ตั้งแต่ภูเขาไฟอะโสะ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ไปจนถึงไหล่เขาอันเขียวขจีบริเวณตอนกลางของภูมิภาคคิวชู

อุทยานแห่งชาติอะโสะ-คุจู เป็นภูเขาไฟ ที่ราบสูง ทัศนียภาพอันเขียวขจี ปล่องภูเขาไฟ และน้ำพุร้อนที่กระจายอยู่บนพื้นที่ของเกาะคิวชู ตั้งแต่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดโออิตะ ลงมายังจังหวัดคุมาโมโต้ ตอนกลางของภูมิภาค จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันก็คือ ภูเขาไฟอะโสะ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ นอกเหนือจากนี้ที่นี่ยังมีภูเขาและเนินหญ้าสีเขียว ทำให้ที่อุทยานแห่งชาติอะโสะ-คุจูเป็นสถานที่ในอุดมคติถึงความสวยงามของธรรมชาติในคิวชู

การท่องเที่ยวบริเวณภูมิภาคคิวชูโดยรถยนต์เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด เพราะไม่มีรถสาธารณะผ่าน และยังสามารถแวะตรงไหนก็ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจุดนี้เองเป็นทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้เห็นธรรมชาติ ต้นไม้อันเขียวขจี ผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่าในคิวชู ทีมเจแปนคุรุเองก็ได้เช่ารถขับท่องเที่ยวไปในจังหวัดโออิตะเช่นกัน

บริเวณอะโสะ-คุจู นั้นหมายถึงภูเขาไฟอะโสะ ภูเขาไฟชื่อดังของจังหวัดคุมาโมโต้ กับภูเขาคุจูและภูเขาไทเซ็นที่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโออิตะ ในทางธรธณีวิทยาพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างใหม่ ภูเขาส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นเมื่อประมาณ 270,000 – 90,000 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพื้นที่ภูเขาไฟเหล่านี้จะเกิดขึ้นก่อนมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น แต่อุทยานแห่งชาติก็ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 1934 หลังจากที่ผู้คนได้เริ่มลงหลักปักฐานกันแล้ว ในปัจจุบันภูเขาอันกว้างใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยชุมชนเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางภูเขา และไม่ไกลจากภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่

ทีมเจแปนคุรุได้เดินทางตามเส้นทางยามานามิ (Yamanami Highway Route) ที่อยู่ระหว่างภูเขาที่มีระดับความสูงที่สูงขึ้นไปบนเส้นทางจากเบ็บปุ เมืองแห่งออนเซ็น บริเวณชายฝั่งคิวชู ลงไปยังคุมาโมโต้ จุดที่สูงสุดของทางหลวงคือ Makinoto Pass ความสูง 1,330 เมตร ที่พาเราไปยังภูเขาคุจู จุดที่สูงสุดในเกาะ ภูเขาคุจูประกอบด้วยยอดเขาเล็กๆ รวมทั้งยอดเขาที่สูงที่สุดในเกาะคิวชู ที่มีความสูง 1,791 เมตร ซึ่งสถานที่ที่สามารถชมวิวได้จากจุดชมวิวอาซาฮิได หนึ่งในจุดแวะพักที่ต้องไป

อาซาฮิได (Asahidai, 朝日台)
Tano, Kokonoe, Kusu District, Oita

บนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาไฟ จะมองเห็นจุดพักรถที่อยู่ระหว่างที่ราบที่เต็มไปด้วยพื้นที่การเกษตรและวัวที่กำลังกินหญ้าอย่างมีความสุขและที่ราบสูง ในบางครั้งก็สามารถพบม้าเดินไปมาอยู่บริเวณที่ราบ ซึ่งไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อขี่ แต่เนื่องจากจังหวัดคุมาโมโต้นั้นมีเมนูชื่อดังก็คือ บาซาชิ (馬刺し) หรือ เนื้อม้าดิบ นำมาหั่นเป็นชิ้น รับประทานสดพร้อมกับเครื่องปรุงเช่น โชยุ ขิงบด และกระเทียม บางคนอาจจะไม่กล้ารับประทานเนื้อม้าดิบ แต่สำหรับนักกินที่ชอบลองของแปลก เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด

ทุ่งราบเรียบแห่งนี้เกิดขึ้นจากแอ่งภูเขาไฟอะโสะ ที่มาจากการถล่มของภูเขาไฟ และยังเป็นหนึ่งในแอ่งภูเขาไฟไม่กี่แห่งบนโลกที่มีขนาดเท่านี้ บริเวณตรงกลางประกอบด้วยยอดเขา 5 ยอด และหนึ่งในนั้นก็มีปล่องภูเขาไฟชื่อดังที่มีของเหลวสีฟ้าที่มีลักษณะเป็นกรด ภูเขาอะโสะเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ที่สามารถเข้าไปถึงบริเวณลึกๆได้ แต่ก็มีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา และจะปิดให้เข้าเมื่อมีปริมาณก๊าซที่ปล่อยออกมานั้นอันตรายต่อการเข้าไปชมแบบใกล้ๆ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปใกล้ๆ การได้เห็นไอน้ำพุ่งออกมาจากภูเขาไฟในระยะไกลก็สวยงามไม่แพ้กัน

โพสต์ท่าถ่ายรูปสนุกๆ

ภาพของอุทยานแห่งชาติอะโสะ ในพื้นที่ของคุสะเซ็นริ สามารถมองเห็นยอดเขาอะโสะ โดยมีทุ่งหญ้าสีเขียว ท้องฟ้า และก้อนเมฆ สะท้อนอยู่ในทะเลสาบ

คุสะเซ็นริ (Kusasenri, 草千里)
Akamizu, Aso, Kumamoto

ต้องใช้เวลาหลายหมื่นปี กว่าที่เราจะเห็นภูเขาและทุ่งหญ้าที่เติบโตจากดินภูเขาไฟอันอุดมสมบูรณ์ ในคุมาโมโต้และโออิตะมีความสวยงามแบบนี้ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะที่เหมาะกับการขับรถเล่น ได้ทิ้งตัวท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ที่รายล้อมไปด้วยวัวและม้า โดยมียอดเขาสีฟ้าอมเขียวให้เห็นอยู่ไกลๆ หากทั้งหมดนี้ตรงใจคุณ วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้าให้มุ่งหน้าไปยังเกาะคิวชู เช่ารถขับ และออกเดินทางไปบนทางหลวงยามานามิแห่งนี้!