Sponsored

พาเที่ยวเดินทางจากอิซุโมะ ผ่านภูเขา ทะเล และแวะลงออนเซ็น ไปยัง ซันอิง ดินแดนทางใต้ของเกาะฮนชู

บทความนี้มีเนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุน

  • X
  • line

CONTENTS

ขับรถเที่ยวทามกลางธรรมชาติจากจังหวัด ชิมาเนะ และ ทตโตะริ พื้นที่ทางใต้ของเกาะฮนชู หรือที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันในนามอนุภูมิภาค ซันอิง ที่มีทั้งภูเขา ทะเลสาบ และ ทะเล

พื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม



หากดูแผนที่ทางภูมิศาสตร์แล้วอนุภูมิภาค ซันอิง (San'in , 山陰) มีลักษณะทางกายภาพที่หลากหลาย มีทั้งภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์อย่างไดเซ็นทอดผ่านแนวทะเล มีทะเลสาบชินจิ และ ทะเลสาบนากาอุมิ ที่มีสีสันสวยงามราวจับอัญมณีสีน้ำเงินวางคู่กัน ถือเป็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ช่วยทำให้ ซันอิง เป็นอนุภูมิภาคที่น่าเดินทางไปเยือนครั้งนึงในชีวิต อีกทั้งซันอิงยังถือเป็นจุดกำเนิดตำนานเรื่องราวที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยได้มีการอ้างอิงจากสถานที่สำคัญหลายแห่งในพื้นที่ ตั้งแต่ศาลเจ้า วัด และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ผู้คนจากทุกหนแห่งเดินทางมายังที่นี่เพื่อที่จะใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านวัฒนธรรมท้องถิ่นของซันอิงอีกด้วย





วันนี้เจแปนคุรุจะพาทุกคนไปเที่ยวแบบเจาะลึกในทุกเมือง ตั้งแต่อิซุโมะ , มัตสึเอะ , ยาสึงิ , โยนาโกะ และ ซาไกมินาโตะ ที่มีเอกลักษณ์ และ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแตกต่างกันไป โดยเริ่มเดินทางจากสนามบิน อิซุโมะ (Izumo Airport , 出雲空港) กันค่ะ !

อ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับซันอิงได้ที่นี่
เที่ยวซันอิน(2020) | เที่ยวซันอิน(2021)

อิซุโมะ (Izumo Area)

โมเมง ไคโดะ ถนนสายไหมแห่ง อิซุโมะ



แถบอิซุโมะ (Izumo) จังหวัดชิมาเนะ เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่โบราณ และ เป็นที่รู้จักในนาม "ดินแดนแห่งเทพเจ้า" มีสถานที่ที่ผู้คนรู้จักกันดีอย่างโมเมง ไคโดะ (Momen Kaido , 木綿街道) หรือแปลตรงตัวคือ ถนนสายไหม (The Cotton Road) เป็นถนนที่มีการขายฝ้ายท้องถิ่นแปรรูปตั้งแต่สมัยเอโดะ (ช่วงปี ค.ศ. 1603-1868) ฝ้ายของอิซุโมะมีชื่อเสียงและถูกนำไปขายในเมืองใหญ่ทั่วประเทศญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้น ต่อมาในสมัยเมจิ (ช่วงปี ค.ศ. 1868-1912) ตลาดขายฝ้ายเริ่มซบเซาลง จึงมีการเปิดโรงสีสำหรับปั่นไหม และ วางขายสินค้าเกี่ยวกับผ้าไหมแทนที่ ช่วยดึงดูดพ่อค้าแม่ค้าเข้ามายังอิซุโมะอย่างต่อเนื่อง



อาคารสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของโมเมง ไคโดะ (Momen Kaido , 木綿街道) ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ ตั้งเรียงรายกันอยู่ริมฝั่งแม่น้ำถือเป็นภาพที่สวยงามและคลาสสิค ต่อให้บรรยาการภายนอกเปลื่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่สำหรับที่นี่แล้วอาคารเก่าแก่หลายแห่งยังคงสภาพเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ปัจจุบันมีทั้งร้านค้า และ ร้านอาหาร มาเปิดให้บริการ รองรับนักท่องเที่ยวจากทุกแห่งที่มาเยือนอิซุโมะ

ร้านลูกกวาดขิง คุมายะ



ร้านขนม คุมายะ เป็นหนึ่งในร้านค้าเก่าแก่ที่สุดของถนน โมเมง ไคโดะ มีประวัติยาวนานมากกว่า 300 ปี ปัจจุบันดำเนินกิจการโดยทายาทรุ่นที่ 11 ลูกกวาดขิงของ คุมายะ เป็นลูกกวาดแบบดั้งเดิมโดยใช้เพียง ขิง น้ำตาล และน้ำ เป็นส่วนประกอบ นำมาอัดลงพิมพ์ทองแดงแบบโบราญ ตั้งแต่วิธีการทำไปจนถึงแพคเก็จยังคงความดั้งเดิมไว้ไม่เปลื่ยนแปลง นอกจากลูกกวาดขิงสุดคลาสสิกแล้ว คุมายะ ยังมีลูกกวาดขิงรูปหัวใจแสนน่ารัก (Doctor's Prescription for Love , 恋の処方箋) ที่ปรับรูปทรงใหม่ ที่มีแพคเกจจิ้งเป็นถุงกระดาษใบเล็กเหมือนกับถุงกระดาษจากร้านขายยา ถือเป็นสินค้าสุดน่ารักไว้สำหรับซื้อเป็นของฝากให้เพื่อนหรือคนรู้ใจ





การมาที่คุมายะไม่ได้เพียงแต่ได้ลูกกวาด และ ขนมกลับไปเป็นของฝากเท่านั้น แต่รวมถึงได้เรียบรู้ประวัติศาสตร์ของร้าน และได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเก่าๆของญี่ปุ่นในยุคโบราญ และยังได้เติมความสดชื่นด้วยการทานของอร่อยๆ อย่าลืมแวะมากันนะคะ

ร้านลูกกวาด คุมายะ (Kumaya Ginger Candy Shop , 来間屋生姜糖本舗)
774 Hiratacho, Izumo, Shimane
เวลาทำการ : 9:00 – 19:00 น.
Official Website (jp) | Official Instagram

โอกะ โมอิจิโระ โชเต็น



อีกหนึ่งร้านที่เป็นประวัติศาสตร์ของถนน โมเมง ไคโดะ คือร้านขายโยชุอย่าง โอกะ โมอิจิโระ โชเต็น ที่เปิดทำการมายาวนานกว่า 120 ปี ตึกของ โอกะ โมอิจิโระ โชเต็น เหมือนทุกคนได้ย้อนไปยังยุคเอโดะ บริเวณชั้นสองของตึกเป็นห้องเพดานต่ำที่เรียกว่า สึชิ นิไค เป็นการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านค้าสมัยเก่า ทางร้านมีสูตรที่คงความลับไว้ และ เชี่ยวชาญด้านการผลิตโชยุ โดยเฉพาะโชยุแบบ ไซชิโคมิ (Saishikomi , 再仕込み醤油) คือโชยุแบบหมักซ้ำ และ ใช้เวลาผลิตนานกว่าโชยุธรรมดา ทำให้มีสีและรสชาติที่เข้มข้น และราคาสูงกว่าแบบปกติ ด้วยความพิถึพิถันในการผลิตทำให้โชยุของที่นี่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของซันอิง และ เป็นที่รู้จักไปตลอดจนถึงเกาะคิวชูทางเหนืออีกด้วย



โชยุของ โอกะ โมอิจิโระ โชเต็น ทั้งหมดถูกหมักด้วยถังไม้ขนาดใหญ่ภายในโรงผลิต หากสนใจสามารถจองบัตรเข้าชมโรงผลิตได้ล่วงหน้าโดยจะมีคุณ ชิเงะรุ โอกะ เจ้าของรุ่นที่ 8 พาทัวร์โรงงานแบบกันเอง ทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำโชยุ หรือ ซอสถั่วเหลือง ตั้งแต่ต้นจนจบ และ มีโชยุหลากหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลองเปรียบเทียบอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีสินค้าที่ถูกดัดแปลงอย่าง ไอศครีมโชยุ โดยนำซอสโชยุและของหวานอย่างไอศครีมมาผสมกันอย่างลงตัว อยากให้ทุกคนได้มาลองเช่นกันหากได้มาเยือนถนน โมเมง ไคโดะ



โอกะ โมอิจิโระ โชเต็น (Oka Moichiro Shoten , 岡茂一郎商店)
861 Hiratacho, Izumo, Shimane
เวลาทำการ : 9:00 – 19:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
Official Website (jp)

ศาลเจ้า คาระคามะ



บนเนินเขาสูงของอิซุโมะมีวัดคาคุเอ็นจิ (Gakuenji) ที่มีศาลเจ้าของชินโตซ่อนตัวอยู่ในป่าสนเงียบสงบมาหลายศตวรรษ ทางเข้าอาจจะมองหายากไม่เหมือนศาลเจ้าในตัวเมืองทั่วไป ว่ากันว่าหากเดินเข้าไปแล้วเหมือนหลุดไปอีกโลก ทางด้านหน้าของวัดคาคุเอ็นจิจะมีหินขนาดใหญ่ถือเป็น เพาเวอร์สปอต (Power Spot) ที่มีผู้คนท้องถิ่นแวะเวียนเข้ามาขอพรกันอย่างต่อเนื่อง



ประวัติการก่อตั้งของศาลเจ้า คาระคามะ ไม่ปรากฏที่มาแน่ชัด แต่มีข้อมูลอยู่ในตำนานพื้นเมืองโบราญของอิซุโมะ ชื่อ คาระคามะ แปลได้ว่า "กาต้มน้ำเกาหลี" (Korean kettle) มีตำนานกล่าวถึงการข้ามน้ำข้ามทะเลของเทพเจ้าซุซะโนะโอะ (Susanoo-no-Mikoto) เป็นเทพเจ้าแห่งลมพายุและผู้ปกครองปีศาจ และ ลูกชายคือ อิโซทาเครุโนะโอะ (Isotakeru-no-mikoto) ที่ถูกเนรเทศออกมาจากเมืองชิรากิของเกาหลี และเดินทางมายังอิซุโมะ



ศาลเจ้า คาระคามะ (Karakama Shrine , 韓竈神社)
408 Karakawacho, Izumo , Shimane
Official Page (jp)

มัตสึเอะ (Matsue Area)

สตูดิโอศิลปะ คาระโกโระ



เดิมทีพื้นที่ของสตูดิโอเป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งชาติสาขามัตสึเอะในช่วงปีค.ศ. 1930 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่างคุณ นากาโนะ ยูเฮจิ ผู้ซึ่งมีผลงานการออกแบบธนาคารหลายแห่งในญี่ปุ่น รวมทั้งออกแบบสำนักงานประธานาธิบดีของไต้หวันอีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2000 ที่ผ่านมาคาระโกโระถูกเปิดเป็นสตูดิโอที่รวบรวมงานศิลปะ เครื่องประดับ งานฝีมือแบบดั้งเดิม และยังมีร้านอาหารเปิดให้บริการ รวมทั้งร้านสำหรับทำเวิร์กช็อปอีกด้วย แต่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเอง และ ชาวต่างชาติ คือเวิร์กช็อปสอนทำ วากาชิ ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และ เวิร์กช็อปทำเครื่องประดับจากหินธรรมชาติ สตูดิโอศิลปะ คาระโกโระ ในช่วงฤดูฝนจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีการจัดเทศกาลงานศิลปะ "Enishizuku Umbrella Sky" ที่รวบรวมนำเอาร่มสีสันสนใสมากกว่า 200 คัน มาจัดแสดงห้อยโชว์ตลอดทั้งสัปดาห์





เหมาะสำหรับมาเที่ยว และ มีมุมถ่ายรูปสวยๆให่ได้ถ่ายกลับไปเป็นที่ระลึก นอกจากร่มสีสันสดใสแล้วยังมีพื้นที่สำหรับถ่ายรูปมากมาย อย่างเช่น ตู้ไปรษณีย์สีชมพูนำโชคที่ด้านหน้าอาคาร รวมทั้งภายในอาคารสามารถเข้าชมห้องนิรภัยของธนาคารแห่งชาติเก่าที่ชั้นใต้ดินได้อีกด้วย



สตูดิโอศิลปะ คาระโกโระ (Karakoro Art Studio , カラコロ工房)
43 Tonomachi, Matsue, Shimane
เวลาทำการ : Workshop 9:30 – 18:30 น. | ร้านอาหารเปิดให้บริการ 11:30 – 18:30 น. (ปิดปีใหม่ 30 ธค – 1 มค)

※ สตูดิโอศิลปะ คาระโกโระ จะปิดชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมในปี 2023 และคาดว่าจะเปิดอีกครั้งในปี 2024
※ เวลาทำการของสตูดิโออาจมีเปลื่ยนแปลงสามารถเช็ควันเวลาเปิดปิดล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์

Official Website (jp)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ชิมาเนะ



พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาเนะตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชินจิที่ได้รับการโหวตว่าเป็น 1 ใน 100 ของที่ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น อาคารของพิพิธภัณฑ์โค้งเป็นรูปตัว C ออกแบบมีส่วนเว้าส่วนโค้ง มีบานกระจกบานใหญ่ทำให้แสงของพระอาทิตย์ตกส่องเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ทุกๆช่วงเย็นสวยงามอย่างหาที่ติมิได้ ด้านนอกอาคาร ริมพื้นที่ทะเลสาบมีประติมากรรมกระจายอยู่ตามทางเดินบนพื้นหญ้าเขียวขจี ถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปที่ฮิตมากในหมู่คนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย และยังถูกขนานนามว่าเป็น "พิพิธภัณฑ์พระอาทิตย์ตก" อีกด้วย พิเศษเลยคือวันเวลาทำการของพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาเนะจะถูกปรับตามเวลาของพระอาทิตย์ตกเพื่อให้ทุกคนได้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศ และ วัฏจักรธรรมชาติกันอย่างเต็มที่





ภายในพิพิธภัณฑ์มีงานศิลปะมากกว่า 7,000 ชิ้น ตั้งแต่ รูปวาด ประติมากรรม งานหัตถกรรม ภาพถ่าย และอื่นๆ จากศิลปินทั่วประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยเฉพาะหากใครเป็นชื่นชอบภาพศิลปะ Ukiyo-e ที่เกิดขึ้นในยุคเอโดะ ซึ่งเป็นภาพที่แสดงความเกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนชั้นกลางในยุคนั้น จะตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษกับคอลเล็กชันของพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาเนะซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะเกือบ 3,000 ชิ้นจากศิลปินชื่อดังอย่าง คาซึชิกะ โฮคุไซ , อุตะกาวะ ฮิโรชิเงะ และศิลปินแห่งยุคคนอื่นๆอีกมากมายรวมไว้ในที่นี่ที่เดียว



พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาเนะ (Shimane Art Museum , 島根県立美術館)
1-5 Sodeshicho, Matsue, Shimane
เวลาทำการ :
ช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ เปิดทำการเวลา 10:00 – 18:30 น.
ช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน เปิดทำการเวลา 10:00 – 30 นาทีหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ปิดทำการทุกวันอังคาร และ วันหยุดปีใหม่
Official Website (en)

มารีน ปาร์ค ทาโกบานะ



มารีน ปาร์ค ทาโกบานะ ตั้งอยู่ปลายแหลมมองเห็นคาบสมุทรสุดขอบตา ที่ทาโกบานะเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ซับซ้อน มีทั้งแนวกว้าง แนวลึก พื้นที่ก่อตัวตามแนวชายฝั่ง ในช่วงปี ค.ศ. 2004 บริเวณนี้ได้เปิดให้นักเดินทางได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ มีกระท่อมสองชั้นตั้งเรียงรายริมหน้าผา มองออกไปมีวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการตั้งแคมป์อย่าง ลานบาร์บีคิว และ ลานตั้งแคมป์ พร้อมอุปกรณ์ให้เช่า



หนึ่งในจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของมารีน ปาร์ค ทาโกบานะ คือ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแนวชายฝั่งทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตาตัดกับสีสันของป่าเขียวขจีตรงด้านหน้า สามารถขึ้นไปชมวิวได้ตลอดหากมาเยือนในพื้นที่ และยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินได้จากที่นี่เช่นกัน ในช่วงค่ำคืนจะพบกับดวงดาวบนท่องฟ้ามืดมิด และ รอรับแสงอรุณในยามเช้าในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ถือเป็นสถานที่สุดโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการมาท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และยังเป็นจุดเดทยอดนิยมของคู่รักในท้องถิ่นอีกด้วย





มารีน ปาร์ค ทาโกบานะ (Marine Park Takobana , マリーンパーク多古鼻)
1050 Shimanecho Tako, Matsue, Shimane
Official Website (en)

※ แนะนำออนเซ็นในพื้นที่ – ทามัตสึคุริ ออนเซ็น



หากต้องการหาที่ผ่อนคลาย และ พักผ่อนในช่วงวันหยุด รู้สึกอยากแช่น้ำร้อนแล้วละก็ มัตสึเอะก็มีออนเซ็นจากธรรมชาติตั้งอยู่เช่นกัน ย้อนกลับไปในยุค นาระ (ปี ค.ศ. 710-794) ออนเซ็นของที่นี่ได้ถูกขนานนามว่าเป็น บ่อน้ำพุร้อนของเทพเจ้า ทามัตสึคุริ ออนเซ็น มีชื่อเสียงมาจากการที่มี ขุนนางศักดินาจากตระกูลมัตสึไดระ มาเข้าพักตากอากาศในสมัยเอโดะ ทำให้ออนเซ็นที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชือ ทามัตสึคุริ หมายถึง การทำงานและอัญมณีล้ำค่า เพราะบ่อน้ำพุร้อนของที่นี่ถูกสร้างด้วยหินอาเกตที่ขุดจากภูเขา คาเซ็นซัง ที่อยู่ใกล้ๆ เป็นการก่อสร้างราวกับศิลปากรรมอันล่ำค่าดั้งอัญมณี และว่ากันว่าหินอัญมณีจากภูเขานี้ยังถูกนำไปทำเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นอีกด้วย



บริเวณนี้เต็มไปด้วยที่พักแนว เรียวกัง ญี่ปุ่นที่ยังคงประติมากรรมก่อสร้างแบบคงเดิมไว้ มีบ่อน้ำร้อนภายนอกอาคาร รายล้อมไปด้วยสวนญี่ปุ่น และยังเป็นพื้นที่ที่มีตำนานเก่าแก่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน หากไม่ได้เข้าพักในเรียวกังก็สามารถนั่งพักแช่เท้าได้ตามสบายๆที่ด้านนอกพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ภูเขาสุดลูกหูลูกตาถือเป็นกิจกรรมพักผ่อนสุดแสนวิเศษที่รอทุกคนมาเยือน

ทามัตสึคุริ ออนเซ็น (Tamatsukuri Onsen , 玉造温泉)
255 Tamayucho Tamatsukuri, Matsue, Shimane
Official Website (jp)

ยาสุงิ (Yasugi Area)

ซากประสาท กัซซังโทดะ



หากใครชอบเล่นวิดิโอเกมส์ญี่ปุ่นที่อิงประวัติศาสตร์อย่างซามูไร โนบุนากะ คงจะเคยได้ยินชื่อซามูไรยามานากะ ยูกิโมริ (Yamanaka Yukimori , 山中幸盛) และ ตระกูลอามาโกะ (Amago , 尼子氏) กันมาบ้าง ที่ประสาทกัซซังโทดะ (Gassantoda Castle , 月山富田城跡) เป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง และ มีชื่อเสียง ที่ทางตระกูลอามาโกะพิชิตและเข้าช่วงชิงมาได้ในยุคสมัยสงคราม (Sengoku Jidai – Warring States Period) ปัจจุบันประสาทกัซซังโทดะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของประเทศและติด 1 ใน 100 ปราสาทดังของญี่ปุ่น



เมื่อวันเวลาผ่านไปหลายปีตามกาลเวลา ประสาทกัซซังโทดะก็พังทะลายลงกลายเป็นเศษซากบนที่โล่งบนยอดเขาซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 190 เมตร (623 ฟุต) เหลือเพียงถนนทอดยาวมุ่งตรงไปยังซากประสาท และยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ตั้งอยู่ภายในบริเวณประสาทเพื่อเป็นที่ระลึกถึงของเหล่าซามูไรในอดีต

ซากประสาท กัซซังโทดะ (Gassantoda Castle Ruins , 月山富田城跡)
Hirosecho Toda, Yasugi, Shimane
Official Page (jp)

※ หากเดินทางด้วยรถยนต์แนะนำให้ตั้ง GPS ไปยัง Yasugi City History Museum (安来市立歴史資料館).

วัด ยาสุงิ คิโยมิซุเดระ



วัด ยาสุงิ คิโยมิซุเดระ ตั้งอยู่ในภูเขาลึกมีทางเดินทอดยาวในบริเวณวัดรายล้อมไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม มีบรรยากาศเงียบสงบจนไม่น่าเชื่อว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นสนามรบในอดีตมาก่อน วัดยาสุงิ คิโยมิซุเดระ ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยปีค.ศ. 587 จวบจนปัจจุบันมีอายุประมาณ 1,420 ปี สมัยก่อนบริเวณนี้มีแต่ต้นสนขนาดใหญ่รกทึบไม่มีแสงไฟใดๆ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกถึงความทุรกันดาร ทางพระสงฆ์จึงเข้ามาก่อสร้างกระท่อมหลังแรกและประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ ระหว่างการก่อสร้างได้ขุดพบน้ำพุข้างกระท่อมจึงได้ชื่อว่า "คิโยมิสึ" หมายถึง น้ำอันบริสุทธิ์





สมัยที่ก่อสร้างวัดยังไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่าเป็นวัดทางนิกายใด แต่ในสมัยเฮอัน (ช่วงปีค.ศ. 794 – 1185) บาทหลวงเอนนิน หรือที่มีชื่อว่า จิคาคุ ไดชิ ได้นำพระพุทธรูปของนิกายเทนไดจากเกียวโตไปวางประดิษฐานไว้ที่วัด ด้วยประวัติศาสตร์นับพันปีครึ่งและสถาปัตยกรรมแบบโบราญ เรียบง่าย ทำให้วัด ยาสุงิ คิโยมิซุเดระ และศาลเจ้าชินโตใกล้ๆ มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั่วบริเวณศาลเจ้าชินโตมีโทริอิสีแดงสดตั้งเรียงรายอยู่มากมาย และ หน้าร้อนยังมีดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งอยู่เหนือจากจุดชมวิวด้านหลังวัดที่มองออกไปจะเห็นหาด นากาอุมิ และ ภูเขา ไดเซ็น หนึ่งในความงามของภูมิภาคชิโกกุ

วัด ยาสุงิ คิโยมิซุเดระ (Yasugi Kiyomizudera Temple , 安来清水寺)
528 Kiyomizucho, Yasugi, Shimane
Official Website (jp)

ไดเซ็น (Daisen Area)

วัด ไดเซ็นจิ



เทือกเขาไดเซ็น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นที่พูดถึงย้อนไปนานกว่า 1,300 ปี ก่อตั้งโดยนักบวชชื่อว่า คนเร็น ในสมัยนารา ต่อมาทางวัดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิกายเท็นได ช่วงสมัยยุคเฮอันจนถึงยุคสมัยคามาคุระ ไปจนถึงยุคมุโรมาจิ วัดไดเซ็นจิเจริญรุ่งเรืองในทุกยุคสมัย วัดไดเซ็นจิยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับวัดคงโกบุจิบนภูเขาโคยะ ในจังหวัดวาคายามะ และ วัดเอนเรียะคุจิบนภูเขาฮิเอซังอีกด้วย



ปัจจุบันวัด ไดเซ็นจิ เงียบสงบและยังคงบรรยากาศเมื่อสมัยโบราญไว้ เหลือเพียงห้องโถงใหญ่ 4 ห้องสำหรับกราบไว้บูชามีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยื่ยมชมเป็นจำนวนมากในวันหยุด สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศทามกลางธรรมชาติ และยังมีศาลเจ้า โอกามิยามะ อยู่บริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ที่วัดไดเซ็นจิถือเป็นอีกจุดขึ้นชื่อสำหรับชมใบไม้เปลื่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่พลาดไม่ได้

วัดไดเซ็นจิ (Daisenji Temple , 大山寺)
9 Daisen, Saihaku District, Tottori
Official Website (jp)

ศาลเจ้า โอกามิยามะ โอคุโนะมิยะ



บนเทือกเขา ไดเซ็น ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซันอิง ชาวบ้านบริเวณนั้นจึงได้สร้างศาลเจ้าขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ เทพเจ้า ที่สถิตอยู่ในอาณาบริเวณ ห้องโถงใหญ่ของศาลเจ้าทั้งสองห้องสร้างไว้ให้สำหรับเทพเจ้าแห่งอุตสาหกรรมและความเจริญรุ่งเรืองของชาวชินโตนามว่า โอคุนินุชิ (Okuninushi , 大国主) ว่ากันว่าหากบูชาแล้วจะช่วยเรื่องการเก็บเกี่ยว มีพืชพันธ์ุที่อุดมสมบูรณ์ เหล่าสัตว์ม้า วัว ควาย จะกินดีอยู่ดี และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากชีวิต



บริเวณเชิงเขาของศาลเจ้าในฤดูฝนของทุกปีจะมีดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่ง ถือเป็นจุดชมดอกไม้ที่มีชื่อเสียงมาก กลับกันหากเดินเข้าไปตามทางเดินหินที่ทอดยาวเข้าไปจะพบกับศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ลึกในป่า มีต้นไม้ดอกไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งตามฤดูกาลล้อมรอบ หากวันที่อากาศเย็นสบายก็ชวนให้เดินชมบรรยากาศรอบๆได้อย่างเพลิดเพลิน บริเวณทางเข้าศาลเจ้า โอกามิยามะ จะพบกับประตูโทริอิด้านหน้าเหมือนศาลเจ้าอื่นๆทั่วไป และ จะต้องเดินขึ้นบันไดหินตรงหน้าก่อนที่จะพบกับ โถงศาลเจ้าสไตล์กงเก็นซูคุริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในมีการตกแต่งด้วยภาพวาดทรงกลมสีสันสวยงามรอให้ทุกคนมากราบไหว้บูชา



ภูมิอากาศบนภูเขาอาจมีการเปลื่ยนแปลงบ่อยๆ และทำให้มีบางพื้นที่ของวัดและศาลเจ้าไม่เปิดให้บริการ หากต้องการเดินทางไปแนะนำให้เช็คสภาพภูมิอากาศล่วงหน้าก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

ศาลเจ้า โอกามิยามะ โอคุโนะมิยะ (Ogamiyama Shrine Okunomiya , 大神山神社奥宮)
1 Daisen, Saihaku District, Tottori
Official Website (jp)

※ แนะนำออนเซ็นในพื้นที่ – ไคเคะ ออนเซ็น



หลังจากทำกิจกรรมเดินป่า หรือ เยี่ยมชมวัดศาลเจ้าบนภูเขาแล้วอยากจะหาที่พักผ่อนคลายโดยการแช่ออนเซ็น ภายในบริเวณยาสุงิ และ ไดเซ็น ก็มีออนเซ็นดีๆอยู่เช่นกันอย่าง ไคเคะ ออนเซ็น ที่มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งเห็นวิวทะเล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามสุดลูกหูลูกตา และ ฟังเสียงคลื่นซัดเข้าชายฝั่ง เป็นประสบการณ์ที่ชวนให้ทุกคนมาลอง





หากอยากประหยัดงบไม่ต้องการพักผ่อนแบบหรูหรา ที่พัก ไคเคะ ออนเซ็นก็มีบริการแช่ออนเซ็นแบบเช้าเย็น สามารถเข้าใช้บริการได้โดยไม่ต้องเช็คอินเข้าพัก ส่วนใครที่ต้องการหาที่พักนี่เลย ทริปนี้ทางเจแปนคุรุได้เข้าพักใน อิโคเทอิ คิคุมัง เรียวกัง (Ikoitei Kikuman Ryokan , いこい亭菊萬) ที่มีล็อบบี้สไตล์ญี่ปุ่นทันสมัย และเก้าอี้นวดภายในห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นไว้บริการ รวมทั้งผู้เข้าพักสามารถใส่ยูกาตะที่ทางเรียวกังมีไว้บริการ เดินเล่นริมชาดหาด และ บริเวณรอบๆเรียวกังได้อีกด้วย

อิโคเทอิ คิคุมัง เรียวกัง (Ikoitei Kikuman Ryokan , いこい亭菊萬)
4-27-1 Kaikeonsen, Yonago, Tottori
เบอร์ติดต่อ : 0859-38-3300 (เวลาทำการ 9:00 – 21:00)
Check-in/Check-out : 15:00 – 19:30 / – 10:00
Official Website (jp)



ที่ ไคเคะ ออนเซ็นมีบ่อออนเซ็นวิวห้าดาว เหมาะสำหรับเข้าใช้บริการในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน และ กลางคืนจะมองเห็นดวงดาวส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า และตื่นเช้ามายังสามารถเดินเล่นริมชาดหาดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น รวมทั้งมีร้านอาหารริมชาดหาดวิวดีไว้คอยบริการเหมาะสำหรับฤดูร้อนที่จะถึงนี้จริงๆ

ไคเคะ ออนเซ็น (Kaike Onsen , 皆生温泉)
Kaike Onsen, Yonago, Tottori
Official Website (jp)

โยนาโกะ (Yonago Area)

พิพิธภัณฑ์ร่มญี่ปุ่นโยโดเอะ



เมืองโยโดเอะ ในจังหวัดทตโตะริถือเป็นเมืองเพียงไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์ร่มญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หากมาเยือนโยโดเอะแล้วละก็อาจจะได้เห็นกระบวนการการผลิต และ นำร่มกระดาษหลากหลายสีสันหลังจากลงสีมาตากแห้งบนหาดทราย เป็นภาพที่มีให้เห็นชินตาในพื้นที่ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันผู้คนจะเปลื่ยนมานิยมใช้ร่มแบบไวนิลแทนกระดาษแต่ที่แห่งนี้ก็ยังคงรักษาประเพณีการผลิตดั้งเดิมไว้ไม่ให้สูญหายไปจากญี่ปุ่น





ร่มของ โยโดเอะ ผลิตจากไม้ไผ่ท้องถิ่น และ กระดาษอินชูวาชิอันโด่งดังของอนุภูมิภาคซันอิง ใช้วิธีการผลิตมือแบบปราณีตทำให้ชิ้นงานออกมาสวยงาม คลาสสิก และยังสามารถกันน้ำได้อีกด้วย ลายของร่มโยโดเอะมีทั้งงานระดับไฮเอนด์หรือจะเป็นงานลายศิลปะเพ้นท์มือ ถือเป็นสินค้าของเหล่าชนชั้นสูงภายในญี่ปุ่นมาช้านาน ทางเมืองโยโดเอะเคยได้ผลิตและถวายร่มให้กับเจ้าหญิงคาโกะแห่งอากิชิโนะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะอีกด้วย นอกจากจะเป็นที่ผลิต และ จำหน่ายร่มแล้ว ยังได้มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจเกี่ยวกับร่มสำเร็จรูป ทุกไซส์สี และ ขนาด เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับความหลากหลายและความเป็นมาของร่มแบบต่างๆในญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ร่มญี่ปุ่นโยโดเอะ (Yodoe Japanese Umbrella Museum , 淀江和傘伝承館)
796 Yodoecho Yodoe, Yonago, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 – 17:00 (ปิดทุกวัน อาทิตย์/จันทร์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์)
Official Website (jp)

สถานที่ท่องเที่ยวใน คาโมกาวะ และบริเวณรอบๆ นากาอุมิ



คาโมกาวะ หรือ บริเวณรอบๆสะพานเทนจินในย่านโยนาโกะนี้ อดีตเคยเป็นพื้นที่ที่ผู้คนพลุ่กพล่าน เป็นพื้นที่ปราสาทในสมัยเก่าที่มีผู้คนมากมายสัญจรเข้าออกผ่านคลองกลางเมือง แต่ในทุกวันนี้ คาโมกาวะค่อนข้างเงียบสงบ แต่ยังคงบรรยากาศเดิมไว้โดยมีทั้งบ้านเรือนสมัยเก่า และ โกดังญี่ปุ่นฉาบปูนขาวทอดยาวริมคลองเคียงคู่ไปกับถนน เทรามาจิ (Teramachi Street , 寺町通り) และ ถนน โอเทระ กินซ่า (Otera Ginza , お寺銀座) ที่มีวัดเก่ากว่า 9 แห่งอัดกันอยู่ในอาณาบริเวณ





หากมาเยือนในฤดูใบไม้ผลิตรงกับช่วงที่ซากุระผลิบานแล้วละก็ คลอง คาโมกาวะ ถือเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อ มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาชมความงามของดอกไม้พร้อมกับได้ล่องเรือไปตามคลองที่มีตำนานว่ากันว่าเป็นจุดกำเนิดของสิ่งมีชีวิตอย่างกัปปะ พรายน้ำรูปร่างหน้าตาคล้ายกบตัวสีเขียว ที่มีปรากฏในมังงะเรื่อง อสูรน้อยคิทาโร่ (Ge Ge Ge no Kitaro , ゲゲゲの鬼太郎) ถือเป็นสัตว์ในตำนานญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในญี่ปุ่นเองและทั่วโลก

โอคาโมโตะ อิซเซ็นยะ



โอคาโมโตะ อิซเซ็นยะ ถือเป็นร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่ในพื้นที่ที่เปิดกิจการมานานกว่า 70 ปี โดยชื่อร้านคำว่า อิซเซ็นยะ แปลได้ประมาณว่า ถึงแม้จะมีแค่เหรียญเดียวก็สามารซื้อขนมได้ เอกลักษณ์ของร้านที่ถือเป็นจุดสดุดตาของทุุกคนคือป้ายทองแดงขนาดใหญ่หน้าร้านที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ที่ถูกสร้างขึ้นช่วงปี 1950 ในงานโยนาโกะแฟร์ ที่ร้านโอคาโมโตะ อิซเซ็นยะ ถือเป็นร้านขนมในดวงใจของเด็กๆในพื้นที่ ภายในร้านอัดแน่นไปด้วยขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิด และ ของเล่นสมัยเด็กราคาไม่แพง





นอกจากจะเป็นร้านประจำของเด็กๆและผู้ใหญ่ในพื้นที่แล้ว โอคาโมโตะ อิซเซ็นยะ ยังถือเป็นร้านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ด้วยบรรยากาศร้านและสินค้าที่ขายในปัจจุบันที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยเหลือร้านขนมแบบนี้ให้เห็นมากแล้ว เจ้าของคุณ โอคาโมโตะ ถึงแม้จะอายุมากแล้วแต่ยังคงแข็งแรง และ คอยต้อนรับลูกค้าทุกคนด้วยรอบยิ้ม เสมือนกับได้กลับบ้านเกิดต่างจังหวัดที่ผู้คนเป็นมิตรทักทายกันด้วยความแจ้มใส ชวนให้คิดถึงขนมที่เคยกินในสมัยเด็ก และบรรยากาศเก่าๆในอดีต

โอคาโมโตะ อิซเซ็นยะ (Okamoto Issen-ya , 岡本一銭屋)
1-4 Tatemachi, Yonago, Tottori
Official Website (jp)

คาเฟ่ นากะชะ 1801



ร้านชา นากาตะ เปิดกิจการยาวนานมากกว่า 220 ปี ! โดยวางขายชาออร์แกนิกญี่ปุนแท้ๆ หรือ ใบชาที่ใช้ยาฆ่าแมลงน้อยมากๆในการปลูก โดย ร้านชา นากาตะ ถือว่าเป็นร้านขายของฝากที่อยูคู่กับโยนาโกะมาช้านาน ภายหลังช่วงปี 2019 นอกจากจะขายชาเขียวอย่างเดียวแล้วยังเริ่มวางขายของหวานที่ทำจากชาเขียวด้วย และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เช่น เมนูขนมพาร์เฟ่ต์ชาเขียว ไอศครีมชาเขียว และอื่นๆอีกมากมาย สามารถสั่งแบบเทคเอ้าท์ไม่มีโต๊ะนั่งทานในร้าน วัถุดิบที่ทางร้านใช้คือชาเขียวคุณภาพดี คุ้มค่าแก่การลิ้มลอง



หากดูเมนูขนมที่ร้านชานากาตะแล้ว เมนูที่ขายดีที่สุดคงจะเป็นเมนูที่ชื่อว่า ชาบาทาเกะ ลาเต้ (Tea Field Latte , 茶畑ラテ) ลักษณะคล้ายกับขนมทีรามิสุ และ ยังมีเมนูพาร์เฟ่ต์ 475 เสิร์ฟพร้อมโมนากะแป้งบางกรอบรูปปราสาทโยนาโกะด้านบน โดยที่มาของเลข 4-7-5 หากอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วสามารถอ่านว่า โย-นา-โกะ ได้เช่นกัน นอกจากของหวานแล้วทุกวันจันทร์ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ เวลา 11:00 – 13:00 น. ในทุกอาทิตย์จะมีเซ็ตอาหารกลางวันวางขายอีกด้วย

คาเฟ่ นากะชะ 1801 (Nagacha Cafe 1801 , 長田茶店 岩倉町本店)
76-2 Iwakuramachi, Yonago, Tottori
เวลาทำการ : 11:00 – 17:00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
Official Website (jp) | Official Instagram

ซาไกมินาโตะ (Sakaiminato Area)

ถนน มิซุกิ ชิเงะรุ



หากใครเป็นแฟนคลับมังงะอย่าง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน แล้วละก็จะทราบดีว่าจังหวัดทตโตริซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาจารย์โกโช อาโอยาม่า ผู้เขียนมังงะสุดโด่งดัง และเมืองซาไกมินาโตะนี้ยังเป็นจุดกำเนิดของมังงะที่ขึ้นชื่ออีกเรื่องอย่างเรื่อง อสูรน้อยคิทาโร่ (Ge Ge Ge no Kitaro , ゲゲゲの鬼太郎) ของอาจารย์ มิซุกิ ชิเงะรุ ที่ภายหลังจากมังงะโด่งดังแล้วทางเมืองจึงตั้งชื่อถนนตามชื่อผู้เขียนนั้นเอง อสูรน้อยคิทาโร่ เป็นมังงะที่เกี่ยวกับเหล่าอสูร และ สัตว์ตำนานพื้นบ้าน สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติของญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า โยไก บางคนเรียกบริเวณนี้ว่าถนน โยไก แทนที่จะเรียกชื่อผู้เขียนมังงะ มีความยาวจากสถานีรถไฟ ซาไกมินาโตะ ไปทางทิศตะวันออก ทอดยาวประมาณ 800 เมตร มีทั้งศาลเจ้า ร้านขายของที่ระลึกย้อนยุค ร้านกาแฟ เรียงรายทั้งสองข้างทาง พร้อมเหล่ารูปปั้นโยไกเป็นระยะๆให้ทุกคนได้ถ่ายรูปสนุกๆ หากใครเป็นแฟนคลับ อสูรน้อยคิทาโร่ แล้วละก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนซาไกมินาโตะ

ร้านขายสินค้างานฝีมือ มุจาระ





ถัดจากบริเวณศาลเจ้าบนถนน โยไก มีร้านขายสินค้างานฝีมือ มุจาระ ตั้งอยู่บนถนน มุจาระ ชิเงะรุ ภายในร้านมีสินค้าอย่างเครื่องรางโอมาโมริ ป้ายไม้ที่ใช้ขอพรในศาลเจ้า รวมทั้งพวงกุญแจ โปสการ์ดของฝากที่ระลึกต่างๆ รวมทั้งสินค้าลายโยไควางขายอยู่ด้วย

ร้านขายสินค้างานฝีมือ มุจาระ (Mujara Handicrafts Center , 手作り工芸館 むじゃら)
62-1 Taishomachi, Sakaiminato, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 – 18:00 น. (อาจจะมีการเปลื่ยนแปลงภายหลัง)
Official Page (jp)

คัตสึกิมารุ



ซาไกมินาโตะ ตั้งอยู่บนพื้นที่ใกล้ทะเล ดังนั้นจึงอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยอาหารทะเลแสนอร่อย หากเดินมาจากพิพิธภัณฑ์มิซึกิ ชิเงรุไม่เกิน 5 นาทีจะพบกับร้าน คัตสึกิมารุ ที่เสิร์ฟไคเซ็นด้ง (Kaisendon , 海鮮丼) มีปลาตามฤดูกาล และ อาหารทะเลอื่นๆสีสันตัดกันโป๊ะบนข้าวญี่ปุ่น และ มีเมนูขึ้นชื่ออย่างเซ็ตอาหารกลางวันอย่าง เทปเปน ไคเซ็นด้ง (Teppei Kaisendon , てっぺん海鮮丼) ที่มีทั้งปูตัวใหญ่ และซาชิมิหั่นบางๆวางเต็มชาม ราคาแค่เพียง 2,200 เยนเท่านั้น ทั้งอร่อยและน่ารัก



ซาไกมินาโตะมีบรรยากาศแบบหมู่บ้านชาวประมงย้อนยุค นอกจากอาหารทะเลแสนอร่อยแล้วที่ซาไกมินาโตะยังมีร้านอาหารหลากหลายประเภท รวมทั้งอาหารท้องถิ่นอืนๆอีกหลายร้านที่รอทุกคนมาลิ้มลอง

คัตสึกิมารุ (Katsukimaru , 旨いもん市場 海月丸)
16 Aioicho, Sakaiminato, Tottori
เวลาทำการ : 11:00 – 14:00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
※ ปกติเปิดขายเฉพาะมื้อกลางวันเท่านั้น แต่สามารถจองโต๊ะมื้อเย็นได้ด้วยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์
Official Website (jp)

ยูเมะมินาโตะ ทาวเวอร์ ปาร์ค



ยูเมะมินาโตะ ทาวเวอร์ ปาร์ค ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองซาไกมินาโตะ ถือเป็นจุดชมวิวประจำเมืองด้วยกระจกขนาดใหญ่ภายใต้โครงเหล็กมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของทะเลญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าทาวเวอร์แห่งนี้จะไม่สูงมากนัก มีความสูงแค่เพียง 43 เมตรเท่านั้น หากสภาพอากาศดีจะสามารถมองเห็นเทือกเขาไดเซ็น อ่าวมิโฮะ คาบสมุทรชิมาเนะ หาดยูมิกาฮามะ นากาอุมิ ถนนโยไก และ ไคเคะ ออนเซ็น ได้ทั้งหมดในคราวเดียว !



ภายในยูเมะมินาโตะ ทาวเวอร์ ปาร์ค ยังมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมทั้งอาคารข้าง ๆ ยังมีออนเซ็นเปิดให้บริการด้วย ถือเป็นสถานที่ที่คนในพื้นที่มาเดินเล่น พักผ่อน และในฤดูหนาวจะพบเห็นชาวบ้านแถวนั้นนั่งตกปลาถือเป็นภาพวิถีชีวิตอันสวยงามในท้องถิ่น

ยูเมะมินาโตะ ทาวเวอร์ ปาร์ค (Yumeminato Tower & Park , 夢みなとタワー&公園)
255-3 Takenouchidanchi, Sakaiminato, Tottori
เวลาทำการ :
เมษายน – กันยายน เปิดทำการ 9:00 – 18:00 น.
ตุลาคม – มีนาคม เปิดทำการ 9:00 – 17:00 น.
※ สามารถจองบัตรเข้าชมนิทรรศการได้ล่วงหน้า ปิดทุกวันพุธที่ 2 ของเดือน
คาเฟ่ (ปิดทุกวันพุธ) เปิดทำการ 10:00 – 16:00 น. (L.O. 15:30)
Official Website (en)

อนุภูมิภาคที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และ เป็นจุดกำเนิดของตำนานต่างๆ



ในครั้งนี้ทางเจแปนคุรุได้ไปเยือนซันอิงติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 3 ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ประวัติศาสตร์โบราณ ตำนานเทพเจ้าและสัตว์วิเศษมากมาย การมาเยือนในแต่ละครั้งได้รับมุมมองใหม่ๆ และ ความรู้สึกต่างกันในต่างฤดูกาลที่ไปเยือน

หากทุกคนสนใจจะมาเยือนภูมิภาคนี้แล้วละก็สามารถติดตาม และ ย้อนอ่านบทความเก่าๆของเจแปนคุรุได้ในด้านล่างได้เลย
เที่ยวซันอิน(2020) | เที่ยวซันอิน(2021)

และยังสามารถดูข้อมูลท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ทางการที่นี่

Follow us @Japankuru on Facebook, Instagram, and Twitter!

  • facebook
  • line

COMMENT

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

FEATURED MEDIA

VIEW MORE →

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination

Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025
 *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change.
Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)
 *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details.
Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station

#japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

A Tokyo Winter Must-See: Tokyo Mega Illumination Event Period: November 2, 2024 ~ January 12, 2025  *Closed Nov 4~8, Dec 1~6, Dec 25~ Jan 1. End date may be subject to change. Hours: 16:30 – 21:00 (final admission 20:00)  *Opening hours may vary depending on scheduled events or congestion, please check the official website for details. Directions: 2 min. walk from Tokyo Monorail Oikeibajo-Mae Station, 12 min. walk from Keikyu Tachiaigawa Station #japankuru #tokyowinter #tokyomegaillumination #megaillumination2024 #tokyocitykeiba #도쿄메가일루미네이션 #tokyotrip #oiracecourseillumination

1|8

MAP OF JAPAN

SEARCH BY REGION →

    • ฮอกไกโด

      VIEW MORE →

      ฮอกไกโด อยู่ทางเหนือสุดจาก 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณนี้โด่งดังเรื่องเบียร์ซัปโปโร การผลิตและการกลั่นเบียร์ รวมถึงเทศกาลหิมะ และอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และยังเหมาะกับเหล่านักชิมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งที่ปลูกในฮอกไกโด แคนตาลูป ผลิตภัณฑ์จากนม ซุปแกงกะหรี่ และมิโซะราเมน

    • นิกิ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ห่างจากโอตารุประมาณ 30 นาที นิกิเป็นเมืองเล็กๆที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ ทำให้สวนผลไม้ของที่นี่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่ มะเขือเทศ และองุ่น มีโรงกลั่นไวน์ และกลายเป็นสถาที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารและไวน์ในเวลาไม่นาน

    • นิเซโกะ ห่างจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีรีสอร์ทในฤดูหนาวที่ดีที่สุด และยังเป็นจุดที่ชาวต่างชาติมักแวะมาเยี่ยมเยียน เพราะหิมะของที่นี่มีคุณภาพสูง นุ่มละเอียดดุจผงแป้ง ที่ไม่ว่านักสกี นักสโนว์บอร์ด รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ต้องกลับมาซ้ำ นอกจากนี้ยังมีอาหารอร่อย และออนเซ็นวิวสวยอีกด้วย

    • โอตารุ คือเมืองที่อยู่ทางตะวันตกของฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาที ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 กิจการการค้าขายและการประมงรุ่งเรืองมาก โดยอาคารที่สร้างในสมัยนั้นก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ย่านคลองโอตารุ ในปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตที่นีเป็นศูนย์กลางของการประมง ทำให้มีร้านซูชิกว่า 100 ร้าน ให้เราได้เลือกชิมซูชิสดใหม่ ที่มีคนต่อแถวยาวบริเวณถนนซูชิ (Sushi Street)

    • SAPPORO

      VIEW MORE →

      ซับโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางของการเมืองและเศรษฐกิจของฮอกไกโด มีสนามบินชินจิโตะเสะ (New Chitose Airport) ที่รองรับเที่ยวบินจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และเที่ยวบินจากต่างประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลหิมะขึ้นที่สวนโอโดริ (Odori Park) หนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทั้งราเมน เนื้อแกะย่าง ซุปแกงกะหรี่ และอาหารทะเล

    • โทโฮคุ

      VIEW MORE →

      โทโฮคุประกอบด้วย 6 จังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานญี่ปุ่น เป็นแหล่งปลูกพืชที่สำคัญ (แหล่งอาหารชั้นเยี่ยม) เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม พร้อมทั้งภูเขา ทะเลสาบ และแหล่งออนเซ็น

    • ฟุกุชิมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุชิมะ อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ และแบ่งออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ ฮามะโดริ (ชายฝั่ง) นากะโดริ (ตอนกลางของจังหวัด) และไอซุ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ในยุคสมัยเอโดะ อุทยานแห่งชาติโอเซะ ราเมคิตะคะตะ Bandai Ski Resort (พาวเดอร์สโนว์) เป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู

    • ยามากาตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดยามากาตะ อยูในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมไปเที่ยวในฤดูหนาว แช่ออนเซ็นและเล่นสกี โดยเฉพาะที่ Zao Onsen Ski Resort และที่ Gassan Ski Resort ชมความงามของหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ จนหลายคนเรียกว่าปีศาจหิมะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป เช่น วัด Risshakuji หรือวัด Yamadera, Ginzan Onsen ออนเซ็นบนถนนเก่าแก่ และทะเลสาบโอคามะ บนเขาซาโอะ นอกจากนี้ยังมีเนื้อโยเนซาวะ 1 ใน 3 อันดับเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

    • อาคิตะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดอาคิตะ อยู่บริเวณทะเลญี่ปุ่น ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุ มีสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ประเพณีนามะฮาเกะ ที่แหลมโอกะ (ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ว่าเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้) และเทศกาลคันโต เทศกาลชื่อดังของภูมิภาคโทโฮคุ

    • คันโต

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วย 7 จังหวัดคือ กุมมะ โทจิกิ อิบารากิ ไซตามะ โตเกียว ชิบะ และคานากาวะ ศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ ความสนุกสนาน ความบันเทิงที่พบได้จะมีตั้งแต่ออนเซ็น สวนสนุก ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนแบบระยะสั้นเช้าเย็นกลับ หรือพักค้างคืน

    • กุนมะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดกุนมะ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น โอเสะ น้ำตกฟุกุวาเระ รวมถึงแหล่งออนเซ็นชื่อดัง (คุซัตสึ, อิกาโฮะ, มินาคามิ, ชิมะ) จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองออนเซ็น และยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ และคนรักรถไฟอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงไหมโทมิโอกะ สะพานเมกาเนะบาชิ และทางรถไฟวาตาระเสะเคโคคุ

    • โตเกียว

      VIEW MORE →

      โตเกียว (東京) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งความทันสมัย ตึกสูงเสียดฟ้า และผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ทั้งพระราชวังอิมพีเรียล ย่านอาซากุสะ และยังเป็นเมืองอันดับต้นๆของโลกที่โดดเด่นในเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะ แฟชั่น เกมส์ เทคโนโลยี การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย

    • โทจิกิ

      VIEW MORE →

      จังหวัดโทจิกิ มีเมืองสำคัญคือเมืองอุสึโนมิยะ ที่มีเกี๊ยวซ่าอันโด่งดัง และอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง มีธรรมชาติที่สวยงามให้ชมตลอดปี ตั้งแต่ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นิกกโก เมืองมรดกโลก ศาลเจ้าโทโชกุ ทะเลสาบชูเซ็นจิ สวนดอกไม้อะชิคากะ (ดังเรื่องดอกวิสทีเรีย) รวมถึงเมืองนาซุ ที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากการที่เป็นที่แปรพระราชฐานของจักรพรรดิญี่ปุ่น

    • ชูบุ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 9 จังหวัด คือ ไอจิ ฟุกุอิ กิฟุ อิชิคาว่า นางาโนะ นีกาตะ ชิซูโอกะ โทยาม่า และยามานาชิ บริเวณนี้มีชื่อเสียงเรื่องภูเขา โดยเฉพาะภูเขาไฟฟูจิ และเจแปนแอลป์ สกีรีสอร์ทในจังหวัดนางาโนะและจังหวัดนีกาตะ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดชิซึโอกะ อยู่ตรงกลางระหว่างภาคตะวันตกและตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าก็สะดวก มีธรรมชาติที่สวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งภูเขาไฟฟูจิ อ่าวซุรุกะ ทะเลสาบฮามานาโกะ หุบเขาสุมาตะ คาบสมุทรอิซุ (แหล่งออนเซ็นอะตามิ อิโตะ ชิโมดะ ชูเซ็นจิ และโดกะชิมะ) นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งยังมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของตะกูลโทกุกาว่า มีเมนูขึ้นชื่อคือปลาไหล เกี๊ยวซ่าของฮามามัตสึ และชาเขียวคุณภาพดี

    • ชิซุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดนากาโนะ เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่นปราสาทคุมาโมโต้ วัดเซ็นโคจิ ศาลเจ้าโทกะคุชิ รวมถึงไฮไลท์ก็คือ เจแปนแอลป์ ผลไม้ของนากาโนะก็เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียง ซึ่งเห็นได้จากสวนผลไม้ที่มีกิจกรรมให้เก็บผลไม้หลายชนิด และแหล่งออนเซ็นอย่าง Jigokudani ลิงแช่ออนเซ็น การเดินทางไปยังนากาโนะก็แสนง่าย เพราะมีรถไฟชินคันเซ็น โฮคุริคุ จากโตเกียวไปถึงนากาโนะ และเมื่อปี 1998 มีการจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะ ทำให้สกีรีสอร์ทที่ ฮาคุบะและชิกะโคเก็น กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

    • นาโกย่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น มีเมืองนาโกย่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไอจิเป็นเมืองอุตสาหกรรม และยังบ้านเกิดของรถยี่ห้อโตโยต้า มีพร้อมทั้งทะเลและภูเขา เช่น เกาะซาคุ หาดโคอิจิกาฮามะ เขาโฮราอิจิ ในอดีตเป็นเวทีในการต่อสู้ เช่น ในสมัยเซ็นโกคุ โอดะ โนบุนากะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาว่า อิเอยาสุ ก็ได้ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ปราสาทอินุยามะ รวมถึงเมจิมูระ

    • นีงะตะ

      VIEW MORE →

      จ.นีงะตะตั้งอยู่บนเกาะฮอนชู ติดกับทะเลญี่ปุ่น เต็มไปด้วยของขวัญจากธรรมชาติ มีสกีรีสอร์ตชื่อดังอย่างเช่น Echigo-Yuzawa อุทยานแห่งชาติ ออนเซ็นธรรมชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ข้าวญี่ปุ่น และสาเก นักท่องเที่ยวนิยมพักผ่อนในเมืองนีงะตะ และเกาะซาโด

    • คันไซ

      VIEW MORE →

      ภูมิภาคคันไซประกอบด้วยจังหวัดมิเอะ นารา วากายาม่า เกียวโต โอซาก้า เฮียวโกะ และชิกะ เมืองหลวงเก่าอย่าเกียวโตก็อยู่ในภูมิภาคคันไซ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่น ทั้งวัดและศาลเจ้าที่เกียวโต ปราสาทโอซาก้า และกวางที่นารา อีกทั้งผู้คนในแถบคันไซยังเป็นมิตร จึงเหมาะกับการเป็นสถานที่พักผ่อน

    • นารา

      VIEW MORE →

      จังหวัดนารา เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอดีต ช่วงยุคนารา หรือราวค.ศ 710 ในช่วงที่นาราเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้นถูกเรียกว่า "เฮโจเกียว" และยังเป็นเส้นทางสายไหม ที่เฟื่องฟูไปยังนานาชาติและผลิตสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังนาราก็คือ สวนนารา ที่เต็มไปด้วยกวาง การปีนเขาโยชิโนะ และจุดชมซากุระ

    • เกียวโต

      VIEW MORE →

      เกียวโต เคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ.794-1100 ที่เป็นศูนย์กลางในด้านการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนกิอง วัดทอง วัดน้ำใส และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แม้แต่ป่าไผ่อาราชิยาม่าอันโด่งดัง ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงาม ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้ง 4 ฤดู

    • โอซาก้า

      VIEW MORE →

      โอซาก้า เป็นเมืองที่ผู้คนเป็นมิตรและมีแต่ความสนุกสนาน แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนกับในปัจจุบัน เพราะโอซาก้านั้นมีส่วนสำคัญในการรวมญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ทำให้โอซาก้าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่น มีเมนูอาหารชื่อดัง จนได้ชื่อว่าเป็น "ครัวของญี่ปุ่น" ในปัจจุบันโอซาก้าเป็นต้นแบบของญี่ปุ่นตะวันตก ที่มาพร้อมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอซาก้า แหล่งช้อปปิ้งย่านอุเมดะอย่าง Grand Front Osaka และ Abeno Harukas โอซาก้าเป็นสวรรค์ของนักชิม มาพร้อมกับเมนูขึ้นชื่อย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Japan อีกด้วย

    • ชูโกกุ

      VIEW MORE →

      ชูโกกุ ประกอบด้วย 5 จังหวัดได้แก่ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า ชิมาเนะ ทตโตริ และยามากุจิ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อคือ เนินทราย (ทตโตริ) และ สวนสันติภาพ (ฮิโรชิม่า) และเมื่อข้ามน้ำไปยังชิโกกุที่มีด้วยกัน 4 จังหวัดคือ เอฮิเมะ คากาวะ โคจิ และโทคุชิม่า ขึ้นชื่อเรื่องอุด้ง (คากาวะ) และโดโกะออนเซ็น (เอฮิเมะ)

    • ฮิโรชิม่า

      VIEW MORE →

      จังหวัดฮิโรชิม่า มีทั้งแหล่งมรดกโลก ธรรมชาติ และอาหารอร่อย สามารถนั่นเครื่องบินจากโตเกียวโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ครึ่ง และนั่งรถไฟ 4 ชั่วโมง มีแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO 2 แห่ง คือ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะบนเกาะมิยาจิมะ และ Atomic Bomb Dome นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลจากทะเลในเซโต โดยเฉพาะหอยนางรม โอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่า เลมอเซโตอุจิ และธรรมชาติที่สวยงามสะกดสายตา

    • ชิโกกุ

      VIEW MORE →

      On the other side of the Seto Inland Sea opposite Japan’s main island, Shikoku (四国) is a region made up of four prefectures: Ehime, Kagawa, Kochi, and Tokushima. The area is famous for its udon (in Kagawa), and the beautiful Dogo Onsen hot springs (in Ehime).

    • คากาวะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดคากาวะ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะชิโกกุ ติดกับเกาะหลักของญี่ปุ่นและทะเลในเซโต เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น มีซานุกิอุด้งชื่อดัง จนทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า เมืองอุด้ง มีศาลเจ้าโกโตฮิรากุและสวนริสึริน ว่ากันว่าหากมองไปที่ Zenigata Sunae หรือภาพวาดจากทราย จะทำให้ไม่ขัดสนเรื่องเงินตลอดไป

    • คิวชู

      VIEW MORE →

      เกาะคิวชู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น มีด้วยกัน 7 จังหวัด คือ ฟุกุโอกะ ซากะ นางาซากิ คุมาโมโต้ โออิตะ มิยาซากิ และคาโกชิม่า เกาะนี้มีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจีนและฮอลันดา เข้ามาทำการค้าในสมัยก่อน โดยมิชชันนารีเข้ามาทางท่าเรืองในจ.นางาซากิ และต้องขอบคุณการระเบิดของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ที่ทำให้ที่นี่มีพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ อาหาร แหล่งออนเซ็นที่สวยงาม

    • คาโกชิม่า

      VIEW MORE →

      คาโกชิมะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆของญี่ปุ่น โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซามูไร ไซโกะ ทาคาโมริ และ โอคุโบะ โทชิมิจิ ผู้ผลักดันญี่ปุ่นจากยุคเอโดะมายังยุคเมจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สวนเซ็นกันเอ็น ภูเขาไฟซากุระจิมะ ออนเซ็นอิบุสุกิ ออนเซ็นคิริชิมะ เกาะยาคุชิมะ แหล่งมรดกโลก หรือเกาะอะมามิโอชิมะ เกาะที่ว่ากันว่าอยู่ใกล้สวรรค์มากที่สุด แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลัก แต่คาโกชิมะก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่รอให้ไปชมมากมาย

    • ฟุกุโอกะ

      VIEW MORE →

      จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในภูมิภาคคิวชู มี 2 เมืองใหญ่คือ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู การท่องเที่ยวในฟุกุโอกะนั้นสะดวกสบาย ทำให้สามารถไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าดาไซฟู เท็นมังกุ มตสึนาเบะ(หม้อไฟเครื่องใน) ไข่ปลาเม็นไทโกะ(ไข่ปลาคอตรสเผ็ด) และราเมนฮากาตะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเหมาะกับทั้งคนที่ชอบช้อปปิ้ง และชอบธรรมชาติ

    • โอกินาว่า

      VIEW MORE →

      เกาะโอกินาว่านั้นอยู่ใต้สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของประเทศญี่ปุ่น จากในอดีตที่มีการปกครองตนเอง และเหตุการณ์ทางการเมือง และวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้โอกินาว่าที่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวัฒนธรรมจากอาณาจักรริวกิวหลงเหลือให้เห็นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา เสื้อผ้า นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของคาราเต้อีกด้วย

RELATED ARTICLES

PARTNERS