Sponsored

[ปลาโจบัง-โมโน คืออะไรกันนะ?] พาร์ท 8 การดูแลรักษา \”โจบังโมโน\” ให้มั่นคงและปลอดภัย

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

สถาบันวิจัยทรัพยากรประมง ประจำจังหวัดฟุกุชิมะเป็นสถานที่ที่มีเป้าหมายในในการสนับสนุนการประมงในท้องถิ่นด้วยการวิจัยและการเลี้ยงสัตว์ทะเลไปพร้อมๆกัน

ความยั่งยืนของโจบังโมโน

บริเวณมหาสมุทรนอกชายฝั่งฟุกุชิมะหรือ "ทะเลชิโอเมะ" (潮目の海) เป็นจุดเชื่อมต่อของกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นในมหาสมุทรที่มีสภาพแวดล้อมอันสมบูรณ์ เหมาะแก่การเจริญเติบโตของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะโจบังโมโน อาหารทะเลคุณภาพดีของฟุกุชิมะ อุตสาหกรรมการประมงของฟุกุชิมะยังคงกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในปี 2011 และในปัจจุบันการประมงในเมืองชายฝั่งทั้งอิวากิและโซมะกำลังสร้างขึ้นใหม่อย่างช้าๆ และปลาโจบังโมโน อาหารทะเลที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวบ้าน ที่พวกเขาหวังว่าจะอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป



ตลาดอาหารทะเลแปรรูปอิโซเบะ (Isobe Marine Processing Facility Market)

เพียงแค่มองเข้าไปในตลาดแปรรูปอาหารทะเลอิโซเบะก็จะเห็นถึงความหลากหลายของโจบังโมโน และเห็นได้ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับผู้คนในฟุกุชิมะ ตลาดปลาแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เรือประมงของโซมะจับปลาขึ้นมาตอนเช้า เพื่อทำการประมูล ปลาที่จับขึ้นมาได้สดๆวางเรียงบนชั้นและตู้แช่ ทั้งปลา หอย หมึกยักษ์ ปลาทูน่ากระป๋อง และอีกมากมาย ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากลานจอดรถ



หมึกยักษ์ที่ตลาดปลา



หอยปีกนกต้ม ที่ผ่านการทดสอบแล้ว ณ ตลาดปลา

เมื่อดูที่แพคเกจของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแบบใกล้ๆ จะเห็นว่ามีสติ๊กเกอร์ระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัยจากรังสี ซึ่งบทความก่อนหน้านี้เราได้มีการพูดถึงวิธีการทดสอบ การตรวจสอบรังสีก่อนที่โจบังโมโนจะออกสู่ตลาด ในบทความพาร์ทที่ 6 ของซีรี่ย์โจบังโมโน แต่การทำงานอย่างหนักของนักวิจัยในพื้นที่ และชาวประมงไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ผู้คนในบริเวณชายฝั่งฮามะ – โดริของฟุกุชิมะนั้นอยากให้วัฒนธรรมการจับปลาในท้องถิ่นคงอยู่ต่อไป

ซึ่งเมื่อพูดถึงนโยบายเชิงปฏิบัติของผู้นำท้องถิ่น คุณ Mitsunori Suzuki รองประธานสมาคมสหกรณ์การประมงอิวากิกล่าวว่า พวกเขากำลังใช้ช่วงเวลาในการฟื้นฟูนี้เพื่อ "ปรับแนวทางการปฏิบัติ และรักษาทรัพยากรในท้องถิ่น" นอกจากนี้ยังมีมีงานวิจัยของสถาบันวิจัยทรัพยากรประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะ ที่ใช้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนโยบายใหม่ๆ และช่วยเหลืออุตสาหกรรมไปพร้อมกัน

การค้นคว้าวิจัยที่สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะ



สถาบันวิจัยการประมงจังหวัดฟุกุชิมะ

คุณ Toru Sakuma รองผู้อำนวยการ ได้กล่าวว่าสถาบันวิจัยการประมงจังหวัดฟุกุชิมะ มีวัตถุประสงค์หลักสองประการ ประการแรก เป็นสถาบันศึกษาการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ชายฝั่งน้ำตื้นนอกฟุกุชิมะ โดยพิจารณาถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและระบบนิเวศโดยทั่วไปของสิ่งมีชีวิตในทะเลที่อาศัยอยู่ในน้ำตื้น และตรวจสอบว่าอุตสาหกรรมการประมงของฟุกุชิมะจะสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืนในอนาคตได้อย่างไร ประการที่สอง เป็นสถาบันวิจัยทรัพยากรการประมง นำการวิจัยทางนิเวศวิทยาทั้งหมดไปใช้สร้างสภาพธรรมชาติขึ้นใหม่ เพื่อให้สถาบันสามารถมีส่วนร่วมในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือการเลี้ยงปลา



ถังสำหรับการวิจัยรังสี

เป้าหมายเหล่านี้และตัวสถาบันวิจัยเพาะปลาแห่งจังหวัดฟุกุชิมะเองนั้นไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะพวกเขาได้สำรวจวิธีการรักษาและปรับปรุงทรัพยากรประมงของฟุกุชิมะมาตั้งแต่สถาบันก่อตั้งเมื่อปี 1983 และเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาอาคารของสถาบันที่ตั้งอยู่ติดกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำอุ่นของโรงงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัย หลังจากเกิดภัยพิบัติในปี 2011 ก็ได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารของสถาบัน จนกระทั่งปี 2018 ก็ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นใหม่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางเหนือเล็กน้อยตามแนวชายฝั่งของฟุกุชิมะ และในปัจจุบันสถาบันวิจัยทรัพยากรการประมงก็ยังคงดำเนินการตามวัตถุประสงค์หลักทั้งสองนี้ ซึ่งการระเบิดของนิวเคลียร์ในปี 2011 นั้นได้นำความท้าทายใหม่ ๆ มาให้พวกเขาได้ทำงานกันต่อไป



ปลาตาเดียว หนึ่งในปลาที่ใช้ทดลองในสถาบันวิจัย

สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะ มุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรและการเลี้ยงปลา ในฟุกุชิมะการทำความเข้าใจผลกระทบของรังสีที่มีต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลในท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญของงานวิจัยนี้ ในการเดินทางไปยังสถาบันวิจัยในโซมะทีม Japankuru ได้มุ่งตรงไปที่อาคารวิจัยที่มีลักษณะเหมือนโกดัง ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานและห้องปฏิบัติการ เพื่อดูงานวิจัยด้วยตัวเราเอง ภายในห้องวิจัยแห่งนี้ มีถังหลายรูปร่างและหลายขนาด เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ที่ใช้ในการวิจัย

การทดลองที่เราสนใจมากที่สุดก็คือ บริเวณของถังที่มีปลาตาเดียวอยู่ ในการศึกษานี้ปลาตาเดียวทำหน้าที่เป็นตัวแทนของปลา flatfish ในบริเวณชายฝั่งของฟุกุชิมะ การวิจัยนี้จึงมีความสำคัญ เนื่องจากปลาตาเดียวเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมการประมงของฟุกุชิมะ แต่เนื่องจากว่าพวกมันใช้ชีวิตอยู่บนพื้นทะเลที่ซึ่งเป็นทรายและมีสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ ทำให้เป็นสิ่งที่น่ากังวลมากขึ้น ที่สถาบันพวกเขาให้อาหารปลาตาเดียวด้วยอาหารปลาที่มีปริมาณกัมมันตภาพรังสีซีเซียม -137 เป็นเวลา 25 วัน ก่อนที่จะเปลี่ยนปลาครึ่งหนึ่งเป็นอาหารที่ไม่มีกัมมันตภาพรังสี และวัดระดับรังสีในปลากลุ่มต่างๆ ตลอดการทดลองจะมีการตรวจสอบและคัดกรองการทดสอบทางรังสีกับปลาที่จับได้ตามธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าปลาที่จับได้ในฟุกุชิมะจะไม่ถูกส่งต่อให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ตามงานวิจัยนี้ทำให้เราได้เห็นถึงผลกระทบของภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา และสารกัมมันตรังสีที่เหลืออยู่อาจส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลได้อย่างไร ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่มากขึ้นเพื่อให้โจบังโมโนมีความปลอดภัยมากขึ้น



การวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำทะเลและพื้นทะเลในท้องถิ่น

การสร้างโจบังโมโนรุ่นใหม่



ปลาตาเดียว

การวิจัยในห้องปฏิบัติการและการทดลองที่ทำที่สถาบันวิจัยทรัพยากรการประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะนั้นมีความสำคัญ แต่เมื่อพิจารณาถึงขนาด สิ่งที่สถาบันทำส่วนใหญ่นั้นก็คือการเลี้ยงปลา การประมงพื้นบ้านมีความพยายามในการขยายพันธุ์อย่างยั่งยืนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้ เพื่อสนับสนุนความพยายามดังกล่าว สถาบันได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชากรปลาในท้องถิ่นโดยการเลี้ยงปลาท้องแบน (ปลาตาเดียว) ในท้องถิ่นตั้งแต่เป็นไข่ จากนั้นปล่อยลงสู่ทะเล เพื่อให้เติบโตแบบธรรมชาติ เมื่อเราถามถึงความสำเร็จของสถาบัน รองผู้อำนวยการ Sakuma ยิ้มและกล่าวถึงความภาคภูมิใจของเขาที่มีต่อโครงการนี้ว่า มีความก้าวหน้าขึ้น ตั้งแต่ช่วงที่เขาดูแลปลาตัวด้วยความรักความเอาใจใส่ ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้ฉลองความสำเร็จในความพยายามในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และปล่อยปลาตาเดียวญี่ปุ่น 10,000 ตัวสู่น่านน้ำนอกชายฝั่งฟุกุชิมะ ตอนนี้สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะ ปล่อยปลาตาเดียวประมาณ 80,000 ตัวต่อปี และพวกเขาก็กำลังเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อด้วยเช่นกัน



ถังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ว่างเปล่าในช่วงนอกฤดู

ปลาตาเดียวญี่ปุ่นที่สถาบันเริ่มออกไข่และเมื่อฟักออกเป็นตัว พวกเขาใช้เวลาช่วงแรก ๆ ว่ายน้ำในถังขนาดมหึมาเหล่านี้ เมื่อพวกมันโตขึ้นถึงขนาด 1 – 2 ซม. พวกมันจะรวมตัวกันที่ก้นถังโดยเกาะติดกับพื้น พวกมันจะกินแพลงก์ตอนและเนื้อปลา ในระยะเวลาเพียงสามเดือนปลาจะโตอย่างรวดเร็วโดยมีความยาวประมาณ 8 – 10 ซม.



ชาวประมงในโซมะและปลาตาเดียวที่จับได้

เมื่อปลาตาเดียวมีขนาดที่ต้องการก็จะปล่อยลงสู่ทะเลใกล้ ๆ ให้พวกมันกลับไปใช้ชีวิตในทะเลที่เต็มไปด้วยแพลงก์ตอน ในทะเลชิโอเมะที่อยู่อาศัยอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณสองปีกว่าปลาจะโตเต็มที่ และในวันหนึ่งก็อาจจะถูกจับได้โดยเรือประมงในท้องถิ่นและนำมาขายให้กับร้านอาหาร ให้เราได้ชิมซาชิมิปลาโจบังโมโนแสนอร่อย

ความหวังในอนาคตของฟุกุชิมะ



คุณ Toru Sakuma รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรการประมง จังหวัดฟุกุชิมะ

เมื่อพูดถึงฟุกุชิมะ หลายคนก็จะนึกถึงแต่อดีต ไม่สามารถนึกภาพอื่นนอกจากเหตุการณ์อันโหดร้ายที่เกิดขึ้นในปี 2011 ได้ แต่งานวิจัยของสถาบันวิจัยทรัพยากรประมง ประจำจังหวัดฟุกุชิมะ พูดถึงเรื่องของอนาคต ว่าเราจะรักษาการประมงของเมืองฟุกุชิมะอย่างอิวากิและโซมะได้อย่างไร? เราจะทำให้อุตสาหกรรมก้าวไกลไปสู่อนาคตได้อย่างไร? เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าทุกคนทั้งในพื้นที่และห่างไกลสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อย ๆ ที่ทำจากโจบังโมโนสดๆได้อย่างไร? เราอาจยังไม่ทราบคำตอบทั้งหมด แต่รองผู้อำนวยการโทรุซาคุมะและนักวิจัยและเจ้าหน้าที่ที่เหลือของสถาบันกำลังหาคำตอบนั้นอยู่



ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทีมงาน Japankuru ได้เล่าถึงรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมดของการประมงและการทดสอบทางรังสีในอิวากิและโซมะ รวมทั้งสถานที่ที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องในกระบวนการนี้ เช่น ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร จังหวัดฟุกุชิมะ และศูนย์วิจัยการประมงและวิทยาศาสตร์ทางทะเล ประจำจังหวัดฟุกุชิมะ แม้ว่าหนึ่งในส่วนที่สนุกที่สุดของโครงการนี้คือการชิมอาหารที่ทำจากปลาโจบังโมโน ตั้งแต่ซาซิมิเนื้อใสแจ๋ว  ไปจนถึงหม้อไฟที่ใช้ทุกส่วนของปลาได้อย่างคุ้มค่า ในสองบทความสุดท้ายของซีรีส์นี้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะพาคุณไปเห็นว่าอาหารอร่อย ๆ ที่คุณพลาดไม่ได้นั้นมีอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นห้ามพลาดบทความในตอนต่อไป!

ติดตามเรื่องราวจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook และ Twitter!

Details

NAME:สถาบันวิจัยทรัพยากรประมงประจำจังหวัดฟุกุชิมะ

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination

Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025
 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change.
Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)
 *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details.
Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station

#japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025  *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)  *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

1|8

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

EVENT CALENDAR

VIEW MORE →
1|5

MOST POPULAR

RELATED ARTICLES

PARTNERS