Sponsored

ทริคน่ารู้ก่อนเที่ยวญี่ปุ่น

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line
สิ่งแรกๆที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเที่ยวญี่ปุ่น? อะไรคือสิ่งที่ต้องเตรียมมา? หรือว่าที่ญี่ปุ่นจะมีอะไรที่ต้องเจอบ้าง?

ญี่ปุ่นเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และเป็นระเบียบมากๆ แต่ก็ยังมีด้านที่แปลกและต้องระวัง
นอกจากกำแพงด้านภาษาที่ทุกคนรู้กันอยู่ สิ่งที่เราจะบอกต่อไป คือสิ่งที่อยากแนะนำก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่น!



1. วันหยุดราชกาล



เหมือนกับทุกๆประเทศ คนจะเที่ยวกันในช่วงวันหยุด
ถ้ามาในช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสทั้งเทศกาลและคนท้องถิ่น

แต่สิ่งที่ต้องระวังคือราคาที่พักและค่าตั๋วเครื่องบิน
ที่จะพุ่งสูง รวมถึงจำนวนคนที่เยอะมากๆในที่ท่องเที่ยว

โดยญี่ปุ่นจะมี 3 วันหยุดใหญ่ๆ ท้ายปี วันปีใหม่
ต้นม.ย.-ปลายพ.ค. และช่วงส.ค.

✴New Year's (お正月):
วันปีใหม่ญี่ปุ่นจะเริ่มหยุดตั้งแต่
วันที่29 ธ.ค.-3 ม.ค.และเป็นเรื่องปกติ
ที่บริษัทจะหยุดในอาทิตย์แรกของม.ค.
เป็นวันหยุดยาว 5-10 วัน
 

✴Golden Week (ゴールデンウイーク): โกลเด้นวีค เป็นการรวมวันหยุด 4 วันเข้าด้วยกันจนเป็นวันหยุดยาว
ปกติจะเริ่มช่วง 29 ม.ย.(Showa Day(昭和の日)) – 5 พ.ค. (Children's Day (子供の日)) แต่ในปี 2019
จะเป็นวันที่สมเด็จพระจักรพรรดิสละราชสมบัติ ทำให้โกลเด้นวีคปีนี้หยุด 10 วัน (27 ม.ย.-6พ.ค.)

✴Obon (お盆): วันไหว้บรรพบุรุษ หรือชื่อเล่น Silver Week โอบ้งจะรวมวันหยุด 3 วันเข้าด้วยกันในช่วงกลางเดือนส.ค. 

—————————————————————————————————————-

2. เทศกาล

มีเทศกาลมากมายในญี่ปุ่น ที่นี่จะเรียกว่ามัตซึริ อย่างเช่น เทศกาลชมดอกไม้(花見;Hanami)
หรืองานหิมะที่ซัปโปโร (雪まつり; yuki matsuri) หลายๆเทศกาลจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล

แต่ในช่วงหน้าร้อนจะมีเทศกาลให้เห็นมากกว่าเช่น  การแบกเกี๊ยว (mikoshi) หรือการเต้นระบำท้องถิ่น
ต่อจากนี้เราจะแนะนำเทศกาลคร่าวๆในแต่ละเดือนที่น่าสนใจ เป็นทางเลือกในการมาเที่ยวให้คุณ



มกราคม:  Hatsumode งานศาลเจ้าแรกของปี (初詣)
                 การทักทายของพระจักพรรดิ
                 ช้อปปิ้งถุงโชคดี (福袋; fuku bukuro)
                 Miyoshi Bondensai (三吉梵天祭)
                 Nozawa Fire Festival (道祖神火祭り)
                 เทศกาลโคมไฟ Nagasaki (長崎提灯祭り)
                 Sumo Tournaments ที่โตเกียว

กุมภาพันธุ์: เทศกาลหิมะ Sapporo (さっぽろ雪まつり)
                  เทศกาลฤดูหนาว Asahikawa (旭川冬まつり)
                  Setsubun ปาถั่วไล่ยักษ์ (節分)
                  ชมดอกบ๊วย (梅)

มีนาคม: วันเด็กผู้หญิง (ひな祭り)
               Daruma Festival (だるま祭り)
               ชมดอกบ๊วย (梅)
               Omizutori (お水取り)
               Sumo Tournaments ที่โอซาก้า



เมษายน: Kanamara Festival (かなまら祭り)
                 เทศกาลชมซากุระ (花見; hanami)
                 Takayama Festival (高山祭)
                 Onbashira Festival (式年造営御柱大祭)
                 Beppu Hot Spring Festival
                 (別府八湯温泉まつり)

พฤษภาคม: Hakata Dontaku (博多どんたく)
                    Aoi Matsuri (葵祭り)
                    Kawachi Fujien Wisteria (河内藤園)

มิถุนายน: ชมดอกไฮเดรนเยีย (あじさい祭り)
                 ชมหิ่งห้อย (蛍祭り)
                 Sanno Festival (山王祭り)



กรกฏาคม: ดอกไม้ไฟ (花火大会)
                    วัน Tanabata (七夕まつり)
                    Obon (お盆)
                    Gion Festival (祇園祭)
                    Mitama Festival (みたままつり)
                    Tenjin Festival (天神祭)
                    Sumo Tournaments ที่นาโกย่า

สิงหาคม: Iwamori Nebuta Festival (ねぶた祭)
                 Sendai Tanabata Festival (七夕まつり)
                 Kyoto Gozan no Okuribi (五山送り火)
                 Tokyo Koenji Awa Odori
                  (高円寺阿波おどり)
                 Tokyo Harajuku
                 Omotesando Super Yosakoi
                 (原宿表参道元氣祭 スーパーよさこいl)
                 Hachioji Festival (八王子祭り)

กันยายน: Meguro Kumin Matsuri
                 (目黒のSUNまつり)



ตุลาคม: Nagasaki Kunchi (長崎くんち)
               Tokyo Honmonji (御会式)
               ใบไม้เปลี่ยนสี (秋季祭)

พฤศจิกายน: Jingu Gaien Ginkgo Festival
                      (明治神宮外苑いちょう祭り)
                     Shichi-go-san (七五三)
                     Sumo Tournaments ที่ฟุกุโอกะ

ธันวาคม: Illuminations
               Kasuga Wakamiya Festival
                (春日若宮おん祭)
               Namahage (なまはげ)

3. สถานที่ห้ามพลาด

———————————————————————————————————————–

กับลิสต์สถานที่น่าเที่ยวในญี่ปุ่น

・โตเกียว: Japanese Imperial Palace, Meiji Shrine, Tokyo Tower, Tokyo Skytree, Toyosu Market, Kabukiza 

・ฮอกไกโด: Sapporo Beer Museum, Nikka Whisky Yoichi Distillery, Otaru Canal

Tohoku: Hiraizumi, Zao Fox Village, Ginzan Onsen

・คันโต: Kawagoe, Hakone, Kamakura, Cup Ramen Museum, Kusatsu Onsen

・ชูบุ: Mt. Fuji, Suntory Hakushu Whisky Distillery, Nagoya Castle, Matsumoto Castle

・คันไซ: Kyoto, Osaka Castle, Dotonbori, Universal Studios Japan

・ชิโกกุ/ชูโกกุ: Dogo Onsen, Matsuyama Castle, Mount TsurugiPilgrimage destinations, 88 temple pilgrimage routes, Itsukushima Shrine

・คิวชู: Dazaifu Tenmangu Shrine, Sakurajima, Kumamoto Castle, Gunkanjima (Hashima Island)

・โอกินาว่า: Okinawa Churaumi Aquarium, Toyosaki Beach in Emerald Sea, Murasaki Mura Ryukyu Kingdom, Orion Happy Park

 

4. เปิดโรมมิ่ง? Prepaid SIM Card? Pocket Wifi? ใช้อะไรดี



ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น มีFree-wifi แทบจะทั่วพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม
การเที่ยวต่างประเทศก็ควรมีเน็ตติดเครื่องไว้ โดยตัวเลือก
ก็จะมี SIM Cards และ Pocket Wi-Fi

—————————————————————————————————-
Pre-Paid SIM Card
ทางเลือกที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะซื้อที่ประเทศของคุณ หรือจะมาซื้อที่สนามบิน
นอกจากนั้นแพ็คเกตก็ยืดหยุ่น สามารถเลือกความเร็วได้หลากหลาย และซิมส่วนมาก
จะเป็นของ DoCoMo ซึ่งเป็นผู้บริการรายใหญ่ของญี่ปุ่น

ข้อดี: +สามารถใช้เล่น Skype, Facebook, FaceTime, และ Google Maps
         +ตั้งค่าง่าย ใช้งานง่าย

ข้อเสีย: ค่อนข้างกินแบต
           –ต้องยอมเอาซิมเบอร์เดิมออกไปก่อน

—————————————————————————————————-

Pocket Wi-Fi
Pocket Wi-Fi เหมาะสำหรับเพื่อนหรือครอบครัวที่มาเที่ยวกลุ่มใหญ่
แต่เน็ตอาจหมดไวได้ถ้าไม่ระวัง

ข้อดี: +ครอบคลุมหลายพื้นที่
         +ใช้งานง่าย
         +เชืื่อมได้หลายเครื่องพร้อมกัน

ข้อเสีย: ต้องพกเครื่องไปด้วย
           –ต้องชาร์ทแบต
           –ต้องคืนเครื่องหลังเที่ยวเสร็จ
            –บางพื้นที่อาจไม่มีสัญญาณ
—————————————————————————————————-

5. เที่ยวด้วยรถไฟหรือรถบัส

ปกติรถไฟฟ้าจะค่อนข้างครอบคลุมพื้นที่่ในญี่ปุ่น ในเมืองใหญ่ขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่เป็นปัญหา
แต่ถ้าที่ต่างจังหวัดหรือบางพื้นที่ก็อาจจะต้องใช้รถบัส

การขึ้นรถไฟญี่ปุ่นไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องทำความเข้าใจเส้นทางเล็กน้อย เพราะรถไฟในประเทศมีมากถึง 55 สาย
ควรโหลดแอปรถถไฟมาใช้เช่นแอปรถไฟ Metro แอปHyperDia หรือหาแผนที่ภาษาอังกฤษมาเก็บไว้กับตัว

ส่วนตั๋วอีกแบบคือ rail passes ที่ถูกแพงไม่เท่ากัน ตามแต่ละเส้นทางและบริษัท 

Japan Public Transportation Pass
Japan Rail Pass: ถ้าอยู่ในโตเกียวคงจะไม่คุ้มค่าเท่าไร แต่ถ้าออกนอกเมืองถึงจะคุ้ม เช่น ตั๋ว 7 วัน
ควรไปทริปโตเกียว-เกียวโต หรือตั๋ว 14 วัน ควรจะไปโอซาก้า ฮิโรชิม่า นอกจากนี้ยังมีเว็บคำนวณ JR Pass calculators 
เพื่อดูความคุ้มค่าของตั๋วและทริป โดยตั๋วนี้จะสามารถใช้รถไฟJR ทุกเที่ยวรวมถึงชินคันเซ็น(ยกเว้น Nozomi และ Mizuho)
รถบัสJR (ยกเว้น Raku busในเกียวโต) และเรือJRเฟอรี่ไป Miyajima

Tokyo Metro Ticket: ตั๋วราคาถูก สามารถเลือกเวลาได้ 24 48 72 ชั่วโมง สามารถใช้รถไฟ Tokyo Metro และ Toei Subway ก่อนซื้อจึงควรเช็คเส้นทางก่อนว่าอยู่ในสองเงื่อนไขนี้หรือไม่

Suica และ PASMO: เหมาะสำหรับผู้ท่องเที่ยวในโตเกียว ลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการซื้อตั๋ว เพียงแค่ซื้อบัตร

ตั๋วรถไฟแบบต่างๆ
ในเมืองต่างๆ มีบัตร 1 วันต่างๆมากมาย ที่จะทำให้คุณขึ้นได้ไม่จำกัดรอบ

Hiroshima: 1 Day Streetcar Pass
– 600 เยน (เด็ก 300 เยน) หรือ 1 Day Streetcar and Ferry – 840 เยน (เด็ก 420 เยน)

Osaka: Osaka Amazing Pass
 – 1 day pass 2500 เยน หรือ 2 day pass 3300 เยน

Kyoto: Kyoto Bus One-Day Pass 600 เยน (เด็ก 300 เยน)

Nagasaki: One-Day Bus Pass – 500 เยน (เด็ก 250 เยน)
   หรือ One-Day Streetcar Pass 500 เยน (เด็ก 250 เยน)

6. ข้อควรจำกับแท็กซี่



แท็กซี่ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องราคา แต่ว่าบางครั้งก็อาจจะต้องใช้บริการ ไม่ว่าจะตกรถไฟเที่ยวสุดท้าย สัมภาระที่เยอะมากไป
โดยปกติแท็กซี่ราคาจะเริ่มที่ 730 เยน (2กิโลแรก) และต่อไปจะลดค่าโดยสารเป็น 410 เยน 

・เรียกแท็กซี่: สามารถโบกรถได้ปกติ รถว่าง = 空車 ถ้าเห็น 迎車 หรือ 貸切 แปลว่ารถไม่ว่างหรือถูกจอง

・ประตูอัตโนมัติ: รถจะมีประตูหลังอัตโนมัติ ดังนั้นไม่ต้องปิดประตูตอนลง

・กำแพงภาษา: ส่วนใหญ่คนขับรถพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ควรเปิด Google maps แล้วให้คนขับดู

・เก็บกระเป๋า: บอกคนขับให้เปิดท้ายรถ เพื่อเก็บสัมภาระได้
 

7. ร้านบุฟเฟ่ต์ Tabe-hodai (食べ放題)/Nomi-hodai (飲み放題)



ในญี่ปุ่นร้านบุฟเฟ่ต์จะถูกเรียกต่อท้ายด้วย houdai ที่จะให้คุณเต็มอิ่มกับการดื่มและอาหารใน 90 นาที

・Tabehoudai (食べ放題): บุฟเฟ่ต์ปกติ ทานเท่าไรก็ได้ในเมนูของทางร้าน ส่วนมากจะเป็น เนื้อย่าง ไก่ย่าง
หรือชาบู และบุฟเฟ่ต์ขนมหวานหรือเค้กต่างๆ

・Nomihoudai (飲み放題): บุฟเฟ่ต์น้ำ ที่อาจจะเป็นแอลกอฮอล์หรือไม่มีแอลกอฮอล์ในเวลาจำกัด

8. ร้านอิซากายะ

————————————————————————————————————

ร้านเหล้าพร้อมกับแกล้ม ส่วนมากจะเสิร์ฟสาเก เหล้า แอลกอฮอลล์ พร้อมอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ มักเปิดเย็น-เที่ยงคืน หรือเช้าวันใหม่

・สั่งอาหาร: ร้านส่วนใหญ่ไม่มีพนักงานประจำโต๊ะ ดังนั้นจะสั่งของจำเป็นต้องยกมือเรียกพนักงานด้วยการพูด sumimasen
หรือถ้ามีปุ่มกดเรียกพนักงานอยู่ที่โต๊ะก็สามารถกดสั่งได้ ส่วนใหญ่อาจจะมีเมนูภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น

・Otoshi: ส่วนมากร้านอิซากายะจะเก็บค่า otoshi(お通し) เป็นค่าโต๊ะแต่ส่วนมากจะเก็บในรูปแบบ
อาหารเรียกน้ำย่อยจานเล็กๆ โดยค่าโต๊ะจะอยู่ที่ 500-700เยน ส่วนมากจะไม่บอกด้วยว่าเก็บค่าโต๊ะ

・จ่ายเงิน: ส่วนมากร้านอิซากายะจะไม่แยกบิล และไม่รับเครดิตการ์ด เพราะฉะนั้นต้องคอยระวัง

9. เช็คลิสก่อนไปสนามบิน



เช็คก่อนบิน ห้ามลืม!

สิ่งจำเป็น
☑ พาสปอร์ต
☑ Visa (ถ้าจำเป็น)
☑ ตั๋วเครื่องบิน (electronic ticket)
☑ เงินเยน
☑ ที่อยู่โรแรม (to write on immigration sheet)
☑ หัวแปลงไฟ (ญี่ปุ่นใช้ไฟ 100V  plug Type A/B )
☑ เสื้อผ้า (เสื้อผ้าในแต่ละฤดูจาก JTB travel agency)
☑ ยาประจำตัว

เพิ่มเติม
・สำเนาพาสปอร์ต
・สำเนาตั๋วเครื่องบิน
・แอปแปลภาษา
・พาวเวอร์แบงค์
・ยาล้างมือ
・ผ้าเช็ดมือ

———————————————————————————————————

10. เงินสดหรือบัตรเครดิต?

ควรเอาเงินไปเท่าไรดี ถ้าเงินหมดจะไปกดได้ที่ไหน สำหรับจำนวนเงินควรดูแผนการเที่ยวของคุณ
เช็คค่าตั๋ว ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว หรือค่าเดินทาง และเผื่อค่าช้อปปิ้งเอาไว้

รูดบัตรเครดิตในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่ ร้านที่รับบัตรส่วนมากจะเป็นห้างหรือร้านอาหารบางแห่ง
เพราะฉะนั้นควรเตรียมเงินสดให้พอ

ถอนเงินจากธนาคาร
ถ้าเงินหมดแล้วอยากกดเงินจากธนาคาร
① ATM ที่ 7/11 (ATM เจ้าอื่นกดไม่ได้)
② Japan Post Office Bank ATM (Japan Post Bank ATM )

แลกเงินในญี่ปุ่น
3 ที่ที่สามารถแลกเงินในญี่ปุ่น
① DAIKOKUYA (大黒屋) – เรทดีที่สุด
② Travelex
③ ธนาคารญีปุ่น (Tokyo-Mitsubishi UFJ, SMBC Trust Bank, Mizuho Bank)

—————————————————————————————————————

11. ยาต่างๆเข้าญี่ปุ่น

ยาสามรถนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ แต่บางตัวยาก็ไม่สามารถนำเข้าได้ เพราะฉะะนั้นตรวจสอบให้ดีก่อน 

ยาสามัญประจำบ้าน
ส่วนมากยาทั่วไปจะสามารถนำเข้าญี่ปุ่นได้โดย ปริมาณไม่เกิน 2 เดือนและยาที่มีส่วนผสม เหล่านี้ห้ามนำเข้าตามกฏหมาย
ถ้าจะนำยาเข้ามาเกิน 2 เดือนต้องกรอกใบ Yakkan Shoumei ก่อนบินเข้าญี่ปุ่น

ยาตามใบสั่งแพทย์
ยาตามใบสั่งแพทย์สามารถนำมาปริมาณไม่เกิน 1 เดือน ถ้านำมาเกินก็ต้องกรอกใบ Yakkan Shoumei เหมือนกัน
และควรนำใบสั่งยา หรือสำเนาใบสั่งยาติดมาด้วย ถ้ามีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้อาจจะต้องโดนตรวจที่ด่าน

ยาอย่าง Adderall ไม่อนุญาตให้นำเข้าประเทศญี่ปุ่น
เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางอย่าลืมเช็คลิสต์ยาที่ Ministry of Health, Labour and Welfare 

—————————————————————————————————————-

12. จากโรงแรมไปสนามบิน

ขึ้นอยู่กับสนามบินที่คุณต้องไป แต่เราจะยกตัวอย่างสนามบินนาริตะ และสนามบินฮาเนดะ
 



สนามบินนาริตะ
JR Narita Express (EX): ประมาณ 3000 เยน เชื่อมกับสถานี JR ต่างๆ
Keisei Skylinerประมาณ 2465 เยน ไปที่สถานี Nippori และ สถานี Ueno 
③ Keisei Limited Express: 1190 เยน จากสถานี Nippori
    ถูกสุดแต่ก็ใช้เวลานานที่สุด
Bus: มีบัตรหลายสายที่ใช้เดินทางได้ ในโตเกียวราคาจะอยู่ที่ 900-3200 เยน
 
ไม่ควรขึ้นแท็กซี่ยกเว้นจำเป็น ไปสานามบินราคาจะอยู่ประมาณ 20,000 เยน 

สนามบินฮาเนดะ
① Tokyo Monorail: 483 เยน  ขึ้นจากสถานี Hamamatsucho 
② Keikyu Line: 407 เยน ขึ้นจากสานี Shinagawa 
Bus: เหมือนกับสนามบินนาริตะ ขึ้นได้หลายสาย เช่น Keikyu Bus ที่ไปหลายๆที่ในโตเกียว
   การไปฮาเนดะการเดินทางจะจำกัดกว่า ถ้ารู้สายรถบัสก็เป็นการประหยัดเวลาได้
 

ทริคต้องรู้ในญี่ปุ่นใหม่ๆ จะมาเร็วๆนี้!!

ติดตามเราได้ที่ JAPANKURU🐶 สำหรับบทความดีๆในทุกๆวัน!!

หรือเพิ่มเราเป็นเพื่อนได้ที่ Instagram และ Facebook มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆกัน💖🗾

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 
>> Find out more at Japankuru.com! (link in bio)
#🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

What are your plans for cherry blossom season this year? Have you seen all of our favorite cherry blossom destinations yet? 👀 🌸 >> Find out more at Japankuru.com! (link in bio) #🌸 #tokyo #tokyotrip #osaka #osakatrip #nagoya #nagoyatrip #cherryblossom #cherryblossoms #cherryblossomseason #sakura #sakuraseason #japancherryblossom #springinjapan #tokyotravel #japanspring #japaneseculture #japantrip #Japan #japantravel #traveljapan #japankuru

1|9

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS