็นผู้ที่ใจดีสุดๆ ทั้งยังอธิบายหลายๆสิ่งหลายๆอย่างเกี่ยวกับการทำกิโมโน และยูกาตะอีกด้วย และเขายังพาพวกเราไปดูผ้ากิโมโนอันทรงคุณค่าที่มีอยู่มากมายเลยละ และยังบอกพวกเราเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญที่ต้องจำเอาไว้ในใจเสมอเมื่อเลือกซื้อกิโมโน โดยคนปกติจะเลือกกิโมโนจากการออกแบบ การดีไซน์ และสีที่พวกเขาชอบกันเท่านั้น แต่มันมีสิ่งที่มีความหมายอย่างมากอยู่เบื้องหลังของการออกแบบ และสีต่างๆ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ก็ได้อธิบายให้พวกเราฟังว่า กิโมโนแบบไหน เหมาะกับเทศกาลไหนที่สุด พร้อมทั้งความหมายของกิโมโนแต่ละแบบด้วย หนึ่งสิ่งที่ทำให้พวกเราต้องตกตะลึงกันก็คือ ส่วนมากในช่วงฤดูร้อน ผู้คนก็มักจะเลือกกิโมโนแบบแฟชั่นของฤดูร้อน ที่มีการออกแบบคล้ายๆกับดอกไม้ไฟ พร้อมกับสีที่สว่างและสดใส แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ "ถูกต้อง" นั้น คือการสวมใส่ให้เหมาะสมกับฤดูกาลละ ดังนั้นเทคนิคการเลือกกิโมโนสำหรับสวมใส่ในฤดูร้อนก็คือ ควรจะเลือกกิโมโนและยูกาตะ ที่มีสีและการออกแบบที่เป็นโทนของฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง ถ้าหากว่าเพื่อนๆไม่ทราบว่าจะใส่แบบไหนถึงจะดี หรือมีไอเดียดีๆในใจแล้วอยากจะได้ละก็ ถามท่านเจ้าของร้านได้เลย เขาต้องช่วยเพื่อนๆเลือกอย่างแน่นอนเลยละ!
นอกเหนือจากกิโมโนแล้ว ร้านค้านี้ก็ยังมีสินค้าเครื่องประดับเกี่ยวกับกิโมโนขายอยู่มากมายหลายประเภทเลยทีเดียว และเนื่องจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของร้านค้านี้แล้ว เพื่อนๆจะสามารถเห็นโบราณวัตถุ หรือสิ่งของแบบเก่าๆได้ในทุกๆที่เลยละ และถ้าหากเพื่อนๆเข้าไปยังหลังร้าน ที่นั่นก็จะมีที่กำบัง ที่เก็บ เอาไว้สำหรับเก็บกิโมโน เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ด้วยละ และในปัจจุบันที่นั่นก็ถูกใช้เป็นเสมือนกับพิพิธภัณฑ์เล็กๆสำหรับโบราณวัตถุแล้ว ดังนั้นอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมกันนะ!
ท่านเจ้าของร้านได้อธิบายเกี่ยวกับลายบนผ้าให้พวกเราฟังละ โดยจะมีทั้งหมด 2 แบบหลักๆสำหรับการดีไซน์ลงบนกิโมโน โดยใช้ตัวต้นแบบที่มี และการเพ้นท์ด้วยมือ โดยที่เห็นอยู่ในรูปข้างต้นนี้คือสไตล์แบบเกียวโตที่เรียกว่า "คาตะ ยูเซน" (Kata Yuzen 型友禅) เป็นเทคนิคการย้อมผ้าแบบญี่ปุ่น โดยย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 15 เลยทีเดียวเชียว ส่วนการใช้ต้นแบบที่เป็นกระดาษสำหรับลงลายนั้น พวกเขาจะทำการผสม "colored glue" (写糊;"utsushi nori") ด้วยการย้อม จากนั้นก็ทำการย้อมตัวผ้า และถ้าหากมีหลายๆสีในผืนเดียวละก็ แต่ละก็ส่วนก็จะมีสีของส่วนนั้นๆเองอยู่ใช่ไหมละ ดังนั้นพวกเขาก็จะทำการย้อมไปทีละส่วนๆเลยทเดียว จากนั้นพวกเขาก็จะทำการเติมขอบสีทองๆลงไป (ที่จะจัดทำโดยการใช้ต้นแบบเช่นกัน) และการออกแบบอื่นๆบนผิวผ้าเพิ่มลงไป และการที่จะทำกิโมโนอย่างในรูปข้างต้นนี้ ต้องใช้ต้นแบบถึง 10 ต้นแบบในการทำเลยทีเดียว แต่ก็มีบางผืนที่ใช้ถึง 100 ต้นแบบเลยก็มี! และยังมีกิโมโนบางผืนที่ออกแบบโดยไม่ใช้ต้นแบบเลย แต่ใช้การวาดและเขียนโดยมือทั้งหมด แต่แน่นอนว่าราคาก็จะสูงมากๆ และเขาก็บอกพวกเราว่า ยิ่งวาดมือ และลงสีด้วยมือมากเท่าไร มันก็ยิ่งยากมากขึ้นๆเรื่อยๆที่จะเข้าถึงกิโมโนนั้นได้ละ
นี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประโยชน์ในการมาท่องเที่ยวที่นางาเรยามะนี้ และถ้าหากเพื่อนๆเคยไปร้านค้าในเกียวโตละก็ พวกเราแทบจะการันตีได้เลยว่า ท่านเจ้าของร้านจะไม่ใช้เวลาเยอะแยะในการนำของออกมาวางๆ และอธิบายสิ่งๆนั้น รวมถึงประวัติศาสตร์ทั้งหมดอย่างเยิ้นเย้อให้เพื่อนๆฟังหรอกนะ
🏢6-1300, Ka, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: 10:00 ~ 19:00 น.
วันปิดทำการ: ทุกๆวันพุธ และวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 3 ของเดือน
📞โทร: 04-7158-1018
💻เว็บไซต์ทางการ Mashiya Gofuku-ya (ภาษาญี่ปุ่น)
ชิมิซึยะ (SHIMIZUYA 清水屋)
ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นในปีที่ 35 ของยุคจักรพรรดิเมจิ (1902) เป็นร้านค้าขนมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีชื่อว่า "ชิมิสึยะ" (Shimizuya 清水屋) ในตอนนี้ก็ดำเนินกิจการถึงรุ่นที่ 5 แล้ว ร้านชิมิสึยะ (Shimizuya) นี้ จะขายขนมที่ทำเองสดๆใหม่ๆทุกวัน และทางท่านเจ้าของร้านนั้นก็ภาคภูมิใจอย่างมากในกิจการการงานของพวกเขา ด้วยประวัติศาสตร์ของร้านที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 115 ปี และมีการปรับปรุงแก้ไขสิ่งในอดีตด้วยรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงเทคนิคต่างๆ โดยพวกเขาจะใช้เครื่องครัวต่างๆในการจัดเตรียม และจัดทำขนมเหล่านี้ขึ้นมา ถ้าหากเพื่อนๆสนใจในขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม อย่างเซ็มเบ้ (หรือขนมข้าวกรอบ) ละก็ อย่าพลาดที่จะแวะร้านนี้นะ!
🏢2-26, Nagareyama, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: เที่ยงตรง ~ 19:00 น.
📞โทร: 04-7158-0140
💻เว็บไซต์ Chiba Prefecture Shimizuya (ภาษาญี่ปุ่น)
มะจิมิน (machimin)
ที่พักผ่อนหย่อนใจ และศูนย์ชุมชนที่มีชื่อว่า "machimin" นี้ มาจากการรวมคำในภาษาญี่ปุ่น จากคำศัพท์ "machi" (まち แปลว่าถนน หรือเมือง) และ "min" (みん เป็นคำย่อจากคำว่า mina (みな) แปลว่า ทุกคน) ฉะนั้นพวกเขาจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ด้วยคอนเซปท์ที่ว่า "สร้างเมืองไปกับทุกๆคน" (Building a town with everyone)
มะจิมินนี้มีกิจกรรมมากมายให้ทำที่โปรโมท และแลกเปลี่ยนความรู้กันกับผู้ที่มาเยี่ยมใหม่ๆ นักท่องเที่ยวใหม่ๆด้วยความเป็นท้องถิ่น และนำความมีชีวิตชีวามาสู่เมืองนางาเรยามะ (Nagareyama) โดยก่อนหน้านี้พวกเราได้กล่าวไปว่านางาเรยามะ (Nagareyama) เป็นที่ที่โด่งดังในเรื่องของมิริน และมิโสะขาว และที่นี่ ที่มะจิมิน (machimin) นี้ ก็ขายขนมหวานที่ใช้มิรินแทนน้ำตาลละ! และเจ้ามาร์ชเมลโล่มิรินของพวกเขานี้ ก็ได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราเคยรู้เกี่ยวกับมาร์ชเมลโล่ทั่วๆไปอย่างสิ้นเชิงเลยละ
☆machimin
🏢1-264, Nagareyama, Nagareyama-shi, Chiba
🌏Google Maps
⏰เวลาทำการ: 10:00 ~ 16:00 น.
💻เว็บไซต์ machimi (ภาษาญี่ปุ่น)
มะจิมิน (machimin) นี้ อยู่ติดกับรถไฟสาย Ryutetsu สถานี Nagareyama Station (流山駅) เป็นสถานีรถไฟเล็กๆที่ยังไม่แม้แต่จะใช้ตั๋วรถไฟแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังคงใช้ตั๋วรถไฟแบบเก่า ที่ยังต้องใช้เครื่องเจาะมาเจาะตั๋วรถไฟ ดังนั้นถ้าหากเพื่อนๆเลือกที่จะโดยสารรถไฟสายนี้แล้วละก็ เพื่อนๆก็จะได้รับประสบการณ์ที่จะเห็นความเป็นชานเมืองมากยิ่งขึ้นไปอีกละ
และทั้งหมดในข้างต้นนี้ก็คือ 8 สถานที่ที่เลือกมาโดย JAPANKURU ให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวแนะนำสำหรับเมืองนางาเรยามะ (Nagareyama City) มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้เวลากับตัวเองสักช่วงเวลาหนึ่งเพื่อที่จะเดินทางตะลอนๆไปเรื่อยๆ และเพลิดเพลินไปกับความอบอุ่น และเสน่ห์ของสถานที่แบบนี้ แน่นอนว่าสถานที่แบบข้างต้นนี้อาจจะหาได้ในโตเกียว หรือเกียวโต แต่พวกเราการันตีเลยว่าที่เหล่านั้นไม่มีปัจจัยแบบพิเศษๆ และเพื่อนๆจะไม่ได้เห็นความรักและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างในเมืองเล็กอย่างนางาเรยามะ (Nagareyama) นี้ที่มีให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอนเลยละ
จะเดินทางไปยังนางาเรยามะ (Nagareyama) ได้อย่างไร? มีสองทางหลักๆดังนี้:
1. สายรถไฟ Ryutetsu (รถไฟท้องถิ่นของนางาเรยามะ) – การจะใช้บริการ Ryutetsu นี้ เพื่อนๆจะต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Mabashi Station (馬橋駅) เสียก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถไฟตรงดิ่งมายังสถานี Nagareyama ได้เลย
2. TX Tsukuba Express (รถไฟฟ้าใต้ดิน) – TX Tsukuba Express เป็นเส้นทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการเดินทางมาที่นี่ เพียงแค่ขึ้นตรงสถานี TX ที่ไหนก็ได้ (อะซากุสะ, อะกิฮาบาระ และอื่นๆอีกมากมาย) และมาลงที่สถานี Nagareyama-otakanomori ได้เลย
สำหรับหัวข้อที่น่าสนใจเพิ่มเติม
อย่าลืมติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆทุกวันของพวกเราได้ที่ JAPANKURU🐶
หรือเพิ่มพวกเราบน Google+, Instagram, Facebook และแบ่งปันรูปภาพสไตล์ญี่ปุ่นของคุณกัน 💖🗾
Details
NAME:Nagareyama (流山市)
MAP
ACCESS:สถานี Nagareyama
COMMENT
FEATURED MEDIA
VIEW MORETokyo Shopping Spot Recommendation: New Balance Kichijoji #newbalance #newbalancekichijoji #newbalancejapan #japanesesneakerheads #shoppinginjapan #japantrip #도쿄여행 #도쿄쇼핑 #뉴발란스 #일본한정 #일본패션 #日本購物 #日本買衣服 #NB #日本時尚 #東京購物 #รองเท้าnewbalance #นิวบาลานซ์ #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #คิจิโจจิ #japankuru
See Kyoto Clearly With Your New Glasses #japankuru #kyoto #jins #교토여행 #진즈 #京都 #교토수족관 #가모가와 #kamogawa #kyotoaquarium
The First Japanese Converse Flagship: CONVERSE STORE HARAJUKU #japankkuru #conversejp_pr #conversejapan #harajuku #tokyotrip #converse #tokyoshopping #匡威 #帆布鞋 #東京購物 #原宿 #日本時尚 #일본쇼핑 #일본컨버스 #일본한정 #하라주쿠 #일본패션 #일본스트릿 #รองเท้าconverse #รองเท้าผ้าใบ #ช้อปปิ้ง #ฮาราจูกุ #คอนเวิร์ส
Japanese Makeup Shopping • A Trip to Kamakura & Enoshima With Canmake’s Cool-Toned Summer Makeup #pr #canmake #enoshima #enoden #에노시마 #캔메이크 #japanesemakeup #japanesecosmetics
⚔️The Robot Restaurant is gone, but the Samurai Restaurant is here to take its place. Check it out, and don't forget your coupon! 🍣신주쿠의 명소 로봇 레스토랑이 사무라이 레스토랑으로 부활! 절찬 쿠폰 발급중 💃18歲以上才能入場的歌舞秀,和你想的不一樣!拿好優惠券去看看~ #tokyo #shinjuku #samurairestaurant #robotrestaurant #tokyotrip #도쿄여행 #신주쿠 #사무라이레스토랑 #이색체험 #할인이벤트 #歌舞伎町 #東京景點 #武士餐廳 #日本表演 #日本文化體驗 #japankuru #japantrip #japantravel #japanlovers #japan_of_insta
Japanese appliance & electronics shopping with our KOJIMA x BicCamera coupon! 用JAPANKURU的KOJIMA x BicCamera優惠券買這些正好❤️ 코지마 x 빅 카메라 쿠폰으로 일본 가전 제품 쇼핑하기 #pr #japankuru #japanshopping #kojima #biccamera #japaneseskincare #yaman #dji #osmopocket3 #skincaredevice #日本購物 #美容儀 #相機 #雅萌 #日本家電 #일본여행 #면세 #여행꿀팁 #일본쇼핑리스트 #쿠폰 #일본쇼핑 #일본브랜드 #할인 #코지마 #빅카메라 #japankurucoupon
Odaiba's DiverCity Tokyo Plaza is home to the famous real-size 20m-tall Unicorn Gundam, and the popular shopping center has even more Gundam on the inside! Check out the Gundam Base Tokyo on the 7th floor for shelves upon shelves of Gunpla, and the Gundam Base Tokyo Annex on the 2nd floor for cool anime merchandise. Both shops have tons of limited-edition items! #pr #odaiba #tokyo #tokyotrip #japantrip #japantravel #PR #divercity #divercitytokyoplaza #tokyoshopping #gundam #unicorngundam #gundambasetokyo #anime #otaku #gunpla #japankuru #오다이바 #다이바시티도쿄 #오다이바건담 #건담 #일본건담 #건프라 #건담베이스도쿄